หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงของการทำการตลาดออนไลน์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ คงจะหนีไม่พ้น Affiliate Marketing ที่เราจะเห็นอินฟลูเอนเซอร์ KOL ทั้งที่มีชื่อเสียง และคนทั่วไปเริ่มเดินทางเข้าสู่โลกของ Affiliate กันมากขึ้น และแน่นอนว่าคนทั่วไปก็ให้ความสนใจ เพราะ Affiliate นั้นมีรีวิวออกมามามายว่าเป็นช่องทางการหารายได้เสริมที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ (ถ้าขยันมากๆ) แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้จักเกี่ยวกับสิ่งนี้มากนัก ดังนั้นในบทความนี้ Shopee Blog จะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า Affiliate คืออะไร และการทำ Affiliate Marketing ทำยังไงได้บ้าง มาดูกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
Affiliate คืออะไร
Credit : Freepik
Affiliate Marketing หรือที่เรามักจะเห็นคำเรียกสั้นๆ ว่า Affiliate (อ่านว่า แอป-ฟี-ลิ-เอด) Affiliate คือรูปแบบหนึ่งของการทำการตลาดออนไลน์ ที่ใช้ลักษณะโมเดลการขายผ่านตัวแทน หรือนายหน้า โดยตัวแทนขายนั้นจะเป็นใครก็ได้ที่สมัครใจในการทำหน้าที่นี้ หรือได้รับการว่าจ้างจากแพลตฟอร์ม E-commerce ให้เป็นตัวแทนในการโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางของตัวเอง (เช่น X, Facebook, Instagram) และเมื่อมีคนคลิกเข้ามาสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงก์ที่ตัวแทนนำไปโปรโมท ตัวแทนนั้นจะได้รับค่าตอบแทนในลักษณะของ “Commission” หรือที่เรานิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า ค่าคอม นั่นเอง โดยส่วนแบ่งนั้นขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างแพลตฟอร์มและนายหน้า ที่จะมีความแตกต่างกันออกไป และที่ Shopee นั้น เรามีโปรแกรม Affiliate ที่น่าสนใจอย่าง Shopee Affiliate Program ที่สามารถให้คุณสร้างรายได้จากการรีวิวสินค้า และแชร์ลิ้งก์ ได้สูงสุดถึง 60% ของยอดขาย ที่ไม่ว่าใครก็สมัครได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย
เข้าสู่ Shopee Affiliate Program
Affiliate Marketing ทำยังไง
โดยทั่วไป การทำ Affiliate Marketing นั้นจะอาศัยการโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ที่นายหน้าหรือตัวแทนเป็นเจ้าของ เช่น หน้าเพจ Facebook ของตัวเอง, สตอรี่ใน Instagram หรือโพสต์ข้อความใน X โดยที่วิธีการทำนั้นสามารถพลิกแพลงได้อย่างอิสระ ไม่ได้มีข้อจำกัดในการทำมากนัก เช่น รีพลายข้อความที่แปะลิงก์ Affiliate หรือทำโฆษณารีวิวสินค้าและแปะลิงก์สินค้าแบบ Affiliate เป็น Landing Page (หน้าเพจที่จะสามารถเข้าได้จากการกดโฆษณา) เพียงแค่มีคนเข้าลิงก์มาและซื้อสินค้าเสร็จสมบูรณ์ ตัวแทนที่เป็นคนโพสต์ลิงก์ก็จะได้ค่าคอมไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม ในพาร์ทของ Shopee Affiliate Program ก็ยังมีข้อกำหนดและเงื่อนไขคร่าวๆ อยู่ ยกตัวอย่างเช่น สินค้าและลักษณะการโปรโมทที่ห้ามทำ เช่น
- สนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย (ยาที่ผิดกฎหมาย การหลอกลวง การก่อการร้าย อาชญากรรม การต่อสู้ประท้วง แชร์ลูกโซ่ หรือจดหมายลูกโซ่)
- สนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับบุหรี่ การพนัน หรืออาวุธ
- เกี่ยวข้องกับ ภาพลามก ภาพวาด วัตถุอนาจาร หรือ มุกตลกที่มีเนื้อหาอ่อนไหวต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นจำนวนมาก
- เกี่ยวข้องกับ ความรุนแรงที่ชัดแจ้ง หรือที่รุนแรงเกินสมควร
- เป็นการหมิ่นประมาท มีความไม่เหมาะสม หยาบคาย หรือมีลักษณะอ่อนไหวทางการเมือง
- ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่โฆษณาด้วย ลิงก์ของ Affiliate (Spamming)
- เป็นการเหยียด หรือเป็นข้อความที่ทำให้เกิด “ความเกลียดชัง” ไม่ว่าเป็นการกล่าวถึงปัจเจกบุคคลหรือกลุ่มคนใด และไม่ว่าจะเป็นการกล่าวโดยอ้างถึง เชื้อชาติ เพศ ความเชื่อ สัญชาติ การเข้าร่วมศาสนา รสนิยมทางเพศ หรือภาษา ของบุคคลหรือกลุ่มคนนั้นๆ ก็ตาม
- สนับสนุนหรือมีไวรัส หนอนคอมพิวเตอร์ (worms) ไฟล์เสีย (corrupted files) มัลแวร์ (malware) การปลดล็อกรหัสซอฟต์แวร์ (crack) หรือวัสดุอื่นใดที่มีวัตถุประสงค์หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือทำให้ไม่สามารถใช้งานซอฟร์แวร์ ฮาร์ดแวร์ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยได้
- ละเมิดลิขสิทธิ์หรือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือ เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา
ซึ่งถ้าหากทาง Shopee พบว่าตัวแทนโปรโมททำผิดกฎ ก็จะมีมาตรการต่างๆ ออกมา เช่น ระงับชั่วคราว ระงับถาวร ตรวจสอบบัญชี ตรวจสอบคอนเทนต์ ตักเตือน แจ้งให้แก้ไข หรืออื่นๆ ตามดุลยพินิจของทาง Shopee
ข้อดีของการทำ Affiliate คืออะไร
การทำ Affiliate นั้นก็มีข้อดีทั้งในมุมของร้านค้า และมุมของตัวแทน โดยเราจะสรุปมาให้คร่าวๆ ว่า ในแต่ละฝั่งนั้น มีข้อดีอย่างไรบ้าง
ข้อดีฝั่งผู้ขาย หรือ เจ้าของแบรนด์
- ไม่ต้องเหนื่อยกับการโปรโมทสินค้าด้วยตัวเอง
- ไม่ต้องลงทุนเงินกับการโฆษณาเป็นจำนวนมาก
- เพิ่มโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น
- ผลตอบแทนที่ดีจะช่วยกระตุ้นให้มีคนมาเป็นตัวแทนหรือนายหน้ามากขึ้น
- ผู้ขายหรือเจ้าของแบรนด์สามารถกำหนดค่าตอบแทนได้ ทำให้สามารถควบคุมงบประมาณในการโปรโมทได้เป็นอย่างดี
ข้อดีฝั่งตัวแทนหรือนายหน้า
- สามารถโปรโมทได้อิสระตามแพลตฟอร์มที่ต้องการ
- ไม่จำเป็นต้องมีสต็อกสินค้า ก็สามารถโปรโมทได้
- สามารถโปรโมทได้ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก
- รายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน ยิ่งขยันโพสต์ก็มีโอกาสในการสร้างค่าตอบแทนได้มากขึ้น
- สามารถเลือกสินค้าโปรโมทได้ตามความสนใจ ความชอบ ความถนัด ไม่จำกัดประเภทสินค้าเป็นประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียว
ข้อสังเกตของการทำ Affiliate Marketing
นอกจกข้อดีของการทำ Affiliate แล้ว เราก็ยังมีข้อสังเกตที่ควรนำไปพิจารณาให้ครบถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางเข้าสู่สาย Affiliate ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
ข้อสังเกตฝั่งผู้ขาย หรือ เจ้าของแบรนด์
- สำหรับธุรกิจที่มีกำไรไม่สูง การต้องแบ่งรายได้ให้กับนายหน้าหรือตัวแทนอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
- การที่ใครก็สามารถเป็นนายหน้าได้ ทำให้แบรนด์หรือผู้อาจจะควบคุมรูปแบบเนื้อหาได้ยาก
- การที่นายหน้านำลิงก์สินค้าหรือร้านของแบรนด์ไปแปะในที่ที่ไม่เกี่ยวข้องบ่อย อาจสร้างมุมมองที่ไม่ดีนักสำหรับแบรนด์ขึ้นได้
ข้อสังเกตฝั่งตัวแทนหรือนายหน้า
- ไม่มีการการันตีรายได้ที่จะได้รับอย่างแน่นอนในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับความขยัน และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง
- หากสนใจทำ ควรมีความรู้พื้นฐานทางการตลาดสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น รูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เนื้อหาที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เนื้อหาที่เกี่ยวกับสินค้า การสร้างแรงจูงใจให้ผู้ติดตามซื้อสินค้าตามคำแนะนำ เพื่อให้การทำ Affiliate ไม่สูญเปล่าและมีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
- เงินค่าตอบแทนนั้น โดยมากจะไม่ได้รับในทันที ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 วันสำหรับแพลตฟอร์มเพื่อประมวลผล และสรุปยอดเงินที่เราได้รับ หลังจากนั้นถึงจะดำเนินการโอนเข้าสู่บัญชีของเรา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการทำ Affiliate อาจจะดูเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่เคยทำ แต่ที่ Shopee Affiliate Program ของเรานั้นก็มีมิชชั่นให้ทำ ที่เมื่อพิชิตมิชชั่นแต่ละแบบสำเร็จก็จะได้รับเงินโบนัสหรือรางวัลพิเศษเพิ่มไปเลย หากใครกำลังสนใจ Shopee Affiliate Program ก็สามารถสมัครเข้าร่วมกันได้นะ และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมนี้ ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
[ผู้ซื้อ] Shopee Affiliate Program
[นโยบาย] Seller Affiliate Program
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก The Digital Tips