การใช้เวลายามว่างให้ผ่อนคลายที่สุด คงหนี้ไม่พ้นการดูหนังโปรดสักเรื่อง บางคนชอบหนังรัก บางคนชอบหนังสร้างแรงบันดาลใจ บางคนชอบหนังแอคชั่น แต่ถ้าใครชอบหนังซอมบี้ มารวมกันที่บทความนี้ เพราะเราไปโกยลิสต์หนังซอมบี้จากทุกสัญชาติแบบครบรสมาเสิร์ฟให้แล้ว ปะ! ไปดูกันว่ามีหนัง Zombie เรื่องไหนบ้างที่น่าดู
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. Little Monster (2019)
เป็นหนังซอมบี้คอมเมดี้สยองขวัญในชื่อไทยว่า “ซอมบี้มาแล้วงับ” ที่ได้นักแสดงฝีมือดีจากหนังเรื่อง 12 Years of Slave มาแสดงเป็นคุณครูสาวที่ต้องพานักเรียนอนุบาลไปทัศนศึกษา ในขณะที่ไวรัสซอมบี้กำลังระบาด แคโรไลน์ ครูสาวจึงต้องหาทางรอดพร้อมกับคอยสร้างบรรยากาศเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ หวาดกลัว เป็นหนัง Zombie แนวใหม่ที่จะได้เห็นความน่ารักของเด็ก ๆ ไปด้วย
2. Train to Busan (2016)
ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างแนะนำเมื่อพูดถึงหนังซอมบี้ กับเรื่อง Train to Busan “ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง” หนังซอมบี้เอาชีวิตรอดแนวแอคชั่นสยองขวัญ ที่ได้แรงบันดาลใจจากไวรัส Mers นำแสดงโดยกงยู เนื้อเรื่องเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟจากโซลไปปูซาน เมื่อเริ่มออกขบวนกลับมีฝูงซอมบี้โจมตี ทำให้ผู้โดยสารในแต่ละขบวนต้องเอาชีวิตรอด
3. World War Z (2013)
World War Z ในชื่อไทยว่า “มหาวิบัติสงคราม Z” หนังซอมบี้ฉากอลังการที่มีเนื้อเรื่องชวนลุ้น และทำให้เราติดตามได้จนจบเรื่อง และนำแสดงโดยแบรด พิตต์ รับบทเป็น เจอร์รี่ เลน โดยเรื่องเริ่มที่ผู้คนในเมืองเริ่มติดเชื้อไวรัสร้ายแรง จนทำให้กลายเป็นซอมบี้ เชื้อโรคแพร่กระจายไปทั่วโลก เจอร์รี่ เลน จึงต้องกลับไปรับหน้าที่ร่วมกับกองทัพ เพื่อหาทางหยุดเชื้อไวรัสนี้ให้ได้ แลกกับความอยู่รอดของครอบครัวในสถานการณ์เลวร้าย
4. Night of the Living Dead (1986)
หนังเก่าที่เป็นต้นแบบของหนังซอมบี้ในยุคปัจจุบัน เป็นหนังขาวดำที่ฉากของเรื่องไม่ได้อลังการหรือหวือหวามากมาย แต่ทำให้คนดูลุ้น เครียด และกดดันในหลาย ๆ สถานการณ์ รวมไปถึงการสอดแทรกเรื่องการเหยียดสีผิวเอาไว้อีกด้วย เรื่องเริ่มที่สองพี่น้อง ณ สุสานแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีผู้ชายท่าทางประหลาดเข้าจู่โจม มีเพียงพี่สาวหนีรอดเพียงคนเดียว โดยหนีเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งจนพบเจอกับชาวผิวสี ทั้งสองต้องพยายามหาทางรอดจากซอมบี้ที่ล้อมรอบบ้านหลังนั้นไว้
5. Warm Bodies (2013)
หนังซอมบี้มันจะโรแมนติกน่ารักกุ๊กกิ๊กได้ยังไง แต่หนังเรื่อง Warm Bodies หรือชื่อไทยคือ “ซอมบี้…ที่รัก” กลับเป็นหนังรักซะอย่างั้น ซึ่งเนื้อเรื่องเป็นเรื่องของซอมบี้หนุ่ม ชื่อ อาร์ ได้เจอกับจูลี่ นางเอกของเรื่อง หัวใจที่เคยหยุดเต้นก็กลับมาเต้นอีกครั้ง ความเปลี่ยนแปลงของอาร์ ส่งผลต่อซอมบี้ตัวอื่น ๆ ที่ยังเหลือความเป็นคนอยู่ ความรักครั้งนี้ของเค้าจะมีจุดจบยังไง ต้องไปติดตาม
6. I am Legend (2007)
ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ หรือ I am Legend ใครที่ชอบหนังสมจริงหน่อย ไม่ฟุ้งฝันมาก เรื่องนี้เป็นหนังซอมบี้ที่ควรดูอีกเรื่อง เป็นเรื่องของเนวิลล์ นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งกาจ อาศัยในเมืองนิวยอร์กที่เหลือเขาเป็นมนุษย์เพียงคนเดียว เนื่องจากเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสที่มนุษย์เป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งไวรัสดังกล่าว พร้อมกับการต่อสู้เพื่ออยู่รอดจากพวกกลายพันธุ์ ที่จะออกล่าในตอนกลางคืน
7. Zombieland (2009)
แก๊งคนซ่าส์ล่าซอมบี้ Zombieland เป็นหนังซอมบี้คอมเมดี้แบบ Road Movie ที่เสนอเรื่องราวของคน 4 คนที่รอดชีวิตในประเทศอเมริกาหลังเกิดการระบาดของเชื้อซอมบี้ โดยมี 4 ตัวละครหลักมีนิสัยแตกต่างกัน แต่เรื่องดำเนินไปให้ทั้งหมดต้องเดินทางในรถคันเดียวกัน ไปพร้อม ๆ กับการนำเสนอถึงกฎที่ต้องปฏิบัติตาม หากอยากมีชีวิตรอดจากซอมบี้ ซึ่งเขียนโดยโคลัมบัส หนุ่มเนิร์ดขี้กลัวในเรื่อง นอกจากความสนุกแล้ว ตั้งใจดูดี ๆ จะเป็นหนังที่มีแง่คิดมากมายสอดแทรกไว้
8. Rabid (2019)
เป็นหนัง Zombie รีเมคขึ้นมาใหม่แนวโหดเลือดสาด ชื่อไทยคือ เชื้อคลั่ง พันธุ์กระหายเลือด เป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ แต่ต้องมาเจอกับอุบัติเหตุที่ทำให้เสียโฉมอย่างที่ไม่สามารถกลับมาดูดีได้ แต่แล้วก็มีคลินิกหนึ่งมาเสนอทำศัลยกรรมให้โดยใช้วิธีปลูกถ่ายสเตมเซลล์ แต่สิ่งที่ได้มามากกว่าใบหน้าสวย ๆ คือการกลายเป็นอมนุษย์ที่คอยดูดเลือดมนุษย์และแปลงให้คนเหล่านั้นกลายเป็นซอมบี้
9. The Odd Family: Zombie on Sale (2019)
ครอบครัวสุดเพี้ยน เกรียนสู้ซอมบี้ เป็นหนัง Zombie คอมเมดี้ เนื้อหาเข้าใจง่าย เป็นเรื่องอลเวงชวนขำของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเปิดปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ อยู่ในชนบท อยู่มาวันหนึ่งชายหนุ่มท่าทางแปลก ๆ ปรากฏในหมู่บ้าน โดนสุนัขไล่ตอนไปจนเจอลุงมันด๊อก แล้วกัดคอลุงเข้า แต่ลุงกลับไม่เป็นอะไร แถมยังดูหนุ่มขึ้น ฟิตปึ๋งปั๋งจนทำให้คนในหมู่บ้านสนใจ หนุ่มซอมบี้ต้นเหตุจึงกลายเป็นช่องทางสร้างธุรกิจแนวใหม่ของครอบครัวนี้นั่นเอง เป็นหนัง Zombie คอมเมดี้น่ารัก ๆ อีกเรื่องที่ควรดู
10. Scouts Guide to the Zombie Apocalypse (2015)
3 ลูกเสือปะทะซอมบี้ เป็นหนังซอมบี้คอมเมดี้คลายเครียด เบาสมอง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับลูกเสือหนุ่ม 3 คนที่เป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งพวกเขาออกไปตั้งแคมป์ แต่คืนนั้น Cater และ Ben ชวนกันออกไปงานปาร์ตี้ จนสุดท้ายทุกคนก็ได้ออกไปจากป่า แล้วพบว่าคนทั้งเมืองกลายเป็นซอมบี้ ทำให้ 3 หนุ่มต้องเอาตัวรอดและช่วยพี่สาวสุดเซ็กซี่ของ Carter ออกมาจากงานปาร์ตี้นั้นให้ได้ มีการแทรกหลักการเอาตัวรอดของลูกเสือไว้ด้วย ใครชอบหนังตลกแนววัยรุ่น เรื่องนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
11. Dawn of the Dead (2004)
เป็นหนังซอมบี้ที่หลายสำนักรีวิวหนังต่างแนะนำว่าควรดู ชื่อไทยว่า “รุ่งอรุณแห่งความตาย” เรื่องเกิดขึ้นเมื่อโรคระบาดร้ายแรงโจมตีคนทั้งโลก เหลือผู้รอดชีวิตที่ยังเป็นมนุษย์อยู่จำนวนหนึ่ง ที่เหลือก็กลายเป็นศพที่ตามล่ากินเนื้อสดของมนุษย์ ทำให้กลุ่มคนที่ยังรอดต่างไปหลบกันในห้างสรรพสินค้าร้าง ในระหว่างที่ฝูงซอมบี้ต่างพยายามบุกเข้ามา พวกเขาต้องต่อสู้โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัว เป็นหนังดีที่ลุ้นระทึก ใครชอบแนวนี้ก็ตามไปดูได้
12. Rampant (2018)
เป็นหนังซอมบี้เกาหลีที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ด้วยฉากต่างๆ ที่จัดเต็ม เพื่อเนรมิตบรรยากาศเกาหลีย้อนยุคกับซอมบี้ให้มีสีสันมากขึ้น เมื่อ “องค์ชายกังลิม” ถูกเรียกกลับวังหลวงเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภายใน หลังเสนาบดีก่อกบฏเพื่อหวังขึ้นครองราชย์เป็นพระราชาองค์ใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์อันตรายจากฝูงกองทัพซอมบี้ที่กำลังออกอาละวาดคร่าชีวิตประชาชนไปเรื่อยๆ
13. Kingdom (2019)
หนังแนวซอมบี้เกาหลี ที่เคยมีผลงานโลกออนไลน์ เป็นแนวซีรีส์ออริจินอลของ Netflix ที่นำเสนอเรื่องราวของซอมบี้ผสมผสานแบบอิงประวัติศาสตร์ในยุคโชซอน เมื่อพระราชาทรงประชวรด้วยโรคประหลาดและไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเลย ขณะที่นอกวังก็มีข่าวลือว่ามีชาวบ้านจำนวนมากกำลังเผชิญกับโรคร้ายจนกำลังกลายร่างเป็นอสูร องค์รัชทายาท “อีชาง” จึงออกเดินทางค้นหาความจริงท่ามกลางเกมการเมืองในพระราชวังที่ร้อนระอุ
14. ALIVE (2020)
หนังซอมบี้เกาหลี ซึ่งนำแสดงโดย 2 นักแสดงอย่าง “ปาร์คชินฮเย” และ “ยูอาอิน” โดยเป็นการถ่ายทำในพื้นที่แคบๆ เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากซอมบี้ที่เกิดขึ้นรอบๆตัว หนังเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ขลุกตัวเล่นเกมอยู่ในห้อง จนกระทั่งมีโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งระบาด ทำให้ผู้คนกลายเป็นซอมบี้ เขาจึงต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ภายในห้องแคบๆ และขาดการติดต่อกับครอบครัว ในขณะที่อาหารและน้ำก็กำลังจะหมด เขาจึงตัดสินใจออกจากห้องพักเพื่อหาอาหารเพื่อจะเอาชีวิตรอดให้ได้ เป็นหนังซอบบี้น่าดูอีกเรื่องจากเกาหลีที่ไม่ควรพลาด
15. Peninsula (2020)
หนังแนวซอมบี้ภาคต่อเรื่องนี้ถือเป็นหนังดัง ที่น่าติดตาม ถ้าเคยชื่นชอบ Train to Busan เรื่องนี้ก็จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยเป็นเรื่องราวเมื่อผ่านไป 4 ปีหลังเชื้อซอมบี้ระบาดไปทั่วเกาหลีใต้จนกลายเป็นดินแดนของเหล่าซอมบี้ แต่แล้ววันหนึ่ง จองซอก ทหารเกาหลีใต้ผู้รอดชีวิตก็มีเหตุต้องกลับไปประเทศของตนเอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าในนั้นเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้และอันตรายจำนวนมาก ซึ่งแม้จะเป็นหนังภาคต่อ แต่หนังก็ถูกสร้างออกมาให้ดูรู้เรื่องแม้จะไม่ได้ดูภาคแรก สำหรับคนที่ชอบหนังซอมบี้สไตล์แอ็กชันถล่มทลาย
16. Cargo (2017)
หนังแนวซอมบี้ที่สะท้อนถึงจิตใจมนุษย์ เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของแอนดี้ พ่อลูกอ่อนคนหนึ่งผู้ติดเชื้อโรคร้ายที่จะทำให้กลายเป็นซอมบี้ในเวลา 48 ชั่วโมง เขาจึงออกต้องเดินทางและทำทุกวิถีทางเพื่อหาสถานที่ปลอดภัยให้แก่ลูกน้อยก่อนที่เขาจะกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง และความโหดร้ายของโลกยุคซอมบี้
17. Zombieland: Double Tap (2019)
เป็นหนังซอมบี้น่าดูอีกเรื่อง ที่มาแนวฮาๆ โดยหนังเรื่องนี้เป็นหนังภาคต่อจากหนัง Zombieland ภาคแรก เป็นเรื่องราวจากโลกเดิมที่ล่มสลายลงจนกลายเป็นโลกของซอมบี้ ทำให้เหล่าผู้รอดชีวิตต้องมารวมตัวกันเพื่อเอาตัวรอดจากโลกที่โหดร้ายแห่งนี้ เนื้อเรื่องอาจจะดูธรรมดา แต่สายฮาไม่ต้องห่วง เพราะในเรื่องนี้จะพบกับมุกตลกสุดวายป่วง ซอมบี้หน้าตาพิลึกนานาชนิด และกลุ่มคนที่ทั้งแสบและบ้าบอยิ่งกว่าใคร เรียกได้ว่าเป็นหนังสุดบันเทิงที่เหมาะกับการดูพร้อมกับเพื่อน ๆ
18. Ravenous (2017)
หันมาดูหนังแนวซอมบี้จากประเทศแคนาดากันบ้าง โดยหนังซอมบี้เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่เกิดวิกฤตการณ์ไวรัสซอมบี้ระบาดไปทั่วเมือง ทำให้ผู้คนที่รอดชีวิตต้องซ่อนตัวเอาไว้ จุดเด่นของซอมบี้เรื่องนี้ คือ เป็นซอมบี้ที่ออกล่าเหยื่อจากเสียง ทำให้ทุกคนในเรื่องต้องเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนังจึงออกมาในรูปแบบเงียบ ๆ กดดัน ใครที่ชอบดูหนังสไตล์ลุ้น ๆ บีบหัวใจ รับรองว่าต้องชอบแน่นอน
19. Doom (2005)
ดูหนังซอมบี้เรื่องนี้ต้องนึกถึงเกมเดินหน้ายิงชื่อดัง ซึ่งเป็นรูปแบบหนังสไตล์แอ็กชันที่ดาหน้ายิงซอมบี้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของศูนย์วิจัยบนดาวอังคารที่ทำการทดลองผิดพลาด ทำให้ทางโลกต้องส่งทีมระดับมหากาฬไปปราบ ก่อนที่เหล่าผีดิบกลายพันธุ์เหล่านี้จะหลุดออกมาสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกภายนอก เป็นการเดินเรื่องได้อย่างกระชับ แต่ได้ใจความ เป็นอีกเรื่องที่จะพลาดไม่ได้
20. Day of the Dead: Bloodline (2018)
สำหรับคนชอบดูหนังซอมบี้ สไตล์เละ ๆ แหวะ ๆ จะไม่ผิดหวังแน่นอนกับเรื่องนี้ เป็นการดัดแปลงใหม่จากเรื่อง Day of the Dead ว่าด้วยเรื่องราวของโซอี้ นักศึกษาแพทย์สาวผู้รอดชีวิตจากวิกฤตการณ์ซอมบี้และมาอาศัยในค่ายผู้รอดชีวิตแห่งหนึ่ง จนกระทั่งยารักษาเริ่มจะหมด เธอจึงต้องออกไปตามหายารักษาโรคจากด้านนอกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ที่กำลังอาละวาด แม้หนังซอมบี้เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่มีพล็อตซับซ้อนมาก แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่จะพลาดไม่ได้เช่นกัน
21. กัดกระชากเกรียน (2017)
หนังไทยบ้านเราก็มีหนังแนวซอมบี้เช่นกัน โดยจะเป็นเรื่องของนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ตามหาความจริงของการตายปริศนาที่เกิดกับพ่อแม่ในโรงพยาบาลที่ถูกปิดตาย และเขาก็ได้พบความจริงที่ว่า โรงพยาบาลแห่งนั้นเต็มไปด้วยเหล่าซอมบี้กินคน พวกเขาจึงต้องพยายามหนีรอดจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ เป็นหนังซอมบี้ที่เปิดมิติใหม่ของความเป็นไทยใส่ลงไป ที่จะต้องไปดูให้ได้
เป็นยังไงกันบ้างกับหนังแนวซอมบี้ที่คัดมาให้ดูกันในช่วงที่จะต้องอยู่กับบ้าน แก้เซ็ง แก้เบื่อ กันวนไปเรื่อยๆ และรับรองความอร่อยของรสชาติที่ซอมบี้ชอบกิน ในทุกๆเนื้อเรื่องที่มอบใส่จานพร้อมเสิร์ฟให้เกิดความบันเทิง 100%
เชื่อว่าหนังซอมบี้ เป็นแนวที่หลาย ๆ คนชอบ ด้วยโครงเรื่องที่สามารถทำออกมาได้ทุกรสชาติ มีทั้งสยองขวัญ เลือดสาด ลุ้นระทึก หรือจะทำหนัง Zombie ออกมาเป็นหนังรักโรแมนติกชวนหัวใจฟู รวมถึงหนังซอมบี้คอมเมดี้คลายเครียดชวนหัวเราะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ร่างไร้วิญญาณ ออกไล่ล่ากัดกินมนุษย์ ใครชอบเรื่องไหนก็ไปตามดูกันได้เลย ถ้าให้ดีมีโปรเจกเตอร์เล็ก ๆ เอาไว้ฉายหนังดูแบบยาว ๆ คงฟินขึ้นไปอีก
Credit: Image by h9images on Freepik