เมื่อฤดูฝนมาเยือน หลายคนคงเลือกที่จะนอนเล่นอยู่บ้านเพื่อหลบฝน แต่ทราเวลเลอร์บางคนคงไม่คิดอย่างนั้น เพราะคงกำลังคิดอยู่ว่าจะไปเที่ยวหน้าฝนที่ไหนดี ที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพมีที่ไหนบ้าง เพราะหน้าฝนแม้ว่าจะเปียกปอนแต่ธรรมชาติและบรรยากาศในช่วงนี้ก็สวยมาก ๆ เลยล่ะ คุณจะได้เห็นต้นไม้ที่เชียวชอุ่มไปทั่ว และกลิ่นของไอดินที่มาพร้อมละอองฝนที่สดชื่น ได้ยินแบบนี้ก็คงอยากจะเปลี่ยนใจเที่ยวหน้าฝนบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ Shopee Blog เลยจะมาชวนทุกคนไปเที่ยวฉ่ำรับหน้าฝนกัน กับที่เที่ยวหน้าฝนที่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก จะขับรถไปเอง หรือเดินทางด้วยรถไฟและเครื่องบินก็ได้ มาดูกันว่าที่เที่ยวหน้าฝน 2568 ที่เราเอามาแนะนำกันนั้นจะมีที่ไหนโดนใจบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ที่เที่ยวหน้าฝนสวย ๆ เดินทางง่าย ไม่ไกลกรุงเทพฯ
1. บางกระเจ้า สมุทรปราการ
เริ่มจากที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพอย่างบางกระเจ้า ที่ได้ชื่อว่าปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย หลายคนเลือกที่จะมาเที่ยวหน้าฝนที่นี่เพื่อชมวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน หรือมาปั่นจักรยานสูดอากาศดี ๆ หลีกหนีฝุ่น pm 2.5 ท่ามกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่ให้ความสดชื่น นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และสวนป่าเกดน้อมเกล้า สวนที่ทำการบูรณะใหม่บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ได้อีกด้วย อย่าพลาดที่จะลองชิมน้ำตาลมะพร้าว สินค้าของชุมชนด้วยนะ
การเดินทาง บางกระเจ้า สมุทรปราการ
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 45 นาที
2. เดินทางด้วยรถสาธารณะ BTS บางนา ต่อแท็กซี่หรือรถสองแถวไปยังวัดบางนานอก แล้วนั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าเรือวัดบางนานอก ไปลงท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกได้เลย
พิกัด: google map
ช่องทางติดต่อ: บางกะเจ้า Bangkachao
2. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา
ที่เที่ยวหน้าฝนอย่างเขาใหญ่เป็นที่รู้จักในฐานะอุทยานแห่งชาติที่มีธรรมชาติงดงาม ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด มีทั้งน้ำตกและจุดชมวิวที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกด้วย ที่นี่เป็นที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพที่มีน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกกองแก้ว ที่ให้บรรยากาศชุ่มฉ่ำไปด้วยพืชพรรณและป่าไม้เขียวชอุ่ม ใครที่มองหาเที่ยวหน้าฝนที่ทำกิจกรรมได้หลากหลายทั้งเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ขี่จักรยาน ชมวิว ตั้งแคมป์ แนะนำที่นี่เลย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 2 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-อุบลราชธานี ลงที่สถานีอำเภอปากช่อง ใช้เวลา 3 ชม. 35 นาที แล้วต่อรถสองแถวที่ตลาดไปลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศาลเจ้าพ่อ ทางขึ้นอุทยาน อีกประมาณ 55 นาที
พิกัด: google map
3. วังน้ำเขียว นครราชสีมา
วังน้ำเขียวคือที่เที่ยวหน้าฝน 2568 ที่เราอยากแนะนำ เพราะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย ที่เที่ยวหน้าฝนแห่งนี้จะให้บรรยากาศชุ่มชื่นไปด้วยไอหมอกและละอองฝนในแบบที่ปีหนึ่งจะมีสักครั้ง เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนและเที่ยวชมทุ่งดอกเบญจมาศ สวนองุ่น ไร่องุ่นสุพัตรา และฟาร์มเห็ด ในบรรยากาศหน้าฝนที่งดงามอย่างที่หาไม่ได้จากที่อื่น เป็นที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพที่เดินทางมาได้ไม่ไกลเกินไป
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 3 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟสายหัวลำโพง-อุบลราชธานี ไปยังสถานีปากช่อง ใช้เวลา 3 ชม. 35 นาที และต่อรถไฟไปยังวังน้ำเขียวอีก 1 ชม. หรือหมารถแท็กซี่ไปประมาณ 1 ชม. 30 นาที
พิกัด: google map
4. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี
แก่งกระจานเพิ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 2564 ที่นี่จึงได้ชื่อว่ามีป่าไม้และพืชพรรณที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง และจัดว่าเป็นที่เที่ยวหน้าฝนที่น่ามาเยี่ยมชมสักครั้ง ที่เที่ยวหน้าฝน 2568 แห่งนี้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก ชมพรรณไม้ ล่องเรือชมวิวเขื่อน ดูนก ดูผีเสื้อ นอนดูดาว หรือตั้งแคมป์พักแรม เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเที่ยวหน้าฝนและมีกิจกรรมให้ทำ
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 4 ชม. 15 นาที
2. เดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษ ขบวนที่ 43 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุราษฎร์ธานี ลงที่สถานีเพชรบุรี ใช้เวลา 2 ชม. 15 นาที จากนั้นต่อรถสองแถวไปยังแก่งกระจาน หรือขึ้นรถตู้ที่หน้าบิ๊กซีเพชรบุรี ใช้เวลาอีก 1 ชม.
พิกัด: google map
5. เขากระโจม ราชบุรี
ชวนทุกคนมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนยอดเขาที่เที่ยวหน้าฝน 2568 เขากระโจม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาตะนาวศรี สามารถมองเห็นทั้งประเทศไทยและประเทศพม่า เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวอุดมสมบูรณ์ อุณหภูมิหนาวเย็นทั้งปี เป็นจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของสวนผึ้ง ใครที่อยากชมทะเลหมอกอันสวยงาม แนะนำให้มาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวได้เลย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 4 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถไฟสายกรุงเทพฯ-ราชบุรี ไปลงยังสถานีสะพานจุฬาลงกรณ์ ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที จากนั้นต่อรถเมล์จากตลาดเกาโคยกี๊ ไปลงที่อำเภอสวนผึ้ง ใช้เวลาอีก 2 ชม. 30 นาที และหากต้องการขึ้นไปที่เขากระโจมต้องใช้บริการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD เพื่อขึ้นเขา
พิกัด: google map
6. บ้านอีต่องเหมืองปิล็อก กาญจนบุรี
บ้านอีต่องเหมืองปิล็อกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อยู่ติดริมน้ำทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ ผ่อนคลาย เป็นที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี นอกจากจะได้มาพักผ่อนริมน้ำแล้วยังมี ตลาดบ้านอีต่อง ให้ได้เดินดูร้านค้าชุมชน และชิมอาหารท้องถิ่นอีกด้วย ใครที่อยากเที่ยวหน้าฝนที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ คุณจะได้สัมผัสกับสายหมอกที่ปกคลุมหมู่บ้าน และบรรยากาศของไอดินกลิ่นฝน
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 6 ชม. 40 นาที
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรี ไปลงที่สถานีน้ำตก ใช้เวลา 4 ชม. 35 นาที แล้วต่อรถเมล์ไปยังตลาดทองผาภูมิ ใช้เวลาอีก 1 ชม. 30 นาที และนั่งสองแถวหรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขึ้นไปยังปิล็อก
พิกัด: google map
7. น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ น้ำตก 7 ชั้นขนาดใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยม น้ำตกแห่งนี้มีความพิเศษคือน้ำสีฟ้าใสอมเขียวสวยงาม จึงกลายเป็นหมุดหมายที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพของใครหลายคน เพราะน้ำจะเยอะในช่วงหน้าฝน นอกจากความสวยงามชุ่มฉ่ำให้ได้มาเล่นน้ำและกางเต้นท์นอนพักผ่อนหย่อนใจกันแล้ว ยังมาเดินป่าศึกษาธรรมชาติได้อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 4 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรี สายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-น้ำตก ไปลงสถานีกาญจนบุรี ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที จากนั้นต่อรถบัสสีฟ้า กาญจนบุรี-เอราวัณ จะไปจอดที่อุทยานเลย ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที
พิกัด: google map
8. เขาช่องลม นครนายก
เขาช่องลม จังหวัดนครนายก คือที่เที่ยวหน้าฝนที่ควรค่าแก่การไปที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ ในช่วงต้นฤดูฝน ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขา ลำธาร และน้ำตก ที่เที่ยวหน้าฝน 2568 แห่งนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ช่วงฤดูฝนที่น้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชลลดระดับลงต่ำ จะเผยความสวยงามของทิวทัศน์ทุ่งหญ้าอันเขียวขจี รวมถึงช่วงหลังฝนตกยังอาจจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกอันสวยงาม
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 2 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถตู้โดยสารประจำทาง สาย 58-967 กรุงเทพฯ-นครนายก-เขื่อนขุนด่าน ไปลงที่เขื่อนขุนด่าน ใช้เวลา 2 ชม. จากนั้นต่อเรือไปยังน้ำตกเขาช่องลมได้เลย
พิกัด: google map
9. เขาเทวดา สุพรรณบุรี
เขาเทวดา ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพอีกแห่งที่เราอยากแนะนำ ที่นี่เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงามบนยอดเขา ทั้งผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และทะเลหมอกที่โอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ เหมาะมาเที่ยวหน้าฝนอย่างมากเพราะอากาศเย็นสบาย อีกทั้งด้านบนยอดเขายังมีเจดีย์พระบรมสารีริธาตุเพื่อให้ได้สักการะอีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 5 ชม.
2. เดินทางด้วยรถตู้โดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งสายใต้เก่า สาย 69 หรือจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ สาย 994 ไปลงที่ขนส่งอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสาย 709 ด่านช้าง-บ้านกล้วย ไปยังอุทยานแห่งชาติพุเตย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที และหากต้องการขึ้นไปยังยอดเขา ต้องใช้บริการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อขึ้นไปด้านบน
พิกัด: google map
10. ทุ่งโปรงทอง ระยอง
ที่เที่ยวหน้าฝนอย่างทุ่งโปร่งทอง เป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ในจังหวัดระยอง ที่มีบรรยากาศร่มรื่นและมีจุดชมวิวที่สวยงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหน้าฝนหรือหน้าอื่น ๆ ได้ถ่ายรูปมุมกว้างของทุ่งสีทองที่เมื่อกระทบกับแสงแดดจะมีสีเหลืองอร่ามตระการตา นอกจากนี้ยังมีทางเดินทอดยาวไปยังริมทะเลประแสอีกด้วย ไม่ว่าจะมาเที่ยวหรือมาพักผ่อน ที่นี่ก็เป็นที่เที่ยวหน้าฝน 2568 ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 2 ชม. 45 นาที
2. เดินทางด้วยรถตู้โดยสารประจำทางจากหมอชิตใหม่หรือสถานีขนส่งเอกมัย สายกรุงเทพฯ-จันทบุรี ไปลงที่สี่แยกประแส ใช้เวลา 2 ชม. 40 นาที จากนั้นนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังทุ่งโปรงทอง
พิกัด: google map
11. แก่งหินเพิง ปราจีนบุรี
ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ได้ทำนั้น ต้องมาที่นี่เลย แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามและมีชื่อเสียงในการล่องเรือยางหรือล่องแก่งที่ให้ความสนุกสนานอย่างมากในช่วงหน้าฝน เพราะเป็นช่วงที่น้ำไหลเชี่ยว หรือจะมาพักผ่อนนอนเล่นริมแก่งก็ได้เช่นกัน นับว่าเป็นที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพที่เดินทางมาง่าย สามารถเที่ยววันเดียวได้สบาย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 3 ชม. จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 45 นาที ก็จะถึงแก่งหินเพิง
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 ไปยังสถานีขนส่งกบินทร์บุรี สี่แยกสามทหาร และต่อรถสองแถวไปที่สวนวนารมย์ หากจะไปที่แก่งกินเพิ่ง ต้องเดินเท้าต่อไปเช่นกัน
พิกัด: google map
12. ทุ่งดอกกระเจียว ชัยภูมิ
เมื่อฤดูฝนได้เวียนมาอีกครั้ง ก็จะนึกถึงที่เที่ยวสวย ๆ อย่างทุ่งดอกกระเจียว ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติป่าหินงามและอุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ มาชมความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวสีม่วงอมชมพู ที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพที่เดินทางมาง่าย ๆ มีให้ชมกันทุกปี ท่ามกลางทุ่งสีเขียวขจีกับอากาศสดชื่นชุ่มฉ่ำเย็นใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้เที่ยวชมธรรมชาติ ใครที่มาเที่ยวหน้าฝนอาจจะโชคดีเจอสายหมอกบาง ๆ อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 4 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 สายกรุงเทพฯ-ชัยภูมิ หมายเลข 9909 ลงที่สถานีสามแยกบ้านไร่ จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที
3. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปลงยังสถานีรถไฟวะตะแบก (เทพสถิต) จากนั้นเดินทางต่อโดยรถโดยสารสาธารณะไปยังอุทยานป่าหินงาม ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที
พิกัด: google map
13. เชียงคาน เลย
ที่นี่คือที่เที่ยวช่วงหน้าฝนที่จะพาคุณไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คน และวัฒนธรรมริมโขง อำเภอเชียงคาน อำเภอเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดเลย ที่เต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย มีกลิ่นอายความโบราณที่มีเสน่ห์ของบ้านไม้เก่า ๆ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ผสมผสานความทันสมัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ง่าย สามารถไปเที่ยวชมถนนคนเดินเชียงคาน วัดศรีคุณเมือง วัดพระพุทธบาทภูควาย และสกายวอล์ก จุดชมวิวของพระใหญ่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี และอย่าพลาดกิจกรรมตักบาตรข้าวเหนียวด้วยนะ
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 8 ชม. 25 นาที
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 สายกรุงเทพฯ-เชียงคาน ไปลงที่จุดจอดรถเชียงคานได้เลย ใช้เวลา 10 ชม.
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเลย ใช้เวลา 1 ชม. 5 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่ ไปลงที่สถานีขนส่งเลย และต่อรถสองแถวไปยังเชียงคาน
พิกัด: google map
ที่เที่ยวหน้าฝนภาคเหนือ เที่ยวดอยเคล้าไอหมอกเย็นชุ่มฉ่ำ
14. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก
นอกจากที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพแล้ว ยังมีที่เที่ยว หน้าฝนที่น่าสนใจในภาคเหนืออีกหลายแห่งด้วยกัน เริ่มกันที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและพันธุ์ไม้ที่หลากหลายท่ามกลางผืนป่าที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในช่วงฤดูฝน ซึ่งพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของทั้งสามจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีเส้นทางธรรมชาติพร้อมจุดชมวิวสวย ๆ ให้มาเที่ยวหน้าฝนกันได้แบบฟิน ๆ
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 6 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 สายกรุงเทพฯ-หล่มสัก ไปลงตลาดหล่มสัก ใช้เวลา 2 ชม. แล้วต่อรถสองแถวเล็กสายนครไทย-ภูหินร่องกล้า ใช้เวลา 45 นาที
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินพิษณุโลก ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นเช่ารถขับไปยังถูหินร่องกล้า หรือเหมารถไป ใช้เวลา 2 ชม. 15 นาที
พิกัด: google map
15. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
ภูทับเบิกเป็นพื้นที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์และขึ้นชื่อเรื่องความงดงามและหนาแน่นของทะเลหมอก เหมาะที่จะเป็นที่เที่ยวหน้าฝน 2568 อย่างที่สุด และนอกจากจะมีทะเลหมอกที่งดงามทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็นแล้ว อากาศที่ภูทับเบิกในหน้าฝนยังเย็นชุ่มฉ่ำสดชื่นอีกด้วย เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน ที่นอกจากจะชมทะเลหมอกและทิวทัศน์อันงดงามแล้ว ยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวม้งและสัมผัสวัฒนธรรมพื้นถิ่นได้อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 6 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 สายกรุงเทพ-พิษณุโลก-เขาค้อ หรือ กรุงเทพ-หล่มสัก ใช้เวลา 6 ชม. 5 นาที จากนั้นเหมารถไปยังอำเภอหล่มเก่า หรือไปลงที่แยกทับเบิกก็ได้ และเหมารถสองแถวต่อเพื่อขึ้นไปยังภูทับเบิก
พิกัด: google map
16. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอชาติตระการ จ.พิษณุโลก และอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณที่สูงที่สุดคือ ยอดภูสอยดาว ที่ที่เราแนะนำให้มาเที่ยวหน้าฝนเพื่อพิชิตยอดเขา เพื่อชมวิวหรือแคมป์ปิงกัน ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดชมวิวที่หน้าผา และยังมีน้ำตกสายทิพย์ น้ำตกภูสอยดาว และยังสามารถมาถ่ายรูปสวย ๆ กับทุ่งดอกหงอนนาคที่มีในช่วงหน้าฝนได้อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 7 ชม.
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 สายเหนือกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ใช้เวลา 7 ชม. 45 นาที จากนั้นให้เหมารถไปภูสอยดาวจะสะดวกที่สุด
3. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีหัวลำโพง ไปลงสถานีพิษณุโลก ใช้เวลา 7 ชม. จากนั้นเหมารถไปยังภูสอยดาว ใช้เวลาอีก 4 ชม.
พิกัด: google map
17. หมู่บ้านสะปัน น่าน
ที่เที่ยวหน้าฝนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คงหนีไม่พ้นหมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน เราจะได้พบกับทิวทัศน์ของภูเขาและป่าไม้เขียวขจี น้ำตกและลำธารที่มีน้ำไหลใสสะอาด รวมถึงบรรยากาศที่เงียบสงบ เมื่อมาแล้วก็สามารถพักผ่อนในโฮมสเตย์ใกล้ชิดกับท้องถิ่นได้อินกับบรรยากาศฤดูฝนของหมู่บ้านเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสะปัน น้ำตก 3 ชั้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของหมู่บ้านอีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 11 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อ ไปลงที่สถานีรถไฟเด่นชัย จ.แพร่ ใช้เวลา 9 ชม. 30 นาที จากนั้นนั่งรถตู้จากสถานีรถไฟเด่นชัย ไปยังบขส.น่าน ใช้เวลา 2 ชม. จากนั้นเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือนั่งแท็กซี่ไปยังหมู่บ้านสะปันอีกประมาณ 1 ชม. 40 นาที
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินน่าน ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่ไปที่หมู่บ้านสะปัน
พิกัด: google map
18. ปาย แม่ฮ่องสอน
ปายเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เราจะได้สัมผัสความสงบของบรรยากาศในท้องถิ่นเคล้าไอหมอกและธรรมชาติอันเขียวชอุ่มของหน้าฝน บวกกับอากาศเย็นสบายที่ไม่ถึงกับหนาวเกินไปและยังได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทุ่งนาขั้นบันได น้ำตกหมอกแปง ปางอุ๋ง รวมถึงบ่อน้ำพุร้อน ที่ให้บรรยากาศที่งดงามสดชื่นเหมาะที่จะเป็นที่เที่ยวหน้าฝนอย่างที่สุด และยังมีถนนคนเดินปาย และสะพานท่าปาย ที่ให้ได้เที่ยวชมดันอีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 11 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-เชียงใหม่ ไปลงที่สถานีเชียงใหม่ ใช้เวลา 10 ชม. 25 นาที จากนั้นให้เหมารถไปยังปายได้เลย ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะสาย ปอ. 10 ไปลงตลาดวโรสรส แล้วต่อรถไปยังท่ารถบัสเชียงใหม่ นั่งรถบัสไปลงที่ปาย ใช้เวลา 4 ชม. 20 นาที
พิกัด: google map
19. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี แม้ว่าจะไม่ใช่ที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพ แต่ก็เป็นที่เที่ยวหน้าฝนยอดฮิตของหลาย ๆ คน เพราะเมื่อเข้าหน้าฝนที่นี่ก็จะมีความสวยงาม เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสีเขียวและหยดน้ำฝน น้ำตกบนดอยเช่นน้ำตกแม่ยะและน้ำตกวชิรธารจะเต็มไปด้วยสายน้ำไหลให้ความชุ่มชื่น หรือจะเลือกไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติชมวิวที่กิ่วแม่ปาน พักผ่อนในรีสอร์ทโฮมสเตย์ก็ได้เช่นกัน
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 10 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-เชียงใหม่ ไปลงที่สถานีเชียงใหม่ ใช้เวลา 10 ชม. 25 นาที จากตัวเมืองเชียงใหม่เหมารถไปยังดอยอินทนนท์ ใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือเหมารถไปยังดอยอินทนนท์
พิกัด: google map
20. ดอยแม่สลอง เชียงราย
ดอยแม่สลองมีชื่อเสียงด้านไร่ชาและทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขา ซึ่งหากใครกำลังหาที่เที่ยวหน้าฝนอยู่ละก็ ลองจินตนาการถึงไร่ชาเขียวชอุ่มกลางไอหมอกของและความมืดครึ้มของฤดูฝนดูว่าจะน่าไปเยี่ยมชมขนาดไหน ที่นี่คุณสามารถชิมชาชั้นดีและสัมผัสวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนาน พร้อมทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย หรือพักผ่อนในรีสอร์ทแบบโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติและบรรยากาศของท้องถิ่นได้อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 12 ชม.
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 ไปลงที่จังหวัดพะเยา ใช้เวลา 5 ชม. 46 นาที จากนั้นต่อรถบัสสาย 909 หรือ 90 ไปลงที่จังหวัดเชียงราย ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที เมื่อถึงเชียงใหม่ให้ต่อรถโดยสารสาธารณะหรือเหมารถไปดอยแม่สลองอีกประมาณ 1 ชม.
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือเหมารถไปดอยแม่สลอง
พิกัด: google map
21. น้ำตกทีลอซู ตาก
น้ำตกทีลอซูเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนน้ำจะไหลแรง ทำให้น้ำตกดูงดงามมากยิ่งขึ้น ที่นี่เหมาะเป็นที่เที่ยวหน้าฝน 2568 อย่างมาก เพราะช่วงฤดูฝนป่าไม้และพืชพรรณรอบน้ำตกจะเขียวชอุ่มเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และยังมีอากาศเย็นสบายสดชื่น เราสามารถมาเที่ยวหน้าฝนที่นี่ด้วยการเดินป่า ชมน้ำตก หรือล่องเรือยาง เพื่อถ่ายรูปวิวสองฝั่งแม่น้ำที่สวยงามได้อีกด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 10 ชม. 20 นาที
2. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินแม่สอด ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือเหมารถไปลงที่น้ำตกทีลอซู ใช้เวลา 3 ชม. 40 นาที
พิกัด: google map
22. บ้านป่าบงเปียง เชียงใหม่
ที่เที่ยวหน้าฝน 2568 แห่งนี้มีนาขั้นบันไดที่สวยงามและเขียวขจี เป็นที่เที่ยวหน้าฝนที่เราอยากแนะนำ ที่นี่คือบ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแสนสดชื่น และทัศนียภาพภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ให้ได้มาสโลว์ไลฟ์ นอนในมุ้ง ตื่นเช้ามาจิบกาแฟ ชมวิวนาขั้นบันได พร้อมกับอากาศสดชื่นเย็นสบายกันแบบฟิน ๆ กับความสวยงามแบบเรียบง่าย ที่รับรองว่าทริปเที่ยวหน้าฝนนี้คุณจะได้รูปสวย ๆ กลับไปอย่างแน่นอน
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 10 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-เชียงใหม่ ไปลงที่สถานีเชียงใหม่ ใช้เวลา 10 ชม. 25 นาที จากนั้นนั่งรถบัสไปลงตลาดวโรรส อีก 2 ชม. ไปยังอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และต่อแท็กซี่ไปอีก 35 นาที ไปยังบ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที จากนั้นต่อรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่ ไปยังบ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง อีกประมาณ 1 ชม. 50 นาที
พิกัด: google map
23. วนอุทยานภูชี้ฟ้า เชียงราย
ภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาที่มีทัศนียภาพที่งดงามอยู่แล้วและเป็นที่นิยมขึ้นไปดูทะเลหมอกในช่วงเช้า เพราะเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม การมาเที่ยวภูชี้ฟ้าหน้าฝนทำให้บรรยากาศเย็นสบายและสดชื่นพร้อมดื่มด่ำวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หากมาเที่ยวหน้าฝนที่นี่สามารถชื่นชมพืชพรรณและดอกไม้ที่งดงาม อย่าพลาดชมดอกชงโคป่าสีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่ง นอกจากนี้ยังเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขาต่าง ๆ บนนั้นได้ด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 11 ชม. 45 นาที
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากสถานีหมอชิต 2 ไปลงที่จังหวัดพะเยา ใช้เวลา 5 ชม. 46 นาที จากนั้นให้เหมารถไปยังอุทยานภูชี้ฟ้า ใช้เวลาอีก 2 ชม.
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที จากนั้นต่อเหมารถไปยังอุทยานภูชี้ฟ้า ใช้เวลาอีก 1 ชม. 40 นาที
พิกัด: google map
ที่เที่ยวหน้าฝนภาคใต้ เที่ยวน้ำตก ชมวิว ในบรรยากาศหน้าฝนอันชุ่มฉ่ำ
24. น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช
สำหรับหน้าฝนแล้วไม่ใช่แค่ป่าเขาและยอดดอยเท่านั้นที่น่าเที่ยว เพราะที่เที่ยวหน้าฝนอย่างน้ำตกในภาคใต้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน น้ำตกกรุงชิงเป็นน้ำตกที่สวยงามในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นน้ำตกที่ลงมาจากหน้าผาสูงและมีหลายชั้นทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่ตระการตาน่าไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มีน้ำหลากและพืชพรรณโดยรอบชุ่มฉ่ำเขียวขจี ซึ่งนอกจากการมาเที่ยวน้ำตกแล้วเรายังสามารถเดินป่าผจญภัยและศึกษาธรรมชาติในอุทยานได้ด้วย
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 11 ชม.
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-สุไหงโกลก ไปลงที่สถานีนาสาน ใช้เวลา 11 ชม. 40 นาที จากนั้นเหมารถแท็กซี่ไปยังน้ำตกได้เลย
4. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที จากนั้นเหมารถแท็กซี่ไปอีก 1 ชม.
พิกัด: google map
25. อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานี
และที่เที่ยวหน้าฝน 2568 แห่งสุดท้ายที่เราจะแนะนำ คือการมาเที่ยวเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการเที่ยวหน้าฝนที่ได้อีกหนึ่งบรรยากาศ เพราะจะได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งการนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ เดินเที่ยวถ้ำและน้ำตกที่มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และยังสามารถล่องเรือในทะเลสาบเชี่ยวหลาน ได้สดชื่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศหน้าฝนที่ควรค่าแก่การจดจำ ที่นี่ยังมีพืชพรรณที่หายาก และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ 10 ชม. 30 นาที
2. เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อสายหัวลำโพง-หาดใหญ่ ไปลงที่สถานีสุราษฎร์ธานี ใช้เวลา 9 ชม. 30 นาที จากนั้นต่อรถไฟที่สถานีไปยังเขาสก ใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที
3. เดินทางด้วยเครื่องบินไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที จากนั้นต่อรถบัสที่สนามบินไปลงยังตลาดเกษตร ใช้เวลา 1 ชม. และต่อรถบัสอีกต่อไปยังเขาสก ใช้เวลาอีก 2 ชม. 30 นาที
พิกัด: google map
และทั้งหมดนี่คือที่เที่ยวหน้าฝน 2568 ที่มีทั้งที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพ ให้คุณเดินทางไปได้ง่าย ๆ ไม่ไกล และที่เที่ยวหน้าฝนขึ้นเขาชมดอยเพื่อไปชมวิวสวย ๆ และทะเลหมอกหน้าฝนทางภาคเหนือ รวมถึงไปเที่ยวน้ำตกและอุทยานอันสวยงามที่ทางภาคใต้ เรียกได้ว่าครบทุกภาคในประเทศไทย ให้คุณได้เที่ยวหน้าฝนกันอย่างฟิน ๆ นอกจากนี้ใน Shopee Blog ยังมีที่เที่ยวแนะนำอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่เที่ยวแม่ริม ที่เที่ยวเขาใหญ่ และที่เที่ยวอื่น ๆ ให้ได้ตามเที่ยวกันสนุกสุดมันทั้งในหน้าฝนและฤดูอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมองหาที่เที่ยวฤดูไหน ประเทศไทยก็สามารถเที่ยวได้ครบทุกฤดู
ฝนมาแล้ว หน้าฝนนี้จะเที่ยวไหนดีน้า? สำหรับบางคนการใช้วันหยุดที่บ้านก็ให้ความรู้สึกปลอดภัย แต่ Shopee Blog อยากชวนเพื่อน ๆ ออกมาสูดอากาศสดชื่นจากป่าเขาและธรรมชาติในวันชุ่มฝนและอบอวนด้วยไอหมอก มาเติมความสดชื่นให้วันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยการหาที่เที่ยวฤดูฝนออกท่องเที่ยว ที่สำคัญคือสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนนั้นราคาที่พักก็ไม่แพงด้วย!
