พริกได้ชื่อว่าเป็นอาหารคู่ครัวไทยมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับครัวเล็ก ๆ ที่ต้องการใช้พริกประกอบอาหารเพียงเล็กน้อย กลับต้องไปซื้อพริกจำนวนมากมาเก็บไว้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็เก็บรักษาไว้ได้ไม่นานนัก ทำให้ต้องซื้อบ่อย ๆ และต้องเหลือทิ้งไปอย่างน่าเสียดายเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ อย่างไรก็ดีเรามีวิธีเก็บพริกไว้ให้มีติดครัวไว้ใช้ได้ตลอด ๆ โดยไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเหลือทิ้ง นั่นก็คือวิธีปลูกพริกให้มีต้นพริกอยู่ในบ้านของเรานั่นเอง
การปลูกพริกไว้ที่บ้านใช้พื้นที่ไม่มาก และยังทำให้เรามีพริกติดบ้านไว้ประกอบอาหารโดยไม่ต้องซื้อหา ไม่ต้องเก็บรักษา และหากดูแลให้ดีในจำนวนที่มากขึ้นก็สามารถเก็บผลผลิตส่งขายโดยใช้วิธีปลูกพริกขายได้ด้วย เมื่อการปลูกพริกมีประโยชน์มากมายแบบนี้ คราวนี้เราคงต้องมาดูกันบ้างแล้วว่าเราจะมีวิธีการปลูกพริกได้อย่างไรบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. ทำความรู้จักกับพริก
พริกเป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ทราบหรือไม่ว่าพริกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum spp. และอยู่ในตระกูลเดียวกับ มะเขือ มันฝรั่ง และยาสูบ มักพบได้บ่อยในประเทศเขตร้อนเช่น ไทย ประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศแถบอเมริกาใต้ อเมริกากลาง แถบทะเลแคริบเบียน ทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย
โดยทั่วไปแล้วพริกเป็นไม้ล้มลุกที่มีทรงพุ่มสูงได้ประมาณ 1-2.5 ฟุต มีใบสีเขียวสด ปลายใบเรียวแหลม และมีเนื้อไม้อ่อน เมื่อโตแล้วจึงเริ่มมีเนื้อไม้ที่แข็งขึ้น แต่ก็ยังเป็นกิ่งที่เปราะและแตกหักง่าย
ในโลกนี้มีพันธุ์พริกอยู่มากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักจนนำมาใช้ประกอบอาหารนั้นมีไม่มาก
- Capsicum annuum L. เป็นพันธุ์พริกที่มีดอกและผลเดี่ยว มีกลีบดอกสีขาว และเป็นสายพันธุ์พริกที่ดีที่สุดที่เรานิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร ตัวอย่างพริกในกลุ่มนี้เช่น พริกชี้ฟ้า, พริกจินดา, พริกแดง, พริกขี้หนู, พริกหวาน, พริกยักษ์
- Capsicum chinense Jacq พริกกลุ่มนี้มีผลใหญ่เนื้อหนา มีกลิ่นและรสเผ็ดจัด เชื่อกันว่าเผ็ดที่สุดในบรรดาพริกทั้งหมด ตัวอย่างพริกในกลุ่มนี้เช่น พริกกลาง, พริกเล็บมือนาง, พริกสวน, พริกใหญ่
- Capsicum pubescens Ruiz & Pavon พริกกลุ่มนี้มักพบในที่สูงเนื่องจากทนต่อความหนาวเย็นได้ ผลพริกมีเนื้อหนาและมีความฉ่ำน้ำสูง มีรสเผ็ด ตัวอย่างเช่น พริกขาวดำ
2. ธรรมชาติของพริก
พริกเป็นพืชที่ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อนและอบอุ่น รวมทั้งทุกภูมิภาคของประเทศไทย พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ำในการเจริญเติบโต โดยในแต่ละปีจำเป็นต้องอาศัยน้ำฝนปีละประมาณ 600-1250 มิลลิเมตร แต่ก็เป็นพืชที่ทนแล้งได้พอสมควร ดังนั้นจึงปลูกได้ดีในเขตพื้นที่ชลประทานที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
สำหรับการเตรียมดินปลูก พริกนั้นขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด แต่หากจะให้ดีก็ควรหาเป็นดินร่วนปนทรายที่สามารถระบายน้ำได้ดี เพราะพริกไม่ชอบพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเฉอะแฉะ เพราะจะทำให้รากเน่าและมีปัญหาเกี่ยวกับเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ จนทำให้ต้นพริกตายได้
3. วิธีปลูกพริกขาย
วิธีปลูกพริกขายจำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก และอาศัยระบบชลประทานรวมถึงการดูแลที่เป็นมืออาชีพ อย่างไรก็ดีผู้ที่ต้องการปลูกพริกและหาวิธีปลูกพริกไว้ใช้ในบ้านก็สามารถนำวิธีเดียวกันนี้มาประยุกต์ใช้ในสเกลที่เล็กลง เช่น การปลูกพริกในกระถาง หรือ พื้นที่เล็ก ๆ ได้เหมือนกัน ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่าเราจะมีวิธีปลูกพริกขายอย่างไรได้บ้าง
การเตรียมพื้นที่
การเตรียมพื้นที่สำหรับวิธีปลูกพริกขายนั้นมีวิธีเตรียมที่แตกต่างกันไปตามสภาพของดินและปริมาณน้ำ หากเป็น
- พื้นที่ที่อาศัยน้ำจากน้ำฝน ให้เตรียมหลุมปลูกห่างกัน 80 x 80 เซนติเมตร โดยใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม
- หากเป็นพื้นที่ที่ได้น้ำจากคลองชลประทานให้เตรียมที่เป็นพื้นเอียงลาด และให้หัวจ่ายน้ำอยู่ด้านสูง เอียงลาดไปยังคูระบายน้ำ เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี และเช่นเดียวกันแต่ละหลุมปลูกห่างกัน 80 x 80 เซนติเมตร
เมื่อเตรียมแปลงแล้วไถตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นหว่านปุ๋ยคอกและปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินพร้อมไถกลบยกร่องแปลงสูง 20-30 เซนติเมตร กว้าง 40-60 เซนติเมตร
วิธีการปลูกพริก
เมื่อเตรียมแปลงเรียบร้อยแล้ว เราสามารถเริ่มปลูกต้นพริกได้หลายวิธี เช่น
- ใช้วิธีหยอดเมล็ด วิธีนี้ตรงไปตรงมา นั่นคือหยอดเมล็ดพริกลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้ได้เลย และรอให้เมล็ดงอกขึ้นมาเป็นต้นอ่อน ก็นำไปสู่ขั้นตอนการดูแลต่อไป
- ใช้วิธีเพาะเมล็ด เป็นการเพาะเมล็ดให้งอกก่อนนำไปปลูกต่อในหลุม ด้วยการนำเมล็ดแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วใช้ผ้าชื้นห่อเก็บไว้จนเมล็ดเริ่มงอกเป็นตุ่มเล็ก ๆ แล้วนำมาลงแปลง
- ใช้วิธีเพาะเป็นต้นกล้า เป็นการเพาะเมล็ดแล้วคัดเฉพาะต้นอ่อนที่แข็งแรงมาปลูกลงในหลุมแปลงที่เตรียมไว้ จะช่วยให้คัดเลือกต้นอ่อนได้ระดับหนึ่ง
ซึ่งวิธีปลูกพริกขี้หนู วิธีปลูกพริกชี้ฟ้า หรือวิธีปลูกพริกจินดา ทั้งเพื่อการปลูกขายหรือการปลูกไว้ในบ้านก็สามารถเลือกใช้วิธีเหล่านี้ได้ทั้งนั้น
4. การดูแลรักษา: วิธีปลูกพริกให้ดก
เมื่อเตรียมแปลงและลงต้นพริกเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคงต้องเป็นวิธีดูแลรักษาและวิธีปลูกพริกให้ดก ซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึงคือ
- การให้น้ำ เนื่องจากพริกเป็นพืชที่ชอบน้ำ ทำให้ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรให้มากจนน้ำขัง เพราะอาจก่อให้เกิดโรคและทำให้รากเน่าได้ และควรคลุมหน้าดินเพื่อป้องกันดินแห้งด้วย
- การใส่ปุ๋ย หลังจากใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมเมื่อตอนปลูกต้นกล้าแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องเติมปุ๋ยสูตร12-24-12 หรือ สูตร 13-30-15 สำหรับดินเหนียว, ปุ๋ยสูตร 10-20-15 สำหรับดินร่วน และปุ๋ยสูตร 15-20-20,13-13-21 และ 12-12-17 สำหรับดินทราย โดยแบ่งให้หลังปลูก 30 วันและ 60 วัน ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่พริกเริ่มให้ผลผลิตได้พอดี
และนี่ก็เป็แนวทางอย่างง่าย ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจวิธีปลูกพริก ไม่ว่าจะเป็นวิธีปลูกพริกขาย หรือวิธีปลูกพริกขี้หนู ปลูกพริกชี้ฟ้าไว้ใช้ประกอบอาหารในบ้านก็ได้เหมือนกัน และวิธีปลูกพริกเหล่านี้ก็จะทำให้เราไม่ต้องซื้อพริกรับประทานอีกต่อไป