พรมปูพื้น อีกหนึ่งของตกแต่งบ้านที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและสีสันภายในบ้านให้ดูสวยและมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้พรมปูพื้นบางชนิดยังสามารถช่วยระดับความหรูหราให้กับบ้านได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพรมปูพื้นจะมีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ลวดลาย สีสัน วัสดุ และขนาดของพรมปูพื้น ที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงพรมปูพื้นขนาดผืนใหญ่ที่ปูได้ทั้งห้อง การตัดสินใจว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดีนั้น ไม่ใช่แค่ดูในเรื่องของลวดลาย สีสัน และสิ่งที่ถูกใจเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าจะใช้พรมปูพื้นตกแต่งส่วนใดของบ้าน เพื่อให้ได้พรมที่ทั้งสวยและทนทาน เหมาะสมกับการใช้งาน และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป วันนี้ Shopee อยากจะมาแนะนำการเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี ให้เหมาะกับบ้าน มาฝากทุกคน
Credit : Freepik
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
มารู้จัก “พรมปูพื้น” มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ก่อนจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี เรามาทำความรู้จักพรมแต่ละประเภทว่ามีคุณสมบัติอย่างไร ข้อดี ข้อเสียกันอย่างไร รวมถึงวิธีการดูแลทำความสะอาด มาดูกัน
1. พรมปูพื้นไนลอน (Nylon)
พรมไนลอน ได้รับความนิยมเลือกใช้มากที่สุด เพราะขึ้นชื่อในเรื่องความทนทาน มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อรา และสารเคมี ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย ข้อเสียก็คือโดดแดดเป็นเวลานาน ๆ สีพรมจะซีด ราคาไม่แพง
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ต้องซักด้วยมือเท่านั้น ไม่ควรซักพรมในเครื่องซักผ้า
2. พรมปูพื้นโพลีโพรไฟลีน (Polypropylene)
เป็นพรมที่ได้รับความนิยมรองมาจากพรมไนลอน มีคุณสมบัติเด่น ๆ คือ กันน้ำได้ดี ป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ เหมาะกับพื้นที่หรือบริเวณที่ถูกกดดับ และมีการใช้งานค่อนข้างบ่อยอย่าง ห้องนั่งเล่น ทำความสะอาดง่ายมาก ข้อเสียก็คือหากโดนแดดมาก ๆ สีพรมจะซีด และดูดซับน้ำมันได้ดี หากโดนสารเคมีที่มีส่วนผสมของน้ำมันหยดใส่บอกเลยงานใหญ่แน่นอน
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ซักพรมด้วยมือโดยการฉีดน้ำให้ทั่วพรม จากนั้นก็เทน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ลงบนพรม แล้วใช้แปรงขัดทำความสะอาดพรม แล้วฉีดน้ำล้างออกให้สะอาด นำไปตากในที่ร่มได้เลย
3. พรมปูพื้นโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
พรมปูพื้นโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เป็นพรมที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ โดยจะให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา นุ่มสบาย เหมาะกับพื้นที่บริเวณห้องนอน เพราะมีลักษณะนุ่ม ฟู คุณสมบัติที่เด่น ๆ คือ กันน้ำและดักจับฝุ่นได้เป็นอย่างดี แต่ว่าจะทำความสะอาดยากหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับการนำมาใช้งาน
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นบนพรมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าพรมเลอะต้องการซักสามารถใช้น้ำยาซักพรมสูตรอ่อนโยนหรือน้ำสบู่ทำความสะอาดได้เลย หลังจากซักทำความสะอาด ให้เป่าพรมให้แห้งทั้งสองด้าน หรือนำพรมไปตากแดดให้แห้ง
4. พรมปูพื้นโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
พรมประเภทนี้ถือเป็นพรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพรมที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล ที่ได้มาจากฝาขวดรีไซเคิล ข้อดี คือสีสันสดใส สามารถป้องกันคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้มาก ๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาไม่แพง แต่ข้อเสียคือจะไม่นุ่มเหมือนพรมประเภทอื่น ๆ
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ควรดูดฝุ่นทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง หรือถ้าซักก็ประมาณ 6 เดือนครั้ง ซึ่งการซักให้ใช้น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอก แล้วขัดล้างและซักพรมด้วยแปรงที่มีขนแข็ง จากนั้นก็นำไปตากให้แห้ง
5. พรมปูพื้นอะคริลิก (Acrylic)
พรมประเภทนี้ทำขึ้นมาเลียนแบบพรมขนสัตว์ จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกับพรมขนสัตว์ แต่ว่าจะมีราคาที่ถูกกว่า ข้อดี คือ ไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต สามารถกันความชื้นและคราบสิ่งสกปรกได้ดี ส่วนข้อเสียคือไม่ค่อยแข็งแรงทำให้ไม่ทนทานนัก ไม่เหมาะใช้พื้นปูในพื้นที่ใช้งานหนัก ๆ เหมาะสำหรับไว้ในห้องนอนหรือห้องส่วนตัว ไม่ควรใช้พรมอะคริลิคในบริเวณที่วางเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ เช่น โซฟา โต๊ะ หรือ ตู้ เป็นต้น
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้เลย ส่วนการซักสามารถใช้น้ำผสมกับน้ำยาซักผ้ามาขัดล้างทำความสะอาดและซักพรมได้ โดยเลือกใช้แปรงไนลอนขัดทำความสะอาด ให้เน้นตรงบริเวณคราบสกปรก แล้วฉีดน้ำทำความสะอาดให้ทั่ว ควรซักพรมอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง
6. พรมปูพื้นขนสัตว์ (Wool)
พรมปูพื้นขนสัตว์ (Wool) เป็นพรมที่มีราคาสูงที่สุด เพราะทำมาจากธรรมชาติ 100% ให้ความสวยงามหรูหรา ยังการให้สัมผัสที่นุ่มสบายที่สุดในบรรดาประเภทของพรมทั้งหมด มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานสุด ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น การดูแลรักษาที่มากกว่าพรมใยสังเคราะห์ ข้อเสียก็อาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ เพราะทำความสะอาดได้ค่อนข้างยาก และหากพรมโดนแดดและสารเคมีในการทำความสะอาด ก็อาจจะทำให้สีของพรมซีดได้ และหากใช้ไปนาน ๆ พวกแมลงต่าง ๆ อาจจะมาอาศัยในพรมได้ ดังนั้นต้องคอยหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ
- วิธีดูแลทำความสะอาด : ถ้าพรมขนาดไม่ใหญ่ สามารถใช้เครื่องซักผ้าได้ แต่ต้องเลือกเป็นโหมดในการซักพรมกับน้ำอุณหภูมิปกติและน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเท่านั้น แต่ห้ามนำไปอบร้อนเด็ดขาด
ข้อควรรู้! ข้อดี และ ข้อเสีย การตกแต่งบ้านด้วยพรมปูพื้น
พรมปูพื้น มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภท ทั้งในเรื่องการดีไซน์ออกแบบ โครงสร้าง วัสดุ ขนาดของพรม รวมถึงพื้นผิวของพรม ดังนั้นถ้าจะเลือกใช้พรมปูพื้นมาตกแต่งภายในบ้าน ลองมาดูข้อดีและข้อเสียการเลือกใช้พรมปูพื้น มีอะไรบ้าง สรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้
ข้อดีของพรมปูพื้น
- ให้ความสวยงามด้วยลวดลายและสีสันของพรม
- สามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นบ้านได้ดี
- ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการลื่นล้มจากพื้นผิวธรรมดาได้มากกว่าพื้นผิวเปล่า
- ดักจับฝุ่นละออง ถ้าดูแลรักษาความสะอาดพรมเป็นอย่างดี พรมจะช่วยลดการกระจายฝุ่นละอองได้
- พรมเป็นฉนวนกันความร้อนภายในตัว ที่ช่วยในเรื่องการรักษาอุณหภูมิ โดยเฉพาะพรมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพรมขนสัตว์ เช่น พรมอะคริลิค และพรมไนลอน
ข้อเสียของพรมปูพื้น
- การดูแลรักษาพรมปูพื้น ควรต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- การทำความสะอาดค่อนข้างยาก และต้องรู้วิธีการทำความสะอาดพรมแต่ละประเภท
- พรมส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบที่มีความยืดหยุ่นน้อย ทำให้พังได้ง่าย ยิ่งถ้าดูแลรักษาไม่ดีหรือไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดรอยขึ้นได้ง่าย
- ไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะสัตว์เลี้ยงจะคิดว่าพรมที่ปูไว้นั้นเป็นที่ปลดทุกข์ แม้จะนำพรมไปซักแล้ว แต่กลิ่นยังคงติดอยู่ สัตว์เลี้ยงก็จะจำกลิ่นได้แล้วมาขับถ่ายในที่เดิมซ้ำ ๆ
- สุขภาพอนามัย สิ่งสำคัญเมื่อบ้านไหนมีพรมพื้นปูจะต้องดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ตัวกักฝุ่นผง และเป็นแหล่งรวมสารที่ก่อภูมิแพ้ เกิดความชื้นและสปอร์เชื้อรา และเมื่อสูดอากาศเข้าไปเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา
ทริคการเลือกพรมปูพื้นให้เหมาะกับบ้าน
ก่อนจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี ที่เหมาะสำหรับบ้านของเรานั้น ก็ลองมาดูเทคนิคการเลือกพรมให้เหมาะกับบ้านต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง
1. พื้นที่/บริเวณที่ต้องการปูพรม
สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อพรมคือ จุดประสงค์ที่ต้องการซื้อพรมไปใช้ในบริเวณใดภายในบ้าน เพื่อจะได้เลือกประเภทพรมได้เหมาะสม
- ห้องนอน ควรเลือกพรมแบบขนยาว นุ่มฟู ที่มีความอ่อนนุ่ม เช่น พรมขนสัตว์ พรมอะคริลิก หรือพรมโพลีโพรไพลีน
- ห้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น ควรเลือกพรมแบบขนสั้น หรือ พรมผิวเรียบ เช่น พรมไนลอน เพราะทำความสะอาดง่าย และไม่เก็บสะสมฝุ่นเท่าพรมแบบขนยาว
- ห้องรับประทานอาหาร ควรเลือกพรมแบบขนสั้น หรือ พรมผิวเรียบ เช่น พรมโพลีเอทิลีน ผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิล ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หรือพรมไนลอน ที่เก็บกักความสกปรกน้อย ป้องกันรอยน้ำ รอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดง่าย
2. สีพรมสามารถสร้าง Mood & Tone
พรมปูพื้นรูปทรงเดียวกัน ขนาดเดียวกัน ทำจากวัสดุเดียวกัน แต่ถ้าสีพรมและลวดลายของพรมมีความแตกต่าง ก็ส่งผลต่อการสร้าง Mood & Tone พรมปูพื้นโทนสีอ่อน เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กและแคบ ใครต้องการให้ห้องดูกว้าง แนะนำเลือกพรมสีโทนสว่าง ก็จะช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง โปร่ง และสบายตามากขึ้น สำหรับพรมปูพื้นโทนสีกลาง ๆ ก็สามารถเข้าได้กับทุกห้อง ส่วนพรมปูพื้นโทนสีเข้มจะทำให้ดูมีหรูหรา ออกแนวสไตล์โมเดิร์น และดูแลรักษาง่าย
3. ขนาดของพรมปูพื้นควรต้องเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน
ขนาดพรมก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าเลือกขนาดพรมปูพื้นผิดขนาดก็จะส่งผลต่อการจัดวางตกแต่งใช้งานภายในห้อง แล้วทำให้ห้องดูไม่สวย ต้องซื้อผืนใหม่มาเปลี่ยน สิ้นเปลืองเวลา และที่สำคัญต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ก่อนซื้อควรวัดขนาดพื้นที่ หรือวัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการจัดวางพรม ให้เรียบร้อยก่อนจะตัดสินใจซื้อ
แนะนำ 10 พรมปูพื้น แบบไหนดี เหมาะสำหรับบ้านทุกสไตล์
เมื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ด้วยการใช้พรมกันไปแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาช้อปเลือกพรมสวย ๆ มาตกแต่งบ้านกันแล้ว มีพรมประเภทไหน ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่กันบ้าง ตามมาช้อปกันเลย
1. Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red
บ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีพื้นที่กว้าง อยากแต่งบ้านที่ให้โทนดูอบอุ่นควรเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี เราแนะนำพรม Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red ซึ่งเป็นพรมปูพื้นโพลีโพรไฟลีน (Polypropylene) ปกป้องคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ทันสมัย ใช้ลายเส้นในการเพิ่มมิติให้กับพรมโดยใช้เทคนิคการทอแบบ Cut ในส่วนการถักทอแน่นให้ความทนทาน พร้อมสัมผัสนุ่มสบายเท้า ช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว มาพร้อมกับสีสันที่เรียบง่าย เหมาะกับการแต่งห้องทุกสไตล์
รายละเอียด Carpets Inter พรมรุ่น Cozy-Red
- ช่วยดูดซับเสียงและลดแรงกระแทก
- ขนพรมมีความหนาถึง 7 mm. ถักทอแน่น
- ผลิตจากวัสดุคุณภาพ 100% Polypropylene
- ป้องกันคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดง่าย
- ราคา 1,200 บาท / ขนาด 120 x 180 เซนติเมตร
2. Express carpet พรมรุ่น FENIX
สำหรับพรมปูพื้น Express carpet พรมรุ่น FENIX เป็นพรมนำเข้าจากยุโรป เหมาะสำหรับไว้ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น ดีไซน์ทันสมัย ลวดลายกราฟิก ไม่ซ้ำใคร ซึ่งพรมทำมาจากเส้นใย PP Heatset ชนิดพิเศษ ทนแดดทนฝน จึงสามารถใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังทอแบบห่วง ที่เพิ่มความนุ่มและทนทาน ช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว ซึ่งผืนพรมบางเบาทำความสะอาดง่าย ด้วยการดูดฝุ่นและซักทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่น
รายละเอียด Express carpet พรมรุ่น FENIX
- ดีไซน์สวยทันสมัย
- ขนพรมมีความหนาถึง 4 mm.
- ผลิตจากเส้นใย PP Heatset ชนิดพิเศษ
- สามารถช่วยดูดซับเสียงและปกป้องพื้นผิว
- ทนแดดทนฝน สามารถใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
- ราคา 2,160 บาท / ขนาด 80 x 150 เซนติเมตร
3. BMZAR พรมห้องนอน ลายการ์ตูน
ใครกำลังมองหาพรมปูพื้นห้องนอนแบบไหนดี แนะนำ BMZAR พรมห้องนอน มาพร้อมลวดลายการ์ตูน น่ารัก ๆ พรมปูพื้นนี้ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ที่มีความนุ่มสบาย และยังเป็นมิตรกับผิวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยดูดซับความชื้น ระบายอากาศได้ดี ทั้งนี้ ขนพรมยังมีความหนาถึง 15 mm. ทำให้มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ล็อคขอบเทียม ไม่ม้วนงอง่าย สวยงาม ทนทาน ซึ่งตัวขอบมีความแน่นและมั่งคง ยังมีจุดพลาสติกกันลื่นให้ด้วย ทำความสะอาดก็ง่าย ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือต้องการซักสามารถใช้เครื่องซักผ้าได้เลย ถ้าคุณอยากได้ผ้าปูพื้นไว้ที่ห้องนอนน่ารัก ๆ แนะนำพรมปูพื้นตัวนี้ ทั้งดีไซน์น่ารักและราคาถูกอีกด้วย
รายละเอียด BMZAR พรมห้องนอน ลายการ์ตูน
- ขนพรมมีความหนาถึง 15 mm.
- ขนปุยหนา สัมผัสที่ละเอียดอ่อนของเท้า
- ขนปุยแน่น ไม่หลุดร่วงง่าย ใช้งานได้นาน
- สามารถดูดซับน้ำ แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นอับ
- ราคา 179 บาท / ขนาด 80 x 200 เซนติเมตร
4. Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม
พรมปูพื้น แบบไหนดี สามารถใช้งานได้หลากหลาย มีขนนุ่มสบาย ราคาไม่แพง แนะนำ Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องรับประทานอาหาร หรือห้องอื่น ๆ ที่ต้องการได้ทุกห้องเลย โดยพรมปูพื้นรุ่นนี้ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดี ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปลอดภัยและไม่เป็นพิษต่อคน และความพิเศษอยู่ที่ขนพรมสัมผัสนุ่มสบาย ด้วยการถักทอแน่นมาก จะดึงยังไงขนพรมก็ไม่หลุดร่วงเลย ด้านล่างของพรมได้มีการออกแบบมาพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้ลื่น ช่วยให้พรมยึดเกาะกับพื้นได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดได้หลากหลายวิธี ใครที่กำลังมองหาพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น แนะนำพรมรุ่นนี้เลย
รายละเอียด Feiyana พรมปูพื้นขนแกะเทียมนุ่ม
- ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดี
- ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่มีไร้ฝุ่น และระบายอากาศได้ดี
- พรมถักทอหนาแน่น ขนนุ่ม ดึงยังไงก็ไม่หลุดร่วง
- ทำความสะอาดง่าย ด้วยการดูดฝุ่น สามารถซักได้
- ราคา 359 บาท / ขนาด 160 x 200 เซนติเมตร
5. Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม
หากคุณอยากพรมปูพื้นห้องรับแขกให้ออกมาดูดีมีสไตล์ สร้างจุดสนใจภายในห้อง แนะนำให้เลือกเป็นพรมทรงกลม เพราะนอกจากช่วยทำให้ห้องดูดีและมีจุดเด่นแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าห้องดูกว้างมากขึ้น ดังนั้น Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม ขนาดกำลังพอดี เหมาะสำหรับนำมาตกแต่งในห้องรับแขก หรือใช้พื้นในห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนก็ได้เช่นกัน พรมปูพื้นตัวนี้ทำมาจากขนแกะเทียม ผิวเส้นใยโพลีโพรพีลีน Interlayer ฟองน้ำ จึงทำให้มีความนุ่มสบาย ด้านล่างมีปุ่มยางกันลื่น ที่เลือกใช้เป็นวัสดุกันลื่น เม็ด Dot คุณภาพสูงมาตรฐานญี่ปุ่นไม่เปื่อยยุ่ย และมีสีสันที่หลากหลาย มากมายที่ได้มาจากธรรมชาติให้คุณได้เลือกตามที่ต้องการ
รายละเอียด Vodca พรมแต่งบ้าน ทรงวงกลม
- ขนพรมมีความหนาถึง 1.5 cm.
- ผลิตจากโพลีโพรพีลีนที่ใช้เป็นขนแกะเทียม
- ด้านล่างพรมจะมีกันลื่น เพื่อป้องกันการลื่นล้ม
- สีพรมจะเป็นสีย้อมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ทำความสะอาดง่ายได้หลายวิธี ทั้งซักมือ ซักแห้ง และซักเครื่อง
- ราคา 99 บาท / ขนาด 100 x 100 เซนติเมตร
6. NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง
หากคุณกำลังมองหาพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น มีขนาดใหญ่ ดีไซน์เรียบง่าย สามารถเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ แนะนำเป็นพรมปูพื้น NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง ซึ่งเป็นพรมอัดเรียบไม่มีขน ความหนาประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร จึงทำให้ไม่เก็บกับฝุ่นละอองต่าง ๆ ตัวพรมผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพสูง จึงนุ่มสบาย นอกจากนี้ด้านล่างของพรมยังออกแบบมาพิเศษเพื่อช่วยป้องกันการลื่นไถลและช่วยให้พรมยึดติดกับพื้นได้ดี สามารถนำพรมปูพื้นได้ทุกห้องที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องอื่น ๆ ทำความสะอาดง่าย และมีขนาดให้เลือกมากถึง 4 ขนาด ด้วยกัน
รายละเอียด NEALMALL พรมปูพื้นขนแกะปะการัง
- ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพสูง
- เป็นพรมอัดเรียบไม่มีขน หนาประมาณ 0.5-0.7 ซม.
- สามารถทำความสะอาดง่ายด้วยเครื่องดูดฝุ่นและล้างด้วยน้ำได้
- ด้านล่างของพรมช่วยป้องกันการลื่นและช่วยให้พรมยึดติดกับพื้นได้ดี
- ราคา 359 บาท / ขนาด 160 x 200 เซนติเมตร
7. พรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384
พรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384 ดีไซน์ทันสมัยสุดหรู เหมาะสำหรับตกแต่งไว้ให้ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น เพราะขนาดพรมจะพอเหมาะสำหรับปูไว้ใต้โซฟา ตัวพรมจะเป็นผ้ากำมะหยี่ขนสั้น สัมผัสกำมะหยี่อ่อนนุ่มและไม่ทอผ้าทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือก่อให้เกิดภูมิแพ้อย่างแน่นอน และที่สำคัญก็ยังเป็นพรมปูพื้นที่ไม่เก็บฝุ่นอีกด้วย การตัดเย็บที่ดีไร้รอยต่อเลย ทั้งนี้ พรมมีลวดลายหลากหลายและหลากหลายสีสันในแผ่นเดียว จึงเหมาะสำหรับการนำมาตกแต่งบ้าน เพราะนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ก็ช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้บ้านดูดีน่าอยู่มากขึ้น
รายละเอียดพรมปูพื้นห้อง รุ่น YF-1292 1384
- พรมเป็นผ้ากำมะหยี่ขนสั้น
- สัมผัสกำมะหยี่อ่อนนุ่มและไม่ทอผ้าทำให้รู้สึกสบายใจ
- พรมผืนเดียวจะมีหลากหลายสีและหลากหลายลวดลาย
- ราคา 189 บาท / ขนาด 120 x 160 เซนติเมตร
8. พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
ใครที่อยากแต่งห้องนอนหรือคอนโดด้วยพรมปูพื้น แบบไหนดี แนะนำเป็นพรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก ซึ่งเป็นการตกแต่งบ้านแถบสแกนดิเนเวียที่กำลังได้รับความนิยมเป็นในอย่างมากเลย ที่เหมาะมากสำหรับตกแต่งบ้านในยุคนี้เลย ด้วยดีไซน์สไตล์เน้นความเรียบง่าย ช่วยทำให้บ้านดูอบอุ่นเพราะโทนสีให้ความอบอุ่น ใกล้ชิดกันกับธรรมชาติ และมีรสนิยมมากขึ้น ทำความสะอาดง่าย ด้วยเครื่องดูดฝุ่นได้เลย แต่ถ้าเจอคราบหนักสามารถซักได้ด้วยมือฉีดพ่นด้วยฝักบัวและเพิ่มผงซักฟอกที่เหมาะสมเพื่อเช็ดด้วยน้ำยาซักผ้าเพียงเท่านี้พรมก็สะอาดแล้ว
รายละเอียดพรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
- พรมปูห้องนอนสไตล์นอร์ดิก
- ให้ฟีลสไตล์เกาหลี มินิมอล เน้นความอบอุ่น
- ขนพรมสั้นเตียน จึงทำให้ไม่เก็บกักฝุ่นละอองต่าง ๆ
- ทำความสะอาดง่ายมาก ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือซักก็ได้
- ราคา 649 บาท / ขนาด 120 x 160 เซนติเมตร
9. Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น
Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์นและเรียบง่าย เหมาะสำหรับตกแต่งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (โพลีเอสเตอร์) ซึ่งวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยลวดลายสีสันซึ่งเป็นลวดลายทางเรขาคณิตสวยงาม ช่วยเพิ่มสีสันภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนของคุณได้ และสามารถกันความชื้นกันลื่น ไม่ทำให้พื้นเสียหายอีกด้วย ทำความสะอาดง่ายสามารถซักด้วยมือหรือใช้เครื่องซักผ้า ใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี แต่อยากสร้างสีสันให้กับห้อง แนะนำเป็น Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น รับรองถูกใจชัวร์!
รายละเอียด Rctown ลายเรขาคณิต 3D สไตล์โมเดิร์น
- ลวดลายทางเรขาคณิตสวยงาม
- กันความชื้นกันลื่นไม่ทำให้พื้นเสียหาย
- ทำความสะอาดง่าย ซักมือหรือซักเครื่องได้
- ราคา 389 บาท / ขนาด 80 x 120 เซนติเมตร
10. พรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม
ปิดท้ายกันด้วย พรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม พรมปูพื้นไนลอน (Nylon) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ด้วยไนลอนที่เลือกใช้ทำพรมมีคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม เส้นใยมีความทนทานคงทน สามารถใช้งานได้นานมากถึง 10 ปี โดยใช้เทคนิคการทอแบบ Loop ถักทอแน่น ขนพรมไม่ล้มง่าย และขนพรมไม่หลุดร่วงง่าย นอกจากนี้ยังป้องกันน้ำ ทนต่อรอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายมาก และสีสันสดใส ไม่ซีดจาง ใครกำลังมองหาพรมปูพื้นที่ทนทานต่อการใช้งาน แนะนำให้เลือกพรมปูพื้นไนลอนได้เลย
รายละเอียดพรมทอมือ ไหมไนล่อน รูปทรงครึ่งวงกลม
- ผลิตจากวัสดุ Nylon เกรดพรีเมี่ยม สีสันสดใส ไม่ซีดจาง
- เส้นใยมีความทนทานคงทนใช้งานได้นาน ขนพรมไม่หลุดร่วงง่าย ใช้งานได้นานเกิน 10 ปี
- ใช้เทคนิคการทอแบบ Loop ถักทอแน่น ขนพรมไม่ล้มง่าย
- ทนต่อรอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมี
- ทำความสะอาดง่ายเพียงใช้เครื่องดูดฝุ่น
- ราคา 14,755 บาท / ขนาด 2.03 x 3.60 เซนติเมตร
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว หวังว่าทุกคนคงตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกพรมปูพื้น แบบไหนดี มาตกแต่งบ้านของคุณ นอกจากเลือกพรมปูพื้นจากดีไซน์และสีที่ชอบแล้ว ควรต้องทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของพรมแต่ละประเภท พรมทำมาจากวัสดุอะไร เหมาะสำหรับห้องประเภทใด รวมถึงวิธีการทำความสะอาด เพื่อเราจะพรมปูพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ๆ หากต้องการไอเดียในการตกแต่งบ้านหรือรีวิวซื้ออุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น ไอเดียการตกแต่งไฟในบ้าน หรือการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น หรือการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ หรือโซฟา ยี่ห้อไหนดี เบาะนุ่ม นั่งสบาย หรือบทความอื่น ๆ ติดตามอ่านที่ Shopee Blog มีบทความมากมาย