พรมปูพื้น อีกหนึ่งของตกแต่งบ้านที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและสีสันภายในบ้านให้ดูสวยและมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้พรมปูพื้นบางชนิดยังสามารถช่วยระดับความหรูหราให้กับบ้านได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นจะมีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ลวดลาย สีสัน วัสดุ และขนาดของพรมปูพื้น ที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงพรมปูพื้นขนาดผืนใหญ่ที่ปูได้ทั้งห้อง การตัดสินใจว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดีนั้น ไม่ใช่แค่ดูในเรื่องของลวดลาย สีสัน และสิ่งที่ถูกใจเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าจะใช้พรมปูพื้นตกแต่งส่วนใดของบ้าน เพื่อให้ได้พรมที่ทั้งสวยและทนทาน เหมาะสมกับการใช้งาน และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป วันนี้ Shopee อยากจะมาแนะนำการเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี ให้เหมาะกับบ้าน มาฝากทุกคน
![พรมปูพื้น แบบไหนดี พรมปูพื้นห้องรับแขก](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-พรมปูพื้นห้องรับแขก.jpg)
Credit : Freepik
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
มารู้จัก “พรมปูพื้น” มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ก่อนจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี เรามาทำความรู้จักพรมแต่ละประเภทว่ามีคุณสมบัติอย่างไร ข้อดี ข้อเสียกันอย่างไร รวมถึงวิธีการดูแลทำความสะอาด มาดูกัน
1. พรมปูพื้นไนลอน (Nylon)
พรมไนลอน ได้รับความนิยมเลือกใช้มากที่สุด เพราะขึ้นชื่อในเรื่องความทนทาน มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อรา และสารเคมี ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย ข้อเสียก็คือโดดแดดเป็นเวลานาน ๆ สีพรมจะซีด ราคาไม่แพง
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ต้องซักด้วยมือเท่านั้น ไม่ควรซักพรมในเครื่องซักผ้า
2. พรมปูพื้นโพลีโพรไฟลีน (Polypropylene)
เป็นพรมที่ได้รับความนิยมรองมาจากพรมไนลอน มีคุณสมบัติเด่น ๆ คือ กันน้ำได้ดี ป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ เหมาะกับพื้นที่หรือบริเวณที่ถูกกดดับ และมีการใช้งานค่อนข้างบ่อยอย่าง ห้องนั่งเล่น ทำความสะอาดง่ายมาก ข้อเสียก็คือหากโดนแดดมาก ๆ สีพรมจะซีด และดูดซับน้ำมันได้ดี หากโดนสารเคมีที่มีส่วนผสมของน้ำมันหยดใส่บอกเลยงานใหญ่แน่นอน
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ซักพรมด้วยมือโดยการฉีดน้ำให้ทั่วพรม จากนั้นก็เทน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ลงบนพรม แล้วใช้แปรงขัดทำความสะอาดพรม แล้วฉีดน้ำล้างออกให้สะอาด นำไปตากในที่ร่มได้เลย
3. พรมปูพื้นโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
พรมปูพื้นโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เป็นพรมที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ โดยจะให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา นุ่มสบาย เหมาะกับพื้นที่บริเวณห้องนอน เพราะมีลักษณะนุ่ม ฟู คุณสมบัติที่เด่น ๆ คือ กันน้ำและดักจับฝุ่นได้เป็นอย่างดี แต่ว่าจะทำความสะอาดยากหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับการนำมาใช้งาน
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นบนพรมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าพรมเลอะต้องการซักสามารถใช้น้ำยาซักพรมสูตรอ่อนโยนหรือน้ำสบู่ทำความสะอาดได้เลย หลังจากซักทำความสะอาด ให้เป่าพรมให้แห้งทั้งสองด้าน หรือนำพรมไปตากแดดให้แห้ง
4. พรมปูพื้นโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
พรมประเภทนี้ถือเป็นพรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพรมที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล ที่ได้มาจากฝาขวดรีไซเคิล ข้อดี คือสีสันสดใส สามารถป้องกันคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้มาก ๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาไม่แพง แต่ข้อเสียคือจะไม่นุ่มเหมือนพรมประเภทอื่น ๆ
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง หรือถ้าซักก็ประมาณ 6 เดือนครั้ง ซึ่งการซักให้ใช้น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอก แล้วขัดล้างและซักพรมด้วยแปรงที่มีขนแข็ง จากนั้นก็นำไปตากให้แห้ง
5. พรมปูพื้นอะคริลิก (Acrylic)
พรมประเภทนี้ทำขึ้นมาเลียนแบบพรมขนสัตว์ จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกับพรมขนสัตว์ แต่ว่าจะมีราคาที่ถูกกว่า ข้อดี คือ ไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต สามารถกันความชื้นและคราบสิ่งสกปรกได้ดี ส่วนข้อเสียคือไม่ค่อยแข็งแรงทำให้ไม่ทนทานนัก ไม่เหมาะใช้พื้นปูในพื้นที่ใช้งานหนัก ๆ เหมาะสำหรับไว้ในห้องนอนหรือห้องส่วนตัว ไม่ควรใช้พรมอะคริลิคในบริเวณที่วางเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ เช่น โซฟา โต๊ะ หรือ ตู้ เป็นต้น
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้เลย ส่วนการซักสามารถใช้น้ำผสมกับน้ำยาซักผ้ามาขัดล้างทำความสะอาดและซักพรมได้ โดยเลือกใช้แปรงไนลอนขัดทำความสะอาด ให้เน้นตรงบริเวณคราบสกปรก แล้วฉีดน้ำทำความสะอาดให้ทั่ว ควรซักพรมอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง
6. พรมปูพื้นขนสัตว์ (Wool)
พรมปูพื้นขนสัตว์ (Wool) เป็นพรมที่มีราคาสูงที่สุด เพราะทำมาจากธรรมชาติ 100% ให้ความสวยงามหรูหรา ยังการให้สัมผัสที่นุ่มสบายที่สุดในบรรดาประเภทของพรมทั้งหมด มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานสุด ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น การดูแลรักษาที่มากกว่าพรมใยสังเคราะห์ ข้อเสียก็อาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ เพราะทำความสะอาดได้ค่อนข้างยาก และหากพรมโดนแดดและสารเคมีในการทำความสะอาด ก็อาจจะทำให้สีของพรมซีดได้ และหากใช้ไปนาน ๆ พวกแมลงต่าง ๆ อาจจะมาอาศัยในพรมได้ ดังนั้นต้องคอยหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ถ้าพรมขนาดไม่ใหญ่ สามารถใช้เครื่องซักผ้าได้ แต่ต้องเลือกเป็นโหมดในการซักพรมกับน้ำอุณหภูมิปกติและน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเท่านั้น แต่ห้ามนำไปอบร้อนเด็ดขาด
ข้อควรรู้! ข้อดี และ ข้อเสีย การตกแต่งบ้านด้วยพรมปูพื้น
พรมปูพื้น มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภท ทั้งในเรื่องการดีไซน์ออกแบบ โครงสร้าง วัสดุ ขนาดของพรม รวมถึงพื้นผิวของพรม ดังนั้นถ้าจะเลือกใช้พรมปูพื้นมาตกแต่งภายในบ้าน ลองมาดูข้อดีและข้อเสียการเลือกใช้พรมปูพื้น มีอะไรบ้าง สรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้
ข้อดีของพรมปูพื้น
- ให้ความสวยงามด้วยลวดลายและสีสันของพรม
- สามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นบ้านได้ดี
- ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการลื่นล้มจากพื้นผิวธรรมดาได้มากกว่าพื้นผิวเปล่า
- ดักจับฝุ่นละออง ถ้าดูแลรักษาความสะอาดพรมเป็นอย่างดี พรมจะช่วยลดการกระจายฝุ่นละอองได้
- พรมเป็นฉนวนกันความร้อนภายในตัว ที่ช่วยในเรื่องการรักษาอุณหภูมิ โดยเฉพาะพรมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพรมขนสัตว์ เช่น พรมอะคริลิค และพรมไนลอน
ข้อเสียของพรมปูพื้น
- การดูแลรักษาพรมปูพื้น ควรต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- การทำความสะอาดค่อนข้างยาก และต้องรู้วิธีการทำความสะอาดพรมแต่ละประเภท
- พรมส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบที่มีความยืดหยุ่นน้อย ทำให้พังได้ง่าย ยิ่งถ้าดูแลรักษาไม่ดีหรือไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดรอยขึ้นได้ง่าย
- ไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะสัตว์เลี้ยงจะคิดว่าพรมที่ปูไว้นั้นเป็นที่ปลดทุกข์ แม้จะนำพรมไปซักแล้ว แต่กลิ่นยังคงติดอยู่ สัตว์เลี้ยงก็จะจำกลิ่นได้แล้วมาขับถ่ายในที่เดิมซ้ำ ๆ
- สุขภาพอนามัย สิ่งสำคัญเมื่อบ้านไหนมีพรมพื้นปูจะต้องดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ตัวกักฝุ่นผง และเป็นแหล่งรวมสารที่ก่อภูมิแพ้ เกิดความชื้นและสปอร์เชื้อรา และเมื่อสูดอากาศเข้าไปเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา
ทริคการเลือกพรมปูพื้นให้เหมาะกับบ้าน
ก่อนจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี ที่เหมาะสำหรับบ้านของเรานั้น ก็ลองมาดูเทคนิคการเลือกพรมให้เหมาะกับบ้านต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง
1. พื้นที่/บริเวณที่ต้องการปูพรม
สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อพรมคือ จุดประสงค์ที่ต้องการซื้อพรมไปใช้ในบริเวณใดภายในบ้าน เพื่อจะได้เลือกประเภทพรมได้เหมาะสม
- ห้องนอน ควรเลือกพรมแบบขนยาว นุ่มฟู ที่มีความอ่อนนุ่ม เช่น พรมขนสัตว์ พรมอะคริลิก หรือพรมโพลีโพรไพลีน
- ห้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น ควรเลือกพรมแบบขนสั้น หรือ พรมผิวเรียบ เช่น พรมไนลอน เพราะทำความสะอาดง่าย และไม่เก็บสะสมฝุ่นเท่าพรมแบบขนยาว
- ห้องรับประทานอาหาร ควรเลือกพรมแบบขนสั้น หรือ พรมผิวเรียบ เช่น พรมโพลีเอทิลีน ผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิล ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หรือพรมไนลอน ที่เก็บกักความสกปรกน้อย ป้องกันรอยน้ำ รอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดง่าย
2. สีพรมสามารถสร้าง Mood & Tone
พรมปูพื้นรูปทรงเดียวกัน ขนาดเดียวกัน ทำจากวัสดุเดียวกัน แต่ถ้าสีพรมและลวดลายของพรมมีความแตกต่าง ก็ส่งผลต่อการสร้าง Mood & Tone พรมปูพื้นโทนสีอ่อน เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กและแคบ ใครต้องการให้ห้องดูกว้าง แนะนำเลือกพรมสีโทนสว่าง ก็จะช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง โปร่ง และสบายตามากขึ้น สำหรับพรมปูพื้นโทนสีกลาง ๆ ก็สามารถเข้าได้กับทุกห้อง ส่วนพรมปูพื้นโทนสีเข้มจะทำให้ดูมีหรูหรา ออกแนวสไตล์โมเดิร์น และดูแลรักษาง่าย
3. ขนาดของพรมปูพื้นควรต้องเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน
ขนาดพรมก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าเลือกขนาดพรมปูพื้นผิดขนาดก็จะส่งผลต่อการจัดวางตกแต่งใช้งานภายในห้อง แล้วทำให้ห้องดูไม่สวย ต้องซื้อผืนใหม่มาเปลี่ยน สิ้นเปลืองเวลา และที่สำคัญต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ก่อนซื้อควรวัดขนาดพื้นที่ หรือวัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการจัดวางพรม ให้เรียบร้อยก่อนจะตัดสินใจซื้อ
แนะนำ 10 พรมปูพื้น แบบไหนดี เหมาะสำหรับบ้านทุกสไตล์
เมื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ด้วยการใช้พรมกันไปแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาช้อปเลือกพรมสวย ๆ มาตกแต่งบ้านกันแล้ว มีพรมประเภทไหน ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่กันบ้าง ตามมาช้อปกันเลย
1. Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red
![พรมปูพื้น แบบไหนดี Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/1.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-Carpets-Inter-พรมรุ่น-Cozy-Red.jpg)
บ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีพื้นที่กว้าง อยากแต่งบ้านที่ให้โทนดูอบอุ่นควรเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี เราแนะนำพรม Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red ซึ่งเป็นพรมปูพื้นโพลีโพรไฟลีน (Polypropylene) ปกป้องคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ทันสมัย ใช้ลายเส้นในการเพิ่มมิติให้กับพรมโดยใช้เทคนิคการทอแบบ Cut ในส่วนการถักทอแน่นให้ความทนทาน พร้อมสัมผัสนุ่มสบายเท้า ช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว มาพร้อมกับสีสันที่เรียบง่าย เหมาะกับการแต่งห้องทุกสไตล์
รายละเอียด Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red
- ช่วยดูดซับเสียงและลดแรงกระแทก
- ขนพรมมีความหนาถึง 7 mm. ถักทอแน่น
- ผลิตจากวัสดุคุณภาพ 100% Polypropylene
- ป้องกันคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดง่าย
- ราคา 1,200 บาท / ขนาด 120 x 180 เซนติเมตร
2. Express carpet พรมรุ่น FENIX
![พรมปูพื้น แบบไหนดี Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/1.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-Carpets-Inter-พรมรุ่น-Cozy-Red.jpg)
สำหรับพรมปูพื้น Express carpet พรมรุ่น FENIX เป็นพรมนำเข้าจากยุโรป เหมาะสำหรับไว้ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น ดีไซน์ทันสมัย ลวดลายกราฟิก ไม่ซ้ำใคร ซึ่งพรมทำมาจากเส้นใย PP Heatset ชนิดพิเศษ ทนแดดทนฝน จึงสามารถใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังทอแบบห่วง ที่เพิ่มความนุ่มและทนทาน ช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว ซึ่งผืนพรมบางเบาทำความสะอาดง่าย ด้วยการดูดฝุ่นและซักทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่น
รายละเอียด Express carpet พรมรุ่น FENIX
- ดีไซน์สวยทันสมัย
- ขนพรมมีความหนาถึง 4 mm.
- ผลิตจากเส้นใย PP Heatset ชนิดพิเศษ
- สามารถช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว
- ทนแดดทนฝน สามารถใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
- ราคา 2,160 บาท / ขนาด 80 x 150 เซนติเมตร
3. BMZAR พรมห้องนอน ลายการ์ตูน
![พรมปูพื้น แบบไหนดี BMZAR พรมห้องนอน ลายการ์ตูน](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/3.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-BMZAR-พรมห้องนอน-ลายการ์ตูน.jpg)
ใครกำลังมองหาพรมปูพื้นห้องนอนแบบไหนดี แนะนำ BMZAR พรมห้องนอน มาพร้อมลวดลายการ์ตูน น่ารัก ๆ พรมปูพื้นนี้ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ที่มีความนุ่มสบาย และยังเป็นมิตรกับผิวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยดูดซับความชื้น ระบายอากาศได้ดี ทั้งนี้ ขนพรมยังมีความหนาถึง 15 mm. ทำให้มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ล็อคขอบเทียม ไม่ม้วนงอง่าย สวยงาม ทนทาน ซึ่งตัวขอบมีความแน่นและมั่งคง ยังมีจุดพลาสติกกันลื่นให้ด้วย ทำความสะอาดก็ง่าย ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือต้องการซักสามารถใช้เครื่องซักผ้าได้เลย ถ้าคุณอยากได้ผ้าปูพื้นไว้ที่ห้องนอนน่ารัก ๆ แนะนำพรมปูพื้นตัวนี้ ทั้งดีไซน์น่ารักและราคาถูกอีกด้วย
รายละเอียด BMZAR พรมห้องนอน ลายการ์ตูน
- ขนพรมมีความหนาถึง 15 mm.
- ขนปุยหนา สัมผัสที่ละเอียดอ่อนของเท้า
- ขนปุยแน่น ไม่หลุดร่วงง่าย ใช้งานได้นาน
- สามารถดูดซับน้ำ แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นอับ
- ราคา 179 บาท / ขนาด 80 x 200 เซนติเมตร
4. Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม
![พรมปูพื้น แบบไหนดี Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/4.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-Feiyana-พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม.jpg)
พรมปูพื้น แบบไหนดี สามารถใช้งานได้หลากหลาย มีขนนุ่มสบาย ราคาไม่แพง แนะนำ Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องรับประทานอาหาร หรือห้องอื่น ๆ ที่ต้องการได้ทุกห้องเลย โดยพรมปูพื้นรุ่นนี้ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดี ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปลอดภัยและไม่เป็นพิษต่อคน และความพิเศษอยู่ที่ขนพรมสัมผัสนุ่มสบาย ด้วยการถักทอแน่นมาก จะดึงยังไงขนพรมก็ไม่หลุดร่วงเลย ด้านล่างของพรมได้มีการออกแบบมาพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้ลื่น ช่วยให้พรมยึดเกาะกับพื้นได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดได้หลากหลายวิธี ใครที่กำลังมองหาพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น แนะนำพรมรุ่นนี้เลย
รายละเอียด Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม
- ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดี
- ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่มีไร้ฝุ่น และระบายอากาศได้ดี
- พรมถักทอหนาแน่น ขนนุ่ม ดึงยังไงก็ไม่หลุดร่วง
- ทำความสะอาดง่าย ด้วยการดูดฝุ่น สามารถซักได้
- ราคา 359 บาท / ขนาด 160 x 200 เซนติเมตร
5. Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม
![พรมปูพื้น แบบไหนดี Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/5.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-Vodca-พรมแต่งบ้าน-ทรงวงกลม.jpg)
หากคุณอยากพรมปูพื้นห้องรับแขกให้ออกมาดูดีมีสไตล์ สร้างจุดสนใจภายในห้อง แนะนำให้เลือกเป็นพรมทรงกลม เพราะนอกจากช่วยทำให้ห้องดูดีและมีจุดเด่นแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าห้องดูกว้างมากขึ้น ดังนั้น Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม ขนาดกำลังพอดี เหมาะสำหรับนำมาตกแต่งในห้องรับแขก หรือใช้พื้นในห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนก็ได้เช่นกัน พรมปูพื้นตัวนี้ทำมาจากขนแกะเทียม ผิวเส้นใยโพลีโพรพีลีน Interlayer ฟองน้ำ จึงทำให้มีความนุ่มสบาย ด้านล่างมีปุ่มยางกันลื่น ที่เลือกใช้เป็นวัสดุกันลื่น เม็ด Dot คุณภาพสูงมาตรฐานญี่ปุ่นไม่เปื่อยยุ่ย และมีสีสันที่หลากหลาย มากมายที่ได้มาจากธรรมชาติให้คุณได้เลือกตามที่ต้องการ
รายละเอียด Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม
- ขนพรมมีความหนาถึง 1.5 cm.
- ผลิตจากโพลีโพรพีลีนที่ใช้เป็นขนแกะเทียม
- ด้านล่างพรมจะมีกันลื่น เพื่อป้องกันการลื่นล้ม
- สีพรมจะเป็นสีย้อมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ทำความสะอาดง่ายได้หลายวิธี ทั้งซักมือ ซักแห้ง และซักเครื่อง
- ราคา 99 บาท / ขนาด 100 x 100 เซนติเมตร
6. NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง
![พรมปูพื้น แบบไหนดี NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/6.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-NEALMALL-พรมปูพื้นขนแกะปะการัง.jpg)
หากคุณกำลังมองหาพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น มีขนาดใหญ่ ดีไซน์เรียบง่าย สามารถเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ แนะนำเป็นพรมปูพื้น NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง ซึ่งเป็นพรมอัดเรียบไม่มีขน ความหนาประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร จึงทำให้ไม่เก็บกับฝุ่นละอองต่าง ๆ ตัวพรมผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพสูง จึงนุ่มสบาย นอกจากนี้ด้านล่างของพรมยังออกแบบมาพิเศษเพื่อช่วยป้องกันการลื่นไถลและช่วยให้พรมยึดติดกับพื้นได้ดี สามารถนำพรมปูพื้นได้ทุกห้องที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องอื่น ๆ ทำความสะอาดง่าย และมีขนาดให้เลือกมากถึง 4 ขนาด ด้วยกัน
รายละเอียด NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง
- ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพสูง
- เป็นพรมอัดเรียบไม่มีขน หนาประมาณ 0.5-0.7 ซม.
- สามารถทำความสะอาดง่ายด้วยเครื่องดูดฝุ่นและล้างด้วยน้ำได้
- ด้านล่างของพรมช่วยป้องกันการลื่นและช่วยให้พรมยึดติดกับพื้นได้ดี
- ราคา 359 บาท / ขนาด 160 x 200 เซนติเมตร
7. พรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384
![พรมปูพื้น แบบไหนดี พรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/7.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-พรมปูพื้นห้อง-รุ่น-YF-1292-1384.jpg)
พรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384 ดีไซน์ทันสมัยสุดหรู เหมาะสำหรับตกแต่งไว้ให้ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น เพราะขนาดพรมจะพอเหมาะสำหรับปูไว้ใต้โซฟา ตัวพรมจะเป็นผ้ากำมะหยี่ขนสั้น สัมผัสกำมะหยี่อ่อนนุ่มและไม่ทอผ้าทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือก่อให้เกิดภูมิแพ้อย่างแน่นอน และที่สำคัญก็ยังเป็นพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่นอีกด้วย การตัดเย็บที่ดีไร้รอยต่อเลย ทั้งนี้ พรมมีลวดลายหลากหลายและหลากหลายสีสันในแผ่นเดียว จึงเหมาะสำหรับการนำมาตกแต่งบ้าน เพราะนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ก็ช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้บ้านดูดีน่าอยู่มากขึ้น
รายละเอียดพรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384
- พรมเป็นผ้ากำมะหยี่ขนสั้น
- สัมผัสกำมะหยี่อ่อนนุ่มและไม่ทอผ้าทำให้รู้สึกสบายใจ
- พรมผืนเดียวจะมีหลากหลายสีและหลากหลายลวดลาย
- ราคา 189 บาท / ขนาด 120 x 160 เซนติเมตร
8. พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
![พรมปูพื้น แบบไหนดี พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/8.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก.jpg)
ใครที่อยากแต่งห้องนอนหรือคอนโดด้วยพรมปูพื้น แบบไหนดี แนะนำเป็นพรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก ซึ่งเป็นการตกแต่งบ้านแถบสแกนดิเนเวียที่กำลังได้รับความนิยมเป็นในอย่างมากเลย ที่เหมาะมากสำหรับตกแต่งบ้านในยุคนี้เลย ด้วยดีไซน์สไตล์เน้นความเรียบง่าย ช่วยทำให้บ้านดูอบอุ่นเพราะโทนสีให้ความอบอุ่น ใกล้ชิดกันกับธรรมชาติ และมีรสนิยมมากขึ้น ทำความสะอาดง่าย ด้วยเครื่องดูดฝุ่นได้เลย แต่ถ้าเจอคราบหนักสามารถซักได้ด้วยมือฉีดพ่นด้วยฝักบัวและเพิ่มผงซักฟอกที่เหมาะสมเพื่อเช็ดด้วยน้ำยาซักผ้าเพียงเท่านี้พรมก็สะอาดแล้ว
รายละเอียดพรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
- พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
- ให้ฟีลสไตล์เกาหลี มินิมอล เน้นความอบอุ่น
- ขนพรมสั้นเตียน จึงทำให้ไม่เก็บกักฝุ่นละอองต่าง ๆ
- ทำความสะอาดง่ายมาก ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือซักก็ได้
- ราคา 649 บาท / ขนาด 120 x 160 เซนติเมตร
9. Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น
![พรมปูพื้น แบบไหนดี Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/9.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-Rctown-ลายเรขาคณิต-3D-สไตล์โมเดิร์น.jpg)
Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์นและเรียบง่าย เหมาะสำหรับตกแต่งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (โพลีเอสเตอร์) ซึ่งวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยลวดลายสีสันซึ่งเป็นลวดลายทางเรขาคณิตสวยงาม ช่วยเพิ่มสีสันภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนของคุณได้ และสามารถกันความชื้นกันลื่น ไม่ทำให้พื้นเสียหายอีกด้วย ทำความสะอาดง่ายสามารถซักด้วยมือหรือใช้เครื่องซักผ้า ใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี แต่อยากสร้างสีสันให้กับห้อง แนะนำเป็น Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น รับรองถูกใจชัวร์!
รายละเอียด Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น
- ลวดลายทางเรขาคณิตสวยงาม
- กันความชื้นกันลื่นไม่ทำให้พื้นเสียหาย
- ทำความสะอาดง่าย ซักมือหรือซักเครื่องได้
- ราคา 389 บาท / ขนาด 80 x 120 เซนติเมตร
10. พรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม
![พรมปูพื้น แบบไหนดี พรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม](https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/05/10.Shopee-Blog-พรมปูพื้น-แบบไหนดี-พรมทอมือ-ไหมไนล่อน-รูปทรงครึ่งวงกลม.jpg)
ปิดท้ายกันด้วย พรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม พรมปูพื้นไนลอน (Nylon) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ด้วยไนลอนที่เลือกใช้ทำพรมมีคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม เส้นใยมีความทนทานคงทน สามารถใช้งานได้นานมากถึง 10 ปี โดยใช้เทคนิคการทอแบบ Loop ถักทอแน่น ขนพรมไม่ล้มง่าย และขนพรมไม่หลุดร่วงง่าย นอกจากนี้ยังป้องกันน้ำ ทนต่อรอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายมาก และสีสันสดใส ไม่ซีดจาง ใครกำลังมองหาพรมปูพื้นที่ทนทานต่อการใช้งาน แนะนำให้เลือกพรมปูพื้นไนลอนได้เลย
รายละเอียดพรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม
- ผลิตจากวัสดุ Nylon เกรดพรีเมี่ยม สีสันสดใส ไม่ซีดจาง
- เส้นใยมีความทนทานคงทนใช้งานได้นาน ขนพรมไม่หลุดร่วงง่าย ใช้งานได้นานเกิน 10 ปี
- ใช้เทคนิคการทอแบบ Loop ถักทอแน่น ขนพรมไม่ล้มง่าย
- ทนต่อรอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมี
- ทำความสะอาดง่ายเพียงใช้เครื่องดูดฝุ่น
- ราคา 14,755 บาท / ขนาด 2.03 x 3.60 เซนติเมตร
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว หวังว่าทุกคนคงตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี มาตกแต่งบ้านของคุณ นอกจากเลือกพรมปูพื้นจากดีไซน์และสีที่ชอบแล้ว ควรต้องทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของพรมแต่ละประเภท พรมทำมาจากวัสดุอะไร เหมาะสำหรับห้องประเภทใด รวมถึงวิธีการทำความสะอาด เพื่อเราจะพรมปูพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ๆ หากต้องการไอเดียในการตกแต่งบ้านหรือรีวิวซื้ออุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น ไอเดียการตกแต่งไฟในบ้าน หรือการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น หรือการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ หรือโซฟา ยี่ห้อไหนดี เบาะนุ่ม นั่งสบาย หรือบทความอื่น ๆ ติดตามอ่านที่ Shopee Blog มีบทความมากมาย