เพิ่มความดีต่อใจให้กับรั้วและกำแพงบ้านของคุณ ด้วยไม้เลื้อย เป็นอีกหนึ่งไอเดียตกแต่งรั้วบ้านที่เพิ่มสีสัน แขกไปใครมาก็ต้องมีแวะชม รับความสดชื่น โดยเฉพาะหากเป็นไม้ดอกที่สวยงาม หอมชื่นใจ ก็สร้างบรรยากาศให้กับบ้านของคุณดีเชียวแล้วล่ะ!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ต้นไม้เลื้อย
1. เคราฤาษี
ชื่อสามัญ : Spanish moss
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tillandsia usneoides (L.) L.
วงศ์ : BROMELIACEAE
การดูแลเคราฤาษี
- น้ำ : ต้นไม้เลื้อยอย่างเคราฤาษี ชอบความชื้น รดน้ำวันละครั้ง ควรระวังหน้าร้อนถ้าแห้งมาก ก็สามารถให้น้ำได้เลย
- ดิน : ไม่ต้องใช้วัสดุปลูก เพียงแขวนไว้กับกระเช้าลวด เพราะธรรมชาติเขาแค่ต้องการหาที่เกาะ เพื่อใช้ชีวิตต่อ
- แสง : น้ำ ลม แสงแดด เป็นปัจจัยสำคัญของเคราฤาษี เติบโตได้ดีถ้าได้รับแสงแดดรำไร และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ปุ๋ย : ปุ๋ยแทบไม่ต้องใส่เลย แต่ถ้าอยากใส่ปุ๋ยให้เจริญงอกงามก็สามารถทำได้ด้วยการพรมละอองปุ๋ยใส่สองเดือนละครั้ง โดยใส่ปุ๋ยผสมน้ำ ไม่ต้องเข้มข้นมาก
2. เล็บมือนาง
ชื่อสามัญ : Drunken sailor / Rangoon creeper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Quisqualis indica L.
วงศ์ : COMBRETACEAE
การดูแลเล็บมือนาง
- น้ำ : ต้องการน้ำปานกลาง ระยะแรกที่ปลูกควรหมั่นรดเช้าเย็นวันละ 2 ครั้ง แต่เมื่อมีลำต้นแข็งแรงแล้ว จะรดน้ำวันเว้นวันก็ได้
- ดิน : เป็นต้นไม้เลื้อยที่ชอบดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี
- แสง : เล็บมือนางเป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจ้าเต็มวัน
- ปุ๋ย : ควรใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในการผสมดินปลูก ธาตุอาหารสมบูรณ์ สามารถเก็บความชื้นได้สูง
เคล็ดลับ : แอบบอกเคล็ดลับที่ทำให้ต้นและใบเจริญงอกงาม ทำได้โดยรดยูเรีย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกันคือ เมื่อดอกเริ่มบาน ควรงดยูเรียอย่างเด็ดขาด แล้วให้ใส่ปุ๋ยบำรุงแทน
ไม้เลื้อยทนแดด
1. ม่านบาหลี
ชื่อสามัญ : Grape Ivy / Javanese Treebine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cissus verticilliata (L.) Nicolson & Jarvis
วงศ์ : VITACEAE
การดูแลม่านบาหลี
- น้ำ : รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง หรือสองสามวันครั้งก็ได้
- ดิน : ใช้ดินได้ทุกชนิดแต่ใช้ดินร่วนจะดีกว่าเพราะสามารถระบายน้ำได้ดีและมีความชื้นสูง
- แสง : ม่านบาหลี เป็นไม้เลื้อยทนแดด ที่สู้แดด จึงสามารถอยู่กลางแจ้งได้ตลอดทั้งวัน บังแดดและบังฝนได้ดี
ข้อควรระวัง : ควรตัดแต่งรากและต้นให้อยู่ในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้เป็นประจำ ความยาวพอดีไม่มากจนเกินไป เพราะ 7 วันจะมีรากยาวลงมาประมาณ 1 ฟุตเลยทีเดียว ที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้รากยาวลงไปโดนน้ำที่พื้นเพราะจะทำให้เน่าได้
2. จันทร์กระจ่างฟ้า
ชื่อสามัญ : Yellow Mandevilla, Wild Allamanda
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mandevilla hybrid Poir.
วงศ์ : APOCYNACEAE
การดูแลจันทร์กระจ่างฟ้า
- น้ำ : ให้น้ำอย่างสม่ำเสมออย่าให้แห้ง โดยเฉพาะหลังจากตัดแต่งกิ่ง ต้องให้น้ำเพื่อให้ดินชื้นอยู่เสมอแต่อย่าให้ถึงกับแฉะ
- ดิน : ชอบดินร่วนที่สุด เพราะระบายน้ำที่ดี และมีอินทรีย์วัตถุค่อนข้างมาก
- แสง : เป็นไม้เลื้อยทนแดด ที่โดนแสงแดดได้แบบเต็มวัน เพราะเมื่อได้รับแสงอย่างเพียงพอ จะช่วยให้สามารถผลิดดอกได้เร็วขึ้น
- ปุ๋ย : ตอนเริ่มปลูกสามารถใส่ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ทุกปี ๆ ละอย่างน้อย 1 ครั้งๆ ละ 5-10 กิโลกรัม/ต้น โดยเฉพาะปุ๋ยมูลค้างคาวใช้ได้ผลดี
ไม้เลื้อยดอกสีม่วง
1. พวงประดิษฐ์
ชื่อสามัญ : Lavender Wreath, Shower Orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Congea tomentosa Roxb.
วงศ์ : VERBENACEAE
การดูแลพวงประดิษฐ์
- น้ำ : พวงประดิษฐ์เป็นไม้เลื้อยดอกสีม่วง ที่ไม่ต้องการน้ำมากนัก เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี
- ดิน : ไม่เลือกดินปลูกมากนัก เพียงแต่ให้ปลูกในที่สูงก็ใช้ได้แล้ว สามารถใช้ดินร่วนปนทราย หรือดินที่ร่วนซุยก็ได้เหมือนกัน
- แสง : เนื่องจากพวงประดิษฐ์เป็นไม้ที่ชอบขึ้นในที่โล่งแจ้ง หรือที่กลางแจ้ง เป็นไม้เลื้อยที่มีความต้องการแสงแดดมากพอสมควร
- ปุ๋ย : มีความต้องการปุ๋ยไม่มากนัก หรืออาจจะใช้ปุ๋ยหมัก ใส่บริเวณโคนต้นปีละ 2 ครั้ง
2. วิสทีเรียสีม่วง
ชื่อสามัญ : Wisteria Flower, Fuji Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murasaki fuji.
วงศ์ : FABACEAE
การดูแลวิสทีเรีย
- น้ำ : ชอบน้ำปริมาณน้อย อย่ารดน้ำดินมากเกินไป เพราะอาจทำให้ระบบรากเน่าได้ ในฤดูร้อนแนะนำให้รดน้ำด้วยชอล์ก โดยให้เจือจางชอล์ก 100 กรัมในน้ำ 10 ลิตร
- ดิน : วิสทีเรียเป็นไม้เลื้อยดอกสีม่วง ไม่ต้องอาศัยกระถางต้นไม้ในการปลูก ที่ชอบดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ควรมีคุณค่าทางโภชนาการเบาและซึมผ่านได้ เพื่อให้รากเจริญเติบโตและชอนไชได้ดี
- แสง : ต้องปลูกในที่ ๆ มีแดดส่องถึงเป็นเวลานาน แสงของดวงอาทิตย์ควรส่องแสงอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นสีดอกและขนาดของดอกวิสทีเรีย จะมีขนาดเล็ก และสีไม่สวย
- ปุ๋ย : ในการให้อาหารดินสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปีละครั้ง มีความจำเป็นที่จะต้องให้ปุ๋ยน้ำพร้อมกับปุ๋ยแร่ธาตุที่สมบูรณ์ในอัตรา 10-20 กรัมต่อน้ำหนึ่งถังต่อ 1 ตารางเมตรของพื้นที่ปลูก
ไม้เลื้อยมีดอก
1. หิรัญญิการ์
ชื่อสามัญ : Herald trumpet
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Beaumontia grandiflora Wall.
วงศ์ : APOCYNACEAE
การดูแลหิรัญญิการ์
- น้ำ : ต้องการน้ำปริมาณปานกลาง ไม่ควรให้ขาดหรือมากเกินไป
- ดิน : หิรัญญิการ์เป็นไม้เลื้อยมีดอก ที่ไม่เลือกดินปลูก เจริญเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด
- แสง : มีความต้องการแสงปานกลางค่อนข้างมาก เนื่องจากหิรัญญิการ์เป็นไม้กลางแจ้ง
- ปุ๋ย : ปุ๋ยที่ใส่ก็เป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์เลยก็ได้ แต่หากจะใช้ก็ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนปีละ 2-3 ครั้ง ช่วงก่อนออกดอก
2. พวงแสด
ชื่อสามัญ : Orange trumpet, Flame flower, Fire cracker vine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pyrostegia venusta (Ker Gawl.) Miers.
ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEAE
การดูแลพวงแสด
- น้ำ : ให้รดน้ำวันเว้นวันได้ เพราะพวงแสดไม่ต้องการน้ำมาก
- ดิน : ดินสำหรับปลูกพวงแสด ไม่ชอบดินแฉะ ควรเป็นดินร่วนที่มีส่วนผสมของปุ๋ยธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์หรืออื่น ๆ อยู่บ้างก็จะทำให้พวงแสดเจริญเติบโตได้ดี
- แสง : พวงแสดเป็นไม้เลื้อยมีดอก ที่ชอบแดดจัด ๆ สามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดีพอสมควร
- ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ในการผสมดิน ปลูก เช่น ขี้ค้างคาว เป็นต้น และเมื่อต้นโตใกล้ถึงช่วงออกดอกก็ให้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สำหรับเร่งดอกบ้างตามสมควร
มีนักวิจัยหลายท่านได้กล่าวถึง ทฤษฎีจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม นั่นคือการที่พฤติกรรมของมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม เช่น การที่เราได้เห็นธรรมชาติ หรือความเบิกบานของต้นไม้สีเขียว จะสามารถลดความวิตกกังวล ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และกระตุ้นสมอง เรียกได้ว่า นอกจากจะเข้ากับเฟอร์นิเจอร์และทำให้บ้านสวยด้วยไม้เลื้อยแล้ว ยังทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้ต้องรีบหามาปลูกบ้างแล้ว!
เติมเสน่ห์สีสันให้กับรั้วบ้านด้วย “ไม้เลื้อย”
เป็นอย่างไรบ้างคะกับวิธีการปลูกไม้เลื้อย เพิ่มความดีต่อใจให้กับรั้วและกำแพงบ้านให้มีเสน่ห์สีสัน เพิ่มอีกหนึ่งไอเดียตกแต่งรั้วบ้าน ให้คุณสร้างบรรยากาศง่าย ๆ ให้กับบ้านของคุณ นอกจากนี้เอาใจสายต้นไม้ใบเขียวด้วย เรื่องน่ารู้กับต้นฟิโลเดนดรอน นอกจากทำให้เราผ่อนคลาย หายเครียด แล้วยังมีสีสันสวยงาม ความสดใสของธรรมชาติ จะช่วยให้เราอารมณ์ดีได้ด้วย!!! การเพิ่มพื้นที่สีของธรรมชาติให้มุมต่างๆในบ้าง ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น ยังเป็นการสร้างบรรยากาศให้เราอยู่กลางธรรมชาติ เหมือนได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนอีกด้วย