ทำความเข้าใจ AHA BHA คือ? ต่างกันอย่างไร?

ในจักรวาลแห่งสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอันกว้างใหญ่ คำว่า “AHA” และ “BHA” มักถูกมองว่าเป็นส่วนผสมหนึ่งที่ได้ยินกันบ่อย ซึ่งรับประกันว่าผิวจะเรียบเนียนและกระจ่างใสยิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้วสารเหล่านี้คืออะไร และพวกมันใช้เวทย์มนตร์ได้อย่างไร? บทความนี้จะเจาะลึกถึงความซับซ้อนว่า AHA BHA คืออะไร ประโยชน์ การทำงาน วิธีการใช้ AHA BHA ต่างกันยังไง และข้อควรระวังที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึง AHA BHA ห้ามใช้กับอะไร AHA BHA ไม่ใช่แค่กระแสเท่านั้น เป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้คุณมีผิวกระจ่างใส ลดสิว ไร้ริ้วรอย

AHA คืออะไร? (Alpha Hydroxy Acid) 

Alpha Hydroxy Acids (AHAs) เป็นกรดที่ละลายน้ำได้ซึ่งสกัดได้มาจากผลไม้ที่มีรสหวาน หรือนมและถั่ว ช่วยลอกผิวของคุณออกเพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ที่มีเม็ดสีสม่ำเสมอมากขึ้นสามารถสร้างและเข้ามาแทนที่ได้ หลังจากใช้อย่างต่อเนื่อง AHA สามารถลดเลือนริ้วรอยและการเปลี่ยนสีผิวได้

ประเภทของ AHA

– **กรดไกลโคลิก:** กรดไกลโคลิกได้มาจากอ้อย เป็น AHA ชนิดที่พบมากที่สุดและขึ้นชื่อในเรื่องขนาดโมเลกุลที่เล็ก จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ล้ำลึก

– **กรดแลคติค:** กรดแลคติคที่มาจากนมมีความอ่อนโยนต่อผิวและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

AHA ทำงานอย่างไร ?

AHA หรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีเป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเนื่องจากคุณสมบัติในการขัดผิวที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส สีสม่ำเสมอ และดูอ่อนกว่าวัย ต่อไปนี้เป็นวิธีการทำงานของ AHA ในกระบวนการการทำงานทีละขั้นตอนเมื่อคุณใช้สกินแคร์ที่มี AHA เป็นประกอบใน skin routine ของคุณ

1. การทำความสะอาดพื้นผิว

 – เมื่อทาลงบนผิว การกระทำแรกของ AHA คือการค่อยๆ ละลายพันธะระหว่างเซลล์ที่ตายแล้วบนผิว สาเหตุหลักมาจากธรรมชาติของ AHA ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยให้พวกมันมีปฏิกิริยากับชั้นบนของหนังกำพร้าได้อย่างง่ายดาย

2. ขัดและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

 – ในขณะที่ AHA ทำลายพันธะเหล่านี้ เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะคลายตัวและสามารถลอกออกได้ง่าย กระบวนการขัดผิวนี้ช่วยขจัดชั้นเซลล์ที่ตายแล้วชั้นนอกซึ่งมักจะทำให้ผิวมีสีที่หมองคล้ำและหยาบกร้าน

3. กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่

 – เมื่อเซลล์เก่าที่ตายถูกกำจัดออกไป AHA จะช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ เซลล์ผิวใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่ผิวที่สดชื่นและอ่อนเยาว์มากขึ้นที่ปรากฏบนพื้นผิว เรียกว่าผิวทั้งใหม่ สด เงา และดูอิ่มน้ำไม่แห้งกร้าน

4. เพิ่มการผลิตคอลลาเจน

 – AHA ยังกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นเส้นใยที่ช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่น การกระทำนี้สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวดูกระชับและอ่อนนุ่มยิ่งขึ้น

5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับความชื้น

 – ด้วยการขจัดชั้นนอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว AHA จะช่วยเพิ่มความสามารถของผิวในการดูดซับผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกยิ่งขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงชั้นลึกของผิว

6. ปรับสีผิวให้กระจ่างใส

 – การใช้ AHA เป็นประจำอาจทำให้สีผิวโดยรวมสว่างขึ้น เนื่องจากเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดีขึ้นจะเผยสู่ผิว AHA ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีและลดเลือนจุดด่างดำแห่งวัยและการเปลี่ยนสีอื่นๆ

7. ปรับปรุงเนื้อผิว

 – AHA ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนโดยส่งเสริมการกระจายตัวของเซลล์ผิวที่สม่ำเสมอ และลดความหนาของชั้นนอกของผิวผ่านการขัดผิว ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนและละเอียดยิ่งขึ้น จะมีผิวกระจกได้ก็ต้องผ่านขั้นตอนเหล่านี้!

AHA เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งเป็นแนวทางที่ครอบคลุมในการปรับปรุงสุขภาพผิวและรูปลักษณ์ภายนอก พวกมันขัดผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการต่ออายุเซลล์ เพิ่มการผลิตคอลลาเจน เพิ่มการดูดซึมความชื้น ปรับสีผิวให้กระจ่างใส และปรับปรุงเนื้อสัมผัส ทำให้พวกมันเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการดูแลผิวตามปกติ

BHA คืออะไร ? (Beta Hydroxy Acid)

กรดเบต้าไฮดรอกซี (BHAs) เป็นกรดที่ละลายในน้ำมันซึ่งซึมลึกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกิน ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการซ่อมแซมความเสียหายจากสิวและแสงแดดเนื่องจากความสามารถในการซึมผ่านน้ำมันที่อุดตันรูขุมขน

ประเภท BHA

• กรดซาลิไซลิก: BHA ซึ่งเป็นกรดซาลิไซลิกที่แพร่หลายที่สุด มีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการต่อสู้กับสิวเนื่องจากคุณสมบัติในการขัดผิวและความสามารถในการบรรเทาการอักเสบ

BHA ทำงานอย่างไร ?

BHA หรือกรดเบต้าไฮดรอกซีเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเป้าไปที่ผิวมันและเป็นสิวง่าย กรดซาลิไซลิกเป็น BHA ที่ใช้กันมากที่สุด และออกฤทธิ์หลายอย่างเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์และสุขภาพของผิว ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายโดยละเอียดทีละขั้นตอนว่า BHA ทำงานอย่างไรและมีประโยชน์อะไรบ้างสำหรับส่วนผสมในสกินแคร์

1. เจาะลึกถึงรูขุมขนที่มีน้ำมันใต้ผิว

 – ต่างจาก AHA ตรงที่ BHA ละลายในน้ำมันได้ ซึ่งช่วยให้ซึมลึกเข้าไปในรูขุมขนของผิวหนังได้ คุณสมบัตินี้ช่วยให้ BHA ทำงานไม่เพียงแต่บนพื้นผิวเท่านั้น แต่ยังทำงานภายในต่อมน้ำมันที่ซึ่งปัญหาสิวมักเริ่มต้นอีกด้วย

2. ละลายความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

 – เมื่อเข้าไปในรูขุมขน BHA จะละลายส่วนผสมของซีบัม (น้ำมันที่ผลิตโดยผิวหนัง) และเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อาจอุดตันรูขุมขน การดำเนินการนี้จะช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่มีอยู่และป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันใหม่

3. ขัดผิว

 – เช่นเดียวกับ AHA BHA คือยังช่วยในการขัดผิวโดยทำลายพันธะระหว่างเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อย่างไรก็ตาม การดำเนินการหลักจะอยู่ลึกลงไปในรูขุมขน ทำให้ BHAs มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการขัดผิวระดับพื้นผิวในประเภทผิวมัน

4. ลดการอักเสบและรอยแดง

 – BHA มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการลดรอยแดงและการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสิว ตัวอย่างเช่น กรดซาลิไซลิกสามารถช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้

5. ต้านเชื้อแบคทีเรีย

– BHA ยังแสดงคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียซึ่งช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวบนผิวหนัง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดสิวและรักษาผิวให้กระจ่างใส

6. สร้างเนื้อผิวเรียบเนียน

 – ด้วยการล้างรูขุมขนอย่างสม่ำเสมอและขจัดชั้นนอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว BHAs จะปรับปรุงพื้นผิวโดยรวมของผิว ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

7. เพิ่มความสามารถในการดูดซึมสกินแคร์

 – เช่นเดียวกับ AHA ผลการขัดผิวของ BHA จะช่วยเพิ่มความสามารถของผิวในการดูดซับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วน้อยลงและรูขุมขนเปิด ทรีตเมนต์และมอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงสามารถซึมซาบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

BHA เป็นส่วนผสมที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องรับมือกับผิวมันและเป็นสิวง่าย ความสามารถในการเจาะลึกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก รวมกับคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการปรับปรุงความกระจ่างใสของผิวและสุขภาพ การใช้เป็นประจำสามารถนำไปสู่การปรับปรุงเนื้อผิว ลักษณะ และสภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Cr. Unsplash

AHA BHA ต่างกันยังไง ?

ประโยชน์ของ AHA และ BHA

AHA BHA คือสารสกัดที่ได้รับการยกย่องในด้านความสามารถในการส่งเสริมการสร้างเซลล์ใหม่โดยการขัดผิวและขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน นี่คือประโยชน์บางส่วน:

• ปรับปรุงเนื้อผิว: AHA BHA มีประสิทธิภาพในการทำให้เนื้อผิวเรียบเนียนและลดการปรากฏของริ้วรอย ขจัดเซลล์ผิวเก่า (Exfoliate)
• ปรับสีผิวให้กระจ่างใส: กรดเหล่านี้ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว เผยสีผิวที่กระจ่างใสขึ้น
• ป้องกันสิว: โดยเฉพาะ BHA (salicylic acid) ซึ่งแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกิน

สรุป ควรใช้ AHA หรือ BHA ดี ?

ถ้ารู้จัก AHA BHA คืออะไรไปแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่า แล้วคุณควรเลือกใช้ AHA หรือ BHA ดี ? ไม่ต้องห่วง! เราทำตารางสรุปมาให้แล้วว่า ผิวแบบไหนและความกังวลเรื่องผิวเรื่องไหนเหมาะกับ AHA หรือ BHA แบบใด

วิธีใช้ AHA และ BHA

การใช้ AHA และ BHA เกี่ยวข้องกับการดูแลผิวง่ายๆ

1. การทำความสะอาด: เริ่มต้นด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนเพื่อเตรียมผิวของคุณ
2. ทา AHA/BHA: เมื่อหน้าแห้ง ใช้สำลีแผ่นซับกรดAHA/BHA ทารอบใบหน้าหรือลงไปถึงช่องคอ หลีกเลี่ยงบริเวณตาและปาก 
3. เพิ่มความชุ่มชื้น: หลังจากที่กรดซึมเข้าสู่ผิวแล้ว ให้ทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้น
4. การป้องกันแสงแดด: ควรทาครีมกันแดดในตอนเช้าเสมอ รวมถึงใช้ร่มหรือหมวกหากจำเป็น เนื่องจากกรดเหล่านี้อาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น

ไอเทม AHA แนะนำ

ต่อไปนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยอดนิยม 3 รายการที่มี AHA รวมถึงคำแนะนำการใช้งาน ความถี่ในการใช้ และราคาตลาดโดยประมาณ

1. The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution โทนนิ่งโซลูชั่นกรดไกลโคลิกสามัญ 7%

• วิธีใช้: ทาลงบนสำลีแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
• ความถี่ในการใช้: ใช้ตอนเย็น ไม่เกินวันละครั้ง
• ราคาตลาด: ประมาณ 390 บาท สำหรับ 240ml.

2. Paula’s Choice Skin Perfecting 8% AHA Gel Exfoliant

• วิธีใช้: ใช้ปริมาณเล็กน้อยเพื่อทำความสะอาดผิว เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ไม่ต้องล้างออก
• ความถี่ในการใช้: ใช้วันละครั้งหรือสองครั้ง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิว
• ราคาตลาด: ประมาณ 1,200 บาท สำหรับ 100 ml.

3. MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster เซรั่มผิวกาย บำรุงผิวล้ำลึก เสริมชั้นผิว

มาดูผลิตภัณฑ์ AHA สำหรับผิวกายกันบ้างดีกว่า Mizumi แบรนด์ดีๆที่ใครก็ไม่ควรพลาด!

• วิธีใช้: หลังทำความสะอาดผิวกาย ทาโลชั่นให้ทั่วตัว เพื่อผิวกระจ่างใส สม่ำเสมอ บำรุงผิวล้ำลึก
• ความถี่ในการใช้: สามารถใช้ได้วันละ 2 ครั้ง หลังอาบน้ำในตอนเช้าและเย็น
• ราคาตลาด: ประมาณ 345 บาท สำหรับ 250 ml.

ไอเทม BHA แนะนำ

3 ไอเทมผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA ที่เราอยากมาแนะนำมีดังนี้ และยังรวมไปถึงคำแนะนำการใช้งาน ความถี่ในการใช้ และราคาตลาดโดยประมาณ

1. COSRX BHA Blackhead Power Liquid

• วิธีใช้: หลังจากทำความสะอาดแล้ว ให้ชุบสำลีแผ่นแล้วเช็ดของเหลวบาง ๆ ให้ทั่วผิว โดยเน้นบริเวณที่แออัด
• ความถี่ในการใช้: เริ่มใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นวันละครั้งเท่าที่ยอมรับได้
• ราคา: ประมาณ 545 บาท สำหรับ 100 ml.

2. Paula’s Choice Skin Perfecting 2% BHA Liquid Exfoliant เซรั่มลดเรือนริ้วรอย สิว

• วิธีใช้: ใช้วันละครั้งหรือสองครั้งหลังทำความสะอาดและปรับสี จุ่มสำลีแผ่นบางๆ แล้วทาให้ทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตาด้วย ไม่ต้องล้างออก
• ความถี่ในการใช้: แนะนำให้ใช้เป็นประจำทุกวัน เช้าหรือกลางคืน
• ราคา: ประมาณ 229 บาท สำหรับ 30 ml.

3. CUTE PRESS ACNE CLEAR 2% BHA

• วิธีใช้: ล้างหน้าทำความสะอาดผิวให้สะอาด ใช้โทนเนอร์ตามปกติ แล้วตามด้วย Cute Press Acne Clear ทาบางๆลงสำลีแล้วทาทั่วผิวหน้า ตามด้วย Acne care จะเห็นผลลัพธ์ในการลดการเกิดสิวมากขึ้น
• ความถี่ในการใช้: ใช้วันละ 1 ครั้ง หลังอาบน้ำและก่อนนอน
• ราคา: ประมาณ 254 บาท สำหรับ 30 ml.

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาผิวเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการขัดผิว สิว และการปรับปรุงพื้นผิวโดยรวม พิจารณาประเภทผิวและอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นเสมอเมื่อเริ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น AHA หรือ BHA

ไอเทม AHA และ BHA แนะนำ

1. SKINTIFIC 5% AHA BHA PHA Exfoliating Toner 80ml โทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิว

• วิธีใช้: ล้างหน้าทำความสะอาดผิวให้สะอาดก่อนทา ทาบางๆด้วยสำลีให้ทั่วบริเวณใบหน้าและลำคอ
• ความถี่ในการใช้: ใช้วันละ 2 ครั้งหลังล้างหน้า เช้าและเย็น
• ราคา: ประมาณ 375 บาท สำหรับ 80 ml.

ความแตกต่างที่สำคัญ: AHA กับ BHA

แม้ว่าทั้งสองชนิดจะเป็นสารขัดผิว แต่ AHA ก็เหมาะกับผิวแห้งเนื่องจากมีความสามารถในการละลายน้ำได้ ในขณะที่ BHA ทำงานได้ดีกว่าสำหรับผิวมันและเป็นสิวได้ง่ายเนื่องจากสามารถละลายในน้ำมันได้

ข้อควรระวังเมื่อใช้ AHA และ BHA

โดยทั่วไป AHA BHA ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน อย่างไรก็ตามทั้ง AHA vs BHA ต่าก็เป็นกรดชนิดหนึ่งทั้งคู่ จึงมีข้อควรระวังดังนี้

• การระคายเคืองผิวหนัง: ในระยะแรก กรดเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเล็กน้อย ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำ เช่น AHA 5% และ BHA 0.2% หากผิวของคุณรับได้จึงอาจค่อยเพิ่มสัดส่วนส่วนผสมขึ้น
• ความไวต่อแสงแดด: ความไวต่อแสงแดดเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องปกติ การใช้ครีมกันแดดในทุกเช้าเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมพกร่ม (ร่มกัน UV) หรือหมวกเพื่อบังแดดเพิ่มเติมเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีของการใช้ร่วมกับ AHA และ BHA
• ระวังว่า AHA BHA ห้ามใช้กับอะไร: เนื่องจากทั้ง AHA BHA คือกรดชนิดหนึ่งด้วยกันทั้งคู่ หากเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว อาจไม่ควรใช้คู่กับสกินแคร์หรือสารสกัดที่มีส่วนผสมของกรดเพิ่มเพราะผิวหน้าอาจระคายเคือง แพ้ เพราะได้รับปฏิกิริยามากเกินไป เราจะพูดถึงเรื่อง AHA BHA ห้ามใช้กับอะไร มากขึ้นในส่วนถัดไป

AHA BHA ห้ามใช้กับอะไร

เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มี AHA (Alpha Hydroxy Acids) หรือ BHA (Beta Hydroxy Acids) สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังในการรวมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้ากับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ เนื่องจากการรวมกันบางอย่างอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ขัดผิวมากเกินไป หรือลดประสิทธิภาพของสกินแคร์โดยรวม ต่อไปนี้เป็นสารบางชนิดที่ AHA BHA ห้ามใช้กับอะไรร่วมด้วย

1. เรตินอล/เรตินอยด์

 การรวม AHA หรือ BHA เข้ากับเรตินอลหรือเรตินอยด์ตามใบสั่งแพทย์สามารถเพิ่มการระคายเคืองผิวหนังได้ เนื่องจากส่วนผสมทั้งสองประเภทจะเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ผิวและสามารถลอกชั้นนอกของผิวหนังออกไปได้ หากคุณต้องการใช้ทั้งสองอย่าง ให้ลองใช้ในเวลาที่ต่างกันของวันหรือวันอื่น

2. วิตามินซี

 วิตามินซี โดยเฉพาะในรูปแบบบริสุทธิ์ (กรดแอล-แอสคอร์บิก) อาจไม่เสถียรและไวต่อการเปลี่ยนแปลง pH เนื่องจาก AHA และ BHA มีสภาพเป็นกรด การใช้ทั้งสองชนิดร่วมกับวิตามินซีสามารถเปลี่ยน pH ของผลิตภัณฑ์วิตามินซีได้ ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพและทำให้เกิดการระคายเคืองได้

3. ผลิตภัณฑ์ขัดผิวอื่นๆ

 การใช้ AHA หรือ BHA ร่วมกับผลิตภัณฑ์ขัดผิวอื่นๆ (การขัดผิวแบบกายภาพ การขัดผิวแบบเอนไซม์) อาจทำให้มีการขัดผิวมากเกินไป ส่งผลให้เกิดความแห้ง ระคายเคือง และอุปสรรคของผิวหนัง

4. เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์

 เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์มักใช้รักษาสิวแต่อาจรุนแรงกับผิวหนังได้ การใช้ร่วมกับ AHA หรือ BHA อาจทำให้เกิดความแห้งและระคายเคืองมากเกินไป โดยเฉพาะในสภาพผิวที่บอบบาง

5. มาส์กหน้าบางประเภท

 มาสก์โคลนหรือมาสก์ลอกผิวที่แห้งและกระชับอาจทำให้ผิวแห้งเกินไปเมื่อใช้ร่วมกับ AHA และ BHA สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและการระคายเคืองได้หากไม่จัดการอย่างระมัดระวัง

เคล็ดลับสำหรับการใช้ AHA BHA อย่างปลอดภัย

• การทดสอบแพทช์: ทดสอบแพทช์เสมอเมื่อแนะนำส่วนผสมใหม่ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในชีวิตประจำวันของคุณ
• การแนะนำแบบค่อยเป็นค่อยไป: หากคุณตั้งใจจะใช้ส่วนผสมที่อาจขัดแย้งกัน (เช่นที่ระบุไว้ข้างต้น) ให้ค่อยๆ แนะนำและติดตามการตอบสนองของผิว
• การป้องกันแสงแดด: AHA โดยเฉพาะสามารถทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นควรใช้ครีมกันแดดแบบสเปกตรัมกว้างในระหว่างวันเสมอ

ด้วยการทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ คุณสามารถปรับแต่งกิจวัตรการดูแลผิวของคุณให้ทั้งมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มผลประโยชน์สูงสุด

ความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับ AHA และ BHA

• ใช้ AHA BHA คือจะเห็นผลลัพธ์ทันที: เป็นความเชื่อที่ผิดเพราะการรักษาด้วย AHA BHA มักต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปหลายวันหรือหลายสัปดาห์จึงจะเห็นผล
• AHA กับ BHA ใช้สำหรับจัดการสิวเท่านั้น?: แม้ว่า BHA จะดีเลิศสำหรับการต่อสู้กับสิว แต่ BHA ก็ยังมีประโยชน์อื่นด้วย และ AHA ก็ใช้ได้กับปัญหาผิวหลากหลาย รวมถึงจุดด่างอายุและริ้วรอย

บทสรุป

AHA BHA คือคู่หูที่พลิกโฉมผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งสามารถปรับปรุงสภาพผิวและความกระจ่างใสได้อย่างมาก ไม่ว่าคุณกำลังเผชิญกับความแห้งกร้าน สัญญาณแห่งวัย หรือสิว การเพิ่มกรดเหล่านี้ลงในกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ หรือเลือกซื้อสกินแคร์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ ก็จะสามารถรับประโยชน์จากเหล่ากรดพวกนี้เป็นอย่างมาก ควรใช้อย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง ควบคู่ไปกับการปกป้องแสงแดด และใจเย็นในการรอผลลัพธ์ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มข้อดีของ AHA และ BHA ให้สูงสุด รู้จักทั้ง AHA BHA คืออะไรแล้ว ประโยชน์ การใช้ ข้อควรระวัง รวมถึงไอเทมสกินแคร์มีส่วนผสม AHA BHA แนะนำ ยังไงก็ขอให้คุณมีวันที่ผิวใสสุขภาพดี รอติดตามบทความดีๆใหม่ได้ที่ Shopee Blog และอย่างลืมมาช้อปไอเทมดีๆเหล่านี้ที่ Shopee !

Credit:

• Exploring the Efficacy of AHA-BHA Infused Nanofiber Skin Masks as a Topical Treatment for Acne Vulgaris – Research Gate – Elçin Tören & Matej Buzgo
• Dual Effects of Alpha-Hydroxy Acids on the Skin – National Library of Medecine – Sheau-Chung Tang and Jen-Hung Yang
• image from unsplash