กลิ่นกายถือเป็นเสน่ห์สำหรับผู้ชายอีกอย่างหนึ่ง ที่ชวนให้หลงใหล ด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนใจคู่สนทนาหรือคนรอบข้างประทับใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม “น้ำหอม” กลายเป็นไอเทมที่จำเป็นของคุณผู้ชาย แถมบางคนยังต้องใช้ทุกวัน เพื่อเพิ่มเสน่ห์ เสริมบุคลิกภาพที่ดี และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง โดยเฉพาะเมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อนอบอ้าว จนทำให้เหงื่อออก ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงทำให้ผู้ชายหลายคนสูญเสียความมั่นใจ การเลือกน้ำหอมสำหรับผู้ชายก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าว่าด้วยกลิ่นน้ำหอมมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น แถมยังมีน้ำหอมสำหรับผู้ชายมากมาย หลายแบรนด์ให้เลือกเต็มไปหมด วันนี้ Shopee อาสาพาทุกคนเปิดกรุ 10 น้ำหอมผู้ชาย 2023 กลิ่นหอม ติดทนนาน ฉีดได้ทุกสถานการณ์ เหมาะกับทุกวัย ทุกสไตล์ ซึ่งเป็นตัวท็อปของวงการมาแนะนำไว้เป็นตัวเลือก เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น มีน้ำหอมกลิ่นไหน แบรนด์อะไรบ้าง ตามไปช้อปกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ทำความรู้จักกับน้ำหอม
ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก “น้ำหอม” กันหน่อย น้ำหอม คือ สารหอมระเหย ที่ทำมาจากนํ้ามันหอม (Fragrance Oils) และแอลกอฮอล์ (Alcohol) โดยน้ำมันหอมถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ ทำให้ระดับความเข้มข้นของความหอมนั้นถูกเจือจางลงไปตามปริมาณแอลกอฮอล์ ในส่วนของกลิ่นน้ำหอมนั้น ส่วนใหญ่จะสกัดมาจากดอกไม้ตามธรรมชาติ หรือไม่ก็เป็นกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมาเอง
Cr: freepik
3 องค์ประกอบของกลิ่นน้ำหอม
เวลาที่เราไปเดินเลือกซื้อน้ำหอม เคยได้ยินคนขายแนะนำเกี่ยวกับน้ำหอมแบรนด์นั้นแบรนด์นี้ ว่ามีโน้ตน้ำหอมระดับไหน เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมว่า “โน้ตน้ำหอม” คืออะไร น้ำหอมมีโน้ตด้วยหรอ ใช่แล้ว น้ำหอมก็มีโน้ตเหมือนกัน เพราะถ้าว่าด้วยเรื่องของกลิ่นก็ต้องบอกว่าค่อนข้างมีความซับซ้อนอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละกลิ่นจะค่อย ๆ ระเหยออกมาให้ได้กลิ่นหอมตามระยะเวลาของโน้ตน้ำหอม โดยโน้ตในน้ำหอมแต่ละขวดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้กลิ่นหอมนั้น ๆ ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ดังนี้
- Top Notes หรือ Head Notes กลิ่นหอมแรกที่รับรู้ได้ทันทีหลังจากฉีด เป็นกลิ่นที่บางเบาและจะค่อย ๆ ระเหยไปภายใน 30 นาทีแรก
- Middle Notes หรือ Heart Notes กลิ่นหอมหลักที่เป็นสูตรของน้ำหอมนั้น โดยกลิ่นจะปรากฏออกมาหลังจากที่กลิ่น Top Notes จางไปหรือหลังฉีดประมาณ 30 นาที กลิ่นจะอยู่ได้นานประมาณ 3 – 5 ชั่วโมง
- Base Notes หรือ Basic Note กลิ่นสุดท้ายของน้ำหอม จะได้กลิ่นหลังฉีดไปประมาณ 2 – 4 ชั่วโมงหลังจากที่ Middle Notes จางไปแล้ว และสามารถติดทนได้นานกว่า 8 ชั่วโมง
ประเภทของน้ำหอมแบ่งตามความเข้มข้น
โดยปกติทั่วไปแล้วน้ำหอมจะมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น แต่ละกลิ่นจะมีระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถแบ่งระดับความเข้มข้นของน้ำหอมออกได้เป็น 5 ระดับ ดังนี้
- Eau Fraiche (EF) : ระดับความเข้มข้นประมาณ 1 – 3% ซึ่งเป็นระดับที่เจือจางมากที่สุด กลิ่นความหอมจะติดอยู่ได้ประมาณแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น จึงทำให้ไม่ค่อยเป็นนิยมเท่าไหร่
- Eau de Cologne (EDC): ระดับความเข้มข้นประมาณ 2 – 4% เป็นระดับความหอมที่นิยมที่ผู้ชายเลือกใช้กันมาก เพราะไม่ต้องการน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุดจนเกินไป สามารถฉีดเพิ่มได้ระหว่างวัน โดยกลิ่นจะติดทนประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
- Eau de Toilette (EDT) : ระดับความเข้มข้นประมาณ 5 – 15% เป็นระดับความหอมที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งกลิ่นความหอมจะติดทนประมาณ 3 ชั่วโมง
- Eau de Parfum (EDP) : ระดับความเข้มข้นประมาณ 15 – 20% ถือเป็นระดับความหอมที่นิยมใช้มากที่สุด และเป็นระดับความหอมที่ขายดีมากที่สุด ด้วยกลิ่นที่ติดทนนานได้มากถึง 5 – 8 ชั่งโมง
- Parfum หรือ Perfume : ระดับความเข้มข้นประมาณ 20 – 40% ติดทนยาวนานได้มากที่สุดถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวน้ำหอมเลยก็ว่าได้ และราคาค่อนข้างสูง
แนะนำ 8 น้ำหอมผู้ชาย 2023 กลิ่นหอมจนสาว ๆ ต้องเหลียวมอง
เมื่อเริ่มเข้าใจพื้นฐานการเลือกน้ำหอมแล้ว ซึ่งการเลือกน้ำหอมควรเลือกกลิ่นที่ชอบมากที่สุด และกลิ่นน้ำหอมจะบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน และสไตล์ของเรามากที่สุด หากหนุ่ม ๆ คนไหนกำลังมองหาน้ำหอมสำหรับผู้ชายไว้ใช้สักขวด! เตรียมเซฟบทความนี้เก็บไว้ได้เลย และวันนี้ Shopee จะพาทุกคนไปเปิดกรุ น้ำหอมผู้ชาย 2023 มาให้หนุ่ม ๆ ได้เลือก มีกลิ่นไหน แบรนด์อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!!
1. Chanel Bleu De Chanel (EDP)
Chanel สุดยอดแบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวและสินค้า Chanel หลาย ๆ ตัวก็มักถูกพูดถึงอยู่ในกระแสและถูกพูดถึงบ่อย ๆ มากเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงต้องยกให้ น้ำหอม Chanel ซึ่งจะมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครได้กลิ่นก็จะต้องรู้ทันทีว่านี่คือน้ำหอม Chanel หนุ่ม ๆ คนไหนอยากได้น้ำหอม Chanel ผู้ชาย ที่กลิ่นเซ็กซี่ ๆ แนะนำ Chanel Bleu De Chanel เป็นกลิ่นที่เซ็กซี่สุดๆ ถ้าใครได้กลิ่นต้องมองเหลียวหลังแน่นอน ซึ่งเป็นน้ำหอมที่มาพร้อมกลิ่นมาติกวู้ดดี้แนวอะโรมาติก ที่ได้นำกลิ่นของแซนดัลวู้ดจากนิวแคลิโดเนีย มาผสมเข้ากับไม้ซีด้าร์ให้กลิ่นคล้ายอำพัน และทองก้าบีน ช่วยเพิ่มเสน่ห์เย้ายวน ช่วยให้คุณเป็นผู้ชายที่น่าค้นหา ลึกลับ และยังแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและความอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอมผู้ชาย 2023 เหมาะกับนัดสำคัญของคุณผู้ชาย
รายละเอียด Chanel Bleu De Chanel (EDP)
- หอมติดทนยาวนานมากถึง 6 – 8 ชั่วโมง
- น้ำหอมกลิ่นที่สามารถใช้ได้ทุกวันและทุกโอกาส
- กลิ่นสัมผัสแนวอะโรมาติกวู้ดดี้เพิ่มเสน่ห์เย้ายวน
- Top Note: เลมอน มิ้นท์ พริกไทยชมพู และ เกรปฟรุต
- Middle Note: ขิง แอมเบอร์กริส ลูกจันทน์เทศ และ จัสมิน
- Base Notes: แลบดานัม ไม้จันทน์ แพทชูลี่ หญ้าแฝก ซีดาร์ และ มัสค์
2. Calvin Klein Ck One (EDT)
น้ำหอมผู้ชาย 2023 เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีความเรียบหรู และคลาสสิก เราแนะนำน้ำหอม Calvin Klein เป็นแบรนด์ยอดนิยมของผู้ชาย แบรนด์เองก็มีความโดดเด่นด้านชุดน้ำในและน้ำหอม ด้วยคุณภาพและน้ำหอมมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น ไม่แปลกใจเลยทำไมน้ำหอมผู้ชาย Calvin Klein จึงขายดีและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถ้าใครอยากน้ำหอมผู้ชาย 2023 กลิ่นไม่แรงฉุนจนเกินไป หอมสดชื่น แนะนำเป็น Calvin Klein Ck One ขวดนี้คือตอบโจทย์ความต้องการคุณได้ดี โดยน้ำหอมกลิ่นออกแนวซีตรัส ที่หอมอมเปรี้ยว มีความละมุน ๆ มีความสดชื่นที่ได้จาก Citrus ออกกลิ่นเป็นแนวสปอร์ตหน่อย ๆ สามารถฉีดได้ทุกวันและทุกโอกาส และที่สำคัญตัวนี้ราคาไม่แรงมาก
รายละเอียด Calvin Klein Ck One (EDT)
- กลิ่นที่ได้จะมีความผ่อนคลาย สดชื่น และเย็นสบาย
- กลิ่นหอมสดชื่น Unisex เหมาะสำหรับทั้งชายและหญิง
- ผสานความสดชื่นจาก Citrus ผลไม้ตระกูลส้มมะนาวที่โดดเด่น
- ระดับความเข้มข้นกลิ่นหอมอยู่ในระดับปานกลาง ฉีดเพิ่มได้ระหว่างวัน
- Top Note: Lemon, Papaya, Green Note, Pineapple, Mandarin Orange, Cardamom, และ Bergamot
- Middle Note: Nutmeg, Rose, Orris Root, Freesia, Lily-of-the-Valley, Jasmine และ Violet
- Base Notes: Amber, Green Accord, Musk, Cedar, Sandalwood, Oakmoss และ Green Tea
3. Giorgio Armani Acqua Di Gio Homme TW
น้ำหอม Giorgio Armani Acqua Di Gio Homme TW จัดเป็นน้ำหอมสุด Classic แบรนด์ Giorgio Armani ด้วยกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ มีความเข้มข้นแต่กลิ่นกลับไม่ได้ฉุดจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ชายใน Everyday Look แต่งตัวเรียบง่าย สบาย ๆ เพราะจากกลิ่นน้ำหอมก็สามารถสื่อได้ว่าผู้ใช้เป็นคนเรียบง่าย แลดูเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ อบอวลไปอ้วยความอบอุ่น มีความเท่ในตัว แต่ก็แฝงไปด้วยความสุขุม ลุ่มลึก และใครที่เคยได้ใช้น้ำหอมตัวนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า กลิ่นหอมมาก ๆ แถมยังติดทนยาวนานประมาณ 3 – 6 ชั่วโมง เหมาะสำหรับฉีดในช่วงกลางวัยของฤดูร้อน สามารถฉีดได้ทุกวันในวันสบาย ๆ หรือวันทำงาน
รายละเอียด Giorgio Armani Acqua Di Gio Homme TW
- หอมติดทนยาวนานมากถึง 3 – 6 ชั่วโมง
- เหมาะสำหรับผู้ชาย Everyday Look อิสระ และรักสันโดษ
- กลิ่นหอมสดชื่นที่ได้มาจากส้ม มะนาว และเฮดิออน
- กลิ่นหอมสดชื่นสบาย กลิ่นแห่งความอิสระ เต็มไปด้วยสายลมและสายน้ำ
- ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Pantellerie ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงพักร้อน
- ส่วนประกอบได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความลงตัวของกลิ่นหอมหวานและกลิ่นความเค็มของน้ำทะเล
- Top Note: Jasmine, Rosemary และ Hespiradic Notes
- Middle Note: Persimmon Fruits และ Marine Notes
- Bottom Note: Cedar, Patchouli, White Musk และ Rock Rose
4. Chanel Allure Homme Sport
หนุ่มคนไหนอยากได้น้ำหอม Chanel ผู้ชายกลิ่นที่ให้ความสดชื่น ห้ามพลาด Chanel Allure Homme Sport ควรต้องซื้อมาใช้เลย! ซึ่งน้ำหอมตัวนี้จะออกแนว Sport เพราะฉะนั้นจึงเน้นไปที่กลิ่นความสดชื่นเป็นหลัก ด้วยกลิ่น Citrus หอมที่ได้มาจากเปลือกส้มและกลิ่นมะนาว ผสมเข้ากับกลิ่นวนิลาได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกหวาน ๆ นุ่ม ๆ และยังมีกลิ่นสะอาด ๆ จากซีดาร์เข้มข้น หอมอ่อน ๆ จากอัลมอนด์ของ Tonka Note มีไวท์ มัสก์ ให้ความรู้สึกเหมือนเราเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ข้อดีของน้ำหอมตัวนี้ที่น่าจะถูกใจหนุ่ม ๆ เลยคือ ต่อให้ต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนแค่ไหน ร้อนจนเหงื่อแตกยังไง ก็ไม่ทำให้มีกลิ่นตัว และไม่เหม็นเลย แต่กลับยังให้ความหอมสดชื่น หนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังหาน้ำหอมผู้ชาย 2023 มาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองแล้วล่ะก็ห้ามพลาดน้ำหอมตัวนี้
รายละเอียด Chanel Allure Homme Sport
- เหมาะสำหรับผู้ชายทุกเพศทุกวัย
- หอมติดทนยาวนานมากถึง 8 – 12 ชั่วโมง
- เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
- น้ำหอมที่เหมาะมากสำหรับอากาศร้อน ๆ ในเมืองไทย
- กลิ่นออกแนว Sport เน้นความสดชื่น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- ส่วนผสมได้มาจากตระกูลกลิ่นซิตรัส ฟรุต, ไวท์ มัสค์ และแอทลาส เซดาร์ ช่วยให้รู้สึกสบาย ๆ
- Top Notes : Blood Mandarin, Aldehydes, Orange และ Sea Notes
- Middle Notes : Cedar, Pepper และ Neroli
- Bottom Notes : Tonka Bean, Elemi resin, Vanilla, Amber, White Musk และ Vetiver
5. Calvin Klein Eternity for Men
น้ำหอมสำหรับผู้ชาย Calvin Klein Eternity for Men เป็นน้ำหอมสุดคลาสสิกจาก Calvin Klein ผลิตขึ้นมาตั้งแต่ปี 1990 ที่ได้ผสมผสานกลิ่นส้มแมนดารินและลาเวนเดอร์ เข้ากับกลิ่นอายธรรมชาติจากดอกไม้ สมุนไพร ต้นซีดาร์และมอส ซึ่งกลิ่นน้ำหอมออกแนวอโรมาติกที่มีความเรียบง่ายแต่แฝงเร้นไปด้วยความซับซ้อน มีกลิ่นที่หอมชวนให้หลงใหล เหมาะสำหรับผู้ชายสมัยใหม่ ที่มาพร้อมความมาดมั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ความเท่ และมีความเซ็กซี่ในตัว แล้วน้ำหอมตัวนี้ยังซ่อนความหอมแบบซาบซ่า เพิ่มความสดใส และเร้าร้อน ให้ใครต่อใครก็ต้องมาหลงเสน่ห์คุณ ถ้าใครชอบน้ำหอมกลิ่นโรแมนติกสุดคลาสสิกเราแนะนำน้ำหอมกลิ่นนี้เลย
รายละเอียด Calvin Klein Eternity for Men
- สามารถฉีดน้ำหอมหลิ่นนี้ได้ทุกโอกาส
- หอมติดทนยาวนานกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป
- สามารถฉีดได้ทุกช่วงเวลาของปีและทุกช่วงเวลาของวัน
- เหมาะสำหรับผู้ชายสมัยใหม่ ที่มีความมาดมั่น เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ มีความเท่และเซ็กซี่
- Top Notes : Lavender, Lemon, Bergamot, Mandarin และ Orange
- Middle Notes : Coriander, Orange Blossom, Juniper, Basil, Jasmine, Sage, Lily-of-the-Valley, Lily และ Geranium
- Bottom Notes : Amber, Musk, Sandalwood, Vetiver และ Rosewood
6. Tommy Hilfiger Tommy Boy EDT
เปิดกรุน้ำหอมผู้ชาย 2023 กันต่อกับน้ำหอม Tommy Hilfiger Tommy Boy EDT จากแบรนด์ Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายยอดนิยมตลอดกาลจากประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องบอกว่าน้ำหอมรุ่นนี้นั้นเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1995 ถือเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นแนว Citrus Aromatic จะเน้นความสดชื่นในแนวของซิตรัสและอโรม่า เหมาะสำหรับผู้ชายใน Everyday Look สบาย ๆ อบอุ่น และเต็มเปี่ยมด้วยความโรแมนติก โดยจะมีกลิ่นหอมแบบผู้ดี ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป ติดทนยาวนาน แล้วไม่ว่าจะออกงานกลางแจ้ง หรือเป็นงานในห้องแอร์ก็หมดห่วงเรื่องกลิ่นจางหาย อีกทั้งสามารถฉีดได้ทุกโอกาสและทุกเวลา ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเที่ยว หรือวันสบาย ๆ ที่อยู่บ้านก็ฉีดได้เหมือนกัน ใครที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นไม่ฉุนมากนัก แนะนำน้ำหอมตัวนี้เลย
รายละเอียด Tommy Hilfiger Tommy Boy EDT
- เหมาะสำหรับผู้ชายทุกช่วงวัย
- สามารถฉีดได้ในหลากหลายโอกาส
- กลิ่นหอม เย็นสดชื่น ให้ความรู้สึกสบาย ๆ
- เหมาะสำหรับผู้ชายที่ความเป็นตัวของตัวเอง
- Top note : Mint, Lavender, Grapefruit และ Bergamot
- Middle Notes : จาก Cranberry, Rose และ Apple
- Bottom Notes : Amber, Cotton Flower และ Cactus
7. Christian Dior Sauvage EDT
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ดังอย่าง Dior นับเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับตำนาน น้ำหอมสำหรับผู้ชายก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีที่อยู่ในกระแสและถูกพูดถึงบ่อย ๆ คือ “น้ำหอม” ซึ่งน้ำหอมผู้ชาย 2023 กลิ่นยอดนิยมและขายดีสุด ๆ คงต้องยกให้ Christian Dior Sauvage EDT เป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย ที่มาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่น และสะอาดจากเกรปฟรุต และลาเวนเดอร์ ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดูมีเอกลักษณ์ และมีรสนิยมของผู้ชาย Dior ที่น่าค้นหา จึงทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้ดูมีความเป็น Bad Boy นิด ๆ และน้ำหอมผู้ชาย Dior Sauvage ตัวนี้ได้นักแสดงชายสุดโด่งดังจากบทบาทโจรสลัดหนุ่มสุดเท่ห์อย่าง Johnny Depp มาเป็นพรีเซนเตอร์ ยิ่งเป็นเครื่องการันตีชั้นดีถึงความหอม
รายละเอียด Christian Dior Sauvage EDT
- กลิ่นหอมติดทนยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง
- น้ำหอมแนวกลิ่น Aromatic Fougere
- กลิ่นน้ำหอมจะออกโทนสดชื่นปนกลิ่นไม้อ่อน ๆ
- เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีความนุ่ม ลึก ดูดิบ และเซอ แต่ยังดูหรูหรา
- Top Notes : Bergamot
- Middle Notes : Lavender, Nutmeg, Sichuan Pepper และ Star Anise
- Base Notes : Vanilla และ Ambroxan
8. RALPH LAUREN Polo Blue EDT
น้ำหอมผู้ชาย 2023 ที่ผู้ชายหลายคนต้องรู้จัก สำหรับ RALPH LAUREN Polo Blue EDT จากแบรนด์ POLO เป็นน้ำหอมที่คุณผู้ชายควรต้องมีติดตู้ไว้สักขวด! น้ำหอม Polo Blue เป็นอีกรุ่นหลักที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก เมื่อฉีดแล้วดูเป็นผู้ชายเท่ ๆ ใส่สูทผูกเนกไท ดูสุขุมลุ่มลึก ทันสมัย เสริมเพิ่มให้มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ดูอ่อนโยน ซึ่งน้ำหอมจะมีกลิ่นหอมเย็นสดชื่น ผสมผสานกลิ่นหอมอันอบอุ่นแฝงไปด้วยเสน่ห์อันลุ่มลึกของ Geranium, Basil Verbena และClary Sage Absolute ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณผู้ชายดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น ใครกำลังมองหาน้ำหอมโปโลกลิ่นหอมสดชื่น มีความเป็น Sport เบา ๆ ให้ความรู้สึกแมน บอกเลยควรต้องซื้อน้ำหอมโปโลรุ่นนี้เลย!
รายละเอียด RALPH LAUREN Polo Blue EDT
- เหมาะสำหรับผู้ชายทุกช่วงวัย
- สามารถฉีดได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
- ระดับความเข้มข้นสูงจึงทำให้กลิ่นหอมติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง
- น้ำหอมจะมีกลิ่นใสและสดชื่นที่เด่นชัดมาจากแตงกวากับเลม่อน
- กลิ่นหอมสะอาด เย้ายวน เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายความเป็นชายชาตรี
- Top Notes : Bergamot oil, Green Mango และ Grapefruit Oil
- Middle Notes : Cypress oil, Clary sage และ Geranium oil
- Bottom Notes : Deep Ocean Accord, Patchouli Heart, Fair Balsam, Musk และ Ambroxan
เป็นยังไงกันบ้างหลังจากได้อ่านรีวิวครบทั้ง 8 น้ำหอมผู้ชาย 2023 ที่ได้คัดน้ำหอมสำหรับผู้ชายจากแบรนด์ดังระดับตำนานมาแนะนำ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อน้ำหอมมาใช้ หรือซื้อเพื่อเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสพิเศษให้กับบุคคลที่รัก อย่างไรก็ตามก่อนที่จะซื้อเราแนะนำให้คุณไปทดลองสัมผัสกลิ่นด้วยตัวเองก่อน เพราะบางครั้งถ้าอ่านเพียงอย่างเดียวอาจจินตนาการกลิ่นน้ำหอมไม่ได้ว่าหอมถูกใจไหม หรือกลิ่นฉุนเกินไปสำหรับเราหรือเปล่า และที่สำคัญเราก็จะได้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นที่เหมาะสำหรับเรามากที่สุด แล้วเวลาเลือกใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบซื้อ ค่อย ๆ ลองไปทีละกลิ่น จนกว่าจะเจอกลิ่นที่ถูกใจ นอกจากนี้เรายังมีบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่าง แฟชั่นผู้ชาย แต่งตัวยังไงให้เป็น Signature หรือ กระเป๋าสะพายข้างผู้ชายแบรนด์ไหนดี ติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog ส่วนใครที่ต้องการช้อปสินค้าราคาถูกคุณภาพดี เช่น น้ำหอม หรือ โลชั่นน้ำหอม ก็สามารถหาซื้อได้ที่ Shopee มีโค้ดส่วนลดเพียบ