ถ้าจะพูดถึงซีรีส์แฟนตาซีแบบต้นตำรับที่สนุกแบบวางไม่ลงคงต้องพูดถึงซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งกันเสียหน่อย ซึ่งใครที่ยังไม่เคยลิ้มลองเข้ามาดูซีรีส์ฝรั่งแนวแฟนตาซีเราก็มีลิสต์ซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งมาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกรับชมกันหลากหลายแนว แต่หากใครที่ชื่นชอบซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซีอยู่แล้วก็คงมีหลายเรื่องที่ประทับใจเก็บไว้เป็นลิสต์ส่วนตัวอยู่แล้ว ลองมาดูกันดีกว่าว่าเรามาชวนดูซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซีเรื่องอะไรบ้าง จะตรงกับซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งในใจของเพื่อน ๆ หรือเปล่า ตามมาดูกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. มหาศึกชิงบัลลังก์ Game of Thrones
เรื่องแรกที่เมื่อพูดถึงซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งแล้วจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Game of Thrones หรือซีรีส์มหาศึกชิงบัลลังก์ สร้างขึ้นจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่เป็นนิยายขายดีของ J.R.R. Martin ชุดมหาศึกชิงบัลลังก์ที่มีแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เล่าถึงดินแดนสมมติคือทวีปเวสเทอรอสและเอสซอสซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยรวมกันของผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์หลากหลายตระกูล และผู้ที่ได้ครองบัลลังก์เหล็กจะได้เป็นผู้ปกครองดินแดนทั้งหมด บัลลังก์นี้จึงเป็นที่หมายปองห้ำหั่นจนเกิดเป็นเรื่องราวของซีรีส์พร้อม ๆ กับภัยคุกคามนอกความคาดหมายที่กำลังคืบคลานมาจากดินแดนอันหนาวเหน็บทางแดนเหนือ
ความสนุกของเรื่องนี้มีอยู่หลายส่วน ทั้งในด้านเนื้อเรื่อง ซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซี Game of Throne จะพาเข้าไปสู่โลกแห่งเวทมนตร์ มังกร นักบวช และตำนานปรัมปรา ที่ให้กลิ่นอายแฟนตาซีในบรรยากาศยุโรปยุคกลาง โดยที่การช่วงชิงอำนาจของตระกูลต่าง ๆ อย่าง เลนนิสเตอร์ บาราเธียน สตาร์ค ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นเรื่องที่ทำให้เราร่วมลุ้นการหักเหลี่ยมเฉือนคมแบบพลิกความคาดหมายของคนดูได้ตลอด ซึ่งใครที่ชอบแนวตื่นเต้น หักมุม ในกลิ่นอายของความเป็นแฟนตาซี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
2. ตำนานกรีชา Shadow and Bone
เรื่องต่อมาที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งเรื่อง Shadow and Bone ซีรีส์ที่หยิบเอานิยายไตรภาคในชื่อ ตำนานกรีชา มาเล่าเรื่องราวของอาณาจักรราฟกามาอ้างอิงฉากหลังของเรื่องกับอาณาจักรรัสเซียในยุค 1800 แทน
เรื่องราวของ Shadow and Bone เล่าถึงสงครามแบ่งแยกอาณาจักรและอำนาจมีที่กำลังคืบคลานเข้ามา อาลินา สตาร์คอฟ ตัวเอกของเรื่องที่เป็นนักวาดแผนที่ได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นกรีชาผู้เรียกสุริยะ หนึ่งในนักเวทที่ทรงพลังที่สุด และต้องเดินทางเข้าสู่แดนพยับเงาที่มีนายพลคิริแกน กรีชาเจ้าความมืดคอยดูแล และอาลินาก็ตกหลุมรักเขา และในซีซั่นสอง การผจญภัยของพวกเขาก็เดินทางเข้าสู่ปัญหาและการผจญภัยที่ใหญ่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม และการรวบรวมเหล่ากรีชาผู้ภักดี เพื่อกอบกู้อาณาจักรราฟกาให้เป็นแผ่นดินเดียวกันดังเดิม
เรื่องไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นเมื่อสงครามแบ่งแยกดินแดนกำลังคุกรุ่น และตัวอลินากำลังเป็นที่ต้องการในฐานะกรีชาผู้ทรงพลัง สุดท้ายแล้วอาลินาจะวางตัวเองไว้ตรงไหน เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้จากซีรีส์ Shadow and Bone ได้เลย
3. สงครามเทพเจ้า 2 ยุค American Gods
มาถึงซีรีส์ฝรั่งแนวแฟนตาซีที่มีพล็อตแหวกแนวกันบ้าง สงครามเทพเจ้า 2 ยุคหรือ American Gods สร้างจากนิยายของนักเขียนชื่อดัง นีล เกแมน (Neil Gaiman) ซึ่งมีฉบับแปลไทยที่ใช้ชื่อ อเมริกัน ก็อดส์ เช่นเดียวกัน เนื้อหาหลักของเรื่องเล่าถึงเทพเจ้าและความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทำให้เกิดเทพเจ้าในยุคโบราณ และเทพเจ้าในยุคสมัยใหม่ ที่ยังคงดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมอเมริกันปัจจุบัน
ความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่วิถีชีวิตของคนในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เราไม่ได้ปลูกธัญพืช เลี้ยงสัตว์ ทำเกษตร ฝนฟ้าที่แปรปรวนไม่ได้ทำให้ผู้คนหวาดกลัวหรือเดือดร้อน แต่เรามีเทคโนโลยีที่เข้ามาคาดการณ์และรับมือกับความแปรปรวนเหล่านั้น เราจะได้พบกับเทพแห่งเทคโนโลยี (The God of Technology) ฟังดูก็น่าสนุกแล้วใช่ไหม โลกในยุคที่เปลี่ยนไป กับเทพเจ้าที่เปลี่ยนตาม จะมีวิถีชีวิตแบบไหน ตามดูได้จากเรื่องนี้เลย
4. Stranger Things
สำหรับคอทริลเลอร์แฟนตาซี ก็ต้องห้ามพลาดกับเรื่อง Stranger Things โดยเด็ดขาด เพราะว่าซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งเรื่องนี้มาในกลิ่นอายของความลึกลับ มิติที่ซ้อนทับ และการคลี่คลายปมความลึกลับที่มีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
เรื่องราวความลึกลับของ The Stranger Things เกิดขึ้นในเมืองฮอว์คินส์ รัฐอินเดียนา ในช่วงปี 80 ที่เกิดเหตุการณ์ลึกลับที่มีเด็กหายไปพร้อมกับเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นในเมือง จนเกิดเป็นการผจญภัยของแก๊งค์เด็ก ไมค์, วิลล์, ลูคัส, ดัสติน, แนนซี่, โจนาธาน และอีเลฟเว่น เด็กหญิงที่มีพลังพิเศษสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของ
ทั้งหมดต้องออกตามหาเพื่อน ๆ ที่หายตัวไปและพบกับเรื่องราวแปลกประหลาดมากมาย ที่เราติดตามต่อได้จากเรื่องนี้เลย โดยปัจจุบัน The Stranger Things เป็นซีรีส์ของ Netflix ที่ออกมาแล้ว 5 ซีซั่นด้วยกัน และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแบบไม่แผ่วเลย
ความน่าสนใจของซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งเรื่องนี้อยู่ที่การใช้ฉากและกลิ่นอายของยุค 80 ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็ก รักการเที่ยวเล่นและออกผจญภัย โดยเฉพาะตัวละครหลักของเรื่องเองก็เป็นแนวแก๊งค์เด็กที่พาคนดูออกเผชิญเรื่องราวต่าง ๆ และแก้ปัญหากันเท่าที่คนวัยนั้นจะทำได้ ทั้งยังสอดแทรกเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ในสมัยเด็กให้เราได้ย้อนความหลังกันอีกด้วย ถือเป็นซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งที่น่าติดตามและไม่ทำให้เสียเวลาอย่างแน่นอน
5. The Wheel of Time
สำหรับเรื่องสุดท้ายที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ The Wheel of Time ซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซีที่หยิบเอาผลงานของ Robert Jordan มาเล่าเรื่องย้อนยุค เวทมนตร์ และเด็กแห่งคำทำนาย ซึ่งเหล่าผู้มีเวทมนตร์นั้นจะมีแค่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น และเรียกว่า อายเซได ซึ่งพลังของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไปตามพลังธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่าพลังเอก และเด็กตามคำทำนายโบราณ ที่เปลี่ยนสมดุลระหว่างความมืดและความสว่างได้
ความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่โลกที่ผู้หญิงขึ้นเป็นผู้นำ มีพลังวิเศษ และผู้ชายคือคนธรรมดา บ้างคือผู้ปกป้อง บ้างคือคนค้าขาย โดยที่เรื่องราวจะเน้นหนักไปยังกลุ่มเด็กแห่งคำทำนาน เด็กตามคำพยากรณ์โบราณ ที่พวกเขาตามหาเพื่อหยุดยั้งเจ้าอนธการที่หลุดออกจากผนึก ซึ่งหน้าที่ของพวกเขาคือการปกป้องโลกใบนี้และผนักเจ้าอนธการเอาไว้ดังเดิม เพื่อไม่ให้ความมืดและความชั่วร้ายครองโลก
และนี่ก็เป็นซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซีที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ที่รวบรวมทั้งซีรีส์แฟนตาซีฝรั่งแนวเวทมนตร์อย่างมหาศึกชิงบัลลังก์ และตำนานกรีชา, ซีรีส์ฝรั่งแนวแฟนตาซีผสมกลิ่นอายของตำนานเทพเจ้า อย่างสงครามเทพเจ้าสองยุค และชวนดูซีรีส์ฝรั่งแฟนตาซีเวอร์ชั่นสลับมิติการผจญภัยของเด็ก ๆ อย่าง Stranger Things ในเนื้อเรื่องที่ไม่เด็กเลย ซึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ จะได้เข้าไปสัมผัสกับโลกที่แตกต่างออกไป ได้พบเจอตัวละครที่น่าสนใจ กับเรื่องราวเข้มข้นชวนติดตาม และเราก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะชื่นชอบซีรีย์แฟนตาซีฝรั่งลิสต์นี้ด้วย
Credit:freepik