แนะนำวิธีปลูกมะละกอว่าวิธีปลูกมะละกอฮอลแลนด์และวิธีปลูกมะละกอแขกดําทำได้อย่างไร และวิธีเพาะมะละกอด้วยเมล็ดมีขั้นตอนอะไรบ้าง
มะละกอเป็นผลไม้ยอดฮิตอีกหนึ่งชนิดที่เรารู้จักกันที่ ซึ่งนอกจากใช้รับประทานผลสุกแล้วการนำผลดิบมาประกอบอาหารเช่น แกงส้ม ส้มตำ ก็ล้วนเป็นเมนูที่คนไทยชื่นชอบทั้งสิ้น มะละกอมีสรรพคุณโดดเด่นในด้านการช่วยในระบบขับถ่าย มะละกอสุกยังเป็นแหล่งเบต้าเคโรทีนที่ดีและรับประทานง่ายอีกด้วย
สำหรับใครที่ติดใจในรสชาติความอร่อยของมะละกอและกำลังสงสัยว่าจะมีวิธีปลูกมะละกอให้งอกไวโตเร็วได้อย่างไร จะมีวิธีปลูกมะละกอฮอลแลนด์และวิธีปลูกมะละกอแขกดําแบบไหนบ้างก็ตามมาเลย เพราะคราวนี้เราจะพาไปดูวิธีปลูกมะละกอกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. ทำความรู้จักกับมะละกอ
มะละกอเป็นไม้ล้มลุกที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carica papaya L. จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับมะละกออื่น ๆ มักพบได้ในพื้นที่เขตร้อนของอเมริกากลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา และเขตร้อนชื้นของเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะของต้นมะละกอเป็นไม้ล้มลุกขนาดใหญ่ที่มีอายุหลายปีและสูงได้กว่า 2 – 8 เมตร มีใบเรียงสลับรอบต้นบริเวณยอด และมักทิ้งรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงเต็มทั่วลำต้นที่ตั้งตรง มะละกอมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศ ดังนั้นเพื่อให้มะละกอติดลูกได้ดีจึงควรเน้นการผสมเกสรเพื่อให้ติดลูก
ส่วนที่คนนิยมนำมารับประทานคือผลสดของมะละกอที่มีรูปผลยาวรีปลายแหลม ผลดิบมีเนื้อสีขาวใสอมเขียว ผลสุกมีเนื้อสีเหลืองส้มไปจนถึงแดงเข้ม มีรสหวาน มีเมล็ดมาก
สำหรับประเทศไทยมีมะละกอที่ได้รับความนิยมปลูกและรับประทานอยู่หลากหลายพันธุ์ เช่น
- มะละกอพันธุ์แขกดำ มีลักษณะทรงพุ่มเตี้ย โดยสูงได้ประมาณ 2 – 4 เมตร ก้านใบสั้นมีสีเขียวอ่อน และมีใบหนากว่าพันธุ์อื่น ๆ เป็นพันธุ์ที่ติดดอกออกผลได้เร็ว ผลยาวได้ประมาณ 25 – 35 เซนติเมตร นิยมใช้บริโภคทั้งผลสุกและผลดิบ ความหวาน 13.25 องศาบริกซ์
- มะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ เป็นมะละกอที่มีลำต้นใหญ่ ก้านใบสีเขียวตั้งขึ้น ผลดก มีผลรูปทรงกระบอกคล้ายฟัก มีอายุการเก็บเกี่ยวราว 8 เดือน มีหวานวัดได้ 11-13 องศาบริกซ์
2. วิธีปลูกมะละกอ
สำหรับวิธีปลูกมะละกอนั้นนิยมปลูกด้วยวิธีเพาะเมล็ดมะละกอเป็นต้นอ่อนและนำลงปลูกเป็นแนวท้องร่องเพื่อให้สะดวกต่อการดูแลและเก็บเกี่ยว ซึ่งคราวนี้เราได้นำวิธีปลูกมะละกอฮอลแลนด์ และ วิธีปลูกมะละกอแขกดํา มาให้เพื่อน ๆ ได้ลองนำไปใช้
วิธีปลูกมะละกอฮอลแลนด์
เริ่มจากการเตรียมดินสำหรับเพาะกล้าด้วยการผสม ดินร่วน เข้ากับ ปุ๋ยคอก, ขี้เถ้าแกลบ, ทรายหยาบ อัตราส่วน 1:1:1 แล้วบรรจุถุงพลาสติกรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นหยอดเมล็ดลงไปถุงละ 1 – 2 เมล็ด ผ่านไป 30 วันก็เริ่มนำต้นกล้ามะละกอไปลงปลูกได้
การเตรียมหลุมปลูกมะละกอฮอลแลนด์ควรเตรียมให้ห่างกันราว 2-2.5 เมตร เนื่องจากมะละกอฮอลแลนด์มีระบบรากลึกและกว้าง เพื่อไม่ให้แย่งสารอาหารกันระหว่างต้น จากนั้นขุดหลุมลึก 0.5 เมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยสูตร 15-15-15 หลุมละ 1 ช้อนแกง จากนั้นโรยปุ๋ยหมักทับ แล้วจึงนำกล้ามะละกอมาลง กลบด้วยดินเล็กน้อยแล้วปิดด้วยฟางเพื่อคงความชุ่มชื้นของหน้าดิน จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม และอาจใช้ไม้ค้ำเพื่อกันต้นโยกคลอนได้ในภายหลัง
วิธีปลูกมะละกอแขกดํา
เริ่มจากการเตรียมเพาะกล้า ซึ่งอาจเพาะด้วยวิธีเพาะเมล็ดมะละกอ จากนั้นเริ่มเตรียมแปลงปลูกด้วยการไถกลบดินตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน แล้วเตรียมหลุมปลูกให้ห่างกันราว 30 เซนติเมตร โดยขุดหลุมลึก 2 – 3 นิ้วนำต้นกล้ามะละกอมาปลูกลงไป กลบดินแล้วรดน้ำให้ชุ่ม การดูแลอื่น ๆ จะเริ่มตั้งแต่ 30 วันนับจากการย้ายปลูกต้นกล้ามะละกอ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นมะละกอเริ่มตั้งตัวได้
3. วิธีเพาะมะละกอ
วิธีเพาะมะละกอส่วนใหญ่ใช้วิธีเพาะเมล็ดมะละกอ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- การเพาะเมล็ดมะละกอแบบควบแน่น วิธีนี้จะทำการเพาะเมล็ดมะละกอในวัสดุปิดไม่ให้อากาศถ่ายเท โดยเริ่มจากการนำเมล็ดมะละกอมาแช่น้ำ 24 ชั่วโมง โดยใน 8 ชั่วโมงแรกต้องเปลี่ยนน้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำผ้าหมาดมาห่อเมล็ดเอาไว้ จากนั้นนำเมล็ดที่ห่อไปไว้ให้กระติก หรือภาชนะที่มีฝาปิดไม่ระบายอากาศ จากนั้นราว 5 – 7 วัน เมล็ดมะละกอจะเริ่มงอก
- การเพาะเมล็ดในตะกร้าแกลบดำ เช่นเดียวกับการเตรียมเมล็ดสำหรับการปลูกแบบควบแน่น คือเริ่มจากการนำเมล็ดมะละกอมาแช่น้ำ 24 ชั่วโมง โดยใน 8 ชั่วโมงแรกต้องเปลี่ยนน้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เมื่อครบ 24 ชั่วโมลให้นำเมล็ดมะละกอที่แช่น้ำแล้วไปโรยในตะกร้าพลาสติกก้นตื้นที่รองก้นด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์และบรรจุแกลบดำ แล้วหมั่นรดน้ำด้วยกระบอกฉีดน้ำ ราว 5-7 วันให้หลังเมล็ดมะละกอก็จะเริ่มงอก
4. วิธีดูแลต้นมะละกอและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
สำหรับการดูแลต้นมะละกอควรต้องมีการรดน้ำ 2 – 3 วันต่อครั้ง โดยต้องรดให้ดินชื้นแต่ไม่ควรให้เกิดน้ำขังเฉอะแฉะ เพราะจะทำให้มีปัญหากับระบบรากได้
สำหรับการให้ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 โดยจะให้ปุ๋ยทุก 30 วัน ครั้งละ 1 ช้อนแกงต่อต้น และเมื่อหลังติดดอกแล้วให้เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยสูตร 14-14-21 จำนวน 1 ช้อนแกงต่อหลุมจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิต
เมื่อต้นมะละกอติดลูก ลำต้นจะเริ่มรับน้ำหนักมากขึ้น และเพื่อให้ผลผลิตยังปลอดภัยจึงควรทำไม้ค้ำเพื่อไม่ให้ลำต้นหักโค่น
การเก็บเกี่ยวมะละกอสามารถทำได้หลังปลูกประมาณ 5 – 6 เดือนจะเริ่มได้ผลดิบ สวนผลสุกจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนที่ 8 หลังจากการปลูกเป็นต้นไป
วิธีปลูกมะละกอนั้นไม่ยาก นำมาบริโภคก็ได้ หากเหลือก็ยังสามารถส่งขายได้ด้วย
ทำความรู้จักกันไปแล้วกับวิธีปลูกต้นมะละกอ ทั้งวิธีปลูกมะละกอฮอลแลนด์ และ วิธีปลูกมะละกอแขกดํา ซึ่งหากใครที่ต้องการมีต้นมะละกอไว้บริโภคเองในบ้านก็สามารถทำตามวิธีดังกล่าวโดยลดสเกลลงมาได้เช่นกัน มะละกอถือเป็นผลไม้ที่ให้ประโยชน์และคุณค่ามากมาย บางบ้านอาจปลูกเพื่อใช้บังแดด แถมผลที่ติดมายังสามารถนำมาบริโภคหรือหากเหลือก็ยังสามารถส่งขายได้ด้วย หรือหากมีพื้นที่มากขึ้นสักหน่อย การทำสวนมะละกอก็สามารถทำกำไรให้ผลผลิตได้ดี โดยเฉพาะมะละกอฮอลแลนด์ที่สามารถให้ผลผลิตต่อต้นได้กว่า 100 กก. ต่อ ต้น ตลอดอายุการเพาะปลูกเลยทีเดียว จึงนับว่าเป็นพืชอีกตัวที่น่าสนใจสำหรับการปลูกเพื่อจำหน่ายเลยก็ว่าได้