นับวันไข่ตก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทำให้มีลูกง่ายขึ้น เหมาะสำหรับใครที่อยากมีลูกยาก หรือคู่รักที่กำลังวางแผนอยากจะมีลูกน้อย ๆ มาเติมเต็มความสุขความอบอุ่นให้กับครอบครัว ด้วยวิธีการมีลูกตามธรรมชาติ และการนับวันไข่ตกก็เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็จะมีตัวช่วยอย่างเครื่องคำนวณวันไข่ตก เพื่อช่วยให้คุณได้นับวันไข่ตกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะจดใส่มือถือ iphone 11 ก็ได้ เมื่อรู้ช่วงเวลาที่ไข่ตกแน่นอนแล้ว คราวนี้เริ่มปฏิบัติการภารกิจได้เลย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ให้กับคุณได้ และวันนี้เรามีวิธีนับวันไข่ตกว่าจะต้องคำนวณยังไง วันไข่ตกมีสัญญาณอะไรบ้าง มาแนะนำให้กับว่าที่คุณแม่กันด้วย เราไปอ่านพร้อม ๆ กัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
การตกไข่คืออะไร ?
การตกไข่ (Ovulation) หรือที่เรียกกันว่า “ไข่ตก” คือ ภาวะร่างกายภายในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เมื่อถึงช่วงเวลาที่ไข่สุกอย่างเต็มที่ในแต่ละรอบเดือน ก็จะปล่อยไข่ใบที่สุกออกจากรังไข่ส่งต่อไปยังส่วนปลายของท่อนำไข่ เพื่อไปปฏิสนธิกับอสุจิ ซึ่งการเกิดไข่ตกนั้นจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเพียงแค่เดือนละครั้ง หรือที่เรียกกันว่า “ประจำเดือน” ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการมีประจำเดือนประมาณ 28-35 วัน โดยการ นับวันไข่ตก ก็จะเริ่มคำนวณวันไข่ตกได้ว่าจะช่วงวันไหนที่ไข่ตก และเมื่อประจำเดือนร่างกายก็จะเริ่มปล่อยฮอร์โมนฟอลลิเคิล สติมูเลติง (Follicle-Stimulating Hormone: FSH) ออกมาเพื่อกระตุ้นทำให้ไข่สุก และยังช่วยสร้างผนังมดลูกให้มีความหนามากขึ้น และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงมากเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อรองรับการปฏิสนธิระหว่างอสุจิกับไข่ โดยในช่วง 14 วันแรกของรอบเดือน จะเรียกช่วงนี้ว่า “ระยะก่อนไข่ตก” ในช่วงวันที่ 11-21 ของรอบเดือน เป็นช่วงเวลาของ “การตกไข่” ร่างกายก็จะเริ่มมีระดับของฮอร์โมนลูทิไนซิงที่สูงกว่าปกติ และในระหว่างที่ไข่ตกนั้นไม่ได้มีการปฏิสนธิ ระดับฮอร์โมนก็จะค่อย ๆ ลดลง และเยื่อบุมดลูกจะสลายหลุดกลายเป็นเลือดประจำเดือนในช่วง 14 วันหลังจากที่ไข่ตกนั่งเอง
วิธีนับวันไข่ตกยังไง ให้ได้ผลแม่นยำ มีลูกได้สมใจ
สำหรับใครที่อยากจะรู้วิธีการ นับวันไข่ตก เพื่อที่จะได้วางแพลนปฏิบัติภารกิจในการมีลูก ก็ต้องอธิบายอย่างนี้ว่าในการจะคํานวณวันตกไข่ จะเริ่มนับในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีประจำเดือนในรอบใหม่ ส่วนใหญ่และประจำเดือนจะมาทุก ๆ 28 วัน ฉะนั้นถ้าผู้หญิงคนไหนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอหรือมาตรงเวลาเป๊ะทุกเดือน ก็จะสามารถใช้วิธีการคํานวณวันไข่ตกได้ ค่อนข้างแม่นยำกว่าคนที่มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการนับวันไข่ตกนั้นก็จะเริ่มนับกันตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือน และในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน ก็จะเป็นวันไข่ตกนั่นเอง ถ้าใครที่อยากจะมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ก็ให้เริ่มวางแผนปฏิบัติภารกิจได้ในช่วงก่อนวันตกไข่ประมาณ 2 วันกันได้เลย เพราะอสุจิจะมีชีวิตรอผสมกับไข่ได้นาน 2 วันก่อนที่ไข่จะตก แต่ถ้าไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จตามวันที่คำนวณ บอกเลยว่าจะรอไปอีกทีก็เดือนหน้าเลย และวิธีการตรวจ นับวันไข่ตก จะสามารถทำได้ด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้
1.นับวันไข่ตกด้วยตัวเอง
สำหรับวิธีการคํานวณวันตกไข่ด้วยตัวเองนั้น จะไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องมืออื่น ๆ มาช่วยในการ นับวันไข่ตก นอกจากปฏิทินอย่างเดียว ซึ่งการเลือกใช้วิธีนับด้วยตัวเองนั้น จะเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาเป็นปกติ ตรงเป๊ะทุกเดือน แต่ถ้าใครที่ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง หรือแต่ละเดือนประจำเดือนจะมาไม่ค่อยตรงกัน ก็ไม่เหมาะกับการที่จะต้องมานั่งนับวันที่ไข่ตกเอง เพราะอาจจะทำให้ผลการนับไม่มีความแม่นยำ โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะมีรอบเดือนทุก 28 วัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนที่ประจำเดือนจะมาทุก ๆ 28 วัน และในรอบเดือนนี้ประจำเดือนมาวันที่ 12 ของเดือน ก็ให้นับวันที่ 12 นั้นเป็นวันที่ 1 ของการมีรอบเดือน จากนั้นก็ให้นับต่อไปอีก 14 วัน ก็จะไปตรงกับวันที่ 25 ของเดือน และถ้าวางแพลนว่าอยากจะมีลูก แนะนำให้เริ่มสะกิดคุณผู้ชายให้ทำภารกิจกันในช่วง 1 – 2 วันก่อนที่ไข่จะตก ก็จะประมาณวันที่ 23 – 24 ของเดือน เพราะอสุจิจะยังมีชีวิตอยู่รอเพื่อรอปฏิสนธิอยู่ในรังไข่ได้ประมาณ 2 วัน ก็เท่ากับว่า เมื่อไข่ตกมาก็จะเจอกับเจ้าอสุจิรออยู่นั่นเอง
2.เลือกใช้ชุดทดสอบการไข่ตก
ใครที่รู้ตัวว่ามีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือถ้าอยากจะนับวันที่ไข่ตกแบบชัวร์ ๆ แนะนำให้เลือกใช้เป็นที่ตรวจไข่ตก ซึ่งเดี๋ยวชุดทดสอบการตกไข่ (LH ovulation test) ได้รับความนิยมเลือกใช้กันมาก สำหรับคนที่ต้องการวางแผนอยากจะมีลูก เพื่อที่จะได้คํานวณวันไข่ตกได้ว่าอยู่ในช่วงไหน ก็จะช่วยทำให้โอกาสการมีลูกเพิ่มมากขึ้น โดยลักษณะการทำงานก็จะคล้ายกับที่ชุดตรวจครรภ์เลย คือ จะเป็นการตรวจหาฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ในปัสสาวะ ซึ่งในภาวะที่ร่างกายปกตินั้นจะหลั่งฮอร์โมน LH ออกมาค่อนข้างน้อย ไปจนถึงระยะก่อนเวลาไข่ตก ฮอร์โมน LH ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการตกไข่ก็จะเกิดเพียงแค่ภายในเวลา 12-48 ชั่วโมง ฉะนั้นถ้าตรวจแล้วพบว่าช่วงเวลานี้มีฮอร์โมนพุ่งสูงขึ้น ก็ให้มีเพศสัมพันธ์ภายใน 48 ชั่วโมง ก็จะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากเพิ่มขึ้น และปัจจุบันการใช้ชุดตรวจการตกไข่นั้นจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ประเภท เช่น ชุดทดสอบการตกไข่แบบจุ่ม (Strip) / ชุดทดสอบการตกไข่แบบตลับใช้หยด (Cassette) และชุดทดสอบโดยวิธีจุ่ม (Strip) โดยจะใช้ปัสสาวะเป็นตัวทดสอบ และใช้เวลาประมาณ 5 นาที ถึงจะทราบผล โดยจะดูได้จากถ้าขึ้นเพียงแค่ 1 ขีด แสดงว่ายังไม่ใช่วันที่ตกไข่ แต่ถ้าขึ้น 2 ขีดเมื่อไร เตรียมดีใจกันเลย เพราะนั่นหมายความว่าเป็นช่วงเวลาที่ไข่ตกแล้ว และถ้าใช้ที่ตรวจไข่ตกในการ นับวันไข่ตก ควรจะต้องตรวจหลังจากที่มีประจำเดือนไปแล้วประมาณ 10-12 วัน และถ้าจะเพิ่มความมั่นใจด้วยการตรวจซ้ำ แนะนำว่าควรจะเลือกตรวจในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อความแม่นยำของผลการตรวจ
ต้องรอให้ไข่ตกกี่วันถึงจะท้องได้
เชื่อว่าคำถามที่ว่า “ไข่ตกกี่วันถึงจะท้อง” กลายเป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยกันมาก อธิบายเพื่อให้เข้าใจกันง่าย ๆ คือ หลังจากช่วงเวลาที่ไข่ตกแล้ว ไข่นั้นจะยังมีชีวิตอยู่เพียงแค่ 12-24 ชั่วโมง นั่นเท่ากับว่า ถ้าภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ไข่ตก แล้วคุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ร่วมหลับนอนกับคนรัก โอกาสในการตั้งครรภ์จะแทบจะไม่มี ส่วนใครที่อยากจะมีลูกก็จะต้องเริ่มทำภารกิจภายใน 24 ชั่วโมงนี้เท่านั้น เพื่อที่จะได้มีโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ต้องบอกก่อนนะว่า วิธีนับวันไข่ตก เพื่อจะให้ตั้งครรภ์นั้น อาจจะใช้ได้ไม่กับทุกคน
5 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกอาการ “ไข่ตก”
นอกจากต้องมานั่ง นับวันไข่ตก กันแล้วว่าวันไหนน้า…ที่ไข่จะตก คุณจะต้องคอยหมั่นสังเกตตัวเองด้วย เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดการตกไข่นั้น ก็จะมีสัญญาณเตือนมาเพื่อให้รับรู้ล่วงหน้า แหม…ก็เหมือนอาการก่อนที่เป็นประจำเดือน ก็จะรู้สึกว่าอยากกินอาหารรสจัด ๆ รู้สึกหงุดหงิด หรือว่าเจ็บหน้าอก เราลองมาเช็คกันสิว่าสัญญาณอะไรบ้างที่แจ้งเตือนว่า เรากำลังอยู่ในช่วงตกไข่ มาดูกัน
- มีตกขาวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม – ช่วงเวลาก่อนวันไข่ตกนั้น จะมีเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตรงบริเวณช่องคลอด คือ มีมูกขาวใส ๆ หรือที่เรียกกันว่า ตกขาว ซึ่งจะมีความข้นเหนียวและยืดหยุ่น ลักษณะคล้ายกับไข่ขาวดิบ ออกมาทางช่องคลอด ถ้าคุณกำลังเจออาการเหล่านี้อยู่ บอกเลยว่านั่นคือสัญญาณเตือนอาการตกไข่
- อุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้น – สังเกตอาการตัวเองได้เลย ว่าช่วงไหนที่มีความรู้สึกว่าประจำเดือนใกล้จะมา ช่วงนั้นอุณหภูมิร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้สูงจนน่าตกใจ เนื่องจากในช่วงการตกไข่นั้นร่างกายจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเลือดที่สูบฉีดเพิ่มขึ้น จึงส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ควรใช้ปรอทวัดไข้มาเช็คอุณหภูมิหลังจากตื่นนอนหรือว่าก่อนจะทำกิจกรรมใด ๆ เพื่อที่จะได้เช็คว่าอุณหภูมิสูงเพิ่มขึ้นเท่าไร
- มีอาการเจ็บคัดตึงบริเวณเต้านม – ถ้าเริ่มมีความรู้สึกเจ็บ หรือ อาการคัดตึงที่บริเวณเต้านมเล็กน้อย นั่นก็จะเป็นสัญญาณเตือนได้ว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง แต่ต้องบอกก่อนว่าอาการเจ็บเต้านมนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ บางครั้งอาจจะไม่ใช่สาเหตุที่เกิดจากการอาการไข่ตกก็ได้ ฉะนั้นจะต้องคอยหมั่นเช็คร่างกายตัวเอง
- มีความต้องการทางเพศเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ – ในช่วงระยะเวลาที่ไข่ตกนั้น จะทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่เลยจะมีความต้องการทางเพศมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- เกิดอาการปวดท้องน้อยข้างเดียว – ผู้หญิงหลายคนที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ถ้าช่วงไหนที่มีการตกไข่ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยข้างเดียว แต่อาการปวดจะไม่รุนแรง ซึ่งจะปวดแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าเกิดอาการปวดท้องข้างเดียวรุนแรง หรือว่าปวดนานผิดปกติ แนะนำให้หาคุณหมอทันที
จริงอยู่ที่ว่าการนับวันไข่ตกจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ให้กับคนที่มีลูกยากหรือคนที่อยากมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งบางคนก็เลือกใช้วิธีนี้ทำให้มีลูกสำเร็จมาแล้วก็หลายคน แต่ก็ใช่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกันทุกคน ด้วยปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย แล้วไหนจะต้องดูด้วยว่าการมาของรอบเดือนของผู้หญิงเป็นยังไง ถ้าใครที่อยากจะมีลูกจริง ๆ ก็ควรลองวิธีการนับวันไข่ตกกันอย่างน้อยก็ 3-4 เดือนดูก่อน แต่ถ้าลองมาแล้วก็หลายครั้งก็ยังไม่มีลูกกันสักที แนะนำให้ไปพบคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษา ก็จะได้ช่วยทำให้การมีลูกของคุณประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ที่มาข้อมูล : multimedia / worldwideivf.com
Feature Image credit : Freepik