ไขข้อข้องใจ! รองเท้า HOKA รุ่นไหนดี? เจาะลึกทุกรุ่นฮิต พร้อมวิธีดูของแท้

สวัสดีเพื่อน ๆ นักวิ่งทุกคน! เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมพักหลัง ๆ เราถึงเห็นคนใส่รองเท้าหน้าตาแปลก ๆ พื้นหนา ๆ แต่ดูนุ่มสบายกันเต็มไปหมด? แบรนด์ที่ว่านั่นก็คือ “HOKA” (โฮก้า) นั่นเอง และเชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามคาใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคำถามยอดฮิตอย่าง รองเท้า HOKA ของประเทศอะไร ? ทำไมถึงดังเปรี้ยงปร้างในเวลาอันรวดเร็ว แล้วถ้าจะซื้อสักคู่ รองเท้าวิ่ง HOKA ดีไหม แล้วเราควรจะเลือกซื้อรองเท้า HOKA รุ่นไหนดีให้เหมาะกับตัวเองที่สุด?

ในบทความนี้ Shopee Blog จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ HOKA แบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดของแบรนด์ ไปจนถึงการรีวิวรุ่นเด็ด ๆ ครบทุกการใช้งาน ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นนักวิ่งสายถนน, นักผจญภัยสายเทรล, หรือแค่มองหารองเท้าผ้าใบใส่เดินสบาย ๆ สักคู่ พร้อมปิดท้ายด้วยไกด์ไลน์สำคัญ “รองเท้า HOKA ของแท้ดูยังไง” เพื่อให้ทุกคนได้รองเท้าคู่ใจไปใช้งานอย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด ถ้าพร้อมแล้ว ไปหาคำตอบพร้อมกันเลย!

ต้นกำเนิด HOKA แบรนด์รองเท้า มาจากไหน ที่ครองใจนักวิ่งทั่วโลก

มาตอบคำถามที่ทุกคนอยากรู้กันก่อนเลยว่า รองเท้า HOKA ของประเทศฝรั่งเศส HOKA ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ณ เมืองแอนเนอซี (Annecy) ซึ่งเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ โดยสองนักวิ่งสายเทรลชาวฝรั่งเศส Jean-Luc Diard และ Nicolas Mermoud ทั้งคู่ต้องการสร้างสรรค์รองเท้าที่สามารถวิ่งลงเขาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

ซึ่งนำไปสู่แนวคิดการออกแบบรองเท้าที่มีพื้นชั้นกลาง (Midsole) หนาเป็นพิเศษ หรือที่เรียกว่า “Maximalist” เพื่อรองรับแรงกระแทกได้อย่างเหนือชั้น สวนกระแสรองเท้าวิ่งแนวมินิมอลที่กำลังฮิตในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง

เอกลักษณ์ของ HOKA ไม่ได้มีแค่พื้นหนานุ่ม แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Meta-Rocker หรือพื้นรองเท้าทรงโค้งที่ช่วยให้การถ่ายเทน้ำหนักจากส้นเท้าไปยังปลายเท้าเป็นไปอย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ (Smooth ride) ทำให้วิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี

ด้วยคุณสมบัติเด่นทั้งสองอย่างนี้เองที่ทำให้ HOKA ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักวิ่งอัลตร้ามาราธอนและนักวิ่งเทรล ก่อนจะขยายฐานความนิยมมาสู่นักวิ่งถนนและผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความสบายสูงสุด จนในที่สุด Deckers Brands บริษัทแม่ของ UGG และ Teva จากสหรัฐอเมริกา ได้เข้าซื้อกิจการในปี 2013 และผลักดันให้ HOKA กลายเป็นแบรนด์รองเท้าระดับโลกอย่างในปัจจุบัน

แล้วสรุปว่า รองเท้าวิ่ง HOKA ดีไหม? ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหารองเท้าที่เน้น “ความสบาย” และ “การซัพพอร์ต” เป็นหลัก HOKA คือคำตอบที่ใช่เลย ด้วยเทคโนโลยีโฟมที่นุ่มเด้ง, การรองรับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม, และรูปทรงที่ช่วยให้วิ่งได้อย่างลื่นไหล ทำให้เหมาะกับทั้งนักวิ่งมือใหม่ที่ต้องการการปกป้อง, นักวิ่งมืออาชีพที่ใช้ซ้อมในวันสบาย ๆ, ไปจนถึงคนที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ๆ

ตารางเทียบสเปค HOKA รุ่นไหนดี? เลือกคู่ที่ใช่สำหรับทุกกิจกรรม

เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า รองเท้า hoka รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่สุด เราได้ทำตารางเปรียบเทียบรุ่นยอดฮิตมาให้แล้ว

เจาะลึก HOKA แต่ละรุ่น! ค้นหารองเท้าคู่ใจที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

เมื่อเห็นภาพรวมจากตารางแล้ว เรามาลงลึกในรายละเอียดของแต่ละรุ่นกันดีกว่า เพื่อให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้อย่างเฉียบคมที่สุด

กลุ่ม Daily / Trainer รองเท้าวิ่งคู่ใจสำหรับทุกวัน

นี่คือกลุ่มรองเท้าที่หลากหลายและได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะสำหรับการซ้อมวิ่งในทุก ๆ วัน ตั้งแต่วันวิ่งสบาย ๆ ไปจนถึงวันที่อยากจะเร่งความเร็วขึ้นมาหน่อย

HOKA Clifton 9

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหารองเท้า HOKA คู่แรก หรือต้องการรองเท้าที่ใช้งานได้หลากหลายที่สุด Clifton 9 คือคำตอบที่ใช่เลย รุ่นนี้เปรียบเสมือน “พระเอก” ของแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก จุดเด่นคือความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความนุ่มสบายจากโฟม CMEVA ที่หนาขึ้นกว่ารุ่นก่อน 3 มม. แต่ยังคงน้ำหนักที่เบา ทำให้รู้สึกคล่องตัว ไม่เทอะทะ มาพร้อมเทคโนโลยี Early Stage Meta-Rocker ที่ช่วยให้การวิ่งลื่นไหล เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับ ตั้งแต่การซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่งฟื้นฟูเบา ๆ, ไปจนถึงการวิ่งระยะไกลอย่างฮาล์ฟหรือฟูลมาราธอน เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าสามัญที่ทุกคนควรมี 

• จุดเด่น: สมดุล, น้ำหนักเบา, นุ่มเด้งกำลังดี, ใช้งานหลากหลาย
• ราคา: 5,990 บาท

HOKA Arahi 7

สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีลักษณะเท้าล้มเข้าด้านใน (Overpronation) หรือมีอุ้งเท้าแบน การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง HOKA Arahi 7 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ รุ่นนี้เป็นรองเท้าประเภท Stability ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี J-Frame™ ซึ่งเป็นแกนโฟมที่มีความหนาแน่นสูงกว่าปกติ วางเป็นรูปตัว J บริเวณฝ่าเท้าด้านในและรอบส้นเท้า เพื่อช่วยประคองและนำทางการลงเท้าให้เป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับหรือแข็งกระด้างเหมือนรองเท้า Stability แบบดั้งเดิม แต่ยังคงความนุ่มสบายในสไตล์ HOKA ไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทำให้เพื่อน ๆ วิ่งได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี 

• จุดเด่น: เสริมความมั่นคง, เทคโนโลยี J-Frame™ ช่วยรองรับข้อเท้าโดยไม่รู้สึกแข็งกระด้าง, นุ่มสบาย,ได้รับการรับรองมาตรฐาน APMA สำหรับสุขภาพเท้า, เหมาะกับคนเท้าล้ม/เท้าแบน
• ราคา: 5,990 บาท

HOKA Mach 6

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเพิ่มความสนุกและความเร็วให้กับการซ้อม ต้องลอง HOKA Mach 6 รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นรองเท้าซ้อมทำความเร็ว (Tempo/Uptempo) ที่มีน้ำหนักเบาและตอบสนองได้ดีเยี่ยม หัวใจหลักคือพื้นชั้นกลาง Supercritical Foam ที่ให้ทั้งความนุ่มและความเด้งส่งคืนพลังงานในทุกย่างก้าว ทำให้เพื่อน ๆ สามารถรักษารอบขาและความเร็วได้อย่างสนุกสนาน ไม่เหมือนกับรองเท้าทำความเร็วรุ่นอื่น ๆ ที่มักจะกระด้าง แต่ Mach 6 ยังคงความสบายในแบบฉบับของ HOKA ไว้อย่างครบถ้วน จึงเหมาะกับวันที่อยากวิ่งเร็ว, ลงคอร์ท, หรือแม้กระทั่งใช้เป็นรองเท้าสำหรับวันแข่งขันในบางระยะได้เลย

• จุดเด่น: เด้ง, ตอบสนองดี, น้ำหนักเบา, วิ่งสนุก
• ราคา: 5,990 บาท

HOKA Bondi 9

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ให้ความสำคัญกับความนุ่มสบายและการซัพพอร์ตระดับสูงสุด HOKA Bondi 9 คือคำตอบที่ไม่มีรองเท้ารุ่นไหนเทียบ รุ่นนี้คือ “ราชาแห่งความนุ่ม” ของ HOKA ที่ได้รับการพัฒนาให้เหนือกว่าเดิม โดยยังคงความเป็นรองเท้า Maximalist ที่มีพื้นหนาที่สุด เพื่อรองรับและปกป้องข้อต่อจากแรงกระแทก Bondi 9 มาพร้อมกับโฟมชนิดใหม่ที่มีน้ำหนักเบาลง แต่ยังคงความนุ่มเด้ง พร้อมทั้งปรับปรุงรูปทรงของพื้นชั้นนอกให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันวิ่งฟื้นฟู (Recovery Run), การวิ่งระยะไกลแบบสบาย ๆ Bondi 9 จะช่วยลดความเมื่อยล้าและทำให้ทุกก้าวเต็มไปด้วยความสบาย

• จุดเด่น: นุ่มที่สุดในตระกูล, ซัพพอร์ตและปกป้องแรงกระแทกสูงสุด, ฐานกว้าง มั่นคง, เหมาะสำหรับ Recovery Run และการยืนนาน
• ราคา: 6,990 บาท

HOKA Skyflow

พบกับสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล HOKA ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสบายในทุกวันอย่างแท้จริง Skyflow คือรองเท้าที่เหมาะกับนักวิ่งมือใหม่ หรือใครก็ตามที่มองหารองเท้าวิ่งที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ด้วยโฟม SCF EVA ที่นุ่มและตอบสนองได้ดี พร้อมรูปทรง Meta-Rocker ที่ช่วยให้ก้าวเท้าได้อย่างลื่นไหล ทำให้ทุกการวิ่งและการเดินของเพื่อน ๆ เต็มไปด้วยความสบายและความสนุกสนาน เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง หรือต้องการรองเท้าสำหรับใส่เดินในชีวิตประจำวันที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม

• จุดเด่น: นุ่มสบาย, ใส่ง่าย, เหมาะกับมือใหม่
• ราคา: 6,490 บาท

HOKA Skyward X

เตรียมพบกับประสบการณ์วิ่งที่เหนือชั้นไปอีกระดับกับ HOKA Skyward X นี่ไม่ใช่แค่รองเท้าซ้อมธรรมดา แต่มันคือ “ซูเปอร์เทรนเนอร์” ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดจาก HOKA โดดเด่นด้วยระบบลดแรงกระแทกที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ดีที่สุด ผสานระหว่างโฟม PEBA ที่เด้งและคืนพลังงานสูง กับโฟม Supercritical EVA ที่ให้ความมั่นคง พร้อมด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ทรงโค้งที่ช่วยส่งแรงดีดให้เพื่อน ๆ พุ่งไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซ้อมวิ่งระยะไกล, การวิ่ง Easy-Paced ที่ต้องการความสบายสูงสุด หรือวันที่ต้องการถนอมขาเป็นพิเศษ 

• จุดเด่น: นุ่มเด้งขั้นสุด, ซัพพอร์ตสูงสุด, มีแผ่นคาร์บอนช่วยส่งแรง, เทคโนโลยีล้ำสมัย
• ราคา: 8,990 บาท

กลุ่ม Racing: รองเท้าวิ่งใส่วันแข่ง ทะยานสู่เส้นชัย ทำลายทุกสถิติ

HOKA Rocket X 2

เมื่อถึงวันแข่งขันที่เพื่อน ๆ ต้องการปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดออกมา HOKA Rocket X 2 คืออาวุธลับที่จะพาเข้าสู่เส้นชัย รุ่นนี้คือรองเท้าแข่งขันระดับท็อปที่ถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วโดยเฉพาะ ด้วยการผสานพลังของโฟม PEBA ที่เด้งและส่งคืนพลังงานได้ดีที่สุด กับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์รูปทรงช้อน (Spoon-shaped) ที่โค้งรับการวางเท้าและดีดส่งตัวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบามากและมีหน้าผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ทำให้รู้สึกคล่องตัวและสบายแม้จะวิ่งด้วยความเร็วสูง เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการทำลายสถิติส่วนตัว (New PB) ในทุกระยะตั้งแต่ 5K ไปจนถึงมาราธอน

• จุดเด่น: เด้งและส่งแรงดีดสูงสุด, น้ำหนักเบามาก, มีแผ่นคาร์บอน, เหมาะสำหรับวันแข่งขัน
• ราคา: 8,990 บาท

HOKA Cielo X1 2.0

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตามหารองเท้าแข่งขันที่มอบทั้งความเร็วขั้นสุดและการปกป้องสูงสุดสำหรับการวิ่งมาราธอนและอัลตราช้อยส์อื่น ๆ HOKA Cielo X1 2.0 คือนิยามใหม่ของ “Super Shoe” ที่ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น รุ่นนี้โดดเด่นด้วยการใช้โฟม PEBA สองชั้นที่มอบแรงดีดคืนและการลดแรงกระแทกของแบรนด์ ผสานเข้ากับ แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ทรงปีก (Carbon Fiber Plate) ที่ถูกฝังอยู่ด้านใน เพื่อช่วยส่งแรงขับเคลื่อนให้พุ่งไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับปรุงส่วนบนของรองเท้าให้มีน้ำหนักเบาและกระชับยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกมั่นคงและสบายเท้าตลอดระยะทางการแข่งขันที่ยาวนาน Cielo X1 2.0 คือตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักวิ่งที่ต้องการทำความเร็ว โดยไม่ละเลยความสบายและการถนอมขาในวันแข่งจริง

• จุดเด่น: รองเท้าแข่งที่นุ่มและซัพพอร์ตสูงสุด, โฟม PEBA สองชั้นเพื่อการส่งคืนพลังงาน, แผ่นคาร์บอนช่วยขับเคลื่อน, เหมาะสำหรับมาราธอนและระยะไกล
• ราคา: 9,990 บาท

กลุ่ม Trail / Adventure สำหรับพิชิตทุกเส้นทางเทรลอย่างมั่นใจ

สำหรับสายลุยที่รักการผจญภัยในโลกกว้าง HOKA ก็มีรองเท้าวิ่งเทรลที่พร้อมพาเพื่อน ๆ ไปทุกที่

HOKA Zinal

ถ้าความเร็วคือหัวใจของการวิ่งเทรลสำหรับเพื่อน ๆ แล้วล่ะก็ HOKA Zinal คือรองเท้าที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์นั้นโดยเฉพาะ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่เน้นความเร็ว, ความคล่องตัว และการตอบสนองที่ฉับไว มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับพื้นทาง (Ground Feel) มากกว่ารุ่นอื่น ๆ ทำให้คุณสามารถเร่งฝีเท้าและเปลี่ยนทิศทางได้อย่างเฉียบคม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันเทรลระยะสั้นถึงกลาง หรือในวันที่ต้องการซ้อมทำความเร็วบนเส้นทางธรรมชาติ แม้จะบางเบา แต่ยังคงความสบายและการซัพพอร์ตในระดับที่พอดีด้วยพื้น PROFLY™ พร้อมพื้นนอก Vibram® Megagrip Litebase ที่ยังคงประสิทธิภาพการยึดเกาะไว้ในขณะที่ลดน้ำหนักลงไปอีกขั้น

• จุดเด่น: น้ำหนักเบามาก, ตอบสนองไว, คล่องตัวสูง, เหมาะกับเทรลทำความเร็ว/แข่งขันระยะสั้น
• ราคา: ประมาณ 5,490 บาท

HOKA Challenger 8

สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีเส้นทางการวิ่งแบบผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเริ่มต้นจากหน้าบ้านบนถนนยางมะตอย แล้วเปลี่ยนไปลุยเส้นทางเทรลในสวนหรือป่าเขา Challenger 8 คือรองเท้า “Door-to-Trail” ที่ได้รับการอัปเกรดให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น รุ่นนี้ยังคงมอบความสมดุลที่เหนือชั้น ด้วยพื้นชั้นกลางที่มีความนุ่มสบายเพียงพอสำหรับการวิ่งระยะไกลบนถนน เหมือนกับรองเท้าวิ่งทั่วไป แต่มีพื้นนอกที่ออกแบบให้มีดอกยางยึดเกาะ (Lugs) ที่จัดเรียงอย่างเหมาะสม ทำให้จิกลงบนพื้นดินหรือกรวดได้อย่างมั่นคงโดยไม่ทำให้การวิ่งบนพื้นเรียบต้องสะดุด ด้วยน้ำหนักที่เบาและโครงสร้างที่เน้นความคล่องตัว HOKA Challenger 8 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าเพียงคู่เดียวที่ตอบโจทย์ได้ทุกสภาพพื้นผิว และพร้อมลุยไปในทุกการผจญภัย

• จุดเด่น: อเนกประสงค์สูงสุด, วิ่งได้ราบรื่นทั้งถนนและเทรล, น้ำหนักเบา, นุ่มสบายและคล่องตัว
• ราคา: 5,990 บาท

HOKA Speedgoat 6

Speedgoat 6 คือ รองเท้าเทรลที่นักวิ่งทั่วโลกให้การยอมรับ ชื่อของมันได้แรงบันดาลใจมาจากนักวิ่งเทรลระดับตำนาน Karl “Speedgoat” Meltzer รุ่นนี้ถูกสร้างมาเพื่อพิชิตทุกสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย จุดเด่นที่สุดคือพื้นนอก Vibram® Megagrip พร้อมปุ่มยึดเกาะ Traction Lug ที่จิกลึกลงบนพื้นผิวที่เปียกลื่น, ดินโคลน หรือหินได้อย่างมั่นใจ ผสมกับความนุ่มสบายและการรองรับแรงกระแทก ทำให้สามารถวิ่งในระยะไกลได้อย่างสบายเท้าและมั่นคง เป็นรองเท้าคู่ใจที่พร้อมลุยไปกับเพื่อน ๆ ในทุกเส้นทางเทรล

• จุดเด่น: ยึดเกาะดีเยี่ยม, ทนทานสูง, ซัพพอร์ตดี, นุ่มสบาย
• ราคา: 6,290 บาท

HOKA Mafate Speed 2

สำหรับเพื่อน ๆ สายเทคนิคที่มองหาการซัพพอร์ตและการยึดเกาะขั้นสูงสุดเพื่อพิชิตเส้นทางเทรลสุดโหด HOKA Mafate Speed 2 คือคำตอบที่น่าสนใจ รุ่นนี้เปรียบเสมือนรถถัง ที่พร้อมพาเพื่อน ๆ ลุยไปในทุกสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวหินแหลมคม, โคลนลึก หรือทางวิ่งชัน ๆ โดดเด่นด้วยพื้นชั้นกลางที่หนาและซัพพอร์ตได้ดี ช่วยปกป้องเท้าจากแรงกระแทกได้อย่างเต็มที่ ผสานกับพื้นนอก Vibram® Megagrip ที่มีดอกยางลึก มอบพลังการยึดเกาะในระดับที่คุณจะรู้สึกมั่นใจในทุกก้าว แม้จะเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ Mafate Speed 2 ยังคงเป็นตำนานที่นักวิ่งเทรลสายฮาร์ดคอร์ให้ความเชื่อมั่นเสมอมา

• จุดเด่น: รองรับแรงกระแทกสูงสุด, ยึดเกาะดีเยี่ยมบนทางเทคนิค, โครงสร้างทนทาน, เหมาะกับเทรลระยะไกลและโหด
• ราคา: 6,490 บาท

HOKA Torrent 4

สำหรับเพื่อน ๆ ที่หลงใหลในความสมดุลและความสนุกของรองเท้าเทรลในตระกูล Torrent เตรียมพบกับการกลับมาที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมใน HOKA Torrent 4! รุ่นนี้คือการต่อยอดและพัฒนารองเท้าเทรลสาย All-around ที่ครองใจนักวิ่งทั่วโลก โดยยังคง DNA ของการเป็นรองเท้าที่คล่องตัวสูง, ตอบสนองฉับไว, และวิ่งสนุก มาพร้อมกับโฟม PROFLY™ สูตรใหม่ที่มอบการตอบสนองที่ดีขึ้น แต่ยังคงความนุ่มนวลขณะลงเท้าไว้ พร้อมปรับปรุงหน้าผ้าให้โอบกระชับและระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ Torrent 4 เป็นรองเท้าที่พร้อมพาลุยไปในทุกเส้นทาง ตั้งแต่การซ้อมวิ่งเทรลในวันสบาย ๆ ไปจนถึงการแข่งขันในระยะกลาง

• จุดเด่น: สมดุลและความคล่องตัวที่ดียิ่งขึ้น, โฟมรุ่นใหม่ ตอบสนองไวและวิ่งสนุก, หน้าผ้ากระชับและระบายอากาศดีเยี่ยม, ยึดเกาะมั่นใจในทุกสภาพผิว
• ราคา: 4,990 บาท

HOKA Tecton X 2

เมื่อทุกวินาทีในสนามแข่งเทรลมีความหมาย และคุณต้องการเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด HOKA Tecton X 2 คือสุดยอดนวัตกรรมรองเท้าเทรลแข่งขัน หัวใจของรุ่นนี้คือเทคโนโลยีแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์คู่ขนาน (Parallel Carbon Fiber Plates) ที่ถูกวางไว้ในพื้นชั้นกลาง PROFLY-X™ การออกแบบนี้ช่วยมอบแรงดีดส่งตัวไปข้างหน้าเหมือนรองเท้าวิ่งถนน แต่ยังคงความยืดหยุ่นให้เท้าปรับตัวตามสภาพพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอของเส้นทางเทรลได้อย่างมั่นคง หน้าผ้า Matryx® แบบใหม่ให้ความกระชับและทนทานสูง พร้อมพื้นนอก Vibram® Megagrip Litebase ที่เบาและยึดเกาะดีเยี่ยม Tecton X 2 คืออาวุธลับที่จะพาเพื่อน ๆ ไปสู่โพเดียมได้อย่างรวดเร็ว

• จุดเด่น: ขับเคลื่อนด้วยแผ่นคาร์บอนคู่, เด้งและส่งแรงดีดสูงสุด, น้ำหนักเบา, เหมาะสำหรับวันแข่งขันเทรล
• ราคา: ประมาณ 8,490 บาท

กลุ่ม Lifestyle / Recovery สบายทุกก้าวในชีวิตประจำวัน

HOKA Transport

ปิดท้ายด้วยรองเท้าสำหรับสายไลฟ์สไตล์และการเดินทาง HOKA Transport ได้ผสมผสานความสบายที่เป็น DNA ของแบรนด์เข้ากับดีไซน์สุดเท่ที่เหมาะกับชีวิตในเมือง มาพร้อมระบบเชือกแบบ Quick-toggle ที่รูดปรับความกระชับได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย วัสดุมีความทนทานสูงและสามารถกันละอองน้ำได้เล็กน้อย พื้นนอก Vibram® EcoStep ช่วยให้ยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวในเมือง ไม่ว่าจะเป็นทางเท้าหรือพื้นบันไดเลื่อน เหมาะสำหรับใส่เดินเที่ยว, เดินทาง, หรือใส่ทำงานในวันที่ต้องการความสบายและความคล่องตัวสูงสุด เป็นรองเท้าที่พิสูจน์ว่าความสบายและสไตล์สามารถไปด้วยกันได้

• จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม, สวมใส่ง่าย, ทนทาน, เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในเมือง
• ราคา: 5,990 บาท

รองเท้า HOKA ของแท้ดูยังไง? 5 จุดเช็คง่ายๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ

เมื่อเลือกรุ่นที่ใช่ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมั่นใจว่าเราได้ของแท้แน่นอน เพราะรองเท้า HOKA ได้รับความนิยมสูง จึงมีของลอกเลียนแบบออกมามากมาย มาดูวิธีเช็คง่าย ๆ กัน

1. กล่องและป้าย (Box & Labels): กล่องของแท้ต้องมีคุณภาพดี แข็งแรง พิมพ์โลโก้และข้อมูลคมชัด ป้ายข้อมูลข้างกล่อง (SKU, ไซส์, สี) จะต้องตรงกับข้อมูลที่ลิ้นรองเท้าและตัวรองเท้าทุกประการ
2. ตัวรองเท้าและวัสดุ (Upper & Materials): ของแท้จะใช้วัสดุคุณภาพสูง การตัดเย็บจะเรียบร้อย ไม่มีรอยกาวเลอะเทอะ สีสันและโลโก้จะคมชัด สัดส่วนถูกต้อง
3. พื้นรองเท้า (Midsole & Outsole): โฟมของ HOKA ของแท้จะมีความนุ่มและเด้งที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อกดลงไปจะรู้สึกถึงการคืนตัวที่ดี ของปลอมมักจะแข็งกระด้างหรือยวบเกินไป พื้นนอก (Outsole) จะมีรายละเอียดที่คมชัด โลโก้แบรนด์อย่าง Vibram® (ในรุ่นเทรล) จะต้องดูมีคุณภาพ
4. ราคา (Price): จุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด หากเจอร้านที่ขายในราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ๆ เช่น ลด 50-70% ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจเป็นของปลอม
5. แหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ (Authorized Retailer): วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งใน Shopee Mall ก็มีร้านค้าระดับ Official ที่น่าเชื่อถือมากมาย

เพื่อความมั่นใจ 100% เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อรองเท้า HOKA จากร้านค้า Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือบน Shopee Mall ได้เลย เช่น Supersports หรือ Rev Runnr ซึ่งรับประกันได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน พร้อมโปรโมชันและโค้ดส่วนลดสุดคุ้มอีกเพียบ!

จุดสังเกตเฉพาะรุ่นยอดนิยม (Model-Specific Details)

นอกจากจุดตรวจสอบทั่วไปแล้ว รองเท้า HOKA แต่ละรุ่น โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยม อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ของปลอมมักทำได้ไม่เหมือนหรือผิดเพี้ยนไป:

HOKA Bondi 

• ความหนาและผิวสัมผัสของโฟม (Midsole): Bondi ของแท้จะมีพื้นรองเท้าที่หนามาก แต่โฟม (EVA) จะมีความนุ่มเด้งเป็นเอกลักษณ์ เมื่อกดจะมีการคืนตัวที่ดีและนุ่มนวล ของปลอมอาจจะแข็งกระด้างหรือนุ่มยวบผิดธรรมชาติ
• ดีเทลเชือกรองเท้า (Lace Loop): ในบางรุ่น (เช่น Bondi 8) จุดร้อยเชือกด้านหน้าของแท้มีรายงานว่ามีลักษณะเป็นรูปตัว ‘V’ ในขณะที่ของปลอมอาจจะเป็นรูปตัว ‘W’ (ควรเทียบกับภาพจากเว็บไซต์ทางการ)
• แผ่นรองรองเท้า (Insole): ตัวอักษรบนแผ่นรองของแท้อาจมีสีที่จางกว่าของปลอมเล็กน้อย และต้องมีการพิมพ์ที่คมชัดตามมาตรฐาน

HOKA Clifton

• ตะเข็บและการเชื่อมต่อวัสดุ (Seams & Bonding): Clifton เป็นรุ่นที่การตัดเย็บละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะส่วน Upper ที่เป็นผ้าตาข่าย (Mesh) และการเชื่อมวัสดุเข้ากับพื้นรองเท้า ของแท้จะเรียบเนียน ไม่เห็นรอยกาวหรือตะเข็บที่บิดเบี้ยวหรือหลุดลุ่ย
• การตรวจสอบด้วยแสง UV (Reflective Elements): รองเท้า HOKA Clifton (รุ่น 9) มักจะมีส่วนประกอบที่สะท้อนแสง (Reflective) อยู่ที่ป้ายใต้ลิ้นรองเท้า หากของแท้ ใช้ไฟฉายส่องจะเกิดเป็นข้อความขึ้นมา

HOKA Speedgoat

• โลโก้ Vibram® (Outsole): รุ่นเทรลของแท้ที่ใช้พื้นยาง Vibram® Megagrip จะต้องมีโลโก้ Vibram® บนพื้นนอกที่คมชัด ได้มาตรฐาน และพื้นยางจะต้องมีความหนึบ ยึดเกาะได้จริงตามคุณสมบัติ
• ปุ่มพื้นรองเท้า (Lugs): ลักษณะปุ่มลึกและมีความละเอียดในการจัดเรียงเพื่อการยึดเกาะที่ดี ของปลอมอาจทำปุ่มตื้นกว่า และวัสดุยางอาจแข็งหรือลื่น

เลือกรองเท้า HOKA คู่ไหนให้ใช่และคุ้มค่าที่สุด

มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงได้คำตอบครบทุกข้อสงสัยแล้วว่า รองเท้า HOKA ของประเทศอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร รองเท้าวิ่ง HOKA ดีไหม และรองเท้า HOKA รุ่นไหนดี ซึ่งหัวใจสำคัญของ HOKA คือการมอบ “ความสบายสูงสุด” และ “การปกป้อง” ในทุกก้าว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งประเภทไหน หรือแค่มองหารองเท้าสำหรับใส่เดินในชีวิตประจำวัน HOKA ก็มีรุ่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน

โดยสรุปแล้ว เราขอแนะนำ แด เพื่อให้เพื่อน ๆ ง่ายต่อการตัดสินใจ ดังนี้

• หากเพื่อน ๆ เป็นนักวิ่งสายถนนที่ต้องการความอเนกประสงค์ Clifton 9 คือคำตอบที่ลงตัว
• ถ้าเน้นความนุ่มขั้นสุด ต้องไปที่ Bondi 8 
• สำหรับสายความเร็ว Mach 6 จะไม่ทำให้ผิดหวัง
• ส่วนสายเทรลพันธุ์แท้ Speedgoat 5 คือคู่ที่ไว้ใจได้ 

อย่างไรก็ตาม รุ่นอื่น ๆ ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ลองเลือกตามความชอบและการใช้งานได้เลย

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่ารองเท้าที่ดีที่สุดคือรองเท้าที่เหมาะกับลักษณะเท้าและวัตถุประสงค์การใช้งานของเรามากที่สุด หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ได้ค้นพบรองเท้า HOKA คู่ใจ และมีความสุขกับการวิ่งและการเดินในทุก ๆ วัน

บทความแนะนำ

• ฮิตแรง! รองเท้า ON รุ่นไหนดี ใส่วิ่งสบาย ใส่ไลฟ์สไตล์ก็เริ่ด
• สายแฟเลิฟ! รวมรองเท้า Salomon รุ่นไหนดี ใส่สบาย ดูมีสไตล์
• รวมรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี รุ่นวิ่งไกลใส่สบายจากแบรนด์ชั้นนำ!