Credit : Billie Eilish Official Facebook
ต้อนรับ Pride Month ด้วยการบอกเล่าประวัติเกี่ยวกับ Billie Eilish หนึ่งในศิลปิน LGBTQ ที่เปิดตัวอย่างโดดเด่นในฐานะศิลปินอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในงาน Grammy Awards ครั้งที่ 62 และล่าสุด Billie Eilish คัมเอาท์ผ่านการให้สัมภาษณ์ที่เธอนั้นสงสัยว่า “แล้วทุกคนไม่ได้รู้เรื่องนี้กันอยู่แล้วหรอ” บทความนี้ Shopee Blog จะพาไปเจาะลึกประวัติของ Billie Eilish ตั้งแต่จุดเริ่มต้นก่อนเข้าวงการบันเทิง จน Billie Eilish คัมเอาท์
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ชีวิตในวัยเด็กและจุดเริ่มต้นทางดนตรี
Billie Eilish มีชื่อเต็มว่า Billie Eilish Pirate Baird O’Connell เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2544 (2001) ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสามารถทางศิลปะ พ่อแม่ของเธอ Maggie Baird และ Patrick O’Connell ต่างก็อยู่ในวงการบันเทิง โดยมีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ บิลลี่และพี่ชายของเธอ ฟินเนียส โอคอนเนล เรียนหนังสือจากที่บ้าน ทำให้ทั้งสองได้ค้นพบความหลงใหลในศิลปะตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
ดนตรีกลายเป็นแกนหลักในชีวิตของ Billie ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุ 8 ปี เธอได้เข้าร่วมคณะนักร้องประสานเสียงเด็กลอสแองเจลิส ซึ่งเธอได้ฝึกฝนทักษะการร้องของเธอ และในตอนอายุ 11 ปี ระหว่างที่เธอกำลังเขียนเพลงของตัวเองอยู่ น้องชายของเธอ Finneas ซึ่งเป็นนักดนตรีอยู่แล้ว ได้เข้ามาร่วมกับเธอเป็นโปรดิวเซอร์ และนักเขียนร่วม ซึ่งเป็นการปูทางสู่การเป็นหุ้นส่วนที่มีพลังของพวกเขา
ทะลุมิติด้วย “Ocean Eyes”
ในปี 2015 ทั้งคู่ได้อัดเพลง “Ocean Eyes” ซึ่งเป็นเพลงที่ Finneas แต่งให้กับวงดนตรีของเขาในตอนแรก เสียงร้องอันโดดของ Billie และทำนองเพลงที่หลอนนิดๆ ดึงดูดความสนใจของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี โดยพวกเขาอัปโหลดเพลงไปที่ SoundCloud โดยไม่ได้คาดหวังกระแสการตอบรับอะไรมากมาย แต่บังเอิญว่าเพลงนี้นั้นเกิดความปังขึ้นมา กลายเป็นกระแสไวรัล มีคนเข้าไปฟังนับล้านครั้งและค่ายเพลงหลายค่ายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
และสุดท้ายในปี 2016 Billie Eilish ก็ได้เซ็นสัญญากับ Darkroom/Interscope Records และ “Ocean Eyes” ก็ออกจำหน่ายเป็นซิงเกิลอย่างเป็นทางการ ความสำเร็จของเส้นทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างรวดเร็วที่ตามมา
อัลบั้มเปิดตัวและการเติบโตอย่างรวดเร็ว
EP เปิดตัวของ Billie “Don’t Smile at Me” ที่เปิดตัวในปี 2017 ตอกย้ำสถานะของเธอในฐานะดาวรุ่ง EP นี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างเพลงบัลลาดที่ีความหลอนผสมอยู่และเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบตัวของเธอในฐานะศิลปิน เพลงอย่าง “Bellyache” และ “idontwannabeyouanymore” เผยให้เห็นความสามารถของเธอในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่ดิบๆ และเล่าเรื่องราวที่โดนใจผู้ชมในวงกว้าง
ในปี 2019 บิลลี่ออกอัลบั้มเต็มชุดแรกของเธอ “When We All Fall Asleep, Where Do We Go?” อัลบั้มนี้ผลิตในสตูดิโอห้องนอนของพี่ชายของเธอ และประสบความสำเร็จอย่างมากในเชิงพาณิชย์และเปิดตัวที่อันดับ 1 ใน Billboard 200 และมีซิงเกิลฮิตอย่าง “Bad Guy”, “Bury a Friend” และ “Wish You Were Gay”
ความสำเร็จของอัลบั้มไม่ใช่แค่ยอดขายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรางวัลที่ได้รับอีกด้วย ในงาน Grammy Awards ครั้งที่ 62 Billie Eilish สร้างประวัติศาสตร์ โดยกลายเป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่ชนะรางวัลในทั้ง 4 สาขาหลัก ได้แก่ Best New Artist, Record of the Year, Song of the Year และ Album of the Year ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นของเธอ การผสมผสานเสียงร้องที่กระซิบกระซาบอย่างมืดมนฉุนเฉียว และบุคลิกที่แท้จริงของเธอโดยไม่มีการกล่าวขอโทษ ทำให้เธอโดดเด่นในวงการเพลง
การต่อสู้และการสนับสนุนประเด็นทางสังคม
Credit : Billie Eilish Official Facebook
แม้ว่าเธอจะเติบโตในวงการเพลงอย่างรวดเร็ว แต่ Billie ก็ยังเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวของเธอ เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติของร่างกาย เพลงของเธอ “Everything I Wanted” กล่าวถึงประเด็นเหล่านี้ โดยนำเสนอความกดดันและความท้าทายที่เธอเผชิญในฐานะศิลปินรุ่นเยาว์
ความเปิดกว้างของ Billie ขยายออกไปมากกว่าดนตรีของเธอ เธอใช้แพลตฟอร์มของเธอเพื่อสนับสนุนประเด็นทางสังคมต่างๆ รวมถึงการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพจิต และทัศนคติเชิงบวกต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจสวมเสื้อผ้าที่หลวมๆ ของเธอเป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสินหรือล่วงละเมิดทางเพศต่อร่างกายของเธอ ซึ่งท้าทายมาตรฐานความงามที่ไม่สมจริงซึ่งมักกำหนดให้กับหญิงสาว
Billie Eilish คัมเอาท์
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Billie Eilish ได้ขึ้นพาดหัวข่าวอีกครั้ง คราวนี้เป็นข่าวจากใจจริงของเธอ ในการสัมภาษณ์ที่ตรงไปตรงมา Billie เปิดเผยการทำความเข้าใจและยอมรับเรื่องเพศของเธอ เธอเล่าว่าเธอระบุว่าเป็นเควียร์ โดยแสดงให้เห็นว่าเรื่องเพศของเธอเป็นส่วนสำคัญของตัวตนของเธอ และพูดคุยเกี่ยวกับความท้าทายในการนำทางตัวตนของเธอในสายตาของสาธารณชน โดยจริงๆ แล้ว เธอนั้นคิดว่าหลายคนรู้แล้วเสียอีกว่าเธอนั้นมีรสนิยมทางเพศในลักษณะนี้
การออกมาของเธอได้รับการสนับสนุนจากแฟน ๆ และเพื่อนศิลปินอย่างล้นหลาม สำหรับหลาย ๆ คน การที่ Billie Elish คัมเอาท์ เป็นการยืนยันที่ทรงพลังถึงความมุ่งมั่นของเธอต่อความถูกต้อง ในรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของเธอ Billie Eilish จัดการกับการคัมเอาท์อย่างซื่อตรงต่อความรู้สึก เพื่อจุดประกายให้กับคนที่พบปัญหาเช่นเดียวกันกับเธอในการเป็นตัวของตัวเอง
เรื่องราวของ Billie Eilish เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีพรสวรรค์อันโดดเด่น ด้วยวัยเพียง 22 ปี เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่ศิลปินหลายคนมุ่งมั่นมาตลอดชีวิต ดนตรีของเธอยังคงก้าวข้ามขีดจำกัด และงานสนับสนุนของเธอก็ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแฟนๆ ของเธอและอื่นๆ อีกมากมาย
หากใครที่อยากสนับสนุน Billie Eilish ก็สามารถมาค้นหาสินค้าเกี่ยวกับ Billie Eilish ที่ร้าน Shopee Mall ในแอปพลิเคชั่น Shopee เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ Billie Eilish ได้มีผลงานมาฝากแฟนเพลงอยู่อย่างต่อเนื่อง และสนับสนุน Shopee Blog ด้วยการเข้ามาอ่านคอนเทนต์กันด้วยนะจ้ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook , The Standard