เกาะติดกระแสแต่งบ้านที่แอดวานซ์ขึ้นอีกขั้นด้วยพรรณไม้ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวในแบบที่มองแค่แว้บเดียวก็โดนใจด้วยความชิคได้เลยกับบรรดาต้นไม้ใบด่างที่บรรดาเซเลปต่างนำมาถ่ายรูปโชว์บนอินสตาแกรม ซึ่งพรรณไม้ด่างเหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมกับใบเขียวสดแต้มสีขาวเป็นแถบเป็นดวงแปลกตา ให้ความยูนีคไม่เหมือนใครแบบสุด ๆ และกลายมาเป็นกระแสไอเท็มยอดนิยมในการตกแต่งบ้านที่กำลังมาแรงในตอนนี้
และหากเพื่อน ๆ ยังมีข้อสงสัยว่าไม้ด่างคือต้นไม้แบบไหน ทำไมต้นไม้ด่างถึงมีลักษณะพิเศษแบบนั้นได้ และหากจะนำมาปลูกบ้างมีต้นไม้ใบด่างแบบไหนให้เลือกกันบ้าง คราวนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูกัน รวมถึงแนะนำวิธีปลูกและดูแลไม้ใบด่างเหล่านี้ให้มีใบด่างสวย ๆ ได้ตลอดปีอีกด้วย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ไม้ด่างเกิดจากอะไร ทำไมต้นไม้ใบด่าง
อย่างที่เราคุ้นตากับภาพต้นไม้แต่งบ้านอย่างต้นมอนสเตอร่าหรือต้นยางอินเดียที่มีใบเขียวสด และนั่นก็เป็นธรรมชาติของใบไม้ แต่คงเป็นความธรรมดาเกินไปเพราะที่กำลังมาแรงอยู่ในตอนนี้คือใบไม้ที่มีใบแต้มสีขาว ครีม ชมพู แดง ไปจนถึงเหลืองอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกแปลกตา ซึ่งสีเหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากการลงสีด้วยน้ำมือมนุษย์แต่อย่างใด เพราะมาจากการรังสรรค์ของธรรมชาติล้วน ๆ ทำให้ต้นไม้ใบด่างแต่ละต้นเรียกได้ว่าแทบจะมีลวดลายเฉพาะและยูนีคแบบสุด ๆ
ส่วนสาเหตุที่มาของการที่ต้นไม้ใบเขียว ๆ อยู่ดี ๆ จะกลายเป็นไม้ใบด่างนั้นก็เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น
- ขาดแสงสว่าง แสงสว่างเป็นปัจจัยหลักในการสร้างเม็ดสีเขียวในใบของต้นไม้ที่เรียกกันว่า คลอโรฟิลด์ โดยที่หากเรานำต้นไม้ไปวางในที่อับแสงนาน ๆ จะสังเกตได้ว่าใบของต้นไม้จะเริ่มเป็นสีเขียวอ่อน ๆ จนถึงขาวซีดและเริ่มอ่อนแอลง
- เนื้อเยื่อใบมีอากาศมาก ซึ่งส่งผลให้การรับแสงแดดของใบเปลี่ยนไปได้รับแสงได้ไม่เต็มที่ ทำให้ใบไม้กลายเป็นสีเทาเงิน ไม้ด่างที่เกิดขึ้นในกรณีนี้มักพบมากในป่าธรรมชาติ และมักเป็นคุณสมบัติติดต้นไม่เปลี่ยนแม้ต้นไม้โตขึ้นหรือย้ายที่ปลูก
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น การได้รับสารกัมมันภาพรังสีที่ทำให้ยีนส์สีดั้งเดิมผิดเพี้ยนไป หรือเป็นความตั้งใจของผู้ปลูกในการปรับปรุงสายพันธุ์ต้นไม้ เพื่อให้เกิดคุณลักษณะใหม่ที่ต้องการ
- ขาดสารอาหาร การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น การขาดแมกนีเซียมจะทำให้ใบของต้นไม้เป็นสีเหลือและอ่อนแอลง
- เกิดโรคบางชนิด โรคบางชนิดทำให้ต้นไม้มีการเจริญผิดปกติ บางชนิดอาจทำให้เกิดใบหงิกงอ บางชนิดอาจทำให้เกิดสีของใบที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ทั้งนี้มักมาพร้อมกับการแคระแกร็นของต้นและใบ ซึ่งหากใช้อุปกรณ์ตัดแต่งร่วมกับต้นอื่นก็ทำให้ติดไปยังต้นอื่นได้ด้วย
เมื่อสาเหตุที่ทำให้เกิดใบด่างในต้นไม้นั้นมีหลากหลาย การเกิดใบด่างบางอย่างทำให้เกิดความแคระแกร็นและอ่อนแอของต้นตามมา ดังนั้นการเลือกไม้ใบด่างสักต้นมาปลูกก็ควรคำนึงถึงปัจจัยที่เกิดจากธรรมชาติเป็นคุณสมบัติติดต้นเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เวลานำมาเลี้ยงที่บ้านเองแล้วเกิดสีที่เพี้ยนไป หรือ เหี่ยวเฉาตายไปเองได้อย่างง่ายดาย
ทำไมไม้ใบด่างจึงมีราคาแพง
เพราะปกติแล้วต้นไม้ทั่วไปมีธรรมชาติที่ใบจะเป็นสีเขียวสด การที่ใบไม้ปกติจะกลายเป็นสีเหลือบขาว ครีม เหลือง แดง ชมพู ได้นั้นมักขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ไม่ปกติ และมีโอกาสเกิดได้น้อยมากในธรรมชาติ โดยมีไม่ถึง 5% เท่านั้นเอง
อีกทั้งโดยธรรมชาติแล้วไม้ใบด่างมักเติบโตได้ช้า ขยายพันธุ์ได้ยาก แต่ด้วยความหายากและสวยงามแปลกตาแบบนี้กลับทำให้คนนิยมชมชอบนำไปปลูกกันเป็นจำนวนมาก และความที่มีน้อยแต่ได้รับความนิยมมากนี้เองที่ทำให้ไม้ใบด่างมีราคาแพง ไม้ด่างบางชนิดสามารถขยับราคาขึ้นไปแตะหลักล้านได้แบบสบาย ๆ
…
พรรณไม้ด่างราคาแพงที่น่าสนใจ
1. กล้วยด่างฟลอริดา
จัดอยู่ในกลุ่มไม้ประดับในกลุ่มไม้ฟอกอากาศที่ปลูกได้ทั้งในบ้านและในคอนโด กล้วยด่างฟลอริดาเป็นพืชล้มลุก ขยายพันธุ์ได้ด้วยการแตกหน่อ เพาะเมล็ด หรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ มีความแตกต่างกับกล้วยทั่วไปตรงที่ทั้งใบ ลำต้น และผลจะเกิดการด่างของสีเป็นสีเขียวอมชมพู สูงได้ 2-3 เมตร
การด่างของสีของกล้วยฟลอริดานั้นเกิดจากยีนด้อยที่แสดงลักษณะออกมาคล้ายยีนส์เผือก ทำให้เกิดการด่างของสี แต่ปัจจุบันยังมีการขยายพันธุ์ได้น้อย ขณะที่ความต้องการยังคงมีสูง ทำให้ค่าตัวน้องอยู่ในระดับที่แพงระยับ เพียงแค่หน่อก็มีสนนราคาแพงได้ถึง 70,000 บาทแล้ว
2. พลูฉลุด่าง (Monstera Adansonii Variegata)
เป็นอีกหนึ่งไม้ประดับที่อยู่ในกลุ่มไม้ฟอกอากาศ ที่มีลักษณะแปลกตาด้วยรูปลักษณ์คล้ายใบพลูด่าง แต่มีรูเว้าแหว่งบนแผ่นใบ พร้อมกับสีเขียวเข้มสลับครีมสวยงามแปลกตา เดิมพลูฉลุนั้นไม่ได้มีราคาสูงมากนัก แต่สำหรับพลูฉลุด่างนั้นมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก ทั้งยังสวยแบบยูนีคได้สุด ๆ ทำให้สนนราคาของน้องก็ไม่เบาเลย
พลูฉลุด่างมีสนนราคาเริ่มต้นที่ใบละ 20,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลวดลายและลักษณะของต้นด้วย
3. มอนสเตอร่าด่าง มิ้นท์ (Monstera MintMonstera)
หลายคนที่ติดตามอินสตาแกรมอยู่คงค้นเคยกับไม้ประดับใบใหญ่สีเขียวสด แผ่นใบเว้า ๆ แหว่ง ๆ เหมือนมีกรรไกรมาตัดเป็นแฉก ๆ แต่ก็ดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ เจ้าต้นไม้ชนิดนี้ลำพังแค่ใบเขียวสดปกติก็มีราคาสูงมากอยู่แล้วเนื่องจากเป็นพรรณไม้หายาก
แต่มอนสเตอร่าด่าง มินท์ ที่มีใบแต้มสีเขียวอ่อนจนถึงสีครีมนั้นยิ่งหายากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งให้น้องมอนสเตอร่าด่าง มิ้นท์ มีราคาแพงได้ถึงหลักล้านทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นที่ฟอร์มสวย สมบูรณ์ มีลวดลายสวยงามก็ไม่แปลกที่จะมีราคาถึงหลักหลายล้านเลยก็ได้
4. เสน่ห์จันทร์ดำด่าง (Homalomena cf. aromatica)
เดิมเสน่ห์จันทร์เป็นไม้สมุนไพรไทยที่หัวมีกลิ่นหอม มีลักษณะเป็นไม้ที่แตกใบขึ้นจากหัวคล้ายต้นบอน แต่สน่ห์จันทร์ดำด่างคือพันธุ์ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมทำให้มีสีสันเปลี่ยนไปไม่ใช่สีเขียวสดเหมือนปกติ ซึ่งอาจทำให้ใบมีลายด่างสีขาวหรือชมพูปน เป็นไม้ที่หายากมาก ๆ ทำให้ราคาอาจสูงได้กว่า 125,000 บาท
5. มอนสเตอร่า โอบิกัว (Monstera obliqua)
เป็นไม้ประดับตระกูลพลูฉลุที่หายาก และมีราคาสูงที่สุด ซึ่งมอนสเตอร่า โอบิกัว จะแตกต่างจากพลูฉลุตรงที่มีขนาดของใบใหญ่และกว้างกว่า มีลายฉลุลึกจนเหมือนใบจะขาดจากกัน และยิ่งลายฉลุกว้างเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอนสเตอร่า โอบิกัวที่มีลายด่างสีขาว-ครีม แต้มตัดกับสีเขียวเข้มของใบก็ยิ่งส่งให้ราคาแพงขึ้นได้อีกมาก และอาจมีสนนราคาได้สูงถึง 80,000 บาท/ใบ
6. ยางอินเดียด่าง
เป็นไม้ในตระกูลไม้ฟอกอากาศ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นไม้ขนาดใหญ่ ถ้าปลูกในดินจะสามารถสูงได้กว่า 25 เมตรทีเดียว แต่เมื่อนำมาปลูกในกระถางและตั้งในห้องแล้วก็มักจะเติบโตได้ช้าลง เหมาะกับการปลูกในห้องได้เช่นเดียวกัน
ลักษณะของต้นมีลำต้นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวรูปรี แต้มสีด่างสีขาว เหลือง ชมพู หรือสีเข้มเกือบดำเป็นลวดลายแปลกตา สามารถปลูกได้ทั้งในและนอกอาคาร มีราคาตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไปจนถึงหลายพันหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับความเฉพาะตัวและฟอร์มต้นที่สวยงาม
7. กวักมรกตด่าง
เป็นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงอีกชนิดหนึ่งที่สามารถปลูกไว้ได้ง่าย ๆ ในห้องหรือในอาคาร ลักษณะเป็นไม้หัวขนาดเล็ก อวบน้ำ ลำต้นเรียวยาว มีใบแตกออกจากล้ำต้นคล้ายแฉกขนนก เป็นไม้มงคลที่เชื่อว่านำลาภผลมาให้ผู้ปลูก
สำหรับกวักมรกตด่างจะมีรอยแต้มสีขาวกระจายอยู่บนผิวใบ หรือบางชนิดจะมีใบสลับสีครีม – เขียวเข้มเป็นคนละด้านของลำต้น เป็นลวดลายที่สวยแปลกตา ทำให้ต้นที่มีลวดลายสวย ๆ ฟอร์มดีอาจมีราคาได้สูงถึงใบละ 20,000 บาท
8. ฟิโลเดนดรอน พิงค์ ปรินเซส
ไม้ด่างหายาก ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ด่างราคาแพงอีกชนิดหนึ่ง มาด้วยเสน่ห์ของใบสีเขียวสดแต้มสีชมพูสมชื่อปรินเซส แต่เมื่อใบเริ่มโตขึ้นก็จะกลับเป็นสีเขียวเข้ม แต้มจุดชมพูไป ซึ่งหากต้นไหนที่มีใบด่างน้อย ๆ เป็นแค่จุดแต้มสีชมพูก็จะมีราคาไม่แพงนัก แต่หากมีลวดลายสีใบเป็นสีชมพูทั้งหมด หรือชมพูครึ่งเขียวครึ่ง ก็มีราคาสูงได้แบบกระเป๋าฉีกกันไปเลย
ฟิโลเดนดรอน พิงค์ ปรินเซส เป็นไม้ประดับที่มีขนาดไม่ใหญ่ ปลูกได้ในห้อง มีใบรูปหัวใจ น้องเป็นสายพันธุ์ที่มาไกลจากป่าฝนเขตร้อนในอเมริกาใต้ และเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยทุกวันนี้
9. เงินไหลมาเทมาด่าง
เป็นไม้ชื่อมงคลที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีและมักจะมีติดบ้านเอาไว้เพื่อเพิ่มสีเขียวให้กับบ้านและเป็นไม้ฟอกอากาศอยู่แล้ว ทั้งยังสามารถดูดมลพิษต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งน้องถือเป็นไม้เลื้อย มีลำต้นสีเขียวอวบน้ำ ใบเดี่ยวคล้ายใบบอน โคนใบเว้าลึก ปลายใบเรียวแหลม ซึ่งแค่ลักษณะก็ดูสวยงามตามท้องเรื่องอยู่แล้ว แต่สำหรับต้นเงินไหลมาเทมาด่างนั้นมีความสวยงามแปลกตามากขึ้นไปอีก
ต้นเงินไหลมาเทมาด่างนั้นจะมีทั้งลักษณะที่เป็นสีเขียวแทรกด้วยลายของใบที่มีสีด่างเป็นสีขาวจนถึงเขียวอ่อนเป็นลวดลายแปลกตา แต่หากให้สวยงามขึ้นอีกขั้นก็อาจได้เห็นใบที่เป็นสีด่างขาวหรือเขียวอ่อนทั้งใบเลยก็ได้ ซึ่งเป็นฟอร์มที่สวยงามแบบสุด ๆ สนนราคาของน้องก็มีตั้งแต่หลักร้อยที่เป็นใบด่างแบบหาไม่ยาก ไปจนถึงหลายพันในกรณีที่มีใบด่างมากในแบบที่มักจะหาได้ยาก
10. พลูราชินีหินอ่อน Marble Queen
น้องเป็นไม้ประดับที่เราพบเห็นและคุ้นเคยกันดี โดยที่มักจะเห็นเป็นไม้ประดับในโรงเรียน โรงพยาบาล บ้าน อาคารสถานที่ต่าง ๆ เนื่องด้วยธรรมชาติที่ปลูกง่าย ต้องการการเอาใจใส่ไม่มาก แถมยังโตเร็ว นำไปปลูกต่อได้อีกมาก ทั้งยังเป็นไม้ที่ได้ชื่อว่านำสิริมงคลมาให้แก่ผู้ปลูกอีกด้วย
พลูราชินีหินอ่อน หรือ พลูด่างเป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นอวบน้ำ ใบเป็นรูปหัวใจมีลวดลายด่างเขียว เขียวอ่อน ขาว ครีม ซึ่งจะด่างมากหรือด่างน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะสายพันธุ์ ซึ่งด้วยความที่หาไม่ยาก เติบโตได้เร็ว พลูราชินีหินอ่อนจึงเป็นไม้ด่างที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่มาก แต่ก็สามารถครอบครองไม้ประดับที่สวยแปลกตานำมาประดับห้องให้ดูชิค ๆ ได้เหมือนกัน
…
วิธีดูแลต้นไม้ด่างให้ใบด่างสวยงามตลอดปี
การปลูกไม้ด่างต้องการความใส่ใจมากกว่าต้นไม้ทั่วไป ไม่เฉพาะแค่ว่าเพราะราคาแพงเท่านั้น แต่ไม้ด่างยังเติบโตได้ช้ากว่า เพราะใบมีพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างอาหารเลี้ยงต้นได้น้อย ดังนั้นเรามาลองดูกันดีกว่าว่าจะดูแลไม้ด่างให้ใบด่างสวยงามตลอดปีได้อย่างไร
- ระวังเรื่องแสง ไม้ใบด่างส่วนใหญ่แล้วไม่ชอบแดดจัด จึงต้องระวังอย่าตั้งน้องไว้ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรติดตั้งอุปกรณ์พรางแสง แต่หากเป็นไม้ใบด่างที่ปลูกได้ดีในที่แดดจัดอย่าง ไทรด่าง มันสำปะหลังด่าง ชบาด่าง ก็ควรต้องดูแลแดดให้เพียงพอ เช่นกัน
- ดูแลการให้น้ำ การให้น้ำไม้ด่างนั้นไม่ควรให้น้ำมาก เนื่องจากใบมีพื้นที่สีเขียวน้อย ทำให้การคายน้ำเป็นไปได้น้อยกว่าพืชปกติ การให้น้ำมากเกินไปอาจทำให้ใบเป็นรอยไหม้ได้
- ดูแลเรื่องดินและปุ๋ย ดินที่เหมาะกับการปลูกไม้ด่างก็ไม่ต่างจากดินสำหรับการปลูกไม้ประดับอื่น ๆ คือจำเป็นต้องเป็นดินร่วนโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และเลือกปุ๋ยที่สลายตัวช้าอย่างออโมโคทสูตร 6 เดือน
เป็นอย่างไรบ้างคะกับไม้ด่างเนรมิตบ้านให้พร้อมไม้ด่างราคาแพง
คราวนี้เราก็พาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับไม้ด่างราคาแพง รวมถึงไม้ใบด่างชนิดต่าง ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณาความสวยงาม แปลกตา เพื่อลองหาน้องมาประดับห้องให้ดูสวยงามน่ามองแบบชิค ๆ และไม่ต่างกับการปลูกต้นไม้อื่น ๆ ที่จำเป็นต้องมีการดูแลใส่ใจ เพื่อให้น้องได้อยู่คู่บ้านของเราไปนาน ๆ ด้วยค่ะ นอกจากนี้สำหรับสายแต่งบ้าน เราแนะนำคอนเทนท์ การแต่งบ้านหลากสไตล์ ทั้งสไตล์มินิมอลที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการแต่งห้องแล้ว ยังมีสไตล์อื่นๆที่น่าสนใจให้เพื่อนๆเลือกแต่งอีกเยอะมาก ทั้งสไตล์ลอฟท์ โบฮีเมียน ฯลฯ แล้วจะมีทริกอะไรที่ทำให้ห้องเล็ก ๆ ดูสว่างและกว้างขึ้นได้ ตามกันไปดูต่อที่ 10 สไตล์ไอเดียแต่งห้องนอนขนาดเล็ก เนรมิตห้องให้น่าอยู่กว่าเดิม! ได้เลย