กวีเอกแห่งสยามประเทศจะนึกใครไปไม่ได้ นอกจาก “สุนทรภู่” ที่ได้ยินแค่ชื่อก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ทางวรรณกรรม แต่ทราบกันไหมว่าเบื้องหลังบทกลอนอันไพเราะเหล่านั้น มีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจและผลงานที่ทรงคุณค่ามากมายซ่อนอยู่อย่างไร ทำไมถึงได้รับยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวรรณกรรม จนถึงขั้นมีการแต่งตั้ง 26 มิถุนายนของทุกปี คือ “วันสุนทรภู่” วันระลึกถึงกวีเอกของไทย วันนี้จะพาไปหาคำตอบกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประวัติสุนทรภู่ กวีเอกของโลก

พระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือที่รู้จักกันในนาม สุนทรภู่ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สันนิษฐานว่าบ้านเกิดของท่านอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังหลัง (บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยในปัจจุบัน)
ชีวิตของสุนทรภู่เต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวที่ผกผัน ท่านได้รับการศึกษาในสำนักวัดชีโพ้น (วัดศรีสุดารามในปัจจุบัน) และเริ่มเข้ารับราชการในกรมอาลักษณ์ แต่ด้วยอุปนิสัยที่ไม่ชอบกรอบเกณฑ์ ทำให้ท่านต้องออกจากราชการในเวลาต่อมา
ความสามารถทางด้านการประพันธ์ของสุนทรภู่โดดเด่นเป็นอย่างมาก ท่านเริ่มเป็นที่รู้จักจากบทกลอนสุภาษิตและนิทานคำกลอนที่เล่าขานกันในหมู่ประชาชน อย่างไรก็ตาม ชีวิตของท่านก็ต้องเผชิญกับความยากลำบาก ทั้งการถูกจำคุกในสมัยรัชกาลที่ 2 และการต้องระหกระเหินไปตามที่ต่าง ๆ ภายหลัง
ถึงแม้ชีวิตจะไม่ได้ราบรื่น แต่สุนทรภู่ก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมอันล้ำค่าไว้มากมาย จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุในบั้นปลาย และถึงแก่กรรมราวปี พ.ศ. 2398 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สิริอายุประมาณ 69 ปี
วันสุนทรภู่ คือวันที่เท่าไหร่? ทำไมถึงสำคัญ?
วันแห่งการรำลึกถึงกวีผู้ยิ่งใหญ่ หรือ วันสุนทรภู่ คือ วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้ร่วมกันรำลึกถึงคุณูปการและอัจฉริยภาพของสุนทรภู่ กวีเอกผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมอมตะที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน
ในวันนี้ หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษาต่าง ๆ จะจัดกิจกรรมเพื่อสดุดีและเผยแพร่เกียรติคุณของสุนทรภู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการ การแสดง การประกวดบทกลอน การเสวนาทางวิชาการ หรือการอ่านบทกวี
การร่วมรำลึกถึงสุนทรภู่ใน “วันสุนทรภู่” ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อกวีผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าของวรรณคดีไทยและภาษาไทยอันงดงามอีกด้วย
เปิดคลังวรรณกรรมอมตะ “สุนทรภู่” แต่งเรื่องอะไรบ้าง?

ผลงานของสุนทรภู่มีหลากหลายประเภท แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ นิทานคำกลอน ซึ่งเป็นวรรณคดีที่มีเนื้อเรื่องสนุกสนาน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และสอดแทรกคติสอนใจ ผลงานที่สำคัญและเป็นอมตะ ได้แก่:
- พระอภัยมณี: มหากาพย์นิทานคำกลอนที่ยาวที่สุดในวรรณคดีไทย เต็มไปด้วยตัวละคร ฉากผจญภัย และปรัชญาชีวิตที่ลึกซึ้ง
- โคบุตร: นิทานคำกลอนที่สะท้อนความกตัญญูและความเสียสละ
- ขุนช้างขุนแผน ตอน พระไวยแตกทัพ: แม้จะไม่ใช่เรื่องที่สุนทรภู่แต่งทั้งเรื่อง แต่สำนวนกลอนในตอนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเลิศ
- สิงหไกรภพ: นิทานคำกลอนแนวผจญภัยที่มีความสนุกสนานและน่าติดตาม
- ลักษณวงศ์: นิทานคำกลอนอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยม
- กาพย์พระไชยสุริยา: บทประพันธ์ที่ใช้สอนภาษาไทยและศีลธรรม
- สุภาษิตสอนหญิง: บทกลอนที่ให้ข้อคิดและแนวทางการปฏิบัติตนสำหรับสตรี
- เพลงยาวถวายโอวาท: บทกลอนที่สุนทรภู่แต่งขึ้นเพื่อถวายคำแนะนำแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
นอกจากนิทานคำกลอนแล้ว สุนทรภู่ยังมีผลงานประเภทอื่น ๆ เช่น บทละคร เรื่อง พระอภัยมณี (ไม่สมบูรณ์) และ บทเสภา เรื่อง ขุนช้างขุนแผน (บางตอน) อีกด้วย
ทำไมยูเนสโก (UNESCO) ถึงยกย่องให้ ‘สุนทรภู่’ เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวรรณกรรม

สุนทรภู่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านวรรณกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2529 เนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาลของท่าน โดยมีเหตุผลหลัก ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
- คุณค่าทางวรรณกรรมระดับสากล: ผลงานของสุนทรภู่โดยเฉพาะเรื่อง “พระอภัยมณี” ถือว่าโดดเด่นในระดับโลก เพราะมีความเป็นวรรณกรรมคลาสสิก ที่มีโครงเรื่องซับซ้อน แทรกด้วยจินตนาการเหนือจริง สะท้อนแนวคิดเชิงสันติภาพ การอยู่ร่วมกันระหว่างชนชาติต่าง ๆ และยังสื่อถึงคติธรรมด้านคุณธรรมและศีลธรรม
- ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์และเข้าถึงคนทุกระดับ: สุนทรภู่เป็นกวีที่ใช้ภาษากลอน “ง่ายแต่ลึก” ซึ่งเข้าถึงใจคนได้ทุกชนชั้น ตั้งแต่ราชสำนักไปจนถึงประชาชนทั่วไป ยูเนสโกเล็งเห็นว่า เขาคือผู้มีบทบาทสำคัญในการ สร้างวรรณกรรมไทยให้เป็นของคนทั้งชาติ ไม่ใช่แค่ของชนชั้นสูง
- สะท้อนภาพประวัติศาสตร์และสังคมไทยในยุคนั้น: นิราศของสุนทรภู่ เช่น “นิราศเมืองแกลง” หรือ “นิราศภูเขาทอง” ไม่ได้เป็นแค่บันทึกความรู้สึกส่วนตัว แต่เป็น “หน้าต่าง” ที่ทำให้เราเห็นภาพสังคมไทย วิถีชีวิต ความเชื่อ และสภาพบ้านเมืองในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์วรรณกรรมอย่างมาก
- ผลงานของสุนทรภู่เชื่อมโยงกับค่านิยมสากล: ยูเนสโกเน้นย้ำว่า ผลงานของสุนทรภู่หลายชิ้นมีสาระที่สอดคล้องกับ อุดมคติสากล เช่น สันติภาพ การยอมรับความแตกต่าง ความรักและความเมตตา เช่น ในเรื่องพระอภัยมณี ที่มีทั้งการผูกมิตรกับศัตรู การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และการยอมเสียสละเพื่อส่วนรวม
เกร็ดความรู้ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับสุนทรภู่

- สุนทรภู่เคยติดคุก…เพราะ “ความรัก”
ในช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ 2 สุนทรภู่ได้ไปมีความสัมพันธ์กับ “แม่จัน” ซึ่งเป็นนางข้าหลวงใน พระราชวังหลัง (เขตต้องห้ามของหญิงในราชสำนัก) ความรักครั้งนี้ไม่ได้รับการยินยอม และเมื่อความลับรั่วไหลไปถึง กรมพระราชวังหลัง ทั้งสุนทรภู่และแม่จันจึง ถูกจับกุมและคุมขัง และเมื่อพ้นโทษ
สุนทรภู่ได้เดินทางไปเยี่ยม บิดาที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัดระยอง ระหว่างการเดินทางไกลนั้นเอง เขาได้ถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่ “ผิดหวังในรัก” ผสมกับภาพธรรมชาติและผู้คนระหว่างทาง จนกลายแรงบันดาลใจให้เกิด “นิราศเมืองแกลง” หนึ่งในนิราศที่สะท้อนความเศร้าและรักลึกซึ้งที่สุด
- สุนทรภู่เคยเป็นพระถึง 20 ปี!
หลังจากชีวิตรักล้มเหลวและถูกจำคุก เขาตัดสินใจ บวชเป็นพระ และอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ถึง 20 ปี ผลงานบางชิ้นในช่วงนี้ เช่น นิราศภูเขาทอง สะท้อนแนวคิดพุทธปรัชญา ความไม่เที่ยง และการปล่อยวาง
- ผลงานบันทึกการเดินทางของสุนทรภู่ กลายเป็นเอกสารประวัติศาสตร์
นิราศของสุนทรภู่ไม่ได้เป็นแค่กลอนรักเศร้า แต่คือไดอารี่การเดินทางที่ละเอียดมาก เช่น ในนิราศเมืองแกลง เขาบันทึกเส้นทางจากกรุงเทพฯ ถึงระยองไว้อย่างชัดเจน ถือเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ด้านภูมิศาสตร์ด้วย
- พระอภัยมณีใช้ “ขลุ่ย” แทน “ดาบ”
สุนทรภู่สร้างตัวเอกคือ “พระอภัยมณี” ให้ใช้ ขลุ่ยเป่าจนศัตรูหลับแทนการฆ่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ พลังแห่งศิลปะและสันติภาพ ถือว่าเป็นแนวคิด “แปลกใหม่” สำหรับวรรณคดีไทยในยุคนั้นที่มักเน้นเรื่องสงครามและฮีโร่นักรบ
และทั้งหมดนี้คือความเป็นมาของวันสุนทรภู่ เรื่องราวชีวิตของ “สุนทรภู่” ผู้ที่ไม่ได้เป็นเพียงกวี แต่ยังเป็นดั่ง “กระจกสะท้อนสังคมไทย” ในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผ่านงานเขียนที่เข้าถึงง่าย เปี่ยมด้วยเสน่ห์ และยังคงมอบบทเรียนอันลึกซึ้งให้กับผู้คนได้เสมอ แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่าสองร้อยปี อีกทั้งชีวิตของท่านยังเป็น “ตัวอย่างของมนุษย์ผู้ล้มแล้วลุก” อย่างแท้จริง โดยได้ถ่ายทอดประสบการณ์อันหลากหลายลงในบทกลอนได้อย่างกินใจ พวกเราจึงควรช่วยกันอนุรักษ์มรดกทางวรรณกรรมอันล้ำค่านี้ไว้ ไม่ให้เลือนหายไป หากใครอ่านแล้วอินกับเรื่องราวของสุนทรภู่ อยากจะตามรอยวรรณกรรม ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวจังหวัดระยอง ที่เกาะเสม็ดก็มีตำนานผีเสื้อสมุทรให้ได้สัมผัสกันด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก psychiatry.or.th, saranukromthai.or.th