การเลือกหลอดไฟแบบไหนดีที่เข้ากับการตกแต่งบ้านหรือที่ทำงาน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่รู้ไหมว่าแสงจากหลอดไฟที่แตกต่างกันก็สามารถสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง เช่น ทำให้รู้สึกกระตือรือร้น หรือช่วยให้ผ่อนคลายได้! ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟเดย์ไลท์ คูลไวท์ หรือ warm light ซึ่งแต่ละแบบมีสีและการใช้งานที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าแสงจากหลอดไฟแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และจะเลือกสีหลอดไฟอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงใจที่สุด!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
จิตวิทยาว่าด้วยสี: ทำไมสีของหลอดไฟถึงสำคัญต่ออารมณ์?
สีของแสงมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศและมีผลกระทบต่ออารมณ์กับเราอย่างไม่รู้ตัว ลองสังเกตว่าสีของแสงจากดวงอาทิตย์จะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาในแต่ละวัน ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมและการใช้ชีวิตของเรา ๆ ด้วย แสงตอนเช้าที่มีความสว่างช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวกระปรี้ประเปร่า ขณะที่แสงอ่อน ๆ ยามโพล้เพล้จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน
นอกจากนี้แสงโทนเย็นอย่างแสงสีฟ้าที่ส่งจากอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์อย่าง หน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือ ทีวี ก็มีผลต่อการทำงานของดวงตา ระบบประสาท และการหลังฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นผลให้นอนหลับได้ยาก เป็นต้น
สีของแสงมีผลต่อสภาพร่างกาย สุขภาพ และอารมณ์ของมนุษย์ การเลือกสีของหลอดไฟแบบไหนให้ตอบโจทย์จึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ และการเลือกอุณหภูมิสีที่พอเหมาะจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างตรงใจ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้กระตือรือร้นในการทำงานหรือเพื่อความผ่อนคลาย ก็สามรถใช้สีของหลอดไฟเป็นตัวช่วยได้แบบไม่ยาก!
เดย์ไลท์ ไฟคูลไวท์ หรือ warm light เลือกแสงหลอดไฟแบบไหนดี?
การเลือกหลอดไฟเดย์ไลท์ คูลไวท์ หรือ Warm Light ให้ตอบโจทย์ ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนเลยว่าหลอดไฟแต่ละแบบนั้นต่างกันอย่างไร
1. หลอดไฟเดย์ไลท์ (Day Light)
ไฟเดย์ไลท์เป็นไฟแสงขาวเหมือนแสงพระอาทิตย์ วัดค่าให้แม่นยำจะอยู่ในช่วงความสว่าง 6000K เป็นแสงที่มีอุณหภูมิสูง เหมือนแสงธรรมชาติในชีวิตประจำวัน แสงไฟเดย์ไลท์นี้จึงช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และลดการง่วงนอนได้ด้วย โดยรวมแล้วแสงเดย์ไลท์จึงเป็นแสงที่ทำให้พื้นที่ดูมีชีวิตชีวา เหมาะกับการทำงาน ทำกิจกรรมต่าง ๆ และสามารถใช้ได้ในพื้นที่ทั่วไป เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และยังเป็นที่นิยมใช้ในร้านค้า โรงพยาบาล และสถานที่ที่มีกิจกรรมตลอดวันอีกด้วย
2. หลอดไฟคูลไวท์ (Cool White)
แสงคูลไวท์เป็นแสงกลาง ๆ ที่คล้ายกับแสงธรรมชาติ วัดค่าให้แม่นยำจะอยู่ในช่วงความสว่าง 4000K เป็นแสงที่ช่วยให้เห็นสีของวัตถุชัดขึ้น ได้สีที่เข้มขึ้น เพราะแสงนี้จะไปบิดแสงที่ตาเราเห็น ทำให้เห็นสีและวัตถุได้ชัดเจนและสวยงามขึ้น แสงคูลไวท์จึงถูกนำมาใช้ในการถ่ายภาพสินค้า โชว์รูม รวมถึงช่วยในการอ่านหนังสือด้วย โดยจะเพิ่มความชัดเจนของตัวหนังสือ ลดอาการปวดตา เพิ่มสมาธิ แสงชนิดนี้จึงเหมาะจะใช้กับพื้นที่ที่ต้องการการมองเห็นชัดเจน เช่น ห้องทำงาน ออฟฟิศ ห้องผ่าตัด และ ห้องเรียน
3. หลอดไฟวอร์มไลท์ (Warm Light)
แสงวอร์มไลท์เป็นแสงส้ม ๆ นวล ๆ ถ้าวัดค่าให้แม่นจะได้ค่าความสว่าง 3000K เป็นสีของหลอดไฟที่ให้บรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลายเหมือนนั่งอยู่ข้างเตาผิงอย่างไรอย่างนั้น ไฟ Warm Light จึงเหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความผ่อนคลายไม่ต้องเห็นรายละเอียดอะไรมาก เช่น ตามโรงแรม พื้นที่บริการ ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น อย่างที่เราจะเห็นแสงโทนส้ม ๆ และมืด ๆ เล็กน้อย นั่นแหละใช่เลย
นอกจากแสงหลอดไฟทั้ง 3 แบบ ก็ยังมีแสงหลอดไฟแบบ Candle Light และ Natural White ด้วย แต่ไม่ค่อยนิยมจึงไม่ค่อยมีการผลิตออกมามากนัก โดยรวมแล้วเราสามารถสรุปลักษณะของหลอดไฟสีต่าง ๆ ไว้ได้ดังนี้
หลอดไฟเดย์ไลท์ (Day Light) | หลอดไฟคูลไวท์ (Cool White) | หลอดไฟวอร์มไลท์ (Warm Light) | |
โทนสี | สีขาวเหมือนแสงอาทิตย์ | สีกลางๆ คล้ายแสงอาทิตย์ | แสงส้มๆ นวลๆ มืดๆ |
ความสว่าง | 6000K | 4000K | 3000K |
โทนอารมณ์ | ตื่นตัว กระปรี้ประเปร่า | สบายตา มีชีวิตชีวา | อบอุ่นผ่อนคลาย |
พื้นที่ที่เหมาะจะใช้ | ทั่วไป เช่น ห้องอาหาร | ต้องการสีสันชัด เช่น ห้องทำงาน ห้องผ่าตัด | พื้นที่พักผ่อน เช่น ห้องนอน ล็อบบี้โรงแรม |
มัดรวมเคล็ดลับเลือกแสงหลอดไฟแบบไหนดี?
เลือกแสงหลอดไฟที่เหมาะกับพื้นที่ไม่ใช่เรื่องยาก! มาดูกันว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและบรรยากาศ ให้การใช้งานได้ลงตัว!
- เลือกความสว่างที่เหมาะสม พื้นที่เช่นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องครัว ควรใช้ไฟที่สว่างสูงเพื่อให้มองเห็นชัดเจน ขณะที่ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นอาจเลือกแสงที่อ่อนลงเพื่อบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
- เลือกแสงให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ แสงไฟแต่ละสีมีผลต่ออารมณ์ เช่น ไฟเดย์ไลท์เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความกระตือรือร้น ส่วนวอร์มไวท์เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการการผ่อนคลาย
- เลือกให้เข้ากับขนาดพื้นที่ บริเวณแคบ เช่น โถงทางเดิน อาจใช้ไฟที่ให้แสงไม่สว่างมาก ขณะที่พื้นที่กว้าง เช่น ห้องนั่งเล่น ควรใช้หลอดไฟหลายดวงหรือที่มีความสว่างมากขึ้น
- เลือกหลอดไฟประหยัดไฟและได้มาตรฐาน หลอดไฟที่มีมาตรฐาน มอก. จะมั่นใจได้ในคุณภาพและยังช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว
ด้วยเคล็ดลับการเลือกหลอดไฟแบบไหนดีให้ตอบโจทย์และตรงใจ เพื่อน ๆ ก็จะได้หลอดไฟที่สร้างบรรยากาศและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว!
ถึงตรงนี้ก็คงไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะเลือกหลอดไฟแบบไหนดี เพราะหลอดไฟแต่ละแบบทั้ง แสงไฟเดย์ไลท์ คูลไวท์ หรือ warm light ต่างก็มีลักษณะการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน และตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากเราเข้าใจคุณลักษณะเฉพาะของสีหลอดไฟแต่ละแบบนี้แล้ว การเลือกหลอดไฟให้ตอบโจทย์และตรงใจก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! และหากใครที่ยังไม่จุใจกับเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Shopee คัดมาให้ในคราวนี้ก็สามารถเข้าไปอัปเดตบทความต่อได้เลยที่ Shopee Blog! หรือเลือกซื้อเลือกช้อป หลอดไฟ ไฟ LED ตกแต่งห้อง หรือแม้แต่ ไฟแต่งต้นคริสต์มาส ต่อได้เลยที่ Shopee!
อ้างอิง: https://tuled.com.tr, ไฟฟ้าพรแสงชัย