วิธีแก้นอนกรนสามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง หากคุณเป็นคนที่กรนคงจะสร้างความรำคาญในเสียงกรนให้คนที่นอนข้างคุณไม่น้อย อีกทั้งอาการนอนกรนนี้ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคที่เสี่ยงต่อชีวิตได้อีกด้วย เช่น โรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ดังนั้นหากสามารถแก้อาการนอนกรนได้ จะเป็นการลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคได้ การแก้ปัญหานอนกรนจึงเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งนั่นเอง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สาเหตุของอาการนอนกรน ทำไมถึงนอนกรน
การกรน (Snoring) เกิดจากเมื่อกล้ามเนื้อที่ด้านหลังลำคอคลายตัวลงขณะนอนหลับ ไปอุดกั้นทางเดินหายใจบางส่วนจนทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่ออากาศเคลื่อนที่ผ่านทางเดินหายใจแคบ ๆ ในระหว่างนอนหลับ กล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ทางเดินหายใจจะสั่นและทำให้เกิดเสียงกรนตามมา ซึ่งผู้ชายมีผู้ชายมีอัตราการนอนกรนมากกว่าผู้หญิง อายุระหว่าง 40-60 ปี คนกลุ่มเสียงคือ คนที่มีภาวะอ้วน สูบบุหรี่ ดื่มสุราจัด ซึ่งไม่ควรละเลยปัญหานี้ ควรหาวิธีแก้นอนกรนเพื่อเป็นการป้องกันโรคร้ายที่อาจตามมา
วิธีแก้นอนกรน ทำอย่างไรให้หายนอนกรน
วิธีแก้นอนกรนนั้นมีหลายวิธีที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ด้วยตัวเอง ก่อนโรคร้ายจะรุมเร้า เราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แก้อาการนอนกรนให้อยู่หมัด จะทำได้อย่างไรบ้าง
1. ลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักเป็นอีกทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพตนเองที่แก้อาการนอนกรนได้ เนื่องจากคนที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีไขมันพอกบริเวณลำคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง การลดน้ำหนัก การทานอาหารที่เป็นประโยชน์ จะช่วยให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น แต่วิธีนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยนะ บางคนอาจยังนอนกรนอยู่
2. ปรับเปลี่ยนท่านอน
ท่านอนเป็นสิ่งสำคัญที่แก้ปัญหานอนกรนได้ ควรนอนให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย ประมาณ 30 องศาจากแนวพื้นราบ ควรนอนท่าตะแคง เพราะการนอนหงายจะทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนมากขึ้น แต่หากไม่ถนัดนอนตะแคงเลยก็อาจจะใช้เทคนิคการใส่ผ้าหรือลูกเทนนิสไว้ในเสื้อนอนด้านหลัง เป็นการบังคับให้นอนตะแคงตลอดคืน
3. ไม่สูบบุหรี่ก่อนเข้านอน
ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก่อนเข้านอนประมาณ 4-6 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนบวม และไปอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนมากขึ้น หากยิ่งสูบบุหรี่มากจะทำให้มีอาการนอนกรนมากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งในบุหรี่ยังมีสารนิโคตินที่ทำให้สมองตื่นตัว ทำให้นอนไม่หลับ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มที่อีกด้วย
credit:freepik
4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนคลายตัวมากขึ้น สมองตื่นตัวช้าลง ทำให้มีการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนมากขึ้น เป็นสาเหตุของอาการกรน นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงยาชนิดที่ทำให้ง่วงด้วยเช่นกัน เช่น ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ ยากล่อมประสาท
5. เพิ่มความชื้นในห้องนอน
การสร้างบรรยากาศในห้องนอนให้น่านอน ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันไรฝุ่น ควรเพิ่มความชื้นในห้องนอนเพื่อทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจไม่แห้ง เพราะอากาศแห้ง เป็นสาเหตุของการแคบลงของระบบทางเดินหายใจ
หากใครที่ลองวิธีแก้นอนกรนแล้วยังกรนอยู่ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด นอกจากการแก้ปัญหานอนกรนที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีการผ่าตัดเพื่อแก้อาการนอนกรน การใช้อุปกรณ์เพื่อลดอาการนอนกรน การใส่เครื่องอัดอากาศแรงดันอากาศ แต่ต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ข้อมูลจาก pobpad.com , rcot.org
Credit:pixabay