กลิ่นน้ำหอมผู้ชาย มักจะบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน รสนิยม ซึ่งจะมีกลิ่นที่หลากหลายเป็นการปรุงแต่งให้คาแรคเตอร์ของผู้ใช้มีความชัดเจน น่าค้นหามากขึ้น จะเรียกกลิ่นของน้ำหอมว่า โน้ต (Notes) โดยโน้ตก็จะมีอยู่หลายกลุ่มด้วยกันเรียกว่า Fragrance Family โดยในแต่ละกลุ่มของกลิ่นน้ำหอมจะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันซึ่งจะสามารถทำให้ค้นหากลิ่นหอมนั้น ๆ ให้เหมาะกับตัวเองได้มากที่สุดหรือจะทำให้เลือกกลิ่นที่ชอบได้ง่ายขึ้นโดยกลิ่นหรือน้ำหอมผู้ชาย 2022 ในแต่ละกลุ่มที่นิยมใช้กันจะมีดังนี้
- Fresh Notes กลิ่นสะอาด สดชื่น มักมาจากกลุ่มพืชตระกูล Citrus ให้ความรู้สึกสดชื่น น่าตื่นเต้น
- Herbal Notes กลิ่นสมุนไพรธรรมชาติ ดูสุขุม ให้ความรู้สึกถึงสีเขียวของใบไม้กับทุ่งหญ้า
- Floral Notes กลิ่นดอกไม้ กลิ่นยอดนิยมคือ กุหลาบและมะลิ หากมี Woody เข้าไปผสมด้วยก็จะหอมไปอีกแบบ
- Woody Notes กลิ่นไม้หอมให้ความรู้สึกลึกลับ นิ่งสงบ มักเป็นต้นไม้จำพวกไม้จันทน์ (Sandalwood), ยมหอมหรือซีดาร์ (Cedar Wood)
- Oriental Notes กลิ่นเสน่ห์ของเอเชียมักมีส่วนผสมของเครื่องเทศ จำพวกอำพัน พิมเสนต่าง ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
กลิ่นน้ำหอมหนึ่งขวดจะมี 3 ระดับ หลังจากฉีด ดังนี้
- Top Notes หรือ Head Notes กลิ่นหอมแรกที่รับรู้ได้ทันทีหลังจากฉีด และกลิ่นจะระเหยทันทีไปภายใน 30 นาที
- Middle Notes หรือ Heart Notes กลิ่นหอมหลักที่เป็นสูตรของน้ำหอมนั้นหลังฉีด 30 นาที กลิ่นจะอยู่ได้นานไม่เกิน 4 ชั่วโมง
- Base Notes หรือ Basic Note กลิ่นสุดท้ายของน้ำหอม จะได้กลิ่นหลัง 2 – 4 ชั่วโมงไปแล้ว และจะเปลี่ยนไปตามกลิ่นตัว
ประเภทของน้ำหอมแบ่งตามความเข้มข้น
น้ำหอมผู้ชายจะมีส่วนประกอบหลักอยู่ 3 ส่วนคือหัวน้ำหอม แอลกอฮอล์ และน้ำ โดยจะแบ่งประเภทของน้ำหอมนั้น ตามอัตราส่วนความเข้มข้นของหัวน้ำหอม ยิ่งหัวน้ำหอมเข้มข้นมากก็จะยิ่งหอมติดทนนานกว่าและจะมีราคาที่สูงกว่า โดยจะแบ่งประเภทของน้ำหอมผู้ชายไล่ตามความเข้มข้นได้ดังนี้
- Eau de Parfum (EDP) เป็นกลิ่นที่มีความเข้มข้นมากที่สุด กลิ่นจะติดทนนานถึง 5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับเวลาต้องการให้ตัวหอมนาน ๆ
- Eau de Toilette (EDT) เป็นชนิดที่เจอบ่อยที่สุดในน้ำหอมผู้ชาย กลิ่นติดทน 3 – 4 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนกลิ่นระหว่างวัน
- Eau de Cologne (EDC) เป็นตัวที่เข้มข้นน้อยที่สุดใน 3 ตัวนี้ กลิ่นติดทน 1 – 2 ชั่วโมง จะเลือกฉีดเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมได้ตามต้องการ
วิธีเลือกกลิ่นน้ำหอม
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายฉีดไปทำงาน : กลิ่นที่แนะนำสำหรับหนุ่มออฟฟิศ ควรจะเป็นกลิ่นที่มีความสุขุม น่าเชื่อถืออย่างกลิ่นกลุ่ม Herbal Notes, Woody Notes ที่มีความนิ่ง ซึ่งจะทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายสำหรับออกเดต : น้ำหอมที่ควรฉีดไปออกเดตควรแสดงถึงความเป็นตัวตนให้มากที่สุด และอย่าลืมที่จะแฝงถึงความอบอุ่น เซ็กซี่ในตัว ให้ดูน่าค้นหา เพราะผู้หญิงหลายคนก็ชอบผู้ชายอบอุ่น
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายฉีดในวันสบาย ๆ : เลือกกลิ่นที่เป็นธรรมชาติก็เข้าท่า มีความอ่อนโยนอย่างพวก Citrus กลุ่ม Fresh Notes เพราะช่วยให้ผ่อนคลายทั้งกับผู้ใช้และคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี หรือว่าอาจจะเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นอายของทะเล ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักผ่อนริมทะเลแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือจะเป็นการตั้งแคมป์ในป่า นอนฟังเสียงธรรมชาติกลุ่ม Herbal Notes ก็น่าจะเข้ากันได้ดี
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายกับสภาพอากาศ :
- อากาศเย็นสบาย ๆ สดชื่น น่าจะเหมาะกับกลิ่นดอกไม้กลุ่ม Floral Notes หรือกลิ่นสะอาดสดชื่นแบบ Herbal Notes
- อากาศร้อน ควรจะเป็นกลิ่นสดชื่นแบบ Fresh Notes กลิ่นผลไม้ตระกูลส้ม ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย หรือว่ากลิ่นที่มีความเป็นทะเล
- อากาศที่เริ่มจะเข้าฤดู ควรเลือกกลิ่นที่มีความสุขุมกลุ่ม Woody Notes, Oriental Notes หรือจะเป็นกลิ่นประเภท Fougère, Chypre
- อากาศหนาว ควรเลือกกลิ่นหอมจากผลไม้ Gourmand Notes กลิ่นเครื่องเทศ หรือจะใช้กลิ่นกลุ่ม Woody Notes ก็ได้
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากสไตล์และบุคลิกภาพ : สำหรับผู้ชายแต่ละวัยก็จะมีสไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน ก็ควรจะเลือกกลิ่นที่เหมาะสมแตกต่างกัน เป็นการสื่อให้คนรอบข้างรู้จักตัวตนได้มากขึ้น เช่น หนุ่มวัยมหาวิทยาลัยอาจจะใช้กลิ่นที่ดูเฟรช สดชื่น หนุ่มใหญ่วัย 40 ก็อาจจะเหมาะกับกลิ่นที่เนี้ยบ ๆ สุขุม อบอุ่น เช่น
- ผู้ชายที่ดูมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่าอาจจะเลือกแนวกลิ่นผลไม้ตระกูล Citrus
- ผู้ชายที่มีความหนักแน่น มาดผู้ชายอบอุ่น น่าพึ่งพาควรเลือกกลิ่นน้ำหอมแนวไม้หอม
- ผู้ชายสไตล์สบาย ๆ เรียบง่าย เข้าได้กับทุกคนก็จะเป็นแนวกลิ่น Aquatic ทะเล ๆ
- กลิ่นน้ำหอมผู้ชายสำหรับคนเหงื่อเยอะ : สำหรับผู้ชายสายลุย การเลือกน้ำหอมอาจจะต้องมีความพิถีพิถันมาก เพราะน้ำหอมแต่ละรุ่นจะไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อรองรับกลิ่นเหงื่อ ซึ่งอาจจะทำให้กลิ่นน้ำหอมเพี้ยนไปจากเดิมมาก แต่ปัจจุบันก็มีน้ำหอมหลายรุ่นที่ผลิตมารองรับสำหรับคนที่มีเหงื่อเยอะ
แนะนำ 10 น้ำหอมผู้ชาย 2022 หอมทนจนผู้หญิงต้องมองตาม
1. Christian Dior Sauvage (EDP)
ราคา 3,169 บาท
เป็นกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่มีความลงตัว สำหรับ Sauvage จาก Dior กับสูตร EDP นี้ที่ได้รับความนิยมลำดับต้น ๆ ตัวกลิ่นมีทั้งความเป็น Oriental Notes จากเครื่องเทศต่าง ๆ อย่างพริกไทย โป๊ยกั๊ก ลูกจันทน์เทศและความสดชื่นจากมะกรูดเข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัว คาแรคเตอร์โดยรวมจะมีความนุ่มละมุนแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นลึกลับ จากรีวิวน้ำหอมผู้ชายส่วนใหญ่หรือเสียงผู้ใช้หลายคนต่างก็บอกว่า Christian Dior Sauvage เหมาะทั้งกับการใช้ช่วงกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังสามารถใช้ในสภาพอากาศร้อนได้และกลิ่นค่อนข้างติดทนนาน
2. Christian Dior Sauvage (EDP)
ราคา 1,500 บาท
กลิ่นน้ำหอมผู้ชาย 2022 ที่จะสร้างจินตนาการไปสู่การผจญภัย กับการออกแบบรูปลักษณ์ขวดน้ำหอมสะท้อนถึงซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องนึกถึงจุดหมายของการเดินทางด้วยการเปิดประสบการณ์ผ่านสัมผัสกลิ่นจากแบรนด์ Mont Blanc ที่ต้องการจะสื่อถึงธารน้ำแข็งบนเทือกเขาโดยจะเป็นกลิ่น Woody Aromatic Leather แสดงถึงความสดชื่นตามธรรมชาติจากมะกรูดอิตาเลียนตัดกับกลิ่นหญ้าแฝกจากเฮติและยังแต้มกลิ่นพิมเสนจากเกาะสุลาเวสีเข้าไปอีก
3. Bvlgari Aqua Pour Homme (EDT)
ราคา 1,750 บาท
สำหรับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้มีโทนกลิ่นที่ชวนให้น่าค้นหามีความสุขุมนุ่มลึก เหมาะจะฉีดไปทำงานหรืองานปาร์ตี้กลางคืน ซึ่งกลิ่นจะทำให้นึกถึงท้องทะเลลึกที่เต็มไปด้วยความสดชื่น หนักแน่นและลึกลับ ทั้งยังให้ความรู้สึกถึงท้องทะเล หาดทราย และแสงแดด ด้วยกลิ่นหอมจากพฤกษานานาพันธุ์ 3 ระดับ เริ่มต้นด้วยใบและผลส้มแมนดาริน ตามมาด้วยกลิ่นอายทะเลจากสาหร่ายที่ผสานมากับดอกลาเวนเดอร์และดอกฝ้าย ช่วยให้กลิ่นสะอาดไม่คาวจนเกินไป แล้วตบท้ายด้วยกลิ่นหอมจากอำพันและ Clary Sage รุ่นนี้ค่อนข้างจะฟุ้งกระจายน้อยจึงไม่เหมาะกับคนที่มีกลิ่นตัวแรง ส่วนในเรื่องความติดทน ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
4. Ysl Yves Saint Laurent Y Eau de Toilette (EDT)
ราคา 1,299 บาท
สำหรับน้ำหอมผู้ชาย 2022 รุ่น Y นี้จะเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพ มีกลิ่นหอมแบบ White & Dark Masculine Fougère ที่มีการผสมผสานสองความแตกต่างได้อย่างลงตัว ให้ลุคผู้ชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่มีความมั่นคงและมั่นใจที่จะก้าวไปสู่ทางสำเร็จ กลิ่นน้ำหอมระดับตำนานอย่าง Dominique Ropion พร้อมความหอมจากกลุ่ม Aromatic และกลุ่ม Citrus แล้วตามด้วยกลิ่นในกลุ่ม Woody Notes ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ได้ดีและนอกจากนี้ยังมีหลาย ๆ คนรีวิวน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้ว่าสามารถจะคละเคล้ากับกลิ่นเหงื่อได้โดยที่ยังคงความหอมไว้และยังหอมมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวอีกด้วย
5. Dolce & Gabbana The One For Men (EDP)
ราคา 2,150 บาท
เป็นกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่มีความเป็น Spicy Woody อยู่ในตัว ด้วยส่วนผสมของเครื่องเทศต่างๆ ในน้ำหอม เช่น Cedarwood หรือ Ginger ผสมกับกลิ่นที่เข้มของ ยาสูบ Tobacco ที่ทำให้น้ำหอมขวดนี้ให้ความรู้สึกที่มีความอบอุ่นและละมุนมีความหวานนิด ๆ ซึ่งทำให้ลุคของผู้ชายที่ออกมามีความโรแมนติคแบบสุขุม มีความเนี้ยบเรียบหรูและดูสะอาด เหมาะแก่การใส่ไปงานกลางคืน หรือไปออกเดต จะช่วยเสริมบุคลิคภาพให้ดูดีขึ้น กลิ่นน้ำหอมค่อนข้างติดทนนานประมาณ 6-8 ชั่วโมง จากรีวิวน้ำหอมผู้ชายส่วนมากจะเป็นคำชมซึ่งถ้าใช้ในช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำ หรือในช่วงที่มีอากาศหนาว จะทำให้กลิ่นติดตัวได้นานขึ้นไปอีก
6. Calvin Klein Ck Be (EDT)
ราคา 819 บาท
สำหรับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอมระดับตำนานเป็นรุ่น Unisex ได้ความรู้สึกถึงสัมผัสที่อบอุ่นจากสายลมและแสงแดดด้วยความเด่นชัดของกลิ่นดอกไม้เป็นหลักผสมผสานมาด้วยความสดชื่นจากมะกรูด มัสค์และกลิ่นจากดอกไม้อื่น ๆ พร้อมซ่อนความน่าค้นหาด้วยพืชพรรณนานาชนิด เช่น วานิลลาและไม้จันทน์ โดยจะช่วยเสริมให้มีความมั่นใจ รักอิสระ และผ่อนคลาย เหมาะกับการฉีดไปทำงานหรือวันสบาย ๆ หลายคนที่รีวิวน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้ว่ามีความฟุ้งกระจายและการติดทนอยู่ในระดับกลาง ๆ ซึ่งควรจะต้องมีติดบ้านไว้เลย
7. Chanel Bleu De Chanel (EDT/EDP)
ราคา 2,579 บาท
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ชอบความมีอิสรเสรีและสุขุมนุ่มลึก เป็นการผสมผสานระหว่างพันธุ์ไม้หอม+ธูปหอมกับกลิ่นอายของความหอมสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจากซิทรัส (Citrus) และความแข็งแกร่งของความหอมหวนจากกลิ่นพันธุ์ไม้ของซีดาร์แห้ง New Caledonian Sandalwood มอบความอบอุ่นและสัมผัสความรู้สึกที่ทันสมัยและมีความสดชื่นไปพร้อม ๆ กัน จากรีวิวน้ำหอมผู้ชายโดยส่วนมากมีความชื่นชอบเนื่องจากจะเป็นกลิ่นน้ำหอมที่สามารถจะใช้ได้ทุกวันและทุกโอกาส โดยเฉพาะรุ่น EDT ที่ติดทนเมื่อลองเพิ่มปริมาณการฉีดให้มากกว่าปกติกลิ่นจะกระจายตัวได้ดีกว่า ทำให้คนรอบข้างได้กลิ่นเมื่อเดินผ่าน เป็นกลิ่นที่ใช้ได้ทุกวันสำหรับแพ็คเกจหรือฝาขวดน้ำหอมจะเป็นแม่เหล็กทำให้แน่นหนาไม่หายง่าย
8. Issey Miyake L’Eau D’Issey Pour Homme (EDT)
ราคา 1,590 บาท
เป็นกลิ่นน้ำหอมผู้ชาย ที่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบหายาก จนได้เป็นน้ำหอมที่ความเป็นอิสระและมีความสงบสุขุม เหมาะจะเป็นน้ำหอมที่จะใช้ได้ทุก ๆ โอกาสไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นหอมแนวของสายน้ำและกลิ่น Woody Notes เริ่มต้นด้วย Top note ของพันธุ์ไม้นานาชนิด ถัดมาเป็น Middle note ที่ให้กลิ่นสไปซี่และกลิ่นไม้เครื่องเทศต่าง ๆ ปิดท้ายด้วย Base note กลิ่นที่มีความเข้มข้น โดยกลิ่นที่มีความหอมโดดเด่นมากที่สุดคือกลิ่นของส้มยูซุ รองลงมาเป็นกลิ่นเลม่อน, ดอกบัว, Tahitian Vetiver, ลูกจันทน์เทศ, มะกรูดและส้มแมนดาริน โดยจะยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานมากถึง 7-12 ชั่วโมง และมีกลิ่นกระจายตัวได้ไกลถึง 6 ฟุต
9. Davidoff Cool Water Men (EDT)
ราคา 980 บาท
สำหรับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ กลิ่นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หรือเรียกได้ว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ผู้ชายทุกท่านต้องมีติดบ้านไว้ ด้วยกลิ่นแนว Aromatic Fresh ที่ให้ทั้งความสดชื่น ราวกับอยู่ในท้องทะเล กลิ่นนี้จะเปิดสัมผัสแรกด้วย Pepper Mint ที่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ตามด้วยสัมผัสที่สองกับดอก Lavender ที่ให้ความรู้สึกที่หอมหวาน เปี่ยมด้วยพลัง และปิดท้ายด้วย Amber ให้ความรู้สึกถึงความเย้ายวน รีวิวน้ำหอมผู้ชายที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักหรือเคยใช้เป็นประจำ ด้วยแนวกลิ่นที่เย็นสดชื่นแบบน้ำทะเล สปอร์ตและหล่อได้ทุกโอกาส อีกทั้งยังเป็นน้ำหอมผู้ชาย 2022 ที่ผู้หญิงหลายคนเลือกใช้เป็นประจำอีกด้วย
10. Armaf Club de Nuit Intense Man (EDT)
ราคา 1,390 บาท
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายรุ่นนี้เมื่อแรกฉีดนั้นให้กลิ่นของมะกรูด และเลมอนที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างมากเมื่อถึง Middle Note กลิ่นผลไม้จะเริ่มลดลงและได้กลิ่นควันที่ชัดขึ้น ทำให้มีความรู้สึกถึงความหล่อและสุขุม เมื่อถึงช่วง Base Notes จะได้ความรู้สึกสะอาดอยู่ตลอดเวลา สำหรับประสิทธิภาพในการติดทนนานได้ถึง 8 ชั่วโมง และมีการกระจายตัวได้ดีมากตลอดทั้งวันทำงานเลย
น้ำหอมชาย 2022 พร้อมเสิร์ฟให้ความหอมฟุ้งดึงดูดทุกสายตา
น้ำหอมผู้ชาย 2022 ทั้ง 10 กลิ่นหอมที่คัดสรรมากต้องบอกเลยว่าได้รับความนิยมจากคุณชายในหลาย ๆ บุคลิกภาพ อีกทั้งยังการันตีด้วยคุณผู้หญิงที่มีรสนิยมในการใช้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอีกด้วย สำหรับใครที่ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ต้องอย่าลืมว่าจะต้องเลือกกลิ่นที่จะบ่งบอกความเป็นตัวตนให้ได้มากที่สุด คุณก็จะยิ่งมีเสน่ห์ท่ามกลางคนรอบข้าง นอกจากนี้เรายังมีน้ำหอมผู้หญิงติดทนนาน มาแนะนำกันอีกด้วย