Shopee Blog | โลกแห่งไลฟ์สไตล์และ Insight แห่งการช้อปออนไลน์
No Result
View All Result
  • Fashion & Trends
    • Men’s Fashion
    • Women’s Fashion
    • Unisex Fashion & Accessories
  • Health & Beauty
    • Makeup & Hairs
    • Skincare & Cosmetics
    • Health & Beauty Tips
    • Elderly Care
    • Food & Supplements
  • Tech & Gadgets
    • Computer & Laptops
    • Mobile & Tablets
    • Camera & Photography
    • Gadgets
    • Home Appliances
  • Automotive
    • Cars
    • Motorcycle & Bike
  • Life at Home
    • Tree & Garden
    • Home and Living
    • Moms & Kids
  • Pets
    • Dogs
    • Cats
    • Other Pets
  • Foods & Beverages
    • Food & Drinks
    • Desserts & Baking
    • Vegan & Vegetarian
    • Cooking Tips
      • Food Recipes
  • Lifestyle
    • Work & Productivity
    • Financial & Investment
    • Belief & Horoscope
    • Self Improvement
    • Special Occasion
    • DIY & Tips
    • Sports
    • Travel
      • Cafe & Restaurant
      • Travel in Thailand
      • Oversea Travel
      • Holiday
  • Entertainment
    • Series
    • Books & Comic
    • Music
    • Movies & Short Films
    • Cartoon & Anime
    • Games
  • Shopee
    • #LIFEATSHOPEE
    • Upcoming events
    • Shopping Tips
    • Partnership
  • Fashion & Trends
    • Men’s Fashion
    • Women’s Fashion
    • Unisex Fashion & Accessories
  • Health & Beauty
    • Makeup & Hairs
    • Skincare & Cosmetics
    • Health & Beauty Tips
    • Elderly Care
    • Food & Supplements
  • Tech & Gadgets
    • Computer & Laptops
    • Mobile & Tablets
    • Camera & Photography
    • Gadgets
    • Home Appliances
  • Automotive
    • Cars
    • Motorcycle & Bike
  • Life at Home
    • Tree & Garden
    • Home and Living
    • Moms & Kids
  • Pets
    • Dogs
    • Cats
    • Other Pets
  • Foods & Beverages
    • Food & Drinks
    • Desserts & Baking
    • Vegan & Vegetarian
    • Cooking Tips
      • Food Recipes
  • Lifestyle
    • Work & Productivity
    • Financial & Investment
    • Belief & Horoscope
    • Self Improvement
    • Special Occasion
    • DIY & Tips
    • Sports
    • Travel
      • Cafe & Restaurant
      • Travel in Thailand
      • Oversea Travel
      • Holiday
  • Entertainment
    • Series
    • Books & Comic
    • Music
    • Movies & Short Films
    • Cartoon & Anime
    • Games
  • Shopee
    • #LIFEATSHOPEE
    • Upcoming events
    • Shopping Tips
    • Partnership
No Result
View All Result
Shopee Blog | Shopee Thailand เนื้อหาสาระไลฟ์สไตล์ครบครัน พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ทุกวัน
No Result
View All Result
Home Lifestyle Knowledge & Biography

เมคเฟรนคือ อะไร? วิธีตอบและทำให้สนุกแบบไม่โป๊ะ

Gam weerawat by Gam weerawat
October 28, 2025
in Knowledge & Biography, Lifestyle
Reading Time: 7 mins read
เมคเฟรนคืออะไร? รวมวิธีเมคเฟรน พร้อมประโยคชวนคุย ใช้ได้จริง
0
SHARES
4
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare in Line

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “เมคเฟรน (Make friend)” กลายเป็นศัพท์ฮิตในโลกออนไลน์และวงสนทนา โดยเฉพาะเวลาแนะนำตัวในงานอีเวนต์ มหาวิทยาลัย หรือแชตกลุ่ม เพื่อนใหม่มักถาม-ตอบกันแบบสั้น กระชับ และเป็นกันเอง บทความนี้พาไปรู้จัก “เมคเฟรน” ตั้งแต่ความหมายจนถึงวิธีใช้ พร้อมไอเดียประโยคเริ่มคุยมากถึง 80 ตัวอย่าง ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (สอดแทรกมุมมองจาก MBTI เพื่อช่วยอ่านสไตล์คุยของแต่ละคนได้ดีขึ้น) ระหว่างอ่าน ถ้าชอบคอนเทนต์แนวนี้

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

  • เมคเฟรนคืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นคำฮิต
    • ที่มาของคำว่าเมคเฟรน
    • ทำไมถึงนิยมใช้ในปัจจุบัน
  • ประโยค เมคเฟรนสำหรับเพื่อนใหม่
    • ตัวอย่างประโยคเมคเฟรน (40 ไอเดีย)
    • ตัวอย่างตอบ เพื่อต่อประโยคสนทนา (40 ไอเดีย)
    • เทคนิคตอบให้เข้ากับสถานการณ์ (อ่านสั้น เข้าใจง่าย)
  • วิธีเมคเฟรน ใช้ยังไงในชีวิตจริง
    • 1. สังเกต: หาสิ่งร่วม เช่น ป้ายชื่อ เสื้อทีม อุปกรณ์ที่ใช้
    • 2. เริ่ม: เปิดด้วยประโยคสั้น ๆ + คำถามหนึ่งข้อ
    • 3. ต่อ: เสนอทางเลือกถัดไป (ชวนเดิน ชวนดูบูธ)
    • 4. เก็บ: แลกช่องทางติดต่อและโน้ตสั้น ๆ ไว้จำว่า “เจอที่ไหน คุยเรื่องอะไร”
  • วิธีเมคเฟรนในแชต
    • เปิดด้วยบริบทชัด ๆ ว่ามาจากที่ไหน
    • ใช้ประโยคสั้น 1–2 บรรทัด/หนึ่งย่อหน้า อ่านง่าย
    • ใช้อิโมจิพอดี ๆ เพื่อใส่น้ำเสียง แต่เลี่ยงสแปม
    • ถามปลายเปิดพร้อมตัวเลือก
    • สรุปด้วย “ทางต่อ” เช่น ส่งลิงก์ รูป หรือโน้ตสรุป
  • ตัวอย่างสถานการณ์การใช้เมคเฟรน
  • เคล็ดลับและวิธีเมคเฟรนแบบง่าย ๆ ได้เพื่อนใหม่แน่นอน
    • 1) เตรียม “อินโทร 10 วินาที”
    • 2) กฎ 70/30
    • 3) ชมอย่างจริงใจ + ระบุสิ่งที่ชม
    • 4) ใช้พร็อพชวนคุย
    • 5) จบให้มีทางต่อเสมอ
    • 6) ระบบจำชื่อและบริบท
    • 7) ปรับตาม MBTI/สไตล์การคุย
  • สิ่งที่ห้ามทำ สำหรับการเมคเฟรน
    • 1) ถามเรื่องส่วนตัวลึกเกินไปตั้งแต่ต้น
    • 2) เปิดมาด้วยการขายของ/ยัดเยียดบริการ
    • 3) พูดแทรก ไม่ฟังให้จบ
    • 4) โยนมุกที่อาจล้อเลียนอัตลักษณ์
    • 5) Overpromise แล้วหาย
    • 6) ส่งข้อความถี่เกิน/ยาวเกิน
  • สรุป

เมคเฟรนคืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นคำฮิต

ก่อนอื่น “เมคเฟรน” มาจากอังกฤษคำว่า make friend ความหมายตรงตัวคือ “ชวนกันมาเป็นเพื่อน” แต่ในภาษาไทยใช้เป็นคำกริยาแบบสบาย ๆ เช่น “ไปงานวันนี้ เมคเฟรนหน่อยมั้ย” หรือ “เดี๋ยวเมคเฟรนในกลุ่มไลน์” จุดเด่นคือความเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ และเหมาะกับบริบทสั้น ๆ ที่ต้องการ “เปิดบทสนทนา” เพื่อดูทิศทางต่อว่าจะคุยเรื่องอะไรต่อดี

ที่มาของคำว่าเมคเฟรน

คำนี้แพร่หลายจากแคปชันและคอมเมนต์ในโซเชียล เช่น IG, X (Twitter) รวมถึงกลุ่มแชตมหาวิทยาลัย/ที่ทำงาน คนพูดติดปากเพราะออกเสียงง่าย ตลกนิด ๆ และสื่อได้ทันทีว่า “อยากเริ่มคุยแบบเพื่อน” ไม่ผูกมัดหรือเป็นทางการเกินไป

ทำไมถึงนิยมใช้ในปัจจุบัน

ยุคแชตและคอนเทนต์สั้นต้องการ “ประโยคเปิด” ที่ไม่เกร็ง “เมคเฟรน” จึงเป็นเหมือนป้ายไฟชวนคุย เหมาะทั้งงานเน็ตเวิร์กกิง ออนบอร์ดดิ้งพนักงานใหม่ คลาสเวิร์กชอป ไปจนถึงการคอมเมนต์ในไลฟ์สตรีม นอกจากนี้ คนจำนวนมากสนใจเครื่องมือรู้จักตัวเองอย่าง MBTI พอรู้สไตล์ I/E, T/F ก็ยิ่งหา “จุดเริ่มบทสนทนา” ที่เข้ากันได้ง่ายขึ้น

ประโยค เมคเฟรนสำหรับเพื่อนใหม่

การเมคเฟรนที่ได้ผลควร สั้น ชัด อุ่นใจ บอกตัวตนเล็กน้อย + เปิดช่องให้เขาตอบง่าย (เช่น คำถามปลายเปิดระดับตื้น ๆ) ด้านล่างคือไอเดียประโยคเปิดและประโยคต่อบทสนทนาที่ใช้ได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เลือกหยิบให้เข้ากับสไตล์ของคุณและบริบทหน้างานได้เลย หากอยากหาไอเดียของขวัญเล็ก ๆ ไว้พกไป “เมคเฟรน”

ตัวอย่างประโยคเมคเฟรน (40 ไอเดีย)

  • สวัสดี เราชื่อ___ มาจากทีม___ เธอล่ะ
  • มางานครั้งแรกเหมือนกันไหม
  • เราชอบบรรยากาศที่นี่จัง เธอว่าไง
  • วันนี้ตั้งใจมาเรียนรู้อะไรเป็นพิเศษไหม
  • เห็นถือหนังสือเล่มนั้น น่าสนใจจัง
  • เพลงที่เปิดอยู่เพราะเนอะ ชอบแนวนี้ไหม
  • เราเพิ่งย้ายมาทำงานแถวนี้ แนะนำร้านกาแฟหน่อยได้ไหม
  • เธอรู้จักเจ้าบ้านงานนี้ไหม
  • เรากำลังหาคนคุยเรื่องโปรเจกต์___ อยากเมคเฟรนด้วยไหม
  • คิวลงทะเบียนยาวเลย เธอมาจากไหน
  • ชอบธีมงานวันนี้จัง เธอให้กี่คะแนน
  • MBTI เธออะไร เราเป็น___
  • เราเห็นเสื้อทีมเธอ ลายเท่มาก ซื้อที่ไหน
  • มุมถ่ายรูปตรงไหนสวยสุด เธอมีแนะนำไหม
  • เธอเคยมาอีเวนต์ของที่นี่มาก่อนหรือเปล่า
  • เราหาที่นั่งคู่ได้ไหม อยากแลกเปลี่ยนไอเดีย
  • กำลังอินซีรีส์อะไรอยู่ แนะนำหน่อย
  • ชอบทำกิจกรรมแนวไหนวันหยุด
  • เธอใช้แอปจดโน้ตอะไรอยู่ เก๋จัง
  • เรากำลังเริ่มวิ่ง/ปั่นจักรยาน มีทริกไหม
  • เพิ่งลองกาแฟเมนูนี้ อร่อยกว่าที่คิด เธอลองยัง
  • เธอมาคนเดียวหรือมากับทีม
  • เราตามเพจวิชา/งานสายนี้อยู่ เพิ่งเจอโพสต์ดี ๆ เธอตามไหม
  • งานนี้มีเวิร์กชอปไหนน่าลองสุด
  • ชอบฟังพอดแคสต์อะไร แนะนำหน่อย
  • เราชื่อเล่น___ เรียกสั้น ๆ ก็ได้นะ
  • เธอสบายใจถ้าเราขอไอจี/ลิงก์ลิงก์ดินไหม
  • เห็นป้ายชื่อเธอ ลายมือสวยมาก
  • กำลังหาเพื่อนลองเมนูใหม่ ๆ แถวนี้ ไปด้วยกันไหม
  • เธอเริ่มสนใจสายงานนี้ได้ยังไง
  • เราเพิ่งย้ายมาเมืองนี้ มีที่ไหนต้องไปบ้าง
  • เห็นสติกเกอร์โน้ตบุ๊กเธอ น่ารัก ซื้อที่ไหน
  • เราอยากฝึกภาษา/สกิล___ เธอมีแหล่งแนะนำไหม
  • ฟังบรรยายเมื่อกี้แล้วคิดยังไง
  • เธอเจอปัญหาคล้าย ๆ กันในงานไหม
  • ถ่ายรูปให้กันไหม เดี๋ยวสลับกันถ่าย
  • เธอชอบทำงานคาเฟ่ไหนบ้าง
  • วันนี้ตั้งเป้าหาเพื่อนใหม่หนึ่งคน เราขอเป็นคนนั้นได้ไหม
  • เธอสะดวกคุยต่อหลังจบเซสชันไหม
  • ขอบคุณที่คุยด้วยนะ ขอเมคเฟรนไว้เป็นเพื่อนไว้แชร์ไอเดียกันไหม

ตัวอย่างตอบ เพื่อต่อประโยคสนทนา (40 ไอเดีย)

  • โอเคเลย เราชื่อ___ ยินดีที่ได้รู้จัก
  • ใช่เลย เราก็มาครั้งแรกเหมือนกัน
  • ร้านกาแฟแถวนี้มี___ อร่อยมาก ลองไหม
  • คะแนนเราสัก 8/10 ชอบเวทีหลัก
  • เราเป็น INFJ/ENTP ล่ะเธอ
  • เสื้อซื้อออนไลน์ เดี๋ยวส่งลิงก์ให้
  • มุมถ่ายรูปด้านซ้ายแสงสวย เดี๋ยวพาไป
  • เคยมาแล้ว สนุกทุกครั้ง
  • ได้นะ เราชอบแลกไอเดีย
  • ซีรีส์แนวสืบสวนปะ ชอบเหมือนกัน
  • วันหยุดเราทำ___ ถ้าเธอสนใจไปด้วยกันได้
  • เราใช้ Notion/Google Keep สะดวกดี
  • เริ่มวิ่งเดือนนี้เหมือนกัน จัดกรุ๊ปไหม
  • เมนูนี้เด็ด! ต่อคิวอีกแก้วไหม
  • มากับทีมเล็ก ๆ ของที่ทำงาน
  • ตามเพจ___ อยู่เหมือนกัน โพสต์ล่าสุดดีมาก
  • เราเล็งเวิร์กชอปบ่ายสอง ไปด้วยกันไหม
  • พอดแคสต์ “___” ดีมาก ส่งตอนโปรดให้ได้
  • เรียกเราว่า___ ก็ได้
  • ให้ไอจีได้ เดี๋ยวฟอลกลับ
  • ขอบคุณนะ เดี๋ยวเราแชร์สติกเกอร์ร้านให้
  • ยินดีเลย ไปลองเมนูใหม่กัน
  • เราเริ่มจากคอร์สออนไลน์ของ___
  • เมืองนี้ต้องไป___ บรรยากาศดี
  • สติกเกอร์ซื้อจากร้านในแอป เดี๋ยวปักหมุดให้
  • ภาษา/สกิล___ เราเรียนจากคอมมูนิตี้นี้ ลองเข้าดู
  • เซสชันเมื่อกี้อินไซต์ดีมาก โดยเฉพาะเรื่อง___
  • ใช่ เราก็เจอปัญหาคล้าย ๆ ลองวิธี___ แล้วดีขึ้น
  • ถ่ายรูปสลับกันได้เลย
  • คาเฟ่โปรดเราอยู่ซอย___
  • ได้สิ เราชอบรู้จักเพื่อนใหม่
  • ดีเลย จบเซสชันค่อยคุยต่อ
  • ยินดีมาก ไว้แชร์งาน/ไอเดียกัน
  • ชอบสไตล์การคุยเธอ คุยง่ายดี
  • ขอบคุณที่เปิดบทสนทนาก่อนนะ
  • งั้นเราแลกคอนแท็กกันไว้ก่อน
  • เราสนใจเข้ากลุ่มเรียน/ฝึกด้วย
  • ไว้นัดคอลสั้น ๆ ได้ไหม 15 นาทีพอ
  • ถ้าสนใจหัวข้อ___ เดี๋ยวรวบรวมลิงก์ให้
  • ดีใจที่ได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกคน!

เทคนิคตอบให้เข้ากับสถานการณ์ (อ่านสั้น เข้าใจง่าย)

  1. สะท้อนบางคำของคู่สนทนา (Mirroring) ช่วยให้ลื่นไหล เช่น เขาพูด “เพิ่งเริ่มวิ่ง” คุณตอบ “เริ่มวิ่งตอนไหน ใช้แอปไหนจดระยะ”
  2. ใช้คำถามปลายเปิดระดับตื้น เน้นงาน กิจกรรม สิ่งของรอบตัว หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว
  3. ใส่บริบทตัวเองนิดเดียว เพื่อให้เขาจับทางต่อ เช่น “เราชอบพอดแคสต์เทคโนโลยี เธอมีแนะนำไหม” (โยงไปคอนเทนต์ แก็ดเจ็ต & เทคโนโลยี)
  4. เรียกชื่ออีกฝ่ายบ้าง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยจำ
  5. มี “ทางต่อ” เสมอ ชวนไปมุมถ่ายรูป แลกเพลย์ลิสต์ สลับถ่ายรูป หรือแลกลิงก์งานตัวอย่าง
วิธีเมคเฟรน ใช้ยังไงในชีวิตจริง

วิธีเมคเฟรน ใช้ยังไงในชีวิตจริง

การเมคเฟรนในชีวิตจริงแตกต่างจากในแชตตรงที่ “ต้องอาศัยการสังเกตและจังหวะ” มากกว่า เพราะเราจะไม่มีเวลาแก้ข้อความหรือคิดนาน ๆ เหมือนในออนไลน์ ทุกคำพูด ท่าทาง และสายตาล้วนสื่อสารแทนความตั้งใจได้หมด หลักง่าย ๆ ที่ใช้ได้เสมอคือ “สังเกต > เริ่ม > ต่อ > เก็บ” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ช่วงก่อนคุย ระหว่างคุย และหลังจากจบการพูดคุย หากทำครบทั้ง 4 ขั้นตอนนี้ การเมคเฟรนของคุณจะดูเป็นธรรมชาติและมีโอกาสได้เพื่อนใหม่จริง ๆ มากขึ้น

หลักคือ สังเกต > เริ่ม > ต่อ > เก็บ

1. สังเกต: หาสิ่งร่วม เช่น ป้ายชื่อ เสื้อทีม อุปกรณ์ที่ใช้

ก่อนจะเริ่มบทสนทนา ลองใช้เวลาไม่กี่วินาทีสังเกตสิ่งรอบตัวของอีกฝ่าย เพราะ “จุดร่วม” คือประตูสู่การคุย เช่น ป้ายชื่อที่ระบุอาชีพ เสื้อทีมที่มีโลโก้กิจกรรมเดียวกัน หรืออุปกรณ์ที่ใช้คล้ายกัน เช่น กล้องรุ่นเดียวกัน หรือโน้ตบุ๊กยี่ห้อเดียวกัน การสังเกตเล็ก ๆ แบบนี้ช่วยให้คุณมี “หัวข้อเปิด” ที่เป็นธรรมชาติและดูไม่จงใจเกินไป เช่น “อ้าว ใช้กล้องรุ่นนี้เหมือนกันเลย!” เพียงเท่านี้ก็นำไปสู่บทสนทนาได้ทันที

2. เริ่ม: เปิดด้วยประโยคสั้น ๆ + คำถามหนึ่งข้อ

เมื่อมีจุดร่วมแล้ว ให้เริ่มต้นคุยด้วยประโยคสั้น ๆ ที่เป็นมิตรและไม่เป็นทางการ เช่น “เมื่อกี้บูธนี้คนเยอะมากเลยใช่ไหมครับ” หรือ “เห็นถือหนังสือเล่มนี้อยู่ ดีไหมคะ กำลังเล็งจะซื้ออยู่เหมือนกัน” แล้วตามด้วยคำถามปลายเปิด 1 ข้อ เพื่อให้เขาได้เล่าเพิ่ม การเปิดบทแบบนี้ช่วยทำให้การคุยดูเนียน ไม่รู้สึกเหมือน “พยายามเข้าหา” แต่กลับดูเหมือนเป็นคนเปิดใจอยากรู้จักอย่างจริงใจ

3. ต่อ: เสนอทางเลือกถัดไป (ชวนเดิน ชวนดูบูธ)

เมื่อการคุยเริ่มเข้าที่ อย่าปล่อยให้มันจบลงแค่คำพูดสั้น ๆ ลองต่อบทสนทนาด้วย “ข้อเสนอเล็ก ๆ” เช่น “ไปดูบูธข้าง ๆ กันไหม” หรือ “เดี๋ยวกำลังจะไปฟังพาเนลอีกอัน ไปด้วยกันไหม” การชวนต่อยอดแบบนี้ช่วยให้บทสนทนาไม่สะดุด และสร้างความรู้สึกเป็นทีมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกิจกรรมหรือเวิร์กชอปที่ทุกคนมีเป้าหมายคล้ายกัน การเมคเฟรนจะง่ายขึ้นมากเมื่อคุณทำให้เขารู้สึกว่า “เราอยู่ฝั่งเดียวกัน”

4. เก็บ: แลกช่องทางติดต่อและโน้ตสั้น ๆ ไว้จำว่า “เจอที่ไหน คุยเรื่องอะไร”

ตอนจบของการพูดคุยคือช่วงสำคัญที่สุด เพราะเป็นจังหวะที่คุณต้อง “เก็บความสัมพันธ์ไว้ต่อยอด” ลองแลกช่องทางติดต่อ เช่น โซเชียลมีเดีย LinkedIn หรือ Instagram พร้อมโน้ตสั้น ๆ ไว้เตือนความจำ เช่น “เจอที่งานออกแบบ UX / คุยเรื่องเครื่องมือรีเสิร์ช” เพื่อให้ทักครั้งต่อไปง่ายและไม่เกร็ง การจำรายละเอียดเล็ก ๆ จะทำให้การพูดคุยครั้งหน้าไหลลื่นเหมือนเพื่อนเก่าเจอกันอีกครั้ง

วิธีเมคเฟรนในแชต

การเมคเฟรนผ่านแชตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนชอบ เพราะไม่ต้องเจอหน้ากันตรง ๆ และมีเวลาคิดก่อนตอบ แต่ความท้าทายคือจะทำยังไงให้ข้อความแรกดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแปลกหรือรีบรุกเกินไป เคล็ดลับสำคัญคือ “เริ่มจากความจริงใจและมีบริบท” เพราะในโลกออนไลน์ การสื่อสารต้องพึ่งถ้อยคำมากกว่าอารมณ์เสียงหรือท่าทาง ดังนั้นโทน คำ และจังหวะจึงสำคัญมาก มาดูวิธีเปิดบทสนทนาและรักษาการคุยให้น่าสนใจต่อเนื่องกัน

เปิดด้วยบริบทชัด ๆ ว่ามาจากที่ไหน

เริ่มต้นด้วยการบอกให้คู่สนทนารู้ว่าคุณมาจากไหนหรือเจอกันในสถานการณ์ใด จะช่วยลดความรู้สึกแปลกหน้าทันที เช่น “เราเจอกันที่เวิร์กชอป UX เมื่อวาน” หรือ “เห็นคอมเมนต์คุณในโพสต์ดีไซน์เลยอยากทัก” การให้บริบทที่ชัดเจนทำให้ข้อความแรกมีความหมาย ไม่ดูสุ่มทักหรือแปลก ๆ และช่วยสร้างภาพจำในใจอีกฝ่ายได้ง่ายกว่า

ใช้ประโยคสั้น 1–2 บรรทัด/หนึ่งย่อหน้า อ่านง่าย

การส่งข้อความยาวเกินไปตั้งแต่แรกอาจทำให้คนอ่านรู้สึกเหนื่อย หรือไม่รู้จะตอบตรงไหนก่อน การเมคเฟรนในแชตควรเน้น “สั้น กระชับ และมีใจความ” เช่น ทักทาย–ใส่บริบท–ชวนคุยต่อในสองบรรทัดก็เพียงพอ การจัดข้อความให้มีช่องว่างช่วยให้อ่านง่ายขึ้น เหมือนการออกแบบ UX ของการสื่อสาร ที่ให้ “ผู้ใช้” หรือคนอ่าน รู้สึกสบายตาและอยากตอบกลับ

ใช้อิโมจิพอดี ๆ เพื่อใส่น้ำเสียง แต่เลี่ยงสแปม

อิโมจิเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคแชต เพราะช่วยสื่ออารมณ์ที่คำพูดไม่พอ แต่ต้องใช้อย่างมีสติ เช่น 😊 😆 หรือ 🙌 ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใส่ 10 ตัวติดกัน เพราะอาจดูเหมือนพยายามเกินไป หรือทำให้คู่สนทนาอ่านยาก การใช้อิโมจิพอดี ๆ จะช่วยเพิ่มความเป็นกันเองโดยไม่เสียความมืออาชีพ เหมาะทั้งในบริบทส่วนตัวและกึ่งทางการ เช่น การคุยในคอมมูนิตี้งาน

ถามปลายเปิดพร้อมตัวเลือก

การถามคำถามปลายเปิดช่วยให้บทสนทนาไม่ตันเร็ว เช่น แทนที่จะถามว่า “เสาร์นี้ว่างไหม” ลองเปลี่ยนเป็น “เสาร์หรืออาทิตย์สะดวกกว่า?” การให้ตัวเลือกทำให้คนตอบรู้สึกมีส่วนร่วม และลดแรงกดดันเพราะไม่ต้องคิดคำตอบยาวเอง เทคนิคนี้ยังช่วยให้คุณดูใส่ใจและตั้งใจคุย ไม่ใช่แค่ทักมาเฉย ๆ แล้วหายไป

สรุปด้วย “ทางต่อ” เช่น ส่งลิงก์ รูป หรือโน้ตสรุป

การจบบทสนทนาด้วย “สิ่งที่ต่อยอดได้” เช่น ส่งลิงก์ที่พูดถึง รูปจากกิจกรรม หรือโน้ตสรุปสั้น ๆ จะทำให้คู่สนทนารู้สึกว่าคุณให้คุณค่า ไม่ใช่คุยเล่น ๆ แล้วหายไป นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีในการวางแผนเจอกันหรือพูดคุยต่อ เช่น “เดี๋ยวส่งโน้ตที่เราคุยไว้ให้นะ” หรือ “ไว้คุยต่อเรื่องนั้นในอาทิตย์หน้า” ช่วยให้การเมคเฟรนดูต่อเนื่องและมีโอกาสพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ระยะยาว

ตัวอย่างสถานการณ์การใช้เมคเฟรน

ตัวอย่างสถานการณ์การใช้เมคเฟรน

ในงานเน็ตเวิร์กกิง ให้เริ่มจากบรรยากาศรอบตัว เช่นเวที บูธ คิวอาหาร ในห้องเรียนเริ่มจากหัวข้อวิชาหรือโปรเจกต์ที่กำลังทำ ในคาเฟ่เริ่มจากเมนูหรือมุมถ่ายภาพ ส่วนบนไลฟ์สตรีม กลุ่มออนไลน์ เริ่มจากคอมเมนต์ที่สร้างประโยชน์ เช่นสรุปไฮไลต์ที่วิทยากรพูด แล้วชวนแลกแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม จากนั้นเก็บคอนแท็กและทักทายซ้ำภายใน 24–48 ชั่วโมง (ถ้าอยากหาไอเดียแต่งมุมพบปะเพื่อนที่บ้าน แวะดู บ้านและไอเดียจัดบ้าน ได้)

เคล็ดลับและวิธีเมคเฟรนแบบง่าย ๆ ได้เพื่อนใหม่แน่นอน

1) เตรียม “อินโทร 10 วินาที”

ก่อนจะเริ่มเมคเฟรน ลองซ้อมพูด “อินโทร 10 วินาที” เกี่ยวกับตัวเองให้กระชับและชัดเจน เพราะการแนะนำตัวที่ดีช่วยให้คู่สนทนารู้ว่าคุณคือใคร สนใจเรื่องอะไร และกำลังมองหาแบบไหน เช่น “เราเป็นดีไซเนอร์อินเตอร์เฟซ สนใจเรื่อง UX Research กำลังหาเพื่อนคุยแลกเครื่องมือที่ใช้กันอยู่” การเตรียมแบบนี้ช่วยให้การเปิดบทสนทนาเป็นธรรมชาติ ไม่ยืดยาว และทำให้คนฟังรู้สึกว่า “อยากรู้จักต่อ” มากกว่าแค่ทักทายทั่วไป

2) กฎ 70/30

หัวใจของการเมคเฟรนที่ดีคือ “ฟังให้มากกว่าพูด” โดยใช้กฎ 70/30 คือ ปล่อยให้คู่สนทนาได้เล่า 70% แล้วคุณพูดเสริมเพียง 30% ด้วยคำถามหรือความคิดเห็นสั้น ๆ วิธีนี้ช่วยให้เขารู้สึกว่าคุณตั้งใจฟังและให้ความสนใจจริง ๆ เช่น พอเขาเล่าเรื่องงานหรือกิจกรรม คุณอาจถามต่อว่า “แล้วตอนนั้นเจอปัญหาไหม?” หรือ “โห ฟังดูน่าสนุกมากเลย” การให้พื้นที่อีกฝ่ายคือกุญแจสำคัญของการสร้างความไว้วางใจ

3) ชมอย่างจริงใจ + ระบุสิ่งที่ชม

คำชมเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเมคเฟรน แต่ต้องมาจากความจริงใจและมีรายละเอียด การพูดชมแบบกว้าง ๆ อย่าง “เก่งจังเลย” มักฟังดูทั่วไปเกินไป ลองระบุสิ่งที่คุณประทับใจ เช่น “สไลด์ที่คุณทำ สรุปข้อสามได้น่าสนใจมาก” หรือ “โทนสีเสื้อกับรองเท้าเข้ากันสุด ๆ” เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าคุณใส่ใจในรายละเอียด คำชมของคุณจะดูมีน้ำหนัก และช่วยเปิดใจให้เขาอยากคุยกับคุณมากขึ้น

เคล็ดลับและวิธีเมคเฟรนแบบง่าย ๆ ได้เพื่อนใหม่แน่นอน

4) ใช้พร็อพชวนคุย

บางครั้งการเมคเฟรนไม่จำเป็นต้องเริ่มจากคำพูด แต่อาจเริ่มจาก “สิ่งที่เห็น” รอบตัว เช่น เข็มกลัดลายเท่ ๆ เคสมือถือแปลกตา หรือกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัว สิ่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “พร็อพเปิดบทสนทนา” ได้ดี เช่น “เคสมือถือน่ารักจัง ซื้อที่ไหนเหรอ?” หรือ “กลิ่นน้ำหอมนี้หอมมากเลย” การชวนคุยจากสิ่งเล็ก ๆ ทำให้บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติและไม่กดดัน อีกฝ่ายก็รู้สึกสบายใจที่จะตอบกลับ

5) จบให้มีทางต่อเสมอ

หนึ่งในเทคนิคที่หลายคนมองข้ามคือ “การจบบทสนทนา” ให้มีจังหวะต่อ การพูดสรุปสั้น ๆ พร้อมนัดหมายเล็ก ๆ เช่น “ดีมากเลย เดี๋ยวคืนนี้ส่งลิสต์พอดแคสต์ให้นะ” เป็นการปิดจบที่มีคุณค่า เพราะคุณไม่ได้ตัดจบ แต่เปิดประตูไว้ให้เจอกันอีก การรักษาคำพูดในสิ่งที่รับปากไว้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยืนมากขึ้น

6) ระบบจำชื่อและบริบท

เคล็ดลับสำคัญของการเมคเฟรนคือ “จำชื่อและรายละเอียดเล็ก ๆ” ให้ได้ เพราะการทักชื่อได้ถูก หรือพูดถึงเรื่องที่เคยคุยไว้ แสดงว่าคุณใส่ใจจริง ๆ หลังเจอกัน ลองจดสั้น ๆ ว่า “ชื่อ–ที่เจอ–หัวข้อที่คุย–สิ่งที่รับปากไว้” วิธีนี้ช่วยให้บทสนทนาครั้งต่อไปเป็นธรรมชาติ ไม่เกร็ง และสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่ต้น เช่น “คราวก่อนคุณเล่าว่าชอบดูซีรีส์เกาหลี ตอนนี้ดูเรื่องใหม่ยัง?” เพียงเท่านี้ก็รู้สึกใกล้ชิดขึ้นทันที

7) ปรับตาม MBTI/สไตล์การคุย

คนแต่ละแบบมีวิธีสื่อสารไม่เหมือนกัน ถ้าเจอคนที่เป็น “I” (อินโทรเวิร์ต) ให้ใช้จังหวะคุยแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งถามลึกเร็วเกิน ส่วน “E” (เอ็กซ์โทรเวิร์ต) ชอบการพูดคุยแบบมีพลัง เปิดพื้นที่ให้เขาได้เล่าเยอะหน่อย ถ้าเป็นสาย “T” (คิดเป็นเหตุผล) ใช้ข้อมูลชัดเจน ส่วน “F” (อารมณ์ความรู้สึก) ใช้น้ำเสียงอบอุ่นและเห็นอกเห็นใจ การเมคเฟรนแบบเข้าใจความต่างจะช่วยให้ทุกการสนทนารู้สึกสบายใจและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : MBTI คืออะไร? รู้จัก 16 ประเภทแบบทดสอบบุคลิกภาพ ที่ช่วยให้รู้จักตัวเองมากขึ้น

สิ่งที่ห้ามทำ สำหรับการเมคเฟรน

1) ถามเรื่องส่วนตัวลึกเกินไปตั้งแต่ต้น

การชวนคุยเรื่องส่วนตัวอย่างรายได้ การเมือง ศาสนา หรือความสัมพันธ์ ตั้งแต่ยังไม่สนิท ถือเป็นการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว การเมคเฟรนที่ดีควรเริ่มจากหัวข้อกลาง ๆ เช่น งานอดิเรก หนัง เพลง หรือเรื่องทั่วไป เพื่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับเข้าสู่ประเด็นส่วนตัว การเคารพขอบเขตของอีกฝ่ายคือพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

2) เปิดมาด้วยการขายของ/ยัดเยียดบริการ

เริ่มบทสนทนาด้วยการขายของทันที มักทำให้คู่สนทนารู้สึกไม่จริงใจ เพราะเหมือนถูกมองเป็น “ลูกค้า” ไม่ใช่ “เพื่อน” วิธีที่ดีกว่าคือเริ่มจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พูดคุยในประเด็นที่อีกฝ่ายสนใจ แล้วค่อยเสนอสินค้าหรือบริการเมื่อมีบริบทและความไว้ใจ การเมคเฟรนจึงต้องเน้นสร้าง connection ก่อน conversion เสมอ

3) พูดแทรก ไม่ฟังให้จบ

การขัดหรือพูดแทรกกลางคันทำให้คู่สนทนารู้สึกไม่ถูกให้เกียรติ การฟังให้จบก่อนตอบคือมารยาทพื้นฐานที่สร้างความรู้สึกปลอดภัย การใช้ภาษากายช่วย เช่น พยักหน้า ยิ้ม หรือพูดเสริมสั้น ๆ อย่าง “อืม”, “เข้าใจเลย” ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น การฟังอย่างตั้งใจคือสัญญาณของความเคารพและการให้ค่าอีกฝ่าย

4) โยนมุกที่อาจล้อเลียนอัตลักษณ์

หลีกเลี่ยงมุกเกี่ยวกับเพศ เชื้อชาติ รูปร่าง สีผิว หรือภูมิหลัง เพราะแม้คุณจะไม่ได้ตั้งใจ แต่คำพูดเหล่านี้อาจกระทบใจอีกฝ่ายได้ง่าย โลกยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและความเข้าใจในความหลากหลาย การเมคเฟรนควรเริ่มจากอารมณ์ขันที่ปลอดภัย เช่น มุกเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไป ไม่ใช่ตัวตนของคนอื่น

5) Overpromise แล้วหาย

การพูดว่าจะส่งไฟล์ ลิงก์ หรือติดต่อกลับ แล้วไม่ทำ ทำให้ความเชื่อใจหายไปในทันที แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่สะท้อนถึงความรับผิดชอบและความจริงใจ การรักษาคำพูดเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเมคเฟรนดูมั่นคงและน่าไว้ใจมากขึ้น ถ้ายังทำไม่ได้ตอนนั้น ให้บอกตามตรง ดีกว่ารับปากแล้วเงียบหาย

6) ส่งข้อความถี่เกิน/ยาวเกิน

การส่งข้อความติดกันหลายบรรทัด หรือพิมพ์ยาวจนอีกฝ่ายอ่านไม่ทัน อาจทำให้เขารู้สึกอึดอัด การเมคเฟรนที่ดีควรให้ “จังหวะหายใจ” ในการตอบโต้ โดยเฉพาะในแชต ควรส่งข้อความที่สั้น กระชับ และมีสาระ ไม่ต้องรีบพูดทุกอย่างในครั้งเดียว เพราะความสบายใจคือหัวใจของมิตรภาพที่แท้จริง

สรุป

“เมคเฟรน” ไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจหลัก สังเกต > เริ่ม > ต่อ > เก็บ และมีคลังประโยคสั้น ๆ ติดตัวไว้ คุณจะเริ่มบทสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ และต่อยอดไปสู่ความร่วมมือหรือมิตรภาพใหม่ ๆ ได้จริง อย่าลืมจบให้มี “ทางต่อ” เช่นแลกลิงก์ พูดคุยนัดสั้น ๆ หรือแลกเพลย์ลิสต์โปรด หากอยากมีพร็อพชวนคุย (เข็มกลัด สติกเกอร์ชื่อ ของขวัญชิ้นเล็ก กลิ่นหอมพกพา) เลือกช้อปง่าย ๆ ผ่านแอป Shopee แล้วไป “เมคเฟรน” อย่างมั่นใจได้เลย

บทความแนะนำ

  • MBTI คืออะไร? รู้จัก 16 ประเภทแบบทดสอบบุคลิกภาพ ที่ช่วยให้รู้จักตัวเองมากขึ้น
  • ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนนิสัยให้ติดใน 3 สัปดาห์ได้จริงไหม
  • รวมข้อความให้กำลังใจ ในวันที่หมดไฟท้อแท้ ให้มีแรงฮึดสู้อีกครั้ง
ShareTweetShare
Previous Post

แจกไอเดียแต่งตัวสายฝอ สวย แซ่บ เท่ทุกลุค อินสไปร์จากตัวแม่!

Gam weerawat

Gam weerawat

Related Posts

ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนนิสัยตัวเองให้สำเร็จใน 3 สัปดาห์!
Knowledge & Biography

ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนนิสัยให้ติดใน 3 สัปดาห์ได้จริงไหม

by Gam weerawat
October 24, 2025
49
อาชีพแปลกๆ ในไทยและต่างประเทศ น่าสนุก และรายได้ดีเกินคาด
Knowledge & Biography

รวม 23 อาชีพแปลก ๆ ที่มีอยู่จริงในไทยและต่างประเทศ แปลกแต่รายได้ดี

by Gam weerawat
October 24, 2025
23
ฝันว่าโทรศัพท์หาย หมายถึงอะไร? รวมคำทำนายฝัน พร้อมเลขเด็ด
Belief & Horoscope

ฝันว่าโทรศัพท์หาย หมายความว่าอะไร? พร้อมคำทำนายฝัน และเลขเด็ดที่ควรรู้

by Gam weerawat
October 22, 2025
33
35 ไอเดียของขวัญที่ระลึกให้เพื่อนร่วมงาน แจกง่าย ราคาน่ารัก ใช้ได้จริง
DIY & Tips

35 ไอเดียของขวัญที่ระลึกให้เพื่อนร่วมงาน งบไม่แรง แต่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม!

by Gam weerawat
October 21, 2025
27
ฝันถึงคนที่แอบชอบ หมายความว่าอะไร? เปิดมุมมองทั้งจิตวิทยา และความเชื่อ
Belief & Horoscope

ฝันถึงคนที่แอบชอบความหมายถึงอะไร เขาคิดยังไงกับเรา ทั้งในเชิงจิตวิทยาและความเชื่อ

by Gam weerawat
October 20, 2025
61
SWP 5238807 SEO Cover Image 1 4 Oct 2 Cover Page 01 11zon
DIY & Tips

ไอเดีย! เลือกของขวัญให้หัวหน้าผู้หญิง-ชาย ต่างชาติ รับรองว่าถูกใจ ไม่มีพลาด

by Gam weerawat
October 17, 2025
82
350+ แคปชั่นขายของ แม่ค้าออนไลน์ใช้ได้จริง เรียกลูกค้า ปิดการขายปัง
Lifestyle

แจกฟรี! แคปชั่นขายของเด็ดๆ โพสต์แล้วยอดขายพุ่ง อัปเดตล่าสุด

by Gam weerawat
October 15, 2025
48
รวม 15 ไอเดียของขวัญย้ายงาน ที่ทั้งใช้งานได้จริงและน่าประทับใจ
DIY & Tips

แจก 15 ไอเดียสุดปัง! ส่งท้ายเพื่อนร่วมงานแบบน่าประทับใจ

by Gam weerawat
October 15, 2025
84

ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจใน Shopee Blog

No Result
View All Result

New & Rising

เมคเฟรนคืออะไร? รวมวิธีเมคเฟรน พร้อมประโยคชวนคุย ใช้ได้จริง

เมคเฟรนคือ อะไร? วิธีตอบและทำให้สนุกแบบไม่โป๊ะ

15 hours ago
4
ไอเดียแต่งตัวสายฝอสำหรับผู้หญิง รวมลุคเท่ แซ่บ แมทช์ง่าย ดูดีได้ทุกวัน

แจกไอเดียแต่งตัวสายฝอ สวย แซ่บ เท่ทุกลุค อินสไปร์จากตัวแม่!

1 day ago
14
ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนนิสัยตัวเองให้สำเร็จใน 3 สัปดาห์!

ทฤษฎี 21 วัน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนนิสัยให้ติดใน 3 สัปดาห์ได้จริงไหม

4 days ago
49
อาชีพแปลกๆ ในไทยและต่างประเทศ น่าสนุก และรายได้ดีเกินคาด

รวม 23 อาชีพแปลก ๆ ที่มีอยู่จริงในไทยและต่างประเทศ แปลกแต่รายได้ดี

4 days ago
23

ABOUT SHOPEE BLOG

ท่องโลก เกาะเทรนด์ ! สาระความรู้หลากหลายพร้อมเสิร์ฟถึงที่ ครบครันทุกเรื่องไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ความงาม เช็กดวง พร้อมมีรีวิวสินค้าให้อ่านก่อนเลือกช้อป ติดตามอ่านบทความได้ทุกเวลา ที่ Shopee Blog เท่านั้น!

SHARE SHOPEE BLOG TO YOUR FRIEND

Shopee FacebookShopee TwitterShopee Instagram

DOWNLOAD SHOPEE APP HERE!

Shopee on Google Play StoreShopee on APP Store

ช้อปสินค้าหลากหลายทุกหมวดหมู่กับ Shopee!

  • Food & Beverages
  • Lifestyle
  • Entertainment
  • Travel
  • Shopee
  • Shop
  • Fashion & Trends
  • Health & Beauty
  • Tech & Gadgets
  • Automotive
  • Life at home
  • Pets

Shopee Thailand / Shopee Help Center / Seller Centre / Career at Shopee

© 2020 Shopee (Thailand)  Co., Ltd. | All Rights Reserved

No Result
View All Result
  • Fashion & Trends
    • Men’s Fashion
    • Women’s Fashion
    • Unisex Fashion & Accessories
  • Health & Beauty
    • Makeup & Hairs
    • Skincare & Cosmetics
    • Health & Beauty Tips
    • Elderly Care
    • Food & Supplements
  • Tech & Gadgets
    • Computer & Laptops
    • Mobile & Tablets
    • Camera & Photography
    • Gadgets
    • Home Appliances
  • Automotive
    • Cars
    • Motorcycle & Bike
  • Life at Home
    • Tree & Garden
    • Home and Living
    • Moms & Kids
  • Pets
    • Dogs
    • Cats
    • Other Pets
  • Foods & Beverages
    • Food & Drinks
    • Desserts & Baking
    • Vegan & Vegetarian
    • Cooking Tips
      • Food Recipes
  • Lifestyle
    • Work & Productivity
    • Financial & Investment
    • Belief & Horoscope
    • Self Improvement
    • Special Occasion
    • DIY & Tips
    • Sports
    • Travel
      • Cafe & Restaurant
      • Travel in Thailand
      • Oversea Travel
      • Holiday
  • Entertainment
    • Series
    • Books & Comic
    • Music
    • Movies & Short Films
    • Cartoon & Anime
    • Games
  • Shopee
    • #LIFEATSHOPEE
    • Upcoming events
    • Shopping Tips
    • Partnership

© 2020 Shopee Thailand