ใคร ๆ ก็อยากมีความรักที่เพอร์เฟกต์กันทั้งนั้น การได้เจอใครสักคนที่คลั่งรักเราแบบสุด ๆ ดูแลเอาใจใส่เราเหมือนเป็นที่หนึ่ง ก็คงฟินน่าดู แต่บางครั้งความรักที่เข้ามาแบบรวดเร็ว อย่างเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน บอกรักทุกเช้าเย็น เอาใจสุด ๆ ตั้งแต่วันแรก ฟังดูเหมือนจะดี แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณของ Love Bombing อยู่ก็ได้ และบทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ Love Bombing คืออะไร พร้อมวิธีสังเกต และป้องกันตัวเองจากความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะดี แต่แท้จริงอาจเป็นกับดักที่พาเราเข้าสู่ Toxic Relationship!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
Love Bombing คืออะไร? ทำไมต้องระวัง
Love Bombing คือพฤติกรรมที่อีกฝ่ายทุ่มเทความรักใส่เราแบบจัดเต็ม เหมือนระเบิดความรักใส่แบบไม่ยั้ง ชนิดที่ว่าเรากลายเป็นคนพิเศษในชีวิตเขาทันที บางคนเจอแค่ไม่กี่วันก็พาไปเจอครอบครัว ชวนคุยเรื่องแต่งงาน หรือบอกรักเช้าเย็น เอาใจทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่า นี่แหละ! คนที่ใช่
แต่หารู้ไม่… ช่วงแรกของ Love Bombing มักจะหวานฉ่ำแบบนี้เสมอ พอเราเริ่มอินกับเขา เริ่มเชื่อใจ เขาก็เริ่มเปลี่ยน จากที่เคยตามใจ หลัง ๆ มาก็ใช้อารมณ์ โดยเฉพาะพวกที่มีนิสัยหลงตัวเอง (Narcisisitic) เขามักจะใช้วิธีนี้ทำให้เราตายใจ ก่อนที่จะเริ่มควบคุมความสัมพันธ์อย่างแนบเนียน และความน่ากลัวของ Love Bombing คือมันมักจะเกิดในช่วงที่เรายังไม่มีเวลารู้จักอีกฝ่ายมากพอ ทุกอย่างดูดีจนเราไม่ทันสงสัยอะไรเลย มารู้ตัวอีกทีก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว
เช็กลิสต์! 5 พฤติกรรมที่เข้าข่าย Love Bombing

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ความรักที่ได้รับ มันคือความจริงใจ หรือเป็นเพียงกับดักของ Love Bombing แต่ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะมีบางสัญญาณที่เริ่มเตือนเราว่า ความสัมพันธ์นี้อาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด มาลองเช็กกันว่ามีพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่เข้าข่าย
1. การทุ่มเทแบบเกินจริง ทุกอย่างดูเร็วไปหมด
สัญญาณแรกที่เห็นได้ชัด คือการทุ่มเทความรัก และความสนใจให้อย่างหนักหน่วงในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างเช่น เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันก็รีบบอกรัก พูดถึงอนาคตร่วมกัน หรือให้ของขวัญบ่อย ๆ บางคนถึงขั้นอวยเราทุกอย่างแบบเกินจริง เหมือนเราดีเลิศไปหมด จนเริ่มรู้สึกแปลก ๆ
2. ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวจนเกินไป
คนที่ทำ Love Bombing คือคนที่พยายามจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการโทรหา หรือแม้แต่ส่งข้อความหาคุณทุกชั่วโมง หรือชวนไปทำนู้นทำนี่ เพื่อให้เรารู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้ และในที่สุดพอเรารู้ตัวอีกที เราอาจเริ่มถอยห่างจากเพื่อน หรือแม้แต่ครอบครัวไปโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
3. ทำทุกอย่างให้เรารู้สึกพิเศษ จนเผลอไว้ใจ
เขามักจะทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ พูดทุกวันว่าเราดีที่สุด น่ารักที่สุด จนเรารู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เจอเขา แต่มันคือกลยุทธ์ที่หลายคนใช้ เพื่อทำให้เรารู้สึกพิเศษ และผูกพันกับเขาเร็วขึ้น เพราะเมื่อเรารู้สึกดีกับใคร เราก็มักจะลดกำแพง ไม่ตั้งคำถาม แถมยังหลังเขาแบบหัวปักหัวปำ
4. รีบรัก รีบผูกมัด ความสัมพันธ์แบบติดสปีด
เขาจะพยายามเร่งความสัมพันธ์ให้ไปเร็ว ๆ ตั้งแต่วันแรก ๆ เลย เช่น ชวนย้ายมาอยู่ด้วยกัน หรือเริ่มวางแผนอนาคตร่วมกัน ทั้งที่ยังแทบไม่รู้จักกันดี พฤติกรรมแบบนี้อาจทำให้เรารู้สึกอึดอัด เหมือนไม่ได้มีเวลาได้คิด หรือทบทวนว่าเลยว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่
5. หึงหวง และแสดงความเป็นเจ้าของ
เมื่อเราอยู่กับครอบครัว หรือเพื่อน เขาอาจแสดงความไม่พอใจ หรือหึงหวงอย่างไม่มีเหตุผล เพราะเขาต้องการให้เราสนใจเขาคนเดียว กลายเป็นคนที่ขี้ระแวง ตัดพ้อ บงการ หรือกดดันให้เราต้องอยู่กับเขาตลอดเวลา เช่น ถ้าไม่ตอบแชทจะงอน หรือถามตลอดว่าอยู่กับใคร ทำอะไร
ผลกระทบจากการโดน Love Bombing แรก ๆ ทุ่มเท หลัง ๆ ทุ่มทิ้ง!

ตอนแรกความรักก็หวานฉ่ำ โทรหาทุกวัน บอกรักเช้า–เย็น แต่พอความสัมพันธ์เริ่มนิ่ง อยู่ดี ๆ คนที่เคยใส่ใจทุกอย่างกลายเป็นอีกคนเฉยเลย ตรงเข้าคอนเซ็ปต์ที่บอกว่า Love Bombing คือพฤติกรรมที่ไม่ได้มาจากความรักจริง ๆ แต่เป็นการสร้างภาพเท่านั้น! แล้วผลกระทบจากการโดนแบบนี้ มีอะไรบ้าง มาดูกัน
1. สับสนกับความรู้สึกของตัวเอง
อย่างที่บอกไปว่า ช่วงแรกของ Love Bombing มันจะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เจอคนที่ใช่ แต่พออีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนเป็นคนขี้หึง ควบคุมทุกอย่าง หรือทำให้เรารู้สึกผิดอยู่ตลอด เราอาจเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่มันความรักจริง ๆ หรือเปล่า ? รักเขานะ แต่ทำไมกลับรู้สึกอึดอัดแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนสับสน
2. สูญเสียความเป็นตัวเอง
พอเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายเริ่มควบคุมความคิด การตัดสินใจ หรือแม้แต่บอกให้เราเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้เขาพอใจ สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าเป็นตัวเอง และเชื่อว่าตัวเองดีไม่พอ
3. รู้สึกติดกับในความสัมพันธ์
Love Bombing คือกับดักที่ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องอยู่กับเขาตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครรักเราได้มากเท่านี้อีกแล้ว มันทำให้การเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดี กลายเป็นเรื่องยาก ถึงจะรู้ว่ามันเป็นความรักที่ไม่เฮลตี้ก็ตาม
4. บั่นทอนสุขภาพจิตในระยะยาว
หลายคนที่เคยโดน Love Bombing มักจะเจอกับภาวะวิตกกังวล ความเครียด หรือแม้แต่ซึมเศร้า โดยเฉพาะหลังจากความสัมพันธ์จบลง เพราะมีคำถามมากมายเต็มหัวไปหมด ทั้งความรู้สึกโดนหลอก ความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงของอีกฝ่าย หรือแม้แต่การโทษตัวเองที่ไม่รู้ทันตั้งแต่แรก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Toxic Relationship ที่บั่นทอนจิตใจไปอีกนาน
5. กลัวการเริ่มต้นใหม่
พอเจอแบบนี้เข้าไป หลายคนก็เริ่มกลัวความรักเลย กลัวว่าคนใหม่จะมาทำแบบเดิมอีก กลายเป็นไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ หรือที่เรียกว่า Trust Issue นั่นแหละ ทำให้พอมีใครเข้ามา เราก็ลังเล ไม่กล้าเริ่มใหม่ ไม่อยากเปิดใจให้ใครอีกเลย
วิธีป้องกันตัวจาก Love Bombing ก่อนจะเผลอไปรักจนหมดใจ
ก่อนจะเผลอไปตกหลุมรักใคร ที่หวานใส่เราหนักมากตั้งแต่ตอนแรก แล้วจบแบบฝันร้าย มาลองตั้งการ์ดป้องกันตัวเองจากการ Love Bombing กันดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บซ้ำ ๆ
1. อย่ารีบเชื่อใจเร็วเกินไป
บางคนเจอหน้ากันไม่กี่วัน ก็บอกว่าเราคือรักแท้ ฟังดูเหมือนโรแมนติกนะ แต่ก็แอบน่าสงสัยเหมือนกัน และ Love Bombing คือการเร่งสร้างความสัมพันธ์ แบบยังไม่ทันรู้จักกันดีเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นค่อย ๆ ศึกษากัน ค่อย ๆ เชื่อใจกันไปทีละสเต็ป ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด จำไว้ว่ารักแท้ไม่จำเป็นต้องรีบ!
2. สังเกตว่าเขาพยายามล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวหรือไม่
คนที่มีเจตนาดีจริง ๆ จะไม่ล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวเรา ไม่ใช่แค่โทรหาทุกชั่วโมง แต่ยังพยายามรู้ให้หมดว่าเราอยู่ที่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ถ้าใครเริ่มก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเกินไป แบบนี้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่าอาจจะเป็น Love Bombing
3. ถ้ารู้สึกแปลก ๆ ให้เชื่อเซนส์ตัวเองไว้ก่อน
เวลาเจอคนที่หวานใส่มาก ๆ แต่เรากลับรู้สึกว่ามันแปลก ๆ แบบว่า มันเร็วไปหรือเยอะเกินไปไหมนะ อย่ามองข้ามเซนส์ตัวเองเด็ดขาด เพราะบางทีความรู้สึกแปลก ๆ นี่แหละ อาจกำลังเตือนเราว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
4. ปรึกษาคนรอบตัว เพื่อน หรือครอบครัว
บางครั้งตอนเรากำลังอิน ความรักมันอาจจะบังตา การได้คุยกับเพื่อน หรือคนที่ไว้ใจได้ จะช่วยให้เรามีมุมมองที่ชัดขึ้นว่า สิ่งที่เราเจอ มันปกติจริง ๆ หรือแค่เราโดน Love Bombing แบบไม่รู้ตัว
5. ถ้ารู้สึกอึดอัด อย่ากลัวที่จะเว้นระยะ
ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ควรทำให้เรารู้สึกอึดอัด หรือต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เขาถูกใจ ถ้าเริ่มรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หรือรู้สึกเหมือนโดนกดดัน ลองถอยออกมาสักก้าว เพื่อทบทวนว่าเขารักเราจริง หรือพยายามเข้ามาควบคุมทุกอย่างในชีวิตเรา
เห็นกันแล้วใช่ไหมว่า Love Bombing คือความรักที่แอบแฝง อะไรบางอย่างไว้ข้างใน ตอนแรก ๆ อาจจะทำให้เราใจฟู เหมือนเจอคนที่ใช่ แต่ถ้าเผลออินเร็วเกินไป แบบยังไม่ทันได้ดูให้ดี เราก็โดนคุมเกมโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งเทใจให้เขาหมด แล้วค่อย ๆ สังเกตพฤติกรรมของเขาไปทีละนิดดีกว่า และถ้าใครอยากให้รักครั้งใหม่ปังขึ้นกว่าเดิม ลองเข้าไปดูดวงความรักเนื้อคู่ตามปีนักษัตร หรือเสริมพลังด้านความรักด้วยคาถาเสน่ห์ เสริมความรัก เพื่อดึงดูดคนที่ชอบในเวลาที่ใช่ ลองไว้ไม่เสียหาย บางทีความรักดี ๆ อาจจะรอเพื่อน ๆ อยู่ก็ได้
บทความแนะนำ