ดอกมะลิ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ดอกมะลิยังถือว่าเป็นไม้มงคล นิยมนำมาปลูกไว้ภายในบ้าน เสริมสิริมงคล ยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบ้านกันอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ที่ใช้สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ แทนความปรารถนาดี เป็นที่รักของคนทั่วไป อีกทั้งยังใช้สื่อแทนความกตัญญู หรือจะนำไปร้อยพวงมาลัยเพื่อมาไหว้พระ หรือใครอยากนำไปกราบไหว้คุณแม่ก็ได้ สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกต้นมะลิ อยากจะปลูกที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร วันนี้เราวิธีการปลูกดอกมะลิด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่มือใหม่ควรต้องรู้ บอกเลยว่าไม่ยาก เราไปดูกันเลยจ้า
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
วิธีเลี้ยงดูแลดอกมะลิ ให้ดอกบานสะพรั่ง กลิ่นหอมทั่วบ้าน
ก่อนอื่นเลยใครที่จะอยากปลูกดอกมะลินั้น อย่างแรกก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของต้นมะลิก่อน มีลักษณะเป็นยังไง ต้องอยู่ในสภาพอากาศแบบไหน ชอบดินประเภทไหน ต้องหมั่นรดน้ำ ใส่ปุ๋ยมากน้อยแค่ไหน งั้นเรามาทำความรู้จักกับต้นมะลิกันเล้ยยยย
เริ่มต้นทำความรู้จักกับ “ต้นมะลิ”
มะลิ หรือจะเรียกว่า Jasminum จัดอยู่ในประเภทไม้ยืนต้น มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา มีสายพันธุ์กว่า 200 ชนิด ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ความสูงของลำต้นก็จะประมาณ 1-3 เมตร ปลูกเลี้ยงก็ง่าย ทนแดด ทนฝนได้ดี ดอกสีขาวสวยงาม มีกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบ้าน และยังสามารถนำดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัย แล้วนำมาไหว้พระ หรือจะให้กับคุณแม่ก็ได้น้า นอกจากนี้แล้วต้นมะลิยังถือว่าเป็นต้นไม้มงคล นิยมนำปลูกเพื่อเสริมสิริมงคล ให้คนที่อยู่อาศัยเป็นที่รักของทุกคน อีกทั้งยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรนำมาทำเป็นยา ในการช่วยบำบัดและรักษาอาการเจ็บป่วยได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
ลักษณะทั่วไปของต้นมะลิ
ด้วยลักษณะของต้นมะลิ ที่เป็นไม้ยืนต้น ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ลำต้นก็จะสูงไม่มากนัก หลายคนก็นิยมนำมาปลูกไว้ที่หน้าบ้าน ต้นมะลิมีสายพันธุ์ที่เป็นไม้ผลัดใบและไม้ไม่ผลัดใบ ส่วนของลำต้นจะตั้งตรง หรือบางสายพันธุ์ก็อาจจะกางออก มีกิ่งก้านที่แตกสาขาออกไปรอบ ๆ ลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงกันเป็นคู่ ๆ ตามก้านและกิ่ง ปลายใบจะแหลม มีสีเขียวเข้ม ส่วนของดอกมะลิจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือ ออกเป็นช่อตามซอกใบกลีบ ดอกจะมีสีขาว ดอกจะมีขนาดเล็ก ดอกมีกลีบดอกประมาณ 6-8 กลีบ เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ และมีกลิ่นหอม
วิธีปลูกต้นมะลิให้ออกดอกสวยกลิ่นหอมอบอวลทั่วบ้าน
ใครที่คิดจะปลูกต้นมะลิบ้างล่ะก็ บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด ต้นมะลิ ถือว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายสุด ๆ สามารถปลูกได้เกือบทุกพื้นที่ สามารถทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี ทนแดด ทนฝนได้ดี ปลูกไว้ประดับตกแต่งเพื่อความสวยงามภายในบ้านก็ได้ หรือจะปลูกขายก็ได้กำไรเนาะ ๆ มีให้เลือกปลูกด้วยกันหลายสายพันธุ์ และวิธีการปลูกก็มีหลากหลาย วันนี้เราได้รวบรวมวิธีปลูกต้นมะลิง่าย ๆ ใครก็สามารถปลูกได้ ลองมาดูกัน
1. สายพันธุ์
รู้กันไหมว่าต้นมะลิมีด้วยกันกว่า 200 สายพันธุ์ ถือว่าเยอะมาก ๆ มีทั้งสายพันธุ์ที่มาจากต่างประเทศ และสายพันธุ์ที่เป็นของไทย ซึ่งเป็นที่นิยมปลูกกันมากบ้านในบ้าง เราก็เลยอยากจะมาแนะนำต้นมะลิพันธุ์ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่นิยมปลูกกันมาก ตามเราไปดูกันสิว่าจะมีสายพันธุ์ไหนกันบ้าง จะรู้จักกันไหม มาดูกัน
- ดอกมะลิลา – มีลักษณะเป็นพุ่ม ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ขอบเรียบ สามารถออกดอกได้เกือบตลอดทั้งปี ดอกออกเป็นช่อ โดยช่อละ 3 ดอก ซึ่งดอกกลางบานก่อน แล้วตามด้วยกลีบดอกชั้นเดียว ช่วงปลายกลีบจะมน ดอกมีสีขาว และมีกลิ่นหอมโดยเฉพาะช่วงยามเย็น ซึ่งสายพันธุ์ดอกมะลิลาจะเป็นที่นิยมปลูกกันมากที่สุด
- ดอกมะลิซ้อน – ด้วยลักษณะของดอกมะลิซ้อน จะมีคล้ายคลึงกับดอกมะลิลามาก ๆ จะต่างกันตรงที่มีใบที่ใหญ่กว่า ส่วนตัวดอกก็จะออกเป็นช่อ มี 3 ดอก กลีบดอกจะซ้อนกันมากกว่า 5 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีกลีบดอก 10 กลีบ ขนาดดอกจะอยู่ที่ 3-3.5 เซนติเมตร ดอกสีขาว และมีกลิ่นหอมอบอวล
- ดอกมะลิวัลย์ หรือ ดอกมะลิป่า – มะลิสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย ประเภทไม้เถาเลื้อย ใบมีขนาดเล็กกว่าดอกมะลิสายพันธุ์อื่น ๆ กิ่งเรียบไม่มีขน ใบเป็นใบเดี่ยว ใบเรียบเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อ ๆ ละ 3 ดอก กลีบดอกก็จะมีเพียงแค่ชั้นเดียว ซึ่งกลีบดอกจะมีขนาดที่เล็กและเรียวยาว ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมในช่วงตอนเย็น ดอกมะลิวัลย์ นิยมปลูกให้เลื้อยขึ้นไปตามกำแพง หรือบางคนก็ปลูกตามซุ้มต่าง ๆ เพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม
- ดอกมะลิถอด – ลักษณะทั่วไปก็คล้ายกันมะลิลาซ้อน จะต่างกันตรงที่ใบจะใหญ่กว่า และใบมีลักษณะเป็นคลื่น ออกดอกเป็นช่อ ๆ 3 ดอก และดอกก็จะเรียงซ้อนกันมากกว่า มีประมาณ 3-6 ชั้น ดอกมีขนาด 2.5-3.5 เซนติเมตร ดอกสีขาว และมีกลิ่นหอม
- ดอกมะลิพวง เป็นไม้พุ่มเตี้ย ลำต้นจะมีขนตรงบริเวณกิ่ง ใบเดี่ยว เป็นรูปทรงไข่ ปลายแหลมหรือมน โคนเว้าเล็กน้อย ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบสั้น จะออกดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่ม ตรงยอดและตามซอกใบ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอบอวลตลอดทั้งวัน
- ดอกมะลิพิกุล หรือ ดอกมะลิฉัตร – ลักษณะทั่วไปก็จะมีความคล้ายกับดอกมะลิสายพันธุ์อื่น ๆ ดอกจะซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อย่างเห็นได้ชัด และดอกมีขนาดเล็ก แค่ 1-1.4 เซนติเมตร ดอกมีสีขาว และกลิ่นหอม
2. วิธีปลูกต้นมะลิด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ
จากที่เรียนรู้สายพันธุ์กันไปบ้างแล้ว คราวนี้เรามาเข้าสู่กระบวนการปลูกต้นมะลิด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ กันบ้าง ซึ่งวิธีการปลูกจะมีด้วยกัน 3 วิธีหลัก ๆ คือ การปักชำ การตอนกิ่ง และการทาบกิ่ง โดย 3 วิธีนี้จะเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด และการปลูกต้นมะลินั้น ควรจะต้องปลูกในพื้นที่รับแสงแดดได้ดี เนื่องจากต้นมะลิจะชอบแสงแดดมาก ๆ ดอกจะออกและดกได้ก็ขึ้นอยู่แสงแดดนี่ล่ะ และในการปลูกควรใช้เป็นดินร่วนซุยที่สามารถระบายน้ำได้ดี แต่ถ้าอยากให้ต้นมะลิที่มีอายุยืนยาว ออกดอกเยอะสมใจ ก็ต้องใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก็ได้ทั้งนั้น จะผสมปุ๋ยเองหรือจะซื้อก็ได้เช่นกัน และการปลูกต้นมะลินั้น เลือกปลูกได้ทั้งแบบลงดินในแปลงสวน หรือจะปลูกลงดินในกระถางต้นไม้ก็ได้เช่นกัน
ใครที่อยากจะปลูกในกระถาง ไว้ประดับเพื่อความสวยงามภายในห้อง แนะนำให้หาต้นมะลิเล็ก ๆ มาปลูก และควรเลือกใช้กระถางรูปทรงสูง ขนาดประมาณ 8-14 นิ้ว โดยการปลูกให้ใช้ดินร่วน นำมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก็ได้ แล้วก็นำกิ่งมะลิมาปักชำ การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง มาปลูกลงดินในกระถาง จากนั้นก็ควรหมั่นดูแล
3. การดูแลต้นมะลิให้ดอกออกเยอะ ๆ
ถ้าอยากให้ต้นมะลิออกดอกเยอะ ๆ ก็ต้องคอยหมั่นดูแลเอาใจใส่ ด้วยการรดน้ำให้เยอะ ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพราะดอกมะลิชอบน้ำ แต่ก็ต้องไม่แฉะหรือมีน้ำขัง อาจจะทำให้รากเน่าและเกิดโรคเชื้อราได้ ปลูกไว้ในบริเวณที่แสงแดดเข้าถึง และถ้าอยากให้ดอกออกเยอะ ๆ ก็ต้องปลูกอยู่ในที่อากาศร้อน ๆ นอกจากนี้แล้วก็ต้องบำรุงด้วยปุ๋ยคอกให้ใส่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และถ้าต้นมะลิเริ่มโตออกกิ่งก้าน สามารถใช้กรรไกรตัดกิ่ง จะได้ดูสวยงาม และยังช่วยป้องกันพวกแมลงได้อีกด้วย
ดอกมะลิ ดอกไม้สื่อความรักที่บริสุทธิ์
ดอกมะลิ ดอกไม้มงคล เต็มไปด้วยความหมายดี ๆ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ ความปรารถนาดี การเป็นที่รักและคิดถึงของคนทั่วไป นอกจากนี้แล้วยังเป็นสัญลักษณ์แทนความรัก ความผูกพันระหว่างแม่-ลูก แสดงให้เห็นถึงความกตัญญู จึงนำดอกมะลิมาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำ “วันแม่แห่งชาติ” หมายถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย เปรียบดั่งกลิ่นของมะลิที่หอมอบอวลได้นาน
ประโยชน์และสรรพคุณของต้นมะลิ
แน่นอนว่าต้นมะลิไม่ได้มีดีเพียงแค่เป็นต้นไม้ประดับ ที่มีกลิ่นหอม ใช้เป็นสื่อกลางแทนความรัก ความกตัญญูที่ลูกมีต่อแม่เท่านั้น ต้นมะลิยังมีประโยชน์และสรรพคุณทางสมุนไพรอีกมากมาย เรียกได้ว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งต้นไปจนถึงดอกกันเลยทีเดียว
- รากของต้นมะลิ – มีสรรพคุณทางสมุนไพรนำมาทำเป็นยาได้ จะช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้ เช่น อาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งช่วยรักษาหลอดลมอักเสบ หรือถ้าใครที่ชอบเป็นร้อนใน ก็สามารถนำรากมาฝนกินกับน้ำแก้ร้อนได้ดีเลยล่ะ
- ใบของต้นมะลิ – ส่วนของใบจะช่วยรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หรือถ้าใครที่เป็นแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง หรือโรคผิวหนัง สามารถใช้ใบมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปละลายกับน้ำปูนใส จากนั้นก็นำมาทาก็จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- ดอกของต้นมะลิ – มีสรรพคุณทางสมุนไพรเช่นกัน จะช่วยรักษาพวกโรคบิด อาการปวดท้องได้ดี แต่ถ้าใครที่มีอาการปวดหัว หรือปวดหู ก็ให้นำดอกมาตำให้ละเอียดแล้วก็นำมาพอกไว้ที่ขมับ จะช่วยลดอาการปวดลงได้ อีกทั้งยังช่วยรักษาพวกแผลพุพอง และแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย นอกจากนี้แล้วก็ยังดอกมาสกัดทำเป็นน้ำมันหอมระเหย กลิ่นมะลิได้อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงกันแล้ว เชื่อว่าน่าจะพอรู้วิธีปลูกและการดูแลดอกมะลิกันแล้ว คราวนี้ก็มาหาสายพันธุ์ที่อยากจะปลูก แล้วก็ไปเลือกซื้อกันได้เลย รับรองเลยว่าถ้าทำตามวิธีปลูก และการดูแลที่เราได้แนะนำไปนั้น ดอกมะลิของคุณจะออกดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวลทั่วบ้านแน่นอน และเราก็หวังว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้เอามาแนะนำกันนั้น จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนน้า
ที่มาข้อมูล : sites.google / baanlaesuan