จะซื้อเครื่องดูดความชื้นมาไว้ที่บ้านดีไหม? หรือจะใช้แค่พัดลม? คำถามนี้น่าจะเกิดขึ้นทุกทีที่เป็นช่วงฝนตกบ่อย จนทำให้บรรยกาศในบ้านรู้สึกหนืด ๆ เหนียวตัวง่าย ผ้าที่ตากไว้ก็แห้งยาก เกิดกลิ่นอับ บางครั้งยังอาจพบคราบเชื้อราขึ้นอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์หรือกระเป๋ารองเท้าจนเป็นความเสียหาย ซึ่งเหล่านี้เองที่เป็นประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้น Xiaomi หรือ dehumidifier ที่เราอยากแนะนำให้ลองนำมาใช้ และนี่คือรวมลิสต์ 10 รีวิว เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี น่าลองใช้ที่เรานำมาเล่าสู่กันฟัง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประโยชน์ของเครื่องลดความชื้น
ก่อนที่เราจะไปถึงรีวิวเครื่องดูดความชื้น เรามาลองดูกันก่อนเลยว่าความชื้นในอากาศนั้นคืออะไร ก่อให้เกิดผลเสียอะไรได้บ้าง และประโยชน์ของเครื่องลดความชื้นที่นำมาใช้จะเป็นอย่างไร
ความชื้นในอากาศก็คือ ภาวะที่ปริมาณไอน้ำที่มีปะปนอยู่ในอากาศมีสูง ซึ่งอาจเกิดเมื่อบริเวณนั้นมีการระเหยของน้ำมาก เช่น ในช่วงที่มีฝนตกบ่อย แดดส่องไม่ถึง บริเวณห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ซึ่งการที่ความชื้นในอากาศมีสูงอาจทำให้รู้สึกเย็นกว่าปกติ แต่ก็ทำให้รู้สึกหนืดเหนียวตัว เนื่องจากเหงื่อบนร่างกายระเหยได้ยาก
ภาวะที่อากาศมีความชื้นสูงนอกจากทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ก็ยังเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น เชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดกลิ่นอับ และคราบไม่พึงประสงค์บนเฟอร์นิเจอร์จำพวกไม้ หรือเครื่องหนัง แถมยังกระตุ้นโรคภูมิแพ้และทำให้หายใจไม่สะดวกอีกด้วย ดังนั้นการนำเครื่องดูดความชื้นมาใช้จะมีประโยชน์ในด้าน
- ทำให้อากาศแห้งสบาย เอื้อต่อการอยู่อาศัย ทั้งการตากผ้าและเหงื่อไคลก็แห้งได้ง่ายแบบไม่เหนียวไม่หนักตัว
- ลดโอกาสการเกิดเชื้อโรคสะสมในบ้าน เช่น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่กำจัดได้ยาก การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ถูกนำมาใช้ได้ผลดีกว่า
- ป้องกันการเกิดภูมิแพ้เนื่องจากอากาศชื้น และการสะสมของเชื้อโรค อันเป็นสาเหตุของโรคและความไม่สบายต่าง ๆ
- ป้องกันการเกิดสนิมของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ผลิตจากเหล็ก
- ป้องกันการเกิดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากความชื้นและการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
ประเภทของเครื่องดูดความชื้น
จากความชื้นในอากาศที่เป็นสาเหตุให้เกิดความไม่สบายต่าง ๆ จะลดลงได้อย่างไร เหล่านี้เป็นเทคนิควิธีที่ถูกนำมาใช้ในเครื่องดูดความชื้นที่ทำให้สามารถลดความชื้นในอากาศลงได้ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. เครื่องดูดความชื้นแบบกลั่นตัวเปลี่ยนสถานะ
เป็นการดึงอากาศที่มีความชื้นผ่านแผงคอยล์เย็นให้ไอน้ำกลั่นตัวลงเป็นหยดน้ำเก็บไว้ในถังเก็บน้ำ จากนั้นก็ปล่อยอากาศที่ความชื้นต่ำออกจากเครื่องไป มีทั้งการใช้คอมเพรสเซอร์, อีแวปเปอเรเตอร์ หรือ คอนเดนเซอร์
2. เครื่องดูดความชื้นแบบดูดซับความชื้น
เป็นวิธีที่ใช้วัสดุพิเศษช่วยดูดซับความชื้นในอากาศมาไว้ จากนั้นก็ปล่อยอากาศที่มีความชื้นลดลงออกไป
3. เครื่องดูดความชื้นแบบใช้ความร้อน
เป็นเทคนิคที่ใช้การทำความร้อนระเหยไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศให้สลายไป แต่ก็จะทำให้ห้องมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นด้วย
รีวิว 10 เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี
คราวนี้เราลองมาดูกันต่อเลยว่ารีวิวเครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากกันนั้นมีเครื่องดูดความชื้นตัวไหนกันบ้าง
1. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi SOTHING
เริ่มกันจากเครื่องดูดความชื้น Xiaomi ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่สามารถนำไปตั้งบนหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า หรือชั้นเก็บของได้แบบสบาย ๆ กับ Xiaomi SOTHING ที่มีน้ำหนักเบาและหนาเพียงแค่ 4 เซนติเมตรเท่านั้น ด้วยตัวเครื่องที่ดีไซน์ออกมาน่ารัก ๆ สามารถดูดความชื้นแบบใช้สารดูดซับได้ 150ml และยังระเหยความชื้นที่ดูดซับไว้ได้ด้วยการเสียบปลั๊กอบแห้งตัวเองได้โดยไม่ต้องคอยเอาน้ำไปทิ้งอีกด้วย
ด้วยความเป็นเครื่องดูดความชื้นที่ขนาดเล็ก กะทัดรัด ใช้เทคนิคการดูดความชื้นที่ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งาน (เสียบปลั๊กแค่ตอนระเหยแห้งตัวเครื่อง) แถมยังสังเกตต้นไม้เล็ก ๆ บนตัวเครื่องถึงระดับความชื้นที่ดูดซับไว้ ก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นที่น่ารักและสารพัดประโยชน์ สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้แบบสบาย ๆ
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 123 x 120 x 40 mm
- ขนาดการดูดความชื้น 150 ml
- ประเภท ดูดซับความชื้น
- กำลังไฟฟ้า 20W±10%
- ขนาดห้องที่เหมาะ เล็ก
- ขนาดความจุถังน้ำ –
- ราคา ฿370
2. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi NEW WIDETECH Dehumidifier
ถัดมาด้วยเครื่องดูดความชื้น Xiaomi อีกตัวที่ดูดสมบุกสมบันและเหมาะกับการใช้งานกับขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น เครื่องดูดความชื้น Xiaomi NEW WIDETECH เป็นเครื่องดูดความชื้นระบบคอมเพรสเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง สามารถใช้กับขนาดห้องได้ใหญ่ถึง 100 ตารางเมตร แถมยังสามารถเชื่อมต่อผ่านแอปเพื่อตรวจสอบและปรับระดับการทำงานได้อย่างง่ายดาย
ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS คุณภาพดี สามารถลดความชื้นได้รวดเร็ว และยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นการอบแห้งสำหรับการตากผ้าให้แห้งสนิทได้โดยไม่ทำให้เสื้อผ้าเกิดกลิ่นอับ ด้วยระดับเสียงรบกวนต่ำเพียง 38dB
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 38.00 x 25.90 x 59.00 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 1500ml /วัน
- ประเภท คอมเพรสเซอร์
- กำลังไฟฟ้า 420W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 100 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 7L
- ราคา ฿8,999
3. เครื่องดูดความชื้น HANABISHI HDF-20M
สำหรับเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ แต่เหมาะสำหรับห้องไซส์ขนาดกลาง ๆ ลองดูเครื่องดูดความชื้นตัวนี้เลย กับ HANABISHI HDF-20M ที่ออกแบบมาเพื่อลดความชื้นในอากาศ ลดการเกิดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังสามารถช่วยปรับสมดุลอากาศในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวเครื่องไซส์เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัมทำให้สามารถยกไปไหนต่อไหนได้แบบสบาย ตัวเครื่องดูดความชื้นนี้มาพร้อมกับถังเก็บน้ำความจุ 1 ลิตรและตั้งเวลาการทำงานได้ 2 โหมดคือ 6 หรือ 12 ชั่วโมง ทำงานเงียบเพียง 30dB สะดวกต่อการใช้งานแบบสุด ๆ
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 145x178x222 mm
- ขนาดการดูดความชื้น N/A
- ประเภท N/A
- กำลังไฟฟ้า 36W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 10-20 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 1L
- ราคา ฿1,590
4. เครื่องดูดความชื้น Bionaire BD20
มาถึงเครื่องดูดความชื้นคุณภาพดีที่ใช้กันอย่างเป็นกิจลักษณะกันบ้าง กับเครื่องดูดความชื้น Bionaire BD20 ตัวนี้ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการดูดความชื้นได้มากถึงวันละ 20 ลิตร สามารถใช้ได้กับพื้นที่ขนาดกว้างได้กว่า 60 ตารางเมตร จึงไม่แปลกใจเลยที่เครื่องดูดความชื้นตัวนี้จะถูกนำไปใช้ในห้องใต้ดิน ห้องสมุด ห้องแล็ป หรือโรงแรมต่าง ๆ เพื่อควบคุมคุณภาพความชื้นในอากาศให้คงที่ สามารถปรับอุณหภูมิได้แบบอัตโนมัติ และมีหน้าปัดบอกการทำงานในตัว เรียกได้ว่าคุณภาพดีและยังมีเสียงเบาเพียง 46dB เท่านั้น
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 36.6 x 33 x 59 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 2000ml /วัน
- ประเภท คอมเพรสเซอร์
- กำลังไฟฟ้า 360W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 60 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 2.3L
- ราคา ฿19,890
5. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE HOM-1612L2
หากจะมองหาเครื่องดูดความชื้นไซส์กลาง ๆ คุณภาพดีในราคาที่ไม่แพง เครื่องดูดความชื้นแบรนด์ HOMEMATE รุ่น HOM-1612L2 น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานเบา ๆ ในบ้าน ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ 25.6 x 20.3 x 41.5 เซนติเมตร น้ำหนักกลาง ๆ ที่ 10 กิโลกรัม เพียงพอต่อการทำงานในพื้นที่ 12 – 15 ตารางเมตรอย่างห้องต่าง ๆ ในบ้านเป็นอย่างดี
ตัวเครื่องสามารถลดความชื้นได้ถึง 12 ลิตรต่อวันด้วยเสียงเบากริบเพียง 42 เดซิเบล แถมยังใช้งานง่ายด้วยหน้าจอ LCF แสดงผลโปรแกรมการทำงานต่าง ๆ ที่ใช้ได้ทั้งโหมดดูดความชื้นอัตโนมัติ และฟังก์ชั่นตากผ้า ทั้งยังตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ ในฟังก์ชั่นครบ ๆ ตัวหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 25.6 x 20.3 x 41.5 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 1200ml /วัน
- ประเภท คอมเพรสเซอร์
- กำลังไฟฟ้า 175W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 15 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 2 L
- ราคา ฿10,000
6. เครื่องดูดความชื้น Biaowang
อีกหนึ่งเครื่องดูดความชื้นที่มีทั้งขนาดและราคาเหมาะ ๆ กับการใช้ในบ้านก็คงหนีไม่พ้น Biaowang ตัวนี้ ที่มีขนาดกลาง ๆ แต่มีน้ำหนักเบาแค่เพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้สามารถนำไปตั้งวางตรงที่ต่าง ๆ ในบ้านได้แบบสบาย ๆ ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่สามารถดูดความชื้นได้กว่าวันละ 15 ลิตร ถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ แบบนี้ ที่สำคัญคือตัวเครื่องยังมาพร้อมกับรีโมทที่สามารถตั้งโปรแกรมการทำงานได้ บวกกับหน้าจอ LCD ที่ช่วยแสดงผลให้เห็นโปรแกรมการทำงานได้แบบเด่นชัด ถือว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นที่คุณสมบัติน่าคบ ใช้งานง่าย และราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 24.5 x 13.7 x 37.5 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 1500ml /วัน
- ประเภท เดสิคแคนท์
- กำลังไฟฟ้า 90 วัตต์
- ขนาดห้องที่เหมาะ 40 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 2.2L
- ราคา ฿2,416
7. เครื่องดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier
เป็นเครื่องดูดความชื้นที่กินไฟเบา ๆ อีกหนึ่งตัวสำหรับเครื่องดูดความชื้น HAFELE Dehumidifier ที่มีความสามารถในการดูดความชื้นแบบเบา ๆ กับขนาดห้องเหมาะสมที่ 20 ตร.ม. และด้วยขนาดเบา ๆ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมก็สามารถยกย้ายไปไหนต่อไหนในบ้านได้สบาย
ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS แข็งแรงทนทาน ดีไซน์สีขาวมินิมอลเหมาะกับการตกแต่งในทุกสไตล์ ใช้งานได้เงียบเพียง 42 เดซิเบล จึงนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะกับการใช้เบา ๆ ในบ้านอีกตัวหนึ่งเลย
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 22.8 x 15.0 x 37.3 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 750ml /วัน
- ประเภท N/A
- กำลังไฟฟ้า 45W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 20 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 2L
- ราคา ฿3,910
8. เครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M
หากไม่รวมเครื่องดูดความชื้น Xiaomi เราก็ยังมีเครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M ที่เป็นเครื่องดูดความชื้นขนาดพกพาแบบเล็กกะทัดรัดเพียง 7.5 x 7.5 x 20.6 เซนติเมตร สามารถพกพา ใส่กระเป๋าเดินทาง ใส่กล่องเก็บของ หรือใส่ตู้เสื้อผ้าได้แบบไม่ยาก
จากเครื่องดูดความชื้นที่เป็นประเภทดูดซับความชื้นมักมีพื้นที่สัมผัสอากาศน้อย เครื่องดูดความชื้น Deerma CS90M นั้นต่างออกไปด้วยพื้นที่การสัมผัสอากาศโดยรอบถึง 360 องศา ช่วยให้ดูดซับความชื้นออกจากอากาศได้มากกว่าเดิม ดูดความชื้นได้แบบเบา ๆ ที่ 150ml ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 7.5 x 7.5 x 20.6 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 150ml /การชาร์จไฟ
- ประเภท แบบดูดซับความชื้น
- กำลังไฟฟ้า 20W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 96 ตร.ว.
- ขนาดความจุถังน้ำ –
- ราคา ฿1,399
9. เครื่องดูดความชื้น Xiaomi Mi Smarthome
เป็นเครื่องดูดความชื้น Xiaomi ไซส์น่ารัก ๆ อีกตัวหนึ่งที่เราแนะนำเลยสำหรับ เครื่องดูดความชื้น Xiaomi Mi Smarthome ที่มีขนาดเครื่องกะทัดรัดในแบบที่สามารถตั้งโต๊ะได้แบบไม่ยาก น้ำหนักเบาเพียง 0.95 กิโลกรัม ขยับไปไหนมาไหนในบ้านได้แบบสบาย ๆ
คุณสมบัติการดูดความชื้นถือว่าไม่มากไม่น้อยกับขนาด 0.3 ลิตรต่อวัน เหมาะกับขนาดห้องไม่เกิน 15 ตารางเมตร และยังมีถังน้ำให้ความจุ 0.6 ลิตรที่สามารถใช้แบบเต็มที่ได้กว่า 2 วัน นับเป็นเครื่องดูดความชื้นราคาเบา ๆ ขนาดเบา ๆ ที่ใช้ได้แบบอเนกประสงค์อีกตัวหนึ่งเลย
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 18.70 x 21.00 x 31.00 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 300ml /วัน
- ประเภท ไฮบริด
- กำลังไฟฟ้า 45W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 15 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 0.6L
- ราคา ฿1,419
10. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE HOM-16H458
มาถึงตัวสุดท้ายกับเครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-16H458 ตัวนี้ ที่แม้ขนาดจะดูใหญ่อยู่บ้างที่ 41.0 x 26.5 x 66.5 cm และหนักถึง 18 กิโลกรัม แต่คุณสมบัติในการดูดความชื้นนั้นนับว่าไม่เป็นรองรุ่นไหนเลย กับความสามารถในการดูดความชื้นในอากาศได้สูงถึง 40 ลิตรต่อวัน พร้อมถังน้ำความจุ 6 ลิตรในตัวเครื่อง
ไม่เพียงแค่คุณสมบัติในการดูดความชื้น เครื่องดูดความชื้นตัวนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติในการฟอกอากาศด้วยแผ่นกรอง HEPA FITER ถอดทำความสะอาดได้ ใช้งานง่ายด้วยจอ LCD บ่งบอกฟังก์ชั่นการใช้งาน เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อและหูจับ ทำงานด้วยเสียงเบาเพียง 48 เดซิเบล นับว่าเป็นเครื่องดูดความชื้นรุ่นหนัก ๆ ครบ ๆ ในคุณสมบัติการใช้งานตัวหนึ่งทีเดียว
คุณสมบัติ
- ขนาดตัวเครื่อง 41.0 x 26.5 x 66.5 cm
- ขนาดการดูดความชื้น 4000ml /วัน
- ประเภท เซมิคอนดักเตอร์
- กำลังไฟฟ้า 640W
- ขนาดห้องที่เหมาะ 45 ตร.ม.
- ขนาดความจุถังน้ำ 6L
- ราคา ฿24,900
และเหล่านี้ก็คือรีวิว เครื่องดูดความชื้นยี่ห้อไหนดี ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ที่มีมาให้แบบครบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดความชื้น Xiaomi เครื่องลดความชื้น HOMEMATE หรือ เครื่องดูดความชื้น HAFELE ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้อัดแน่นด้วยประโยชน์ของเครื่องลดความชื้นมาแบบครบ ๆ เหมาะกับการใช้งานง่าย ๆ ในบ้าน ไปจนถึงการใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพได้เลย ดังนั้นการเลือก dehumidifier หรือเครื่องดูดความชื้นให้ดีควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและขนาดห้องที่ต้องการใช้ เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองค่าเครื่องและค่าไฟแบบไม่จำเป็น
อ้างอิง: