ยุคปัจจุบันนี้เป็นอะไรที่เร่งรีบมาก เราจะต้องเเข่งกับเวลากันเเบบสุด ๆ การรีดผ้าถือเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะในทุก ๆ วันไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยสูงอายุ ทุกคนล้วนต้องใส่เสื้อผ้ากันอยู่เเล้ว เเละถ้าจะต้องใส่เสื้อผ้าที่ยับ ๆ มันก็ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้คนใส่ใจภาพลักษณ์และแฟชั่นหน้าร้อนที่ต้องการความเนี้ยบ การรีดผ้าจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้และต้องทำให้เรียบที่สุด
แต่คำถามโลกแตกที่ผุดขึ้นมาก็คือ จะเลือกเตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดี? ในเมื่อตลาดมีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งแบบธรรมดา แบบแยกหม้อต้ม แบบยืน หรือแม้แต่แบบพกพา แล้วคำโฆษณาที่ว่า “พลังไอน้ำสูง” หรือ “แรงดัน X บาร์” มันหมายความว่ายังไงกันแน่?
ในบทความนี้ Shopee Blog จะมาเจาะลึกกันแบบหมดเปลือก ตั้งแต่การเลือกประเภทเตารีดไอน้ำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ส่องสเปกที่ต้องรู้จริง และแน่นอน ไฮไลต์เด็ดคือการรีวิวรุ่นยอดนิยม โดยเฉพาะการตอบคำถามคาใจว่า เตารีดไอน้ำ Tefal รุ่นไหนดี ที่ชาวเน็ตเค้าว่าปังกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เตารีดไอน้ำมีกี่แบบ? แล้วแบบไหนที่ “ใช่” สำหรับคุณ?

ก่อนที่เราจะไปดูยี่ห้อหรือรุ่น การทำความเข้าใจประเภทของเตารีดไอน้ำคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้าเลือกผิดประเภท ต่อให้แพงแค่ไหนก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ มาดูกันว่า 4 ประเภทหลัก ๆ ในตลาดมีอะไรบ้าง และใครเหมาะกับแบบไหน
1. เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Standard Steam Iron)
นี่คือภาพจำของเตารีดที่เราคุ้นเคยกันดีที่สุด มีแท็งก์น้ำในตัว ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
จุดเด่น: ร้อนเร็ว, ควบคุมทิศทางง่าย, เหมาะกับการรีดที่ต้องการความเนี้ยบเฉพาะจุด เช่น จีบกางเกง ปกเสื้อ และสามารถใช้เป็นเตารีดแห้งได้ด้วย
เหมาะกับใคร: นักเรียน, นักศึกษา, คนโสด, คนที่อยู่คอนโด, บ้านที่รีดผ้าไม่บ่อยครั้ง หรือรีดครั้งละไม่เกิน 5-10 ตัว และต้องการความคล่องตัว
2. เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม (Steam Generator / Steam Station)
นี่คือร่างอัปเกรดของเตารีด จะมีตัวเตารีด (ที่มักจะเบากว่าแบบแรก) และมีฐานหรือหม้อต้ม (Boiler) ขนาดใหญ่แยกต่างหากสำหรับเก็บน้ำและสร้างแรงดันไอน้ำโดยเฉพาะ
จุดเด่น: พลังไอน้ำสูงมาก! (วัดกันเป็น “บาร์”) รีดผ้าหนา ๆ อย่างยีนส์หรือผ้าลินินได้เรียบในครั้งเดียว แท็งก์น้ำใหญ่ รีดได้นานต่อเนื่องไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
เหมาะกับใคร: ครอบครัวใหญ่, คนที่รีดผ้ากองโตเป็นประจำ, ร้านซักรีด, หรือคนที่ต้องการความเร็วและเรียบ แบบจบงานไว ไม่ต้องออกแรงกด
3. เครื่องรีดผ้าไอน้ำแบบยืน (Garment Steamer)
เครื่องทรงสูงที่มีเสาสำหรับแขวนไม้แขวนเสื้อ มีหัวพ่นไอน้ำคล้ายฝักบัว และมีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่อยู่ที่ฐาน หรือที่เรียกกันติดปากว่า เครื่องรีดผ้าไอน้ำ นั่นเอง
จุดเด่น: รีดผ้าในแนวตั้งได้เลย ไม่ต้องใช้โต๊ะรีดผ้า รวดเร็วมากในการกำจัดรอยยับเล็กน้อยถึงปานกลาง ถนอมเนื้อผ้าได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะผ้าที่บอบบาง ผ้าปักเลื่อม หรือชุดสูท
เหมาะกับใคร: คนที่มีเสื้อผ้าแฟชั่นเยอะ, คนที่ไม่ชอบกางโต๊ะรีดผ้า, คนที่ต้องการรีดชุดเพื่อใส่ด่วน ๆ ในตอนเช้า หรือใช้สำหรับร้านขายเสื้อผ้า
4. เตารีดไอน้ำแบบพกพา (Handheld / Portable Steamer)
ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทุกประเภท หน้าตาคล้ายไดร์เป่าผมหรือฝักบัวขนาดเล็ก ถือง่ายด้วยมือเดียว
จุดเด่น: พกพาสะดวก! น้ำหนักเบา ร้อนเร็วมาก เหมาะสำหรับกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ หรือใช้ระหว่างเดินทาง
เหมาะกับใคร: นักเดินทาง, คนที่ต้องออกงานสังคมบ่อย ๆ และต้องการเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าก่อนออกจากบ้าน หรือใช้รีดผ้าม่าน โซฟาเพื่อฆ่าเชื้อ
ส่องสเปกสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อเตารีดไอน้ำ
เมื่อเพื่อน ๆ เลือกประเภทที่ใช่ได้แล้ว ทีนี้เรามาลงลึกในรายละเอียดสเปกกันบ้าง เวลาไปอ่านรีวิวหรือดูสินค้าบน Shopee จะได้เข้าใจว่าตัวเลขพวกนี้บอกอะไรเราบ้าง
1. พลังไอน้ำ (Steam Power)

พลังไอน้ำของเตารีดไอน้ำที่ดี ควรเลือกเตารีดไอน้ำที่มีพลังไอน้ำที่สูง เเละสามารถที่จะทำไอน้ำให้ได้ปริมาณที่มาก เเละใช้เวลาน้อยในการทำไอน้ำ ซึ่งมันมีค่าที่ต้องดู 3 ค่าหลัก ๆ
- แรงดันไอน้ำ (หน่วยเป็น Bar)
แรงดันไอน้ำ คือ แรงดันที่เครื่องสามารถผลักไอน้ำออกมาได้ ยิ่งค่านี้สูง ไอน้ำยิ่งพุ่งแรงและแทรกซึมเข้าใยผ้าได้ลึกขึ้น
คำแนะนำ: สำคัญมากสำหรับเตารีดแบบแยกหม้อต้ม (Steam Station) ควรเลือกรุ่นที่มีแรงดัน 5 บาร์ขึ้นไป ถ้าได้ 6-8 บาร์ ถือว่าระดับโปร ส่วนเตารีดแบบธรรมดาหรือแบบยืน มักจะไม่โชว์ค่านี้
- ปริมาณไอน้ำต่อเนื่อง (หน่วยเป็น g/min – กรัมต่อนาที)
ปริมาณไอน้ำต่อเนื่อง คือ ปริมาณเนื้อไอน้ำที่เครื่องปล่อยออกมาได้อย่างสม่ำเสมอตลอดการรีด ยิ่งมาก ยิ่งทำให้ผ้าคลายตัวและเรียบเร็ว
คำแนะนำ: สำหรับเตารีดแบบธรรมดา 25-40 g/min ถือว่าดี, แบบแยกหม้อต้มควรอยู่ที่ 120 g/min ขึ้นไป, ส่วนแบบพกพา 20-30 g/min ก็เพียงพอแล้ว
- พลังไอน้ำพิเศษ (Steam Boost / Shot of Steam) (หน่วยเป็น g – กรัม)
พลังไอน้ำพิเศษ คือ การอัดไอน้ำพลังสูงในชั่วขณะ (โดยการกดย้ำ) เพื่อสู้กับรอยยับที่ฝังแน่นสุด ๆ หรือใช้รีดในแนวตั้ง
คำแนะนำ: สำหรับเตารีดธรรมดา ควรมองหาที่ 100 g ขึ้นไป, แบบแยกหม้อต้ม ตัวท็อป ๆ อาจสูงถึง 400-700 g เลยทีเดียว
2. แผ่นหน้าเตารีด (Soleplate)
หน้าเตาคือส่วนที่สัมผัสกับผ้าโดยตรง วัสดุที่ต่างกันก็ให้ฟีลลิ่งที่ต่างกัน แผ่นหน้าเตาที่ดีควรมีความเรียบลื่น เพื่อให้รีดได้ง่ายไม่ติดขัด มีความทนทานต่อรอยขีดข่วน และสามารถกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อความเร็วในการรีดและอายุการใช้งานของเตารีด
- สเตนเลส (Stainless Steel) ทนทาน ร้อนเร็ว แต่ถ้าไม่เคลือบสารกันติด อาจจะหนืดกับผ้าบางชนิด
- เซรามิก (Ceramic) ลื่นมาก กระจายความร้อนได้ดีเยี่ยม ถนอมผ้า แต่ต้องระวังการกระแทกเพราะอาจแตกหรือร้าวได้
- สารเคลือบ Non-stick (เช่น Teflon) ลื่น ราคาไม่แพง แต่สารเคลือบอาจลอกร่อนได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
- วัสดุเฉพาะแบรนด์ (เช่น Durilium Airglide ของ Tefal หรือ SteamGlide ของ Philips) มักจะเป็นการผสมผสานจุดเด่นของเซรามิกและความทนทานของวัสดุอื่น ๆ ซึ่งมักจะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
3. แท็งก์น้ำ (Water Tank) และ น้ำหนัก (Weight)
- ความจุแท็งก์น้ำ ถ้าเป็นแบบธรรมดา ยิ่งจุเยอะ เช่น 300 ml ขึ้นไป ก็ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย แต่ถ้าเป็นแบบแยกหม้อต้ม 1.5 – 1.8 ลิตร ถือว่ากำลังดี รีดต่อเนื่องได้เป็นชั่วโมง
- น้ำหนักของเตารีด ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการใช้งานเตารีดไอน้ำ ตัวเตารีดไอน้ำควรมีน้ำหนักที่พอเหมาะกับกำลังมือของผู้ใช้งาน ถ้าหนักเกินไปก็จะควบคุมได้ยาก เเละถ้าเบาเกินไปก็ทำให้ต้องออกเเรงมากขึ้น (สำหรับแบบแยกหม้อต้ม ตัวเตาจะเบามาก เพราะน้ำหนักไปอยู่ที่ฐานหม้อต้มแทน ทำให้รีดนาน ๆ ไม่เมื่อย)
4. ฟังก์ชันขจัดตะกรัน (Anti-Calc / Descale System)
นี่คือฟีเจอร์ที่สำคัญและจำเป็นต้องมีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่เรามักประสบปัญหาน้ำประปามีความกระด้างสูง ซึ่งตะกรันคือสิ่งที่จะค่อย ๆ สะสมและอุดตันรูพ่นไอน้ำ ทำให้ไอน้ำออกไม่สม่ำเสมอและลดประสิทธิภาพของเตารีดไอน้ำลง ฟังก์ชันนี้มีหลายรูปแบบ เช่น
- แบบปุ่ม Calc-Clean กดปุ่มเพื่อล้างตะกรันออกมา
- แบบแท่งดักตะกรัน (Calc Collector) พบใน Tefal รุ่นสูง ๆ เป็นแท่งที่ถอดออกมาล้างตะกรันที่เกาะได้เลย สะดวกมาก
- ระบบแจ้งเตือน มีไฟเตือนเมื่อถึงเวลาต้องล้างตะกรัน
5. งบประมาณ และ การรับประกัน (Budget & Warranty)
สุดท้ายคือเรื่องงบประมาณ เตารีดไอน้ำมีตั้งแต่หลักร้อย (แบบพกพา) ไปจนถึงสองหมื่น (แบบแยกหม้อต้มตัวท็อป) ให้เพื่อน ๆ ตั้งงบในใจ และมองหารุ่นที่ให้สเปกคุ้มค่าที่สุดในงบนั้น และอย่าลืมดูการรับประกันสินค้า อย่างน้อยควรมี 1-2 ปี เพื่อความอุ่นใจ
ตารางเปรียบเทียบสเปกเด็ด 12 รุ่นฮิต ชี้เป้าตัวที่ใช่!
| รุ่น (Model) | ประเภท (Type) | แรงดัน (Bars) | ไอน้ำต่อเนื่อง (g/min) | ไอน้ำพิเศษ (g/min) |
|---|---|---|---|---|
| Tefal SV6110T0 | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม | 5 บาร์ | 110 | 260 |
| Tefal IT3441 | เครื่องรีดไอน้ำแบบยืน | – | 30 | – |
| Tefal QT1510 | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม / เครื่องรีดไอน้ำแบบยืน | 5 บาร์ | 45 | 90 |
| Tefal SV7120 | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม | 6 บาร์ | 120 | 350 |
| Tefal GV9612 | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม (Premium) | 8 บาร์ | 180 | 700 |
| Simplus GTJH017 | เตารีดไอน้ำพกพา | – | 22 | – |
| Sharp EI-S301 | เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Standard) | – | 25 | 110 |
| Philips GC3929/60 | เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Standard) | – | 45 | 200 |
| Xiaomi Handheld | เตารีดไอน้ำพกพา | – | – | – |
| Electrolux E6SS1-40PP | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม | 5 บาร์ | – | 300 |
| Electrolux E7GS1-74OW | เครื่องรีดไอน้ำแบบยืน | – | 43 | – |
| Philips PSG8040/60 | เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม (Premium) | 8 บาร์ | 170 | 600 |
เจาะลึกตัวท็อป เตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดี รุ่นเด็ดที่ต้องมีติดบ้าน เตารีดไอน้ำ Tefal รุ่นไหนดี?
ในปัจจุบันมีเตารีดไอน้ำหลายรุ่นหลายยี่ห้อมาก ไม่ว่าจะเป็น Tefal, Philips, Xiaomi, Sharp ทำให้ผู้บริโภคคิดว่าจะต้องใช้เตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์ความต้องการ วันนี้ Shopee Blog ก็ได้ทำการรวบรวม 12 เตารีดไอน้ำ หรือเครื่องรีดผ้าไอน้ำยี่ห้อไหนดี มาให้พิจารณาว่าตัวไหนที่จะตอบโจทย์ เเละโดนใจทุกคนมากที่สุด มาดูกันเลย
1. Tefal เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม รุ่น EXPRESS ESSENTIAL SV6110

เตารีดเเรงดันไอน้ำ Tefal รุ่น EXPRESS ESSENTIAL SV6110T0 เป็นเตารีดที่ที่ลดเวลาในการรีดผ้าได้สูงสุด 30% รุ่นนี้ถือได้ว่ามีขนาดที่กระทัดรัด ถึงจะมีขนาดที่เล็กเเต่ก็มากด้วยคุณสมบัตินะจ้ะ ด้วยเตารีดเเรงดันไอน้ำ Express Essential มอบพลังไอน้ำเพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพ เเละเทคโนโลยี Calc Clear เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างยาวนาน
คุณสมบัติ
- แรงดัน 5 บาร์
- กำลังไฟ 2,200 วัตต์
- หน้าเตารีด Xpress Glide
- ประสิทธิภาพพลังไอน้ำสูง พลังไอน้ำต่อเนื่อง 110 กรัม / นาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 260 กรัม / นาที
- ความจุแท้งค์น้ำ 1.4 ลิตร เติมน้ำได้ต่อเนื่อง สะดวกในการใช้งานและประหยัดเวลา
- พลังไอน้ำแนวตั้ง ใช้งานง่ายเหมาะกับเสื้อผ้าบางและเก็บรายละเอียดเพื่อการถนอมเนื้อผ้า
- ระบบป้องกันการเกิดตะกรัน เพื่อไอน้ำแรงยาวนาน
- รูปทรงกะทัดรัดตัวเครื่องเล็กกว่ากระดาษ A4
- มีระบบ Eco mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- ปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ แนวนอน 30 วินาที , แนวตั้ง 8 นาที
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 3,990 บาท
2. Tefal เครื่องรีดผ้าไอน้ำแบบยืน รุ่น Prostyle IT3441

ถ้าถามว่าเครื่องรีดผ้าไอน้ำยี่ห้อไหนดี ขอเเนะนำเป็น Tefal เครื่องรีดผ้าไอน้ำ รุ่น Prostyle IT3441 นี้เลยจ้า เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำเเนวตั้งที่มาพร้อมกับเเผงรองรีด ที่ช่วยสามารถรีดรอยยับต่าง ๆ ให้เรียบได้อย่างง่ายได้ เเละสามารถใช้ได้กับผ้าทุกประเภท อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมแปรงรีดผ้า ที่เหมาะแก่การรีดบนผ้าหนา ๆ อีกด้วย
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 1800 วัตต์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 30 กรัม ต่อนาที
- หัวพ่นไอน้ำโลหะขนาดใหญ่ช่วยให้รีดได้อย่างแม่นยำ
- ปรับระดับความแรงไอน้ำได้ 3 ระดับ
- เครื่องพร้อมใช้งานภายใน 45 วินาที
- ความจุแท้งก์น้ำ 1.5 ลิตร
- ใช้งานต่อเนื่องได้ 40 นาที
- จัดการตะกรันได้โดยง่ายด้วยระบบล้างทำความสะอาด
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 4,990 บาท
3. Tefal All-in-One รุ่น IXEO Plus QT1510

ใครที่กำลังหา เตารีดไอน้ำ Tefal รุ่นไหนดี ที่ครบจบในตัวเดียว ต้องนี่เลย Tefal เตารีดไอน้ำ รุ่น IXEO Plus QT1510 เรียกได้ว่า “All-in-One” ผสมผสานความสะดวกสบายของเครื่องพ่นไอน้ำถนอมผ้า เข้ากับประสิทธิภาพของเตารีดไอน้ำ และมาพร้อม Smart Board หรือแผงรองรีดอัจฉริยะที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ (แนวตั้ง, แนวนอน หรือเอียง 30 องศา) หัวเตารีดมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และพร้อมใช้งานได้รวดเร็วภายใน 70 วินาที ทำให้การดูแลเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2,980 วัตต์
- แรงดันไอน้ำ 5 บาร์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 45 กรัม/นาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 90 กรัม/นาที
- เครื่องพร้อมใช้งานภายใน 70 วินาที
- ตัวเครื่องถอดได้ สามารถยกออกจากฐานเพื่อความสะดวกในการยกไปที่ต่าง ๆ
- มีล้อที่ฐานสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย
- แผงรองรีดมาพร้อมกับตัวเครื่อง Built-in Smart Board ปรับได้ 3 ระดับ (การรีดแนวตั้ง แนวนอน และองศาใหม่ที่ 30 องศา)
- ความจุแท้งก์น้ำ 1 ลิตร
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 5,990 บาท
4. Tefal เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม รุ่น Express Compact SV7120

เตารีดไอน้ำ Tefal รุ่น Express Compact SV7120 เป็นเตารีดไอน้ำที่มีหม้อเเยกออกมา Express Compact ที่มีไอน้ำมากกว่า 3 เท่าเพื่อการรีดที่รวดเร็วกว่าเตารีดไอน้ำทั่วไปด้วยประสิทธิภาพของพลังไอน้ำ พร้อมกับเทคโนโลยี Calc – Clear แบบใหม่ล่าสุด เเละยังมีถังเก็บน้ำถอดออกได้ที่มีขนาดใหญ่พิเศษรีดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะได้
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2380 – 2830 วัตต์
- รีดเรียบเร็ว ด้วยแรงดันไอน้ำ 6 บาร์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 120 กรัม/นาที พลังไอน้ำเพิ่มพิเศษ 350 กรัม/นาที
- แผ่นหน้าเตารีด Xpress Glide
- ความจุแทงค์น้ำ 1.7 ลิตร สามารถรีดผ้าแนวตั้งได้
- Manual setting ปรับอุณหภูมิ และ ไอน้ำได้ตามต้องการ
- มีระบบ Eco mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- ช้อนดักตะกรัน Calc Collector ช่วยขจัดตะกรันได้อย่างง่ายดายหมดจด
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 9,690 บาท
5. Tefal เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม รุ่น Pro Express Ultimate Plus GV9612
สำหรับ Tefal เตารีดแรงดันไอน้ำ รุ่น Pro Express Ultimate Plus GV9612 นี้ ถือเป็นเตารีดแรงดันไอน้ำระดับพรีเมียมในซีรีส์ Pro Express ไม่ว่าจะมีแรงดันไอน้ำที่สูงที่สุดในกลุ่ม (8 บาร์) และพลังไอน้ำพิเศษ ช่วยขจัดรอยยับที่รีดยากได้อย่างรวดเร็ว และยังมีเทคโนโลยี Smart Steam สามารถปรับปริมาณไอน้ำอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของเตารีด อีกทั้งยังมาพร้อมช้อนดักตะกรัน (Calc Collector) ที่ช่วยให้การบำรุงรักษาง่ายยิ่งขึ้น
คุณสมบัติ
- แรงดันไอน้ำ 8 บาร์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 180 กรัม/นาที
- พลังไอน้ำเพิ่มพิเศษ 700 กรัม/นาที
- แผ่นหน้าเตารีด Durilium Airglide Autoclean (รีดลื่นและทำความสะอาดตัวเองได้)
- เทคโนโลยี Smart Steam ปรับไอน้ำอัตโนมัติ
- เทคโนโลยี Smart Auto-Off ปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน
- ความจุแทงค์น้ำ 1.9 ลิตร (ถอดออกได้)
- ช้อนดักตะกรัน Calc Collector ช่วยขจัดตะกรันได้สูงถึง 10 เท่า
- มีระบบ Safety Lock เพื่อความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 26,900 บาท
6. Simplus เตารีดไอน้ำแบบพกพา รุ่น Handheld Garment Steamer GTJH017

สำหรับสายประหยัดที่ต้องการความคล่องตัว Simplus คือแบรนด์ที่มาแรงมากบน Shopee ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ รุ่นนี้เป็นเตารีดไอน้ำแบบพกพาที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา ร้อนเร็ว และยังมีหัวแปรงมาให้สำหรับใช้กับผ้าหนาหรือโซฟาได้ด้วย
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 1,200 วัตต์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 22 กรัม/นาที
- ช่องระบายไอน้ำ 7 รู
- ความจุแท็งก์น้ำ 170 มล.
- น้ำหนัก 790 กรัม ถือรีดได้ไม่เมื่อย
- ดีไซน์กะทัดรัด
- รับประกัน 1 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 550 – 600 บาท
7. Sharp เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา รุ่น EI-S301

แบรนด์ญี่ปุ่นคุณภาพอย่าง Sharp ก็ไม่น้อยหน้า รุ่น EI-S301 เป็นเตารีดไอน้ำแบบธรรมดาที่ให้สเปกมาจัดเต็มในราคาที่จับต้องได้ โดดเด่นด้วยกำลังไฟสูงและหน้าเตาเคลือบ Nano Ceramic ที่ทนทานและลื่น รีดได้เนี้ยบไม่แพ้แบรนด์ยุโรป ในราคาที่คุ้มค่ามาก
คุณสมบัติ
- กำลังไฟสูง 2,000 – 2,400 วัตต์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 25 กรัม/นาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 110 กรัม/นาที
- แผ่นหน้าเตารีดเคลือบ Nano Ceramic (ทนทานต่อรอยขีดข่วน)
- ระบบขจัดตะกรัน Duo Clean (Self-Clean + Anti-Calc)
- ระบบป้องกันน้ำหยด (Anti-Drip)
- ความจุแท็งก์น้ำ 300 มิลลิลิตร
- น้ำหนักสินค้า 1.1 กก.
- รับประกันตัวทำความร้อน 2 ปี
ราคาโดยประมาณ: 990 บาท
8. Philips เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา รุ่น PerfectCare Aqua GC3929/60

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาเตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Standard) ที่ให้คุณภาพไว้ใจได้ รุ่นนี้คือคำตอบที่ตอบโจทย์จริง ๆ เพราะ PerfectCare Aqua เป็นรุ่นที่ขายดีต่อเนื่องยาวนาน ได้รับรีวิวดีทั้งเรื่องความทนทานและการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ใครที่ต้องการเตารีดที่ใช้แล้วไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องคอยปรับอุณหภูมิยุ่งยากมากมาย รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณภาพและความคุ้มค่าเลยทีเดียว
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2,600 วัตต์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 45 กรัม/นาที
- พลังไอน้ำพิเศษสูงสุด 200 กรัม
- แผ่นความร้อน SteamGlide Plus
- เทคโนโลยี OptimalTEMP ไม่ต้องตั้งค่าอุณหภูมิ
- ระบบป้องกันน้ำหยด (Drip Stop)
- Calc Clean Slider ขจัดแคลเซียมหรือคราบหินปูน
- ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อปล่อยเตารีดทิ้งไว้
ราคาโดยประมาณ: 3,890 บาท
9. Xiaomi เตารีดไอน้ำแบบพกพา รุ่น Handheld Garment Steamer

เมื่อพูดถึงเตารีดไอน้ำรุ่นไหนดี ที่เน้นความมินิมอลและพกพาง่าย นาทีนี้ต้องยกให้ Xiaomi รุ่นนี้ฮิตมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่คอนโดหรือชอบเดินทาง ดีไซน์มินิมอลสวยงาม ร้อนเร็วมากใน 26 วินาที พับเก็บได้ และให้พลังไอน้ำที่แรงเกินตัวสำหรับเตารีดพกพา
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 1300 วัตต์
- ร้อนเร็วใน 26 วินาที
- แรงดันไอน้ำ 30kPa
- แท็งก์น้ำ 160 มล. (ถอดได้)
- พับเก็บได้ สะดวกต่อการพกพา
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไรฝุ่นได้ 99.9%
- น้ำหนักเบาเพียง 770 กรัม
- รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 899 – 1,290 บาท
10. Electrolux เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม รุ่น E6SS1-40PP
เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้มจาก Electrolux ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้พลังไอน้ำสูงในงบประมาณที่ไม่แรงเท่าตัวท็อป รุ่นนี้ให้แรงดันมาถึง 5 บาร์ เพียงพอต่อการรีดผ้ากองโตในบ้านแล้ว
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2,400 วัตต์
- แรงดันไอน้ำ 5 บาร์
- พลังไอน้ำพิเศษ 300 กรัม
- 4 โปรแกรมการรีด สามารถปรับระดับแรงดันไอน้ำให้เหมาะกับชนิดผ้าได้ตามความต้องการ
- แผ่นหน้าเตารีด RESILIUM (ทนรอยขีดข่วน)
- ความจุแท็งก์น้ำ 1.2 ลิตร
- ตัวกรองระบบ Soft Water Activator ป้องกันการเกิดตะกรัน
- มีระบบทำความสะอาดตะกรัน (Descale system)
- รับประกัน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 4,000 – 5,000 บาท
11. Electrolux เครื่องรีดผ้าไอน้ำแบบยืน รุ่น UltimateCare 700 E7GS1-74OW
หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาเครื่องรีดผ้าไอน้ำยี่ห้อไหนดีที่เป็นแบบยืน (Garment Steamer) ที่จริงจังขึ้นมาอีก Electrolux รุ่นนี้คือคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tefal IT3441 เลย เนื่องจากมีดีไซน์สวยหรู แถมยังมาพร้อมหัวพ่นไอน้ำ Glissium เคลือบเซรามิก รีดได้ลื่น และยังช่วยถนอมผ้าได้ดีเยี่ยม
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2000 วัตต์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 43 กรัม/นาที
- ปรับระดับไอน้ำได้ 6 ระดับ
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ 2.5 ลิตร
- ขจัดเชื้อแบคทีเรียได้ 99.99%
- หัวพ่นไอน้ำ Glissium รีดลื่น
ราคาโดยประมาณ: 8,490 บาท
12. Philips เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม รุ่น PerfectCare 8000 Series PSG8040/60

บอกเลยว่าถ้า Tefal มี Pro Express ฝั่ง Philips ก็มี PerfectCare 8000 Series เป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อ นี่คือเตารีดไอน้ำแยกหม้อต้มระดับเรือธง ที่มาพร้อมเทคโนโลยี OptimalTEMP รับประกันว่าผ้าไม่ไหม้ ไม่ต้องปรับอุณหภูมิ และทีเด็ดคือเซ็นเซอร์ DynamiQ ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวและปล่อยไอน้ำอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด
คุณสมบัติ
- กำลังไฟ 2700 วัตต์
- แรงดันไอน้ำ 8 บาร์
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 170 กรัม/นาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 600 กรัม
- แผ่นหน้าเตารีด SteamGlide Elite ลื่นและทนทานมาก
- ความจุแท็งก์น้ำ 1.8 ลิตร (ถอดได้)
- Automatic Vertical Steam เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวให้ไอน้ำออกอัตโนมัติ แม้รีดในแนวตั้ง
- ระบบ Easy De-Calc Plus พร้อมไฟสัญญาณแจ้งเตือน
- ระบบ Smart Cal-Clean
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ราคาโดยประมาณ: 18,990 บาท
วิธีการดูเเลเตารีดไอน้ำให้ใช้ได้ยาวนาน เเละมีประสิทธิภาพ

เมื่อได้คำตอบแล้วว่าจะซื้อเตารีดไอน้ำรุ่นไหนดี ต่อมาก็มาเข้าใจถึงวิธีการดูเเลเตารีดไอน้ำกันต่อ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงเราใช้น้ำที่สะอาดใส่ในตัวเครื่อง หรือเเท้งค์น้ำเท่านั้น โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำยารีดผ้า เพราะเมื่อผสมน้ำยารีดผ้านั้นอาจะทำให้เกิดตะกรันขึ้นได้ง่าย เเละหลังจากใช้เตารีดไอน้ำทุกครั้งควรเทน้ำออกจากเครื่อง เพื่อลดการเกิดตะกรันไปอุดตันตัวเครื่องได้
การรีดผ้าให้ถูกวิธี เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการยืดอายุการใช้งานของเตารีดไอน้ำได้เป็นอย่างดีเลย โดยที่เรานั้นควรรีดเสื้อผ้าจากทางด้านในก่อน เป็นการป้องกันการละลายของเสื้อผ้า อีกทั้งยังทำให้เสื้อผ้ายังควรมีสีที่สดใหม่ด้วย
เจาะลึกเรื่องตะกรัน และการใช้น้ำที่ถูกต้อง
ขอขยายความเรื่องวิธีการดูเเลเตารีดไอน้ำให้ใช้ได้ยาวนาน เเละมีประสิทธิภาพเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่อง “น้ำ” และ “ตะกรัน”
ควรใช้น้ำอะไรเติมเตารีดไอน้ำ?
- น้ำประปา: สำหรับแบรนด์ส่วนใหญ่ (เช่น Tefal, Philips) แนะนำให้ใช้น้ำประปาได้เลย เพราะเครื่องมีระบบดักตะกรันอยู่แล้ว การใช้น้ำประปาจะช่วยให้เครื่องร้อนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมได้เร็ว
- น้ำดื่ม / น้ำกรอง (RO): “ไม่แนะนำ” ให้ใช้ 100% โดยเฉพาะน้ำ RO เพราะมันบริสุทธิ์เกินไป อาจทำปฏิกิริยากับหม้อต้ม หรือทำให้เซ็นเซอร์ไม่ทำงาน หากน้ำประปาที่บ้านกระด้างมากจริง ๆ ให้ผสมน้ำประปา 50% กับน้ำดื่ม 50%
- น้ำกลั่น: ห้ามใช้เด็ดขาด! (ยกเว้นคู่มือระบุไว้) เพราะน้ำกลั่นมีคุณสมบัติกัดกร่อนโลหะในหม้อต้ม
- น้ำหอมรีดผ้า: ห้ามผสมลงในแท็งก์น้ำเด็ดขาด! มันจะทำให้เกิดการอุดตันและทำลายซีลยาง ให้ใช้วิธีฉีดที่เสื้อผ้าโดยตรงก่อนรีด
ล้างตะกรันบ่อยแค่ไหน?
- ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและระบบของเครื่อง
- รุ่นที่มีไฟเตือน: ง่ายที่สุด ไฟเตือนเมื่อไหร่ ก็ทำตามขั้นตอนในคู่มือได้เลย
- รุ่นที่มีช้อนดักตะกรัน (Calc Collector): ควรถอดมาล้างทุก 1-3 เดือน
- รุ่นที่มีปุ่ม Self-Clean: ควรกดล้างตะกรันอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเตารีดไอน้ำ
เตารีดไอน้ำ vs เครื่องรีดผ้าไอน้ำ (แบบยืน) ต่างกันยังไง? เลือกอะไรดี?
- เตารีดไอน้ำ (แบบธรรมดา/แยกหม้อต้ม): เน้นความ “เนี้ยบ” ใช้แรงกดทับพร้อมไอน้ำ ทำให้ผ้าเรียบกริบ คมกริบ เหมาะกับเสื้อเชิ้ต, กางเกงสแลค, ผ้าที่ต้องการอัดจีบ แต่ต้องใช้โต๊ะรีดผ้าและใช้เวลามากกว่า
- เครื่องรีดผ้าไอน้ำ (แบบยืน/พกพา): เน้นความ “เร็ว” และ “ถนอมผ้า” ใช้ไอน้ำร้อน ๆ ทำให้ใยผ้าคลายตัว เหมาะกับชุดเดรส, ผ้าชีฟอง, ผ้าไหม, สูท หรือเสื้อยืดที่แค่ยับเล็กน้อย รีดแนวตั้งได้เลย ไม่ต้องใช้โต๊ะ
สรุป: ถ้าต้องการความเนี้ยบ 100% เลือกเตารีดไอน้ำ แต่ถ้าเน้นเร็วและรีดผ้าแฟชั่นเยอะ เลือกเครื่องรีดผ้าไอน้ำ
มือใหม่ควรเลือกแรงดันไอน้ำ (Bar) เท่าไหร่?
ถ้าเพื่อน ๆ เลือกเตารีดไอน้ำแบบ “แยกหม้อต้ม” (Steam Station) ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่ 5 บาร์ขึ้นไป (เช่น Tefal SV6110T0 หรือ Electrolux E6SS1-40PP) ซึ่งเป็นแรงดันที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป รีดผ้าหนาได้สบาย ๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องกระโดดไปถึง 8 บาร์ในทันทีถ้าไม่ได้รีดผ้าเยอะมากจริง ๆ
จำเป็นต้องมีระบบ Anti-Calc ไหม?
จำเป็นมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย นี่คือฟีเจอร์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้จริง ไม่ว่าจะเป็นระบบไหน (ปุ่มกด, ช้อนดัก, ไฟเตือน) ขอให้มีไว้เถอะ มันจะช่วยให้เตารีดของเพื่อน ๆ พ่นไอน้ำได้แรงสม่ำเสมอ ไม่เกิดคราบน้ำตาลหรือตะกรันสีขาว ๆ มาเปื้อนเสื้อผ้า
เลือกเตารีดไอน้ำที่ ใช่ให้ชีวิตง่ายขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 เตารีดไอน้ำที่ได้เอามาเเชร์ให้กับเพื่อน ๆ ดูว่าเเต่ละยี่ห้อ หรือเเต่ละรุ่นมีความพิเศษ เเละนวัตกรรมเทคโนโลยีที่น่าทึ่งขนาดไหน และยิ่งในปัจจุบันเตารีดไอน้ำเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาเตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดี เพราะด้วยการใช้งานที่ง่าย มีความหลากหลาย อีกทั้งยังสามารถจัดได้เก็บเเม้ในที่เเคบ ไม่เปลืองพื้นที่ เเละยังตอบโจทย์ในเรื่องของการประหยัดไฟฟ้า ประหยัดเวลา เเละประหยัดเเรง
การเลือกรุ่นเตารีดไอน้ำที่ “ใช่” ไม่ได้มีคำตอบตายตัว มันขึ้นอยู่กับ “ไลฟ์สไตล์” ของเพื่อน ๆ เป็นหลัก
- ถ้าเพื่อน ๆ คือสายชิลล์ อยู่คอนโด รีดด่วนตอนเช้า = เครื่องรีดแบบยืน (Garment Steamer) หรือ แบบพกพา (Handheld) คือคำตอบ
- ถ้าคุณคือสายเนี้ยบ รีดไม่เยอะ แต่ขอคมกริบ = เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Standard) สเปกดี ๆ สักตัวก็เอาอยู่
- ถ้าคุณคือสายครอบครัว รีดผ้ากองโต ต้องการจบงานไว = เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม (Steam Station) คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
หวังว่าข้อมูลที่ได้เอามาเเชร์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจกับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาเตารีดไอน้ำยี่ห้อไหนดีนะ เมื่อได้รุ่นที่ถูกใจแล้ว ก็อย่าลืมกด เตารีดไอน้ำ ใน Shopee เพื่อเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นดี ๆ กันได้เลย
บทความแนะนำ