โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก เป็นโรคยอดฮิตที่พบในคนไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่แย่ลงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะ ฝุ่น ควัน สารพิษ น้ำเน่าเสีย ทำให้ยิ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนมากขึ้น ทำให้คนเกิดคำถามมากขึ้น ว่า มีอาการ ภูมิแพ้ ทำยังไงดี
โรคภูมิแพ้คือการตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสารที่ไม่เป็นอันตรายตามปกติซึ่งเรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ อาการแพ้อาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจเกิดจากปัจจัยแวดล้อมทั่วไปหลายประการ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง สะเก็ดผิวหนังของสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารบางชนิด
อาการทั่วไปของอาการแพ้ ได้แก่ จาม ไอ ผื่นที่ผิวหนัง น้ำตาไหลและคันตา น้ำมูกไหล และหายใจลำบาก ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้น อาจเกิดภาวะภูมิแพ้ (anaphylaxis) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
อาการภูมิแพ้ มีกี่ประเภท เป็นอย่างไรบ้าง?
การแพ้สารต่างๆ จะมีหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีอาการและสาเหตุที่แตกต่างกันไป เราสามารถทำการระบุประเภทของการแพ้และอธิบายอาการและสาเหตุของแต่ละประเภทดังนี้:
การแพ้แบบภูมิคุ้มกัน
เป็นการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหาร และสัตว์เลี้ยง อาการที่พบจะมีหลายรูปแบบ เช่น ผื่นแพ้ผิวหนัง ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มแดง คัน ปวด บวม หรือจะเป็นอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน เป็นต้น การแพ้แบบนี้พบได้มากที่สุด
การแพ้แบบเฉียบพลัน
เป็นการแพ้ที่เกิดขึ้นโดยรวดเร็วและรุนแรง เมื่อร่างกายตอบสนองต่อสารต่างๆ อาการที่พบจะมีลักษณะเป็นผื่นแดงบนผิวหนัง ทุกข์เข็ญ หน้ามืด มีอาการหายใจลำบาก หรือช็อกแพ้ได้ อาการเหล่านี้เป็นอันตรายต่อชีวิต จึงต้องรีบพบแพทย์ทันที
การแพ้ทางการแพทย์
เป็นการแพ้ต่อยาหรือสารที่ใช้ในการรักษาโรค อาการที่พบจะมีลักษณะเป็นผื่นแดงบนผิวหนัง คัน ตุ่ม และอาจมีอาการหายใจลำบาก อาการเหล่านี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากมีอาการแพ้มากอาจอันตรายถึงชีวิตได้เหมือนการแพ้เฉียบพลัน ข้อสำคัญคือเมื่อพบแพทย์พยาบาล คุณจะต้องแจ้งอย่างละเอียดว่าเคยแพ้สาร ยา อาหาร หรือมีอาการแปลกๆ เช่น จาม หายใจไม่ออก ผื่นขึ้น ท้องเสีย หลังทำกิจกรรมบางอย่างหรือไม่อย่างไรบ้าง
ภูมิแพ้เกิดจากอะไร?
ภูมิแพ้ เกิดจากการตอบสนองผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อบางสิ่ง เช่น อาหาร สัมผัสสิ่งของหรือสารกลิ่น สารเคมี และอื่น ๆ
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะประสานงานกับสารเคมีที่เรียกว่า ฮิสตามีน ซึ่งจะก่อให้เกิดการตอบสนองภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อเกิดภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองผิดปกติต่อสิ่งที่เรียกว่าแพ้เรียกว่าแพ้ง่าย โดยอาการแพ้อาจเป็นการหัวใจเต้นเร็ว ผื่น น้ำมูกไหล และอาจเกิดปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และอาการเจ็บท้องอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของภูมิแพ้ ดังนั้น หากถามว่า ภูมิแพ้ ทำยังไงดี สิ่งที่ทำให้ไม่เกิดอาการภูมิแพ้ก็คือหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือต้นเหตุก่อภูมิแพ้ที่ทำให้ร่างกายเราแสดงอาการผิดปกติ ให้เร็วที่สุด
สาเหตุภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ มีอะไรบ้าง?
สารที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ซึ่งรวมถึง:
- อาหาร: อาหารบางชนิดอาจเป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เช่น ถั่ว เครื่องปรุงรส นม ไข่ ถั่วเหลือง ปลา เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล อื่น ๆ
- สารเคมี: สารเคมีที่พบได้บ่อยเป็นตัวก่อภูมิแพ้ได้แก่ ยา ฮัลโลวีน ไวน์แดง น้ำยาปรับผ้านุ่ม สารทำความสะอาด และสารเคมีในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น วิตามินซี
- สัตว์: หนึ่งในสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้คือสัตว์ เช่น แมว หมา ม้า หรือสัตว์ที่มีขน เช่น วัว แพะ และแกะ
- ฝุ่นละออง: ฝุ่นละอองอาจเป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละอองจากขนสัตว์ ฝุ่นละอองจากพืช และฝุ่นละอองจากการใช้สารเคมีในงานอุตสาหกรรม
- เชื้อโรค: เชื้อโรคอาจเป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เช่น โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคเอดส์ และโรคไวรัสตับอักเสบ
การเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันที่ด้อยลงหรือมีภูมิแพ้อาจเกิดจากการแต่งงานระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
มีอาการภูมิแพ้ ทำยังไงดี?
เมื่อคุณเป็นโรคภูมิแพ้ สิ่งสำคัญที่สุด 3 อย่างก็คือ
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการกับสารก่อภูมิแพ้
2. ใช้ยา
หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ได้ อาจมีการสั่งยา เช่น ยาแก้แพ้และคอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดอาการ ในบางกรณีอาจแนะนำให้ใช้การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน แต่การสั่งยาขอให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเพื่อความปลอดภัยในตัวยาที่ใช้และวิธิการใช้ยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นยาที่ไม่เคยกินหรือไม่แน่ใจว่าต้องกินกี่เม็ด กินเมื่อไหร่บ้าง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซักผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนทุก 1-2สัปดาห์ ซักผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ หรือล้างจมูกเป็นประจำ
ยาแก้ภูมิแพ้ มีกี่แบบ เป็นอย่างไรบ้าง?
Antihistamines เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการแพ้ทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้แมลง เป็นต้น มีประเภทดังนี้
- First-generation antihistamines: ยาตระกูลเดิม มีสารส่วนประกอบที่ทำให้ผู้ใช้งานมีอาการง่วงซึม และผลข้างเคียงอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น คลอร์เพรดีน, ดิฟเฮนไฮรามีน, และบรอมเฟนีรามีน
- Second-generation antihistamines: ยาตระกูลใหม่ มีสารส่วนประกอบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้งานง่วงซึม และผลข้างเคียงอื่นๆน้อยกว่ายาตระกูลเดิม ตัวอย่างเช่น ซีติริซีน, ลอราทาดีน, และเฟ็กซโอซาดีน
- Third-generation antihistamines: ยาตระกูลล่าสุด มีสารส่วนประกอบที่ทำให้มีประสิทธิภาพสูง และผลข้างเคียงน้อยที่สุด ตัวอย่างเช่น ดิสโพรไซน์และเลโวไซร์ซีตีน
การเลือกใช้ antihistamines นั้น ต้องดูว่าผู้ใช้งานมีอาการแพ้อย่างไร และมีประวัติการแพ้ยาอื่นๆ หรือไม่ โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งานเสมอ
แก้ภูมิแพ้โดยไม่กินยา ไอเท็มชาวภูมิแพ้ ต้องมี มีอะไรบ้าง?
มีผลิตภัณฑ์หลายรายการที่สามารถใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการของอาการแพ้ได้
- ใช้ยาพ่นจมูกแก้แพ้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเนื่องจากยาจะมีจำนวนครั้งหรือจำนวนวันที่ควรใช้ไม่เกิน
- สามารถใช้ เจลประคบเย็น/ร้อน ทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและคันจากผื่นที่ผิวหนังได้ บางครั้งภูมิแพ้จะทำให้มีอาการคันตา แนะนำว่าไม่ควรขยี้ตาเพราะจะทำให้ตาแดงและอักเสบได้ ใช้การประคบเย็นจะช่วยลดอาการระคายเคืองตา
- น้ำเกลือล้างจมูกสามารถช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและบรรเทาอาการคัดจมูกได้
- สำหรับอาการคันตา การหยอดน้ำตาเทียมสามารถช่วยลดอาการไม่สบายได้
- สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความชุ่มชื้นไว้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือดื่มน้ำมากๆ เพราะสิ่งนี้สามารถช่วยขับสารก่อภูมิแพ้ออกจากร่างกายได้
โดยสรุปแล้ว โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากซึ่งมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง ถึงแม้จะมีคนเป็นจำนวนมากและมักจะไม่ร้ายแรงนัก แต่ก็มักจะก่อให้เกิดความรำคาญ ทำให้เสียบุคลิกจากการจามหรือคัน ไปจนถึงส่งผลกระทบทางไม่ดีต่อการทำงานได้ สิ่งสำคัญคือต้องขอคำแนะนำทางการแพทย์หากคุณมีอาการแพ้ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หากเป็นไปได้ โดยที่ต้องไม่ลืมเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะยาวเช่นออกกำลังกายและพักผ่อนอย่างเพียงพอ Shopee ขอเป็นกำลังใจให้ชาวภูมิแพ้หายจากอาการเร็วๆนะ!
Cr. Unsplash, Pixabay
บทความอื่นๆ: