หน้าร้อนได้ชื่อว่าเป็นช่วงหฤโหดของการจ่ายบิลค่าไฟเสมอ และบิลค่าไฟแพง ๆ ก็มักจะมาแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว ดังนั้นวิธีการประหยัดไฟฟ้าจึงเป็นเหมือนวิธีปกป้องเงินในกระเป๋าของเราไม่ให้จ่ายไปแบบง่ายๆ แบบไม่จำเป็น ทั้งวิธีประหยัดแอร์ วิธีลดค่าไฟแอร์ รวมถึงวิธีประหยัดไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นทั้งนั้น และรู้หรือไม่ว่าการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราต้องใส่ใจรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย และคราวนี้ Shopee ได้รวบรวม วิธีประหยัดค่าไฟ แบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้มาฝากกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
วิธีประหยัดไฟฟ้า วิธีลดค่าไฟอย่างได้ผล ด้วยเครื่องปรับอากาศ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่าใช้จ่ายบานเบอะจากบิลค่าไฟในฤดูร้อนคงหนีไม่พ้นต้นเหตุใหญ่อย่าง แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ ที่ช่วยให้เราอยู่บ้านพักผ่อนนอนหลับได้อย่างเย็นสบาย วิธีใช้แอร์อย่างที่ทำให้ประหยัดค่าไฟ มีดังต่อไปนี้
1. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ
วิธีประหยัดไฟนั้นเริ่มได้ตั้งแต่การเริ่มซื้อหาเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านมาเลยทีเดียว นั่นคือการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะเป็นมาตรฐานที่หน่วยงานราชการรับรองไว้ว่าสามารถประหยัดไฟได้ขั้นสุด ซึ่งหากเป็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่มีขั้นสูง ๆ ขึ้นไปก็จะยิ่งมีความสามารถในการประหยัดไฟได้สูงยิ่งขึ้น
สำหรับการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทแอร์ หากเราต้องการประหยัดแอร์ตั้งแต่แรก นอกจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้ว ก็ยังต้องคำนึงถึงค่า SEER ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาการใช้พลังงานของแอร์ที่เอาอุณหภูมิของแต่ละฤดูกาลมาคำนวณร่วมด้วย ยิ่งค่า SEER สูง แสดงถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้นในการใช้พลังงานของแอร์ เมื่อแอร์ใช้พลังงานได้คุ้มค่าก็เท่าไหร่ก็เท่ากับเรามีวิธีประหยัดไฟฟ้าได้มากเท่านั้น
Cr. Pixabay
2. ใช้เครื่องปรับอากาศถูกวิธี ตั้งเวลาปิดแอร์ เปิดพัดลมแอร์สูง
หากให้เครื่องปรับอากาศถูกวิธีก็จะช่วยให้การประหยัดพลังงานไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรตั้งอุณหภูมิไม่น้อยกว่า 25 องศาเซลเซียส ก่อนเลิกใช้งานควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 30 นาที หรือใครไม่อยากเปิดแอร์ทั้งคืนก็เปิดแค่ 2-3 ชั่วโมงแรกก่อนนอนหลับก็ได้ ที่สำคัญควรหมั่นทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและไส้กรองอากาศเป็นประจำ
เวลาที่เข้าห้องมาแล้วรู้สึกร้อน คุณอาจจะอยากเปิดแอร์แล้วปรับอุณหภูมิแอร์ให้เย็นที่สุดทันที ซึ่งหลายเครื่องจะปรับลงได้ที่ 18 องศาเซลเซียส ซึ่งหารู้ไม่ว่า คุณสามารถทำอีกวิธีที่ทำให้รู้สึกเย็นได้เร็วกว่าและประหยัดไฟกว่า คือ หากอุณหภูมิห้องร้อนๆอยู่ที่ 36 องศา ให้เปิดแอร์ที่ 25 หรือ 28 องศาก็ได้แต่เปิดระดับพัดลมแอร์สูงสุด คุณจะรู้สึกเย็นเร็วกว่าปรับแอร์เย็นสุดหลายนาที และยังประหยัดไฟฟ้ามากกว่าด้วย เป็นวิธีลดค่าไฟที่ควรลองทำเป็นอย่างยิ่ง
วิธีประหยัดไฟฟ้า ช่วยลดค่าไฟ ด้วย พัดลม
3. หากไม่ร้อนเกินไป ให้ใช้พัดลมแทนแอร์
Cr. Unsplash
เข้าใจว่าอากาศประเทศไทยนั้นร้อนไม่แพ้ใคร แต่หากวันไหนที่อากาศดี ไม่ร้อนเกินไป หรือร้อนอยู่แต่มีลมบริเวณนั้น หรือในวันที่ฝนตก ควรเปิดพัดลมแทน เพื่อเป็นวิธีการประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น
4. ใช้พัดลมร่วมกับน้ำแข็ง
หากเปิดพัดลมอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำให้คุณหายร้อนได้เลย ดีไม่ดีลมที่เป่าออกมาจากพัดลมก็เป็นลมร้อน ให้ลองเอาขวดน้ำขนาดเล็กไปแช่ฟรีซให้เป็นน้ำแข็งซัก 2 ขวด จากนั้นนำทั้งสองขวดออกมาผูกด้วยเชือกประมาณหนึ่งคืบ แล้วเอาเชือกที่ห้อยทั้งสองขวดห้อยไว้หลังพัดลม หรือไม่อย่างนั้นก็วางขวดน้ำแข็งลงบนชามหน้าพัดลม ลมที่พัดลมพัดไปหาคุณ ก็จะเป็นลมที่เย็นขึ้น เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีหนึ่งนั่นเอง
5. วิธีลดค่าไฟ โดย ใช้แอร์ร่วมกับพัดลม
ลองเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูงขึ้นจากปกตินิดหน่อยแล้วใช้พัดลมร่วมด้วยดู โดยเฉพาะการให้พัดลมเป่าตัวคุณตรงๆ เพราะการที่ตัวคุณโดนพัดลมเป่า ลมที่กระทบตัวจะทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นประมาณ 1-2 องศา ดังนั้นลองทดสอบดูซักเดือนโดยการปรับแอร์จาก 25 เป็น 27 องศา แล้วเปิดพัดลมเป่าตัวช่วย บางทีคุณอาจจะประหยัดเงินได้มากทีเดียว
6. ใช้พัดลมเพดานอย่างชาญฉลาด
พัดลมเพดานสามารถช่วยหมุนเวียนอากาศและทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้น ช่วยให้คุณสามารถลดค่าไฟจากการปรับเครื่องปรับอากาศให้เย็นที่สุดของคุณลงมาได้ ใช้ได้ทั้งแบบพัดลมเพดานแบบใบพัด หรือพัดลมเพดานแบบโคจร(เหมาะสำหรับห้องเล็กกว่า) เพราะพัดลมเพดานจะดูดลมข้างบนพัดลงมาข้างล่าง
วิธีการประหยัดไฟฟ้า ลดค่าไฟ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
7. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งาน
Cr. Photo by Kelly Sikkema on Unsplash
แม้ว่าเราจะปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ใช้ แต่รู้หรือไม่ว่ากระแสไฟฟาก็ยังตกค้างและเครื่องไฟฟ้าก็ยังกินไฟอยู่แม้ว่าจะไม่เปิดใช้งาน ดังนั้นหลังจากปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว เราก็ควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โคมไฟ โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า รวมถึงแอร์ที่เมื่อไม่ใช้ก็ควรสับคัทเอาท์ลงเพื่อตัดไฟให้เรียบร้อยสมบูรณ์ หรือถ้าหากคุณกำลังสร้างบ้านหรือรีโนเวทบ้านใหม่ ลองใช้ปลั๊กแบบที่มีสวิชเปิดปิดไฟ ก็จะสะดวกต่อการประหยัดไฟขึ้นอีกมาก
8. ใช้การตั้งค่าประหยัดพลังงานในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกเครื่องที่ตั้งได้
เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดนอกจากแอร์ เช่น ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า เครื่องกรองอากาศ สามารถมีการตั้งค่ากระใช้งานแบบประหยัดพลังงาน อย่าลืมสำรวจและใช้มัน
9. เลือกใช้หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนส์แบบผอม
หลอดฟลูออเรสเซนส์จะมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลอดแบบอื่น และระยะยาวจะช่วยประหยัดไฟได้มากทีเดียว จะช่วยประหยัดไฟได้มากถึง 75% ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์
10. ไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เปล่า ๆ
นับเป็นวิธีประหยัดค่าไฟที่ทำได้ทันที เพียงแค่ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้ หรือว่าจะไม่อยู่บ้านนาน ๆ ก่อนออกบ้านต้องมั่นใจว่าปิดไฟและถอดปลั๊กที่ไม่จำเป็นออกแล้ว เพื่อค่าไฟในบ้านจะได้ไม่พุ่งสูงจนเกินไป หากกลัวลืมก็ลองเปลี่ยนหลอดไฟรอบบ้านบานดวง หรือ หลอดไฟตามทางเดินและบันได ให้เป็นหลอดไฟเป็นจับการเคลื่อนไหวแทนก็ได้ จะได้มีการเปิดไฟใช้งานเพียงเมื่อคนผ่านเท่านั้น เครื่องทำน้ำอุ่นช่วงหน้าร้อนที่น้ำอุ่นโดยธรรมชาติอยู่แล้วก็อย่าลืมปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และเพียงแค่การใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่อย ๆ สะสมไปจนครบเดือน ก็สามารถหมายถึงวิธีประยัดค่าไฟจำนวนมากได้
11. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ มีโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือต้องการประหยัดไฟฟ้า อย่าลืมสำรวจและใช้ด้วยเช่นกัน
12. ไม่ซักรีดเสื้อผ้าในเวลาเดียวกัน
เนื่องจากการรีดผ้าและซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะมาก ดังนั้นควรทำในคราวเดียวกัน อย่างการรีดผ้าควรรีดครั้งละมาก ๆ และไม่ควรพรมน้ำจนเปียกเพราะต้องใช้ความร้อนและไฟฟ้ามากขึ้น
13. ไม่เสียบหม้อหุงข้าวไว้ตลอดเวลา
การเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวทิ้งไว้ตลอดเวลาทำให้เปลืองไฟเป็นอย่างมาก เพราะระบบไฟฟ้าจะทำงานตลอดเวลานั่นเอง หากใช้งานเสร็จควรถอดปลั๊ก เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้านั่นเอง การหุงข้าวและเสียบหม้อทิ้งไว้ยังมักจะทำให้ข้าวแข็งในมื้อต่อๆไปด้วย ดังนั้นแนะนำว่าให้หุงเท่าที่กินในหนึ่งมื้อ หรือหุงเสร็จก็พักให้หายร้อนและแพ็คเพื่อแช่ตู้เย็น จะกินเมื่อไหร่ก็ตักปริมาณที่ทานมาอุ่นด้วยไมโครเวฟจะประหยัดไฟกว่า
14. เลือกทำเลที่ตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะ
เช่น ควรวางตำแหน่งของตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลังและด้านข้างไม่น้อยกว่า 10 ซ.ม เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี ไม่ควรวางตู้เย็นหรือเครื่องทำความเย็นไว้ในที่ที่มีแดดส่อง เพราะจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องทำงานหนักขึ้น ลองสังเกตดูว่าค่าไฟแพง ๆ ในบ้านของเรามีสาเหตุมาจากสิ่งนี้หรือไม่ เพราะเพียงแค่การย้ายตำแหน่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยให้ประหยัดค่าไฟจำนวนมากในแต่ละเดือนได้เลย
15. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับงาน
งานเล็ก ๆ น้อย ๆ บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ด้วยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบจัดเต็ม เช่น การอ่านหนังสือบนโต๊ะหนังสือก็อาจเลือกเปิดโคมไฟเล็ก ๆ บนโต๊ะแทนที่การเปิดไฟสว่างทั้งห้อง การล้างรถอาจไม่ต้องใช้เครื่องปั๊มฉีดน้ำแรงแต่ใช้แค่ถังรองน้ำกับขัน หรือในวันที่ไม่ร้อนมาก การใช้พัดลมร่วมกับน้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำหมาดแทนการใช้แอร์ที่เปิดให้ความเย็นทั่วห้องก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยประหยัดแอร์ และเป็นวิธีประหยัดค่าไฟที่ทำได้ง่ายและช่วยลดค่าไฟได้ไม่น้อยเลย
16. ระมัดระวังการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่กินไฟมากเช่น แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ทั้งหมดนี้เดิมก็กินไฟมากอยู่แล้วในเวลาที่เราใช้แต่ละครั้ง แต่หากเราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้พร้อมกันจะยิ่งกินไฟเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เป็นวิธีประหยัดค่าไฟและวิธีลดค่าแอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ๆ พร้อม ๆ กันด้วย
17. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำความร้อนและความเย็นร่วมกัน
เพราะความร้อนทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างแอร์หรือตู้เย็นทำงานหนักขึ้น รวมถึงความเย็นก็ทำให้อุปกรณ์ทำความร้อนอย่างเตารีด หม้อหุงข้าวและกาน้ำร้อนมีภาระการปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็จะนำมาซึ่งค่าไฟที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงการต้มน้ำร้อนหรือรีดผ้าในห้องแอร์ หรือนำของร้อน ๆ เข้าตู้เย็นทันที เพื่อไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องทำงานหนักและกินไฟจนเกินไป
18. ลดแหล่งความร้อน
วิธีการประหยัดไฟฟ้าที่ทำตามไม่ยากอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่สร้างความร้อน เช่น เตาอบ เตารีด เตาแก๊ส เครื่องอบผ้า และเครื่องล้างจานในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน
19. ล้างแอร์ บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำ
ดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ของคุณอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าให้พวกฝุ่นที่เกาะตามตะแกรงกรองแอร์ต้องทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและคุณเปลืองเงินกับค่าไฟดีกว่า แนะนำให้ทำการล้างแอร์ทุก 6-12 เดือนแล้วแต่ความหนักในการใช้งานเครื่องปรัับอากาศ จะทำให้แอร์คุณทำงานได้อย่างดีและไม่เปลืองค่าไฟ
20. รวม ๆ กันใช้ทีเดียวก็ประหยัดไฟได้มาก
เนื่องจากการรีดผ้าและซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าหรือเตารีดต้องใช้พลังงานไฟฟ้าต่อครั้งเยอะมาก ดังนั้นหากทำได้ก็ควรรวบรวมเสื้อผ้าเยอะ ๆ มาซักหรือรีดคราวเดียวกัน การรีดผ้าควรรีดครั้งละมาก ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องวอร์มเตารีดหลาย ๆ ครั้ง นอกจากนี้ก็ไม่ควรพรมน้ำบนผ้าจนเปียกเพราะต้องใช้ความร้อนในการรีดมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
วิธีลดค่าไฟ หมวดอุปกรณ์ไม่ไฟฟ้า
21. ติดฟิล์มกรองแสง เพื่อลดความร้อนจากภายนอก
เพราะความร้อนที่เข้ามาสะสมในตัวอาคารเป็นตัวการให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น แอร์ ตู้เย็น ฯลฯ ทำงานหนักขึ้น เป็นการป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร หรือใช้การบุฉนวนความร้อนที่ผนังก็ช่วยได้มาก นอกจากนั้นเมื่อแดดไม่ส่องดึงในตัวบ้าน คุณก็จะรู้สึดบ้านเย็นขึ้นโดยปริยาย
22. ปิด ผ้าม่าน หรือมู่ลี่
ปิดผ้าม่านและมู่ลี่ในช่วงที่ร้อนที่สุดของวันเพื่อบังแสงแดดและความร้อน การใช้มู่ลี่หรือผ้าม่านปิดบังแสงแดดและความร้อน สะท้อน UV ออกไปจากตัวบ้าน จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักเกินไป และทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นด้านในตัวอาคารทันที เลือกใช้ผ้าม่านแบบป้องกันแสงปริมาณมาก อย่าใช้ม่านโปร่งแสง
23. ซีลรูรั่ว ตรวจสอบฉนวนกันร้อน ปิดกระจกให้ดี
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูและหน้าต่างของคุณได้รับการปิดผนึกอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเย็นเล็ดลอดออกไปและอากาศอุ่นเข้ามา ฉนวนที่ดีสามารถช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้เย็นลงได้ ก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศก็อย่าลืมปิดประตูหน้าต่างทุกบาน
24. ใช้การระบายอากาศตามธรรมชาติ
เปิดหน้าต่างและประตูในช่วงที่มีอากาศเย็นทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ผ่านเข้ามา และสร้างการระบายอากาศไม่ให้อบอ้าวและเหม็บอับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีลมพัดผ่านบริเวณนั้น
25. ปรุงอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้ไมโครเวฟ เตาปิ้งขนมปัง เตาไฟฟ้า หรือเตาย่างกลางแจ้ง แทนเตาแก๊สหรือเตาอบในบ้าน เนื่องจากความร้อนจะน้อยกว่า การทำอาหารในช่วงที่อากาศเย็นระหว่างวันก็ช่วยได้เช่นกัน เช่น ทำอาหารเช้าเผื่ออาหารเที่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารช่วงสายหรือเที่ยง และทำอาหารช่วงเย็นหลัง 5 โมงเย็น เพื่อเลี่ยงเวลาแดดจัด อย่าลืมทำอาหารในที่ร่มและอย่าทำกลางแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นลมแดดและผิวหนังไหม้เกรียมจากแดดเช่นกัน
26. ตั้งร่มหรือหาที่บังแดดจากภายนอก
หากมีส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศอยู่กลางแจ้งหรือโดนแสงแดดโดยตรง ให้เตรียมร่มบังแดดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ หากคุณต้องทำงานกลางแจ้งก็ให้หาร่มหรือติดตั้งกำบังแดดเพื่อลดอุณหภูมิ
Image by info9srinivas from Pixabay
27. ชามใส่น้ำแข็ง
วางชามที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งก้อนใหญ่ไว้หน้าหน้าต่างหรือพัดลม หรือวางไว้กลางห้องที่คุณจะใช้ชีวิต เมื่อน้ำแข็งละลาย อากาศรอบๆ จะเย็นลง ช่วยลดอุณหภูมิในห้องได้โดยไม่เปลืองไฟฟ้า
28. การทำเตียงให้เย็นก่อนนอน
ใส่ผ้าปูที่นอนหรือผ้าเช็ดตัวในช่องแช่แข็งสักสองสามนาทีก่อนเข้านอน จากนั้นใช้เป็นผ้าห่ม ผ้าคลุมหมอนข้าง หรือวางไว้ใต้ผ้าปูที่นอนเพื่อให้ร่างกายเย็นสบายขณะเริ่มนอนหลับ
29. แพ็คน้ำแข็ง DIY
ทำแพ็คน้ำแข็งของคุณเองโดยใช้ถุงซิปล็อคที่เต็มไปด้วยน้ำ แช่แข็งแล้ววางไว้รอบๆ บ้าน เช่น ใต้หมอน หลังคอ หรือบนข้อมือ เพื่อให้รู้สึกเย็น หากตอนเริ่มใช้เย็นไปก็ให้นำผ้าขนหนูผืนบางมาพัน และเพื่อซับน้ำเวลาน้ำแข็งละลาย เมื่อละลายก็นำไปฟรีซใช้ใหม่ วิธีการประหยัดไฟฟ้าแบบนี้จะไม่เปลืองไฟนักเพราะคุณต้องเสียบปลั๊กไฟใช้ตู้เย็นอยู่แล้ว
30. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน หรือปลูกพืชคลุมดิน
เพราะต้นไม้หรือพืชคลุมดินจะช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้น หรือใครอยู่คอนโดก็สามารถหาต้นไม้ฟอกอากาศมาแขวนที่ระเบียงหรือวางในห้องนั่งเล่นแทนได้ หรือใครอยากกรองแสงไม่ให้แดดเข้าบ้านสามารถเลือกติดฟิล์มติดกระจกบ้าน นอกจากวิธีนี้จะช่วยเป็นวิธีลดค่าไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้บ้านเย็นลงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มออกซิเจ็นในบริเวณบ้าน และสร้างงานอดิเรกในการดูแลต้นไม้ให้คุณและคนในบ้านอีกด้วย น้ำที่รดน้ำต้นไม้ก็จะช่วยลดอุณหภูมิร้อนสะสมรอบบ้านได้ด้วยเช่นกัน
31. เครื่องดื่มแช่เย็น
เก็บเครื่องดื่มเย็นๆ ไว้ในตู้เย็นหรือตู้แช่เย็น การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ จะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายจากภายในสู่ภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือน้ำเปล่าเย็นๆ ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อนได้แน่นอน อย่าลืมตุนน้ำที่คุณชอบไว้ในตู้เย็นเยอะๆล่ะช่วงหน้าร้อนนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเคล็ดลับวิธีการประหยัดไฟฟ้าและวิธีลดค่าไฟแบบที่ยังใช้แต่ค่าไฟน้อยลงกว่าเดิมที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ การเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถใช้เป็นวิธีประหยัดค่าไฟลงได้มาก โดยที่อย่ารอให้ต้องเห็นบิลค่าไฟแพง ๆ ก่อนค่อยลงมือ ด้วยการรวมกลยุทธ์เหล่านี้เข้าด้วยกัน คุณสามารถลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมากในขณะที่ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่เย็นสบาย แม้ในช่วงที่อากาศร้อนจัด
อ้างอิง: