การขับขี่อย่างปลอดภัยไม่ใช่แค่การขับขี่ตามกฎจราจรเท่านั้น แต่ “ทัศนวิสัยที่ชัดเจน” ก็เป็นหัวใจสำคัญการขับขี่ที่ปลอดภัย ซึ่งทั้งกระจกเป็นตัวช่วยให้การมองเห็นชัด ลดจุดบอด ดังนั้นการปรับกระจกให้เหมาะแก่การขับขี่ควรปรับอย่างไรจึงเป็นสกิลสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรใส่ใจ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเทคนิคการปรับกระจกให้เหมาะแก่การขับขี่ควรปรับอย่างไร ทั้งสำหรับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ พร้อมวิธีการกําจัดจุดบอดด้านข้างรถในขณะขับได้ด้วยวิธีใด ดูเฉลยได้ในบทความนี้!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
หลักสำคัญ! การปรับกระจกให้เหมาะแก่การขับขี่ควรปรับอย่างไร
เวลาขึ้นรถ หลายคนอาจจะรีบสตาร์ทแล้วขับออกไปเลย แต่จริงๆ แล้ว “การปรับกระจก” ก่อนขับเป็นขั้นตอนที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะเป้าหมายหลักของการปรับกระจกก็คือ การมองเห็นรอบตัวได้ชัด ทั้งด้านข้างและด้านหลัง ให้คนขับคุมสถานการณ์ได้ทุกมุมมอง
นอกจากนั้น การปรับกระจกที่ดีจะช่วย ลดจุดบอด (Blind Spots) ให้เหลือน้อยที่สุด เพราะจุดบอดนี่แหละ คือจุดตายที่มักทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่รู้ตัว เช่น มีมอเตอร์ไซค์แอบขับขนาบข้างมา หรือมีรถเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน ถ้าเรามองไม่เห็น ก็เสี่ยงชนได้ง่ายๆ เลย
อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการปรับกระจกให้สามารถประเมินระยะห่างและความเร็วของรถคันอื่นได้แม่นยำ เพื่อให้กะจังหวะเบรกเหรือเปลี่ยนเลนได้ถูก
ทั้งนี้กระจกมองหลังกับกระจกมองข้างมีบทบาทต่างกันอยู่เล็กน้อยคือ กระจกมองหลังช่วยให้เห็นภาพกว้างตรงหลังรถ ส่วนกระจกมองข้างช่วยให้เห็นรถที่วิ่งอยู่เลนข้างๆ เพราะฉะนั้นต้องปรับทั้งสองแบบให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้มองเห็นทัศนวิสัยรอบคันสมบูรณ์ที่สุด ที่สำคัญอย่าปรับกระจกตอนนั่งเอนหลังหรือนั่งขยับตัวผิดๆ นะ ต้องนั่งในท่าขับปกติของตัวเองก่อน แล้วค่อยปรับกระจกให้เข้าที่ แบบนี้ถึงจะได้องศามองเห็นที่ดีที่สุดสำหรับเรา
เจาะลึก! วิธีการปรับกระจกมองหลังสำหรับรถยนต์

พูดถึงกระจกมองหลัง หลายคนอาจจะคิดว่าแค่หันไปดูก็พอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว “การปรับให้ถูกต้อง” มีผลต่อความปลอดภัยมากกว่าที่คิด! วิธีง่ายๆ ก็คือ ปรับให้เรามองเห็นถนนตรงหลังรถได้เต็มบานกระจก แบบไม่ต้องเอียงคอหรือยกตัวไปดูเพิ่มเติม
เคล็ดลับอีกอย่างคือ ขอบบนของกระจกมองหลังควรอยู่พอดีกับขอบบนของกระจกหลังรถ เพื่อให้เรากะระยะได้แม่นๆ และยังช่วยลดการบังสายตาด้วย ส่วนขอบด้านข้างของกระจกหลังรถ ควรโผล่มานิดเดียวพอ เอาไว้เป็น “จุดอ้างอิง” เวลาต้องประเมินตำแหน่งรถคันอื่น
นอกจากนี้อย่าปรับจนเห็นศีรษะตัวเองหรือไหล่มากเกินไปนะ เพราะนั่นแปลว่ากระจกยังไม่อยู่ในองศาที่ดีที่สุด เราควรเน้นให้เห็น “ภาพรวมของเส้นทางด้านหลัง” แบบชัดๆ เต็มๆ มากกว่า แบบนี้จะช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัยขึ้นอีกเยอะเลย
เทคนิคการปรับกระจกมองข้างรถยนต์ ลดจุดบอด เพิ่มความมั่นใจ
กระจกมองข้างก็มีส่วนช่วยเปิดทัศนวิสัยและลบจุดบอดในการขับรถได้เหมือนกัน เพราะกระจกข้างเป็นตัวช่วยให้เรามองเห็นรถในเลนข้างๆ ได้แบบไม่ต้องเอียงคอมองให้เมื่อย และสามารถปรับได้ 2 แบบ เลือกได้ตามสไตล์ที่ถนัดเลย!
1. วิธีปรับแบบเดิม (Traditional Method)
วิธีนี้ง่ายสุดๆ คือปรับกระจกให้เรามองเห็นด้านข้างของตัวรถในกระจกประมาณ 1 ใน 4 เพื่อให้เห็นตัวรถไว้เป็นหลักอ้างอิง วิธีนี้เหมาะกับคนที่ขับในเมืองเยอะๆ ต้องจอดข้างทางบ่อยๆ เพราะช่วยให้เห็นตัวรถได้ชัดว่าห่างจากขอบถนนหรือรถคันข้างๆ แค่ไหน
2. วิธีปรับแบบลดจุดบอด (Blind-Spot Reduction Method หรือ BSM)
เทคนิคนี้ต่างออกไปนิดหน่อย คือปรับกระจกให้ออกไปด้านนอกมากขึ้นจน แทบไม่เห็นตัวรถในกระจกเลย หรือเห็นนิดเดียวเท่านั้น จุดเด่นคือเราจะมองเห็นรถที่อยู่ในเลนข้างๆ ได้กว้างกว่าเดิมเยอะ ซึ่งลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากจุดบอดได้ดีมากๆ
โดยเปรียบเทียบแล้ววิธีปรับกระจกมองข้างแบบเดิมเป็นวิธีที่ใช้ง่าย ดูรอบตัวรถได้ชัด แต่จะมีจุดบอดตรงมุมข้างๆ รถอยู่บ้าง ส่วนแบบ BSM จะช่วยให้เห็นรถที่วิ่งอยู่ข้างๆ ได้ต่อเนื่องกับภาพจากกระจกมองหลัง (ภาพจะซ้อนกันนิด ๆ) ทำให้กะระยะได้ง่ายและมั่นใจมากขึ้นเวลาเปลี่ยนเลน
การปรับกระจกให้เหมาะแก่การขับขี่ควรปรับอย่างไรสำหรับรถจักรยานยนต์

การปรับกระจกข้างสำหรับรถจักรยานยนต์นั้น บอกเลยว่ามีสไตล์เฉพาะตัวต่างจากรถยนต์พอสมควร เพราะมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะมีกระจกแค่ 2 ข้าง เท่านั้น ไม่ได้มีครบเหมือนรถยนต์ แถมขนาดและรูปร่างของกระจกก็มักจะเล็กกว่า เน้นความคล่องตัว และที่สำคัญคือ มุมมองที่ต้องการก็ต่างกัน เพราะคนขี่มอเตอร์ไซค์ต้องระวังทั้งรถแซงซ้ายแซงขวาอยู่ตลอดเวลา!
แล้วการปรับกระจกให้ถูกต้องควรทำยังไง?
เริ่มจากนั่งในท่าขับขี่ปกติ แล้วค่อยๆ ปรับกระจกแต่ละข้างให้มองเห็นทั้งด้านข้างและด้านหลังให้กว้างที่สุด ที่สำคัญคือ ปรับให้เห็นแขนหรือไหล่ของตัวเองให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้บังทัศนวิสัย และกระจกทั้งสองข้างก็ควรปรับให้เห็นคนละมุมกันนิดหน่อย จะได้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น ไม่เหลือจุดบอด
อย่าลืมเช็กด้วยว่าติดตั้งกระจกแน่นหนา ไม่สั่นไปสั่นมาเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะภาพที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญของความปลอดภัย
การกําจัดจุดบอดด้านข้างรถในขณะขับได้ด้วยวิธีใด เฉลยตามนี้!
จริงๆ แล้วการปรับกระจกให้ถูกต้องเป็นแค่ “ขั้นตอนแรก” ของการจัดการกับจุดบอดขณะขับรถ เพราะในชีวิตจริง บนถนนที่เต็มไปด้วยรถรานับไม่ถ้วน เราต้องทำมากกว่านั้นเพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยจริง ๆ
แล้วเราจะกำจัดจุดบอดได้ยังไง?
- ตรวจสอบด้วยสายตา (Shoulder Check) ทำได้ด้วยการหันศีรษะไปทางที่จะเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว เพื่อส่องให้ชัวร์ว่าไม่มีรถซ่อนอยู่ในจุดบอด อันนี้บอกเลยว่าสำคัญสุดๆ ห้ามขี้เกียจ!
- ใช้สัญญาณไฟเลี้ยว ทุกครั้งที่เปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว ให้สัญญาณล่วงหน้า ช่วยเตือนเพื่อนร่วมถนนว่ากำลังจะทำอะไร
- ขับอย่างมีสติและสังเกตตลอดเวลา หมั่นมองกระจกหน้าหลังซ้ายขวา เพื่อประเมินสถานการณ์รอบตัวอยู่เสมอ
- ระบบแจ้งเตือนจุดบอด (BSM) รถรุ่นใหม่ ๆ บางคันมีตัวช่วยไฮเทคที่จะเตือนถ้ามีรถอยู่ในจุดบอด แต่อย่าไว้ใจระบบจนเกินไป
- กระจกเสริมมุมกว้าง (Convex Mirror) ติดเพิ่มช่วยขยายมุมมอง แต่ระวังเรื่องกะระยะผิด เพราะภาพจะดูใกล้กว่าความเป็นจริงนิดหน่อย
สุดท้าย การผสมผสานทุกวิธีเข้าด้วยกันนี่แหละ คือเคล็ดลับการขับขี่ที่ปลอดภัยแบบตัวจริงเสียงจริง!
ข้อควรจำและแนวทางการปฏิบัติเพื่อการปรับกระจกให้ไม่มีพลาด!
ก่อนออกรถทุกครั้ง อย่าลืม! ปรับกระจกให้เหมาะกับตัวเอง โดยเฉพาะถ้ารถคันนี้มีหลายคนผลัดกันขับ ควรปรับทั้งเบาะนั่งและกระจกให้เหมาะกับท่าทางการขับของเราจริงๆ จะช่วยให้เห็นชัดที่สุด และเมื่อปรับแล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ลองใช้เวลาสักนิดทำความคุ้นเคยกับมุมมองใหม่ๆ จากกระจกก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีจุดบอดซ่อนอยู่
ไม่ว่ากระจกจะดีแค่ไหน ก่อนเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว ก็อย่าลืม หันไปเช็กจุดบอดด้วยสายตา ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย สุดท้ายอย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ อย่าง การทำความสะอาดกระจก เพราะแค่คราบฝุ่นบาง ๆ ก็ทำให้มองเห็นไม่ชัดได้เหมือนกันนะ!
“การปรับกระจกให้เหมาะแก่การขับขี่ควรปรับอย่างไร” ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ แต่คือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่เลยทีเดียว ซึ่งการปรับกระจกมองหลังและกระจกมองข้างให้สัมพันธ์กัน รวมถึงการใช้วิธีปรับแบบลดจุดบอดสำหรับรถยนต์ จะช่วยให้เราเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ชัดเจนขึ้น ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้มาก ซึ่งทักษะเล็กๆ อย่างการปรับกระจกให้ถูกนี้สามารถช่วยให้ทุกการเดินทางปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นได้จริงๆ และหากใครที่มองหาเคล็ดลับดูแลหรือปรับแต่งรถ ก็ตามไปอ่านบทความแบบอัพเดตๆ ได้เลยที่ Shopee Blog หรือช้อป อุปกรณ์ล้างรถ ต่อได้เลยที่ Shopee!
อ้างอิง