Niacinamide ยี่ห้อไหนดี 2025? แนะนำเซรั่ม Niacinamide ใช้ดี ราคาคุ้มค่า

Niacinamide หรือ ไนอาซินาไมด์ เป็นหนึ่งในส่วนผสมยอดฮิตที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำรอยแดง และเสริมเกราะป้องกันผิว แต่ด้วยแบรนด์สกินแคร์ที่มีให้เลือกมากมาย อาจทำให้หลายคนลังเลว่าจะเลือก Niacinamide ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ ตั้งแต่ว่า Niacinamide คืออะไร Niacinamide ช่วยอะไรบ้างกันแน่ จากแบรนด์คุณภาพที่ได้รับความนิยม พร้อมจุดเด่นของแต่ละตัว เพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณได้ง่ายขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันดีกว่าว่า Niacinamide ยี่ห้อไหนดี 2025

Niacinamide คืออะไร?

Niacinamide คือ วิตามิน B3 รูปแบบหนึ่ง ไนอาซินาไมด์เป็นสารสำคัญที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เนื่องจากมีประโยชน์กับผิวมากมาย เช่น ลดการอักเสบระคายเคืองของผิว ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดรอยจุดด่างดำ นอกจากนี้แล้วในบางคนยังพบว่าช่วยเรื่องสิวและรอยสิวอีกด้วย โดยปกติแล้วตามธรรมชาติ Niacinamide จะพบได้ใน เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู ตับ ปลาแซลมอน และปลาทูน่า รวมถึง ธัญพืชและถั่ว อย่างข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ และถั่วลิสง นอกจากนี้ยังมีใน ผักและผลไม้ เช่น เห็ด มะเขือเทศ อะโวคาโด และมันฝรั่ง รวมถึง ผลิตภัณฑ์นมและไข่ อย่างนมสด โยเกิร์ต และไข่ไก่

Niacinamide ช่วยอะไร?

Niacinamide มีคุณสมบัติดูแลผิวหลายด้าน Niacinamide มีประโยชน์ต่อทั้งร่างกายและผิวพรรณ ช่วย บำรุงผิว ให้แข็งแรง ลดการอักเสบ ลดรอยแดง รอยสิว และควบคุมความมัน นอกจากนี้ยังช่วย เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว กระตุ้นการสร้างเซราไมด์ ทำให้ผิวชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำ ส่วนด้านสุขภาพ ไนอาซินาไมด์ช่วย กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และช่วยลดความเสี่ยงของโรคผิวหนังบางชนิด อีกทั้งยังมีบทบาทในการ บำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากจะพูดถึงประโยชน์แต่ละอย่างของ Niacinamide ได้แก่

1. ลดรอยดำและรอยแดง ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

👉 Niacinamide ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งมีบทบาทในการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้จุดด่างดำ ฝ้า และรอยแดงดูจางลง พร้อมช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น

2. ควบคุมความมัน ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า

👉 Niacinamide มีคุณสมบัติช่วย ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ลดการผลิตซีบัมส่วนเกิน ทำให้ผิวมันน้อยลง และช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตัน

3. ลดการอักเสบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและผิวแพ้ง่าย

👉 Niacinamide มีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory properties) โดยช่วยลดการหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิว เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวหรือมีผิวแพ้ง่าย

4. กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนขึ้น

👉 Niacinamide ช่วย กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของผิว ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

5. เสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดการสูญเสียความชุ่มชื้น

👉 Niacinamide กระตุ้นการสร้างเซราไมด์ (Ceramide) และกรดไขมันอิสระในชั้นผิว ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำ และป้องกันการระคายเคืองจากมลภาวะภายนอก

Niacinamide ควรใส่กี่%

ปริมาณ Niacinamide ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพผิว หากผิวแพ้ง่ายควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี Niacinamide 1-2% เท่านั้น หากผิวมีความแข็งแรงและต้องการให้ช่วยลดรอยดำและช่วยลดความมันมากขึ้นอาจเพิ่มเป็น 3-5% หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจนหรือเร็ว อาจเลือกใส่ถึง 10% ก็ได้

• 1-2% – เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
• 3-5% – ลดรอยดำ ควบคุมความมัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
• 10% ขึ้นไป – เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่อาจทำให้บางคนเกิดการระคายเคืองได้

Niacinamide ห้ามใช้คู่กับอะไร?

Niacinamide เป็นสารที่อยู่ในกลุ่ม แอมไฟโพรติก (Amphiprotic Compound) ซึ่งหมายความว่าสามารถทำปฏิกิริยาได้ทั้งในสภาวะที่เป็นกรดและด่างขึ้นอยู่กับค่า pH ของสภาพแวดล้อม แม้ว่า Niacinamide จะเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างเสถียร แต่ก็มีสารบางตัวที่อาจไม่เหมาะสมเมื่อนำมาใช้ร่วมกันได้แก่ วิตามินซี AHA/BHA และ Benzoyl Peroxide

• วิตามินซี (Vitamin C) – อาจทำให้ระคายเคืองผิวได้
• AHA/BHA (กรดผลไม้และซาลิไซลิก แอซิด) – อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองหากใช้ร่วมกัน
• เรตินอล (Retinol) – เนื่องจากเป็นสารที่ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงควรใช้แยกกันกับไนอาซินาไมด์ (เช่น Niacinamide ตอนเช้า และ Retinol ตอนกลางคืน) ที่ไปด้วยกันได้ก็เพราะ Niacinamide จะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) และเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดอาการแสบ แดง หรือแห้งลอกจาก Retinol (อย่าลืมใช้ครีมกันแดดเพราะ Retinol จะทำให้ผิวไวต่อแสง)

Niacinamide เหมาะกับผิวแบบไหน?

Niacinamide เหมาะกับแทบทุกสภาพผิว เพราะเป็นสารที่อ่อนโยนและช่วยปรับสมดุลของผิวได้ดี สำหรับผิวมันและเป็นสิว Niacinamide ช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และลดการเกิดสิว ส่วนผิวแห้งจะได้รับประโยชน์จากการเสริมเกราะป้องกันผิวและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับผิวแพ้ง่าย เพราะช่วยลดรอยแดงและเสริมความแข็งแรงให้กับผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

• ผิวมันและเป็นสิว – ช่วยลดความมันและควบคุมสิว
• ผิวแห้ง – เสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น
• ผิวแพ้ง่าย – ลดการอักเสบและระคายเคือง
• ผิวที่มีริ้วรอย – ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและลดริ้วรอย

ป้ายยา 10 Niacinamide ยี่ห้อไหนดี 2025

หากคุณกำลังมองหา เซรั่ม Niacinamide ที่เหมาะกับสภาพผิวและงบประมาณของคุณ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีอาจเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ปี 2025 นี้มีหลายแบรนด์ที่พัฒนาเซรั่ม Niacinamide ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยส่วนผสมที่ช่วยเสริมการบำรุงผิวและลดปัญหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะต้องการแก้ปัญหาสิว รอยดำ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นเหมาะสมและมีส่วนผสมที่ลงตัวจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราได้คัดสรร 10 รุ่นที่ดีที่สุดของ Niacinamide ในปี 2025 มาแนะนำ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น!

1. Garnier Bright Complete Anti-Acne Booster Serum

ช้อปเลย

Garnier Anti-Acne Booster Serum เป็นเซรั่มยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ด้วยสูตรที่มีส่วนผสมของ Vitamin C เข้มข้น ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ และทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ

• Niacinamide น้อยกว่า 4% (เพราะเป็นเซรั่มที่มีส่วนผสม 4% ของ Vitamin C, along with Salicylic Acid, Niacinamide, และ AHA รวมเข้าด้วยกัน)
• มีวิตามินซีช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ
• ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติ
• วิธีใช้: ทาทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้เป็นประจำ เช้า-เย็น
• ราคา: 334 บาท / 30ml (1,113 บาท / 100ml)

2. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

ช้อปเลย

The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% เป็นหนึ่งในเซรั่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนที่มีปัญหาสิว ผิวมัน และรูขุมขนกว้าง ด้วยสูตรที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ช่วยควบคุมความมัน ลดรอยสิว และเสริมความแข็งแรงให้กับผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ที่สำคัญแบรนด์นี้เค้าพึ่งเข้าไทยกันมา ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสั่งกับร้าน The Ordinary Official โดยตรง ได้ของแท้ ไม่จกตาแน่นอน

• Niacinamide 10% + Zinc 1%
• ช่วยลดความมัน ลดสิวอุดตัน และกระชับรูขุมขน
• ไม่มีสารกันเสียและน้ำหอม เหมาะกับทุกสภาพผิว
• วิธีใช้: ใช้เป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนลงมอยส์เจอไรเซอร์
• ราคา: 370 บาท / 30ml (1,233 บาท / 100ml)

3. innisfree Retinol Cica Ampoule

ช้อปเลย

มาที่เซรั่มบำรุงจากแดนโสมอย่างเกาหลีกันบ้าง innisfree Retinol Cica Ampoule เป็นเซรั่มแบบแอมพูล ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย เอสเซนส์ตัวนี้จะทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ด้วยส่วนผสมหลักจาก Retinol Cica และ Niacinamide ที่ช่วยปลอบประโลมผิวและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

• Niacinamide ประมาณ 2.7-4.1%
• ผสาน Retinol Cica และNiacinamide ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้ดูเรียบเนียนและปลอยประโลมผิวไปในตัว
• ให้ความชุ่มชื้นและลดเลือนรอยดำ
• วิธีใช้: ทาทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้เป็นประจำ เช้า-เย็น
• ราคา: 1,005 บาท / 30ml (3,350 บาท / 100ml)

4. Some By Mi Yuja Niacin Anti-Blemish Serum

ช้อปเลย

Some By Mi Yuja Niacin Anti-Blemish Serum เป็นเซรั่มที่ช่วยลดรอยสิว รอยดำจากสิว จุดด่างดำ กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยส่วนผสมเข้มข้นของ Niacinamide 10% ที่เป็นตัวช่วยหลักในการลดเม็ดสีเมลานิน พร้อมด้วยสารบำรุงอื่นๆ อย่าง สารสกัดจากผล Citrus Junos ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และ Alpha-Bisabolol 0.5% ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ผิวดูกระจ่างใสเช่นกัน

• Niacinamide 10%
• ผสมสารสกัดจาก Citrus Junos และ Alpha-Bisabolol ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
• ช่วยฟื้นฟูผิว ลดอาการแดง และรอยสิว
• วิธีใช้: ใช้ปริมาณที่พอเหมาะ ทาให้ทั่วใบหน้าทุกเช้า-เย็น ทาซ้ำบริเวณที่มีจุดด่างดำหรือรอยสิวได้
• ราคา: 550 บาท / 50ml (1100 บาท / 100ml)

5. CeraVe Resurfacing Retinol Serum

ช้อปเลย

CeraVe Resurfacing Retinol Serum เป็นเซรั่มที่ช่วย ลดรอยสิว จุดด่างดำ และปรับผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น โดยมี เรตินอล (Encapsulated Retinol) เป็นตัวหลักในการช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อม Niacinamide และ เซราไมด์ ที่ช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิว เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหารอยสิว ผิวไม่เรียบเนียน และผิวแพ้ง่าย

• Niacinamide ไม่ได้ระบุ % ชัดเจนแต่คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 2-5%
• ลดรอยสิว จุดด่างดำ และเสริมเกราะป้องกันผิว
• เนื้อเซรั่มบางเบา ไม่อุดตันผิว
• วิธีใช้: ทาหลังล้างหน้าเช้า-เย็น
• ราคา: 799 บาท / 30ml (2,663 บาท / 100ml)

6. La Roche-Posay Mela B3 10 Serum

ช้อปเลย

มาต่อกันที่แบรนด์ดัง รุ่นตัวท็อปสุดฮิตจากฝรั่งเศส La Roche-Posay Mela B3 10 Serum เป็นเซรั่มที่มี Niacinamide 10% เข้มข้น ช่วย ลดจุดด่างดำ รอยสิว รอยแดง และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ พร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ด้วยส่วนผสมที่อ่อนโยนและเหมาะสำหรับ ผิวแพ้ง่าย

• Niacinamide 10%
• ช่วยลดจุดด่างดำ ฟื้นฟูสภาพผิว และให้ความชุ่มชื้น
• อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย
• วิธีใช้: หยดเซรั่มลงบนผิวหน้า พร้อมนวดเบาๆ นวดให้เซรั่มซึมไปทั่วหน้าและถึงลำคอได้ ทาในตอนเช้าและกลางคืน
• ราคา: 1,647 บาท / 30ml ( 5,490 บาท / 100ml)

7. Paula’s Choice 10% Niacinamide Booster

ช้อปเลย

มาถึงป้าพอลล่า Paula’s Choice 10% Niacinamide Booster เป็นเซรั่มเข้มข้นที่มี Niacinamide (วิตามิน B3) 10% เป็นส่วนประกอบหลัก ช่วย กระชับรูขุมขน ลดรอยดำ รอยแดง ควบคุมความมัน และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย

• Niacinamide 10% + Vitamin C
• ช่วยกระจ่างใส ลดริ้วรอย และเสริมเกราะป้องกันผิว
• สามารถผสมกับเซรั่มหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ได้
• วิธีใช้: หยดลงบนฝ่ามือ 2-3 หยดและทาทั่วหน้าและลำคอ เลี่ยงบริเวณรอบดวงตา ใช้แล้วอย่าลืมใช้ครีมกันแดด
• ราคา: 1,690 บาท / 20ml (8,450 บาท / 100ml)

8. Skinceuticals Discoloration Defense Serum

ช้อปเลย

มาต่อกันที่ Skinceuticals Discoloration Defense Serum เป็นเซรั่มลดจุดด่างดำและรอยดำจากสิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้สารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เช่น Niacinamide, Tranexamic Acid, Kojic Acid และ HEPES

• Niacinamide 5% + Tranexamic acid 3% + Kojic acid 1%
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิว
• เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความกระจ่างใสอย่างเข้มข้น
• วิธีใช้: หยดเซรั่ม 2-3 หยด แล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า
• ราคา: 2,030 บาท / 30ml (6,767 บาท / 100ml)

9. Drunk Elephant F-Balm Electrolyte Waterfacial

ช้อปเลย

มาเปลี่ยนจากเซรั่มเป็นมาส์กกันบ้าง เพราะไม่ใช่แค่เซรั่มหรือครีมที่จะช่วยบำรุงผิวหน้าได้ มาส์กหน้าเองก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน Drunk Elephant F-Balm™ Electrolyte Waterfacial เป็นมาส์กบำรุงผิวแบบ overnight mask ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ฟื้นฟูและเสริมเกราะป้องกันผิวด้วย Electrolytes Complex รวมถึงสารบำรุงอื่น ๆ อย่าง Niacinamide, Squalane และ Vitamin F ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคือง และทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระจ่างใสขึ้น

• Niacinamide น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-5%
• ให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และช่วยลดอาการระคายเคือง
• เนื้อสัมผัสบางเบา เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
• วิธีใช้: ปั๊มเนื้อมาส์กประมาณ 1-2 ปั๊ม แล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า ไม่ต้องล้างออก ปล่อยให้ซึมเข้าสู่ผิวขณะนอนหลับ
• ราคา: 199 บาท / 5 ml (3,980 บาท / 100ml)

10. SK-II GenOptics Aura Essence

ช้อปเลย

สุดท้าย ตัวบำรุงที่แพงหน่อยแต่คุ้มค่าคือ SK-II GenOptics Aura Essence เป็นเซรั่มบำรุงผิวระดับพรีเมียมที่ช่วย ลดเลือนจุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใส และฟื้นบำรุงผิวให้เปล่งประกายจากภายใน ด้วยเทคโนโลยี GenOptics Aura Complex ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SK-II นอกจากนี้ยังมี PITERA™ เข้มข้น ซึ่งเป็นสารสกัดจากยีสต์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและเพิ่มความชุ่มชื้น

• Niacinamide ไม่ได้ระบุแต่น่าจะมีค่าประมาณที่ 2.3% – 2.9%
• ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความชุ่มชื้น
• ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
• วิธีใช้: ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้เป็นประจำเช้า-เย็น
• ราคา: 6,790 บาท / 50ml (13,580 บาท / 100ml)

ตารางสรุป แนะนำ Niacinamide ยี่ห้อไหนดี

สรุป เซรั่มบำรุงมีไนอาซินาไมด์ ตัวไหนดีบ้าง

• หากต้องการเน้น กระจ่างใสและลดรอยดำ แบบงบไม่จำกัด: La Roche-Posay, Skinceuticals, Paula’s Choice, SK-II
• สำหรับ ควบคุมมันและลดสิว: The Ordinary, Some By Mi
• หากต้องการ บำรุงผิวแบบครบวงจร: CeraVe, Drunk Elephant
• งบประหยัด แต่คุณภาพดี: Garnier, Innisfree, Some By Mi

จบกันไปแล้วกับข้อมูลรายละเอียด สิ่งที่ควรระวัง การใช้ และแบบไหนแบรนด์ไหนเหมาะกับใคร Niacinamide ยี่ห้อไหนดีที่สุด พร้อมพิกัดให้ไปช้อปบน Shopee ได้แบบแสนสบาย! ขอให้คุณเลือกเซรั่ม Niacinamide ให้เหมาะกับผิวคุณได้ และได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แล้วเจอกันใหม่ใน Shopee Blog บทความหน้านะคะ! 🙂

Cr. feature image – unsplash