การมีแผลในปากจากอาการร้อนในเป็นเรื่องปกติและส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและแสบร้อนและรำคาญได้ ซึ่งมีหลายสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ได้แก่ ความวิตกกังวล ความเครียด อุบัติเหตุ ฯลฯ เป็นสาเหตุทั่วไปที่ทำให้เกิดแผลเปื่อยในปาก รวมถึงสิ่งเรากินก็มีส่วนอย่างมากเช่นกัน หากคุณมีแผลร้อนในบ่อยและไม่หายไป อาจต้องสงสัยว่า กินอะไรแก้ร้อนในดี ผลไม้แก้ร้อนในมีอะไรบ้าง ใช้อาหารอะไรได้บ้างในการรักษาและเป็นวิธีแก้ร้อนใน และหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้แผลร้อนในในปากหายได้นั้น คือผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น ใครที่กำลังมีปัญหาเป็นแผลร้อนใน วันนี้ Shopee พามาดู 5 ผลไม้แก้ร้อนใน ที่จะช่วยตอบคำถามว่าเป็นร้อนใน กินอะไรดี รักษาแผลในปากอย่างได้ผลกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
แผลร้อนในเกิดจากอะไร ?
แผลร้อนในอาจเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในภายในช่องปาก ที่พบบ่อยที่สุดคือแผลเปื่อยธรรมดา ซึ่งเป็นแผลเล็ก ๆ สีขาวที่เกิดจากการระคายเคือง และเชื้อราที่เกิดจากการติดเชื้อสามารถพัฒนาเป็นแผลได้ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการบาดเจ็บ เช่น การกัดกระพุ้งแก้มด้านในโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ แผลเปื่อย ยาบางชนิด ผื่นที่ผิวหนังในปาก การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา สารเคมี และเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง และเพื่อช่วยป้องกันแผลในปาก ให้จัดการกับปัญหาและสิ่งกระตุ้น เช่น ความเครียดหรืออาหารบางชนิด ในกรณีส่วนใหญ่ แผลในปากจะไม่เป็นอันตรายและหายได้เองภายใน 10-14 วันโดยไม่ต้องรักษา แต่หากแผลร้อนในของคุณยังคงอยู่ หรือสงสัยว่าอาจมีสาเหตุมาจากอาการหรือโรคอื่น ๆ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
สาเหตุของการเกิดแผลร้อนใน
แผลในช่องปาก (Aphthous Ulcer) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าแผลในปาก แผลเปื่อย หรือแผลร้อนใน อาจเกิดจากหลายปัจจัย และแผลอาจรุนแรงขึ้นได้ในช่วงที่มีความเครียด หรือเจ็บป่วย ซึ่งสาเหตุที่พบได้ มีดังนี้
สาเหตุจากพันธุกรรมหรือโรค
- พันธุศาสตร์ หรือ พันธุกรรม อาจมีความบกพร่องทางพันธุกรรมในการเกิดแผลในปาก
- โรคภูมิต้านตนเอง เช่น สภาวะเช่นโรคเบห์เซ็ต โรคโครห์น และโรคเซลิแอก อาจทำให้เกิดแผลในปากโดยเป็นส่วนหนึ่งของอาการ
- มะเร็งช่องปาก
สาเหตุจากปฏิกิริยาบางอย่างในร่างกาย
- การติดเชื้อไวรัส เช่น การติดเชื้อไวรัสเริม หรือโรคหวัด
- เกิดจากการมีปฏิกิริยาต่อยาบางชนิด
- ความไวต่ออาหาร: อาหารบางชนิด โดยเฉพาะอาหารที่เป็นกรดหรือเผ็ด เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว มะเขือเทศ และช็อกโกแลต อาจทำให้เกิดหรือทำให้แผลในปากรุนแรงขึ้นในบางคนได้
- มีผื่นที่ผิวหนังในปาก เช่น ไลเคนพลานัส
- การขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 เหล็ก กรดโฟลิก และสังกะสี หรือธาตุเหล็ก
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความผันผวนของฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้เกิดแผลในปากได้
สาเหตุจากพฤติกรรมหรืออุบัติเหตุ
- กัดกระพุ้งแก้มด้านในโดยไม่ได้ตั้งใจ
- บาดเจ็บจากแปรงสีฟัน เช่น การลื่นไถลขณะแปรงฟัน
- เป็นแผลจากการกินอาหารร้อน
- เกิดจากการระคายเคืองจากน้ำยาฆ่าเชื้อที่รุนแรง เช่น น้ำยาบ้วนปาก
- เกิดแผลระหว่างการทำทันตกรรม
- ความเครียดทางอารมณ์หรือความเหนื่อยล้าอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้เกิดแผลในปากได้ง่ายยิ่งขึ้น
ผลไม้แก้ร้อนใน กินอะไรแก้ร้อนใน หายชัวร์ !
การกินอาหารเพื่อสุขภาพที่เต็มไปด้วยผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีอย่างหลากหลาย จะช่วยรับประกันว่าคุณจะไม่ขาดวิตามินจนเป็นแผลร้อนในในปาก หากคุณมีภาวะขาดวิตามิน ให้ลองกินอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก สังกะสี หรือวิตามิน B1, B2, B6, B12 หรือ วิตามิน C ขึ้นอยู่กับว่าคุณขาดวิตามินชนิดไหนบ้าง และอีกวิธีที่จะช่วยรักษาแผลร้อนในอย่างได้ผล คือการกินผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น หรือผลไม้หน้าร้อน และผลไม้แก้ร้อนในที่อยากแนะนำ ได้แก่
1. แตงโม ผลไม้แก้ร้อนในชั้นดี
Cr. Unsplash
แตงโมเป็นผลไม้ที่นิยมกินกันในช่วงฤดูร้อน เพราะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำ จึงสามารถบรรเทาอาการแผลในปากได้ โดยปกติในแตงโมมีปริมาณน้ำสูงถึง 92% ซึ่งจะช่วยป้องกันการขาดน้ำและทำให้ร่างกายเย็น หากบริโภคเป็นประจำจะช่วยควบคุมความร้อนในร่างกายได้ ทั้งยังมีไลโคปีนที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด และช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นในช่วงฤดูร้อน และฤทธิ์เย็นของแตงโมนั้นจะช่วยบรรเทาอาการแผลร้อนในได้ด้วยเช่นกัน
2. ส้มโอ
Cr. Unsplash
ส้มโอเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีลักษณะคล้ายเกรปฟรุต มีประโยชน์ต่อแผลในปากเนื่องจากมีวิตามินซีเข้มข้น คุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น และเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยน ปริมาณวิตามินซีสูงสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ส่งเสริมการรักษาแผลในปาก ปริมาณน้ำที่สูงของผลไม้ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพโดยรวมและกระบวนการบำบัด นอกจากนี้ส้มโอยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย แม้จะมีรสเป็นกรด ส้มโอก็มีผลทำให้ร่างกายเป็นด่างโดยรวม ช่วยปรับสมดุลค่า pH ในปาก และลดความเป็นกรดที่อาจระคายเคืองต่อแผลร้อนในในปาก ส่วนส้มโอมีความนุ่มและเคี้ยวง่าย ช่วยบรรเทาอาการบริเวณที่บอบบางโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม
3. มังคุด
Cr. Photo by Art Rachen on Unsplash
มังคุดมักถูกเรียกว่า “ราชินีแห่งผลไม้” มีประโยชน์ต่อแผลในปากเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมไปด้วย คุณสมบัติต้านการอักเสบ และเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยน สารต้านอนุมูลอิสระของผลไม้ โดยเฉพาะแซนโทน มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยในกระบวนการสมานแผลในปาก สารประกอบของมังคุดช่วยลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการระคายเคือง นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ มังคุดมีปริมาณน้ำสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและดีต่อสุขภาพโดยรวม เนื้อมังคุดมีความนุ่ม เคี้ยวง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นแผลในปาก
4. ลูกพีช
Cr. Photo by LuAnn Hunt on Unsplash
ผลไม้รสฉ่ำหวานอย่างลูกพีชนั้นจะช่วยเสริมให้ร่างกายชุ่มชื้นอยู่เสมอ และยังดีต่อผิวอีกด้วย ลูกพีชยังมาพร้อมกับวิตามินเอและซีในปริมาณที่ดีต่อสุขภาพ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ที่ดี ซึ่งช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร ทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบจากการเป็นแผลร้อนในได้อีกด้วย
5. แคนตาลูป
Cr. Photo by Martin Moore on Unsplash
แคนตาลูปเป็นหนึ่งในผลไม้แก้ร้อนใน เพราะมีปริมาณน้ำประมาณ 95% ทำให้เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง ทั้งยังมีแคลอรีค่อนข้างต่ำและเป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งหมายความว่าจะช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และด้วยประโยชน์ที่ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นุ่มและให้ความชุ่มชื้น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นแผลในปาก ส่งผลต่อการบรรเทาอาการแผลร้อนในได้เช่นกัน
6. มะพร้าว ผลไม้แก้ร้อนในฤทธิ์เย็น
Cr. Unsplash
ผลไม้แสนอร่อยและมากประโยชน์อย่างมะพร้าวนั้น ไม่เพียงได้รับประโยชน์จากน้ำมะพร้าวเท่านั้น แต่ยังได้รับจากเนื้อมะพร้าวอีกด้วย เพราะเต็มไปด้วยอิเล็กโทรไลต์ตามธรรมชาติซึ่งช่วยให้ร่างกายและผิวพรรณชุ่มชื้นและเย็น ทั้งยังดีต่อร่างกายเพราะช่วยลดไข้ แก้อาการร้อนใน และดับกระหายได้เป็นอย่างดี
7. กล้วย
Cr. Unsplash
กล้วยเหมาะสำหรับรักษาแผลในปากเนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม มีโอกาสเกิดการระคายเคืองน้อย อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการให้น้ำ คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหายและส่งเสริมการรักษา กล้วยย่อยง่ายและมีฤทธิ์เป็นด่างในร่างกาย ช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินอาหาร และลดความเป็นกรดที่อาจระคายเคืองต่อแผลในปาก
8. มะละกอ
Cr. Photo by Happy Surani on Unsplash
มะละกอมีประโยชน์ต่อแผลในปากเนื่องจากมีความนุ่มและเคี้ยวง่าย ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองบริเวณต่างๆ มะละกออุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ปาเปน และไฟเบอร์ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในการย่อยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหายและช่วยในการรักษา มะละกอให้ความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร และมีผลทำให้ร่างกายเป็นด่าง ปรับสมดุลของระดับ pH และลดความเป็นกรดที่อาจทำให้แผลในปากรุนแรงขึ้น
9. แก้วมังกร
Cr. Unsplash
แก้วมังกรนั้นดีต่อแผลในปากเนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น เนื้อสัมผัสที่นุ่มและเรียบเนียนช่วยบรรเทาบริเวณที่บอบบางโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม แก้วมังกรอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมด้วยวิตามินบีและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยลดการอักเสบและช่วยในการรักษา ปริมาณน้ำที่สูงช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น และถึงแม้จะมีความเป็นกรดเล็กน้อย แก้วมังกรก็ยังมีฤทธิ์เป็นด่างโดยรวม ช่วยรักษาระดับ pH ในปากให้สมดุล สิ่งนี้ทำให้แก้วมังกรเป็นประโยชน์ต่ออาหารสำหรับผู้ที่ต้องรับมือกับแผลร้อนใน
10. กีวี
กีวีมีวิตามินซีในปริมาณที่เท่ากันเมื่อเทียบกับส้ม และเป็นผลไม้ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งสำหรับฤดูร้อน เนื่องจากให้ความเย็นแก่ร่างกายและอุดมไปด้วยวิตามินอี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ด้วย หากคุณมีอาการแผลร้อนในจากการขาดวิตามินซี กีวีก็จัดว่าเป็นผลไม้แก้ร้อนในที่ควรเลือก ถึงแม้ว่าหากเจอกีวีเปรี้ยวและเมล็ดกีวีโดนแผลจะเจ็บแสบไปบ้าง แต่ก็จะทำให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้นได้เช่นกัน
ผลไม้ต้องห้ามเมื่อเป็นแผลร้อนใน
นอกจากผลไม้ทั้ง 5 ชนิดข้างต้นที่ช่วยแก้ร้อนในได้แล้ว ยังมีอาหารและผลไม้บางชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงและไม่ควรกินเมื่อคุณมีแผลในปาก เพราะจะส่งผลให้อาการแย่ลงได้ นั่นคือ ผลไม้ที่เป็นกรด ผลไม้ที่เป็นกรดหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีรสเปรี้ยว อาจทำให้ปากของคุณแตกออกเป็นแผลได้ เช่น สับปะรด ส้ม มะนาว มะเขือเทศ เลมอน เกรปฟรุ๊ต องุ่น เชอร์รี่ ทับทิม ราสเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ และสตรอเบอร์รี่ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง มักจะทำให้ระคายเคืองในปาก และทำให้เกิดความเครียดในช่องปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีปากที่บอบบางอยู่แล้ว หรือมีแผลร้อนใน ซึ่งน้ำผลไม้ที่ทำจากผลไม้เหล่านี้จะมีผลเช่นเดียวกัน หากคุณมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นแผลเปื่อยหรือมีแผลในปาก ให้หลีกเลี่ยงผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้
แม้ว่าการหลีกเลี่ยงผลไม้เหล่านี้สามารถช่วยจัดการกับแผลในปากได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องรับฟังร่างกายของคุณและหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆ ที่คุณพบว่าทำให้อาการของคุณรุนแรงขึ้น การรักษาสุขอนามัยในช่องปากที่ดีและการให้น้ำเพียงพอยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการแผลในปากอย่างมีประสิทธิภาพ หากแผลในปากยังคงอยู่หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม
วิธีแก้ร้อนใน นอกจากผลไม้ ควรกินใช้อะไรอีกบ้าง
รายการสิ่งของที่เป็นประโยชน์ในการรักษาแผลในปากนอกจากเหล่าผลไม้ที่พูดถึงด้านบนมีดังนี้
– วิธีแก้ร้อนในโดยการใช้ยา
- ยาแก้ปวดในช่องปาก: เช่น ไอบูโพรเฟน หรือ อะเซตามิโนเฟน เพื่อบรรเทาอาการปวด
- ยาแก้ปวดเฉพาะที่: เจลหรือครีมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ที่มีเบนโซเคนหรือลิโดเคนเพื่อทำให้แผลชาและลดอาการปวด
- น้ำยาบ้วนปากน้ำยาฆ่าเชื้อ: เช่นเดียวกับคลอเฮกซิดีนหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อรักษาบริเวณนั้นให้สะอาดและป้องกันการติดเชื้อ
- บ้วนปาก: น้ำเกลือหรือเบกกิ้งโซดาบ้วนปากเพื่อบรรเทาแผลและส่งเสริมการรักษา
– การรักษาตัวเองที่บ้าน
- เจล/ยาทาแก้ร้อนใน: เจลหรือยาเพสต์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเคลือบและป้องกันแผลในปาก เช่น Trinolone หรือ แผ่นแปะ TIME Oral Ulcer Patch
- น้ำมันมะพร้าว: เมื่อทาเฉพาะที่ น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพและสามารถส่งเสริมการรักษาได้
- น้ำผึ้ง: น้ำผึ้งใช้ทาแผลโดยตรงมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบที่สามารถช่วยสมานแผลได้
- เจลว่านหางจระเข้: เจลว่านหางจระเข้ทาลงบนแผลโดยตรงมีคุณสมบัติผ่อนคลายและต้านการอักเสบ
- เจลเย็น หรือ Ice Packs: การประคบน้ำแข็งด้วย Ice Packs ที่ด้านนอกปากสามารถช่วยให้บริเวณนั้นชาและลดความเจ็บปวดได้
- ชาคาโมมายล์: ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากหรือทาเฉพาะที่ คาโมมายล์มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและผ่อนคลาย
- เบกกิ้งโซดา: ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำให้เป็นเนื้อครีมแล้วทาลงบนแผลสามารถช่วยลดความเป็นกรดและลดความเจ็บปวดได้
- ยาพอกขมิ้น: การผสมผงขมิ้นกับน้ำเพื่อให้เป็นยาพอกแล้วทาลงบนแผลจะช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวดได้
– วิธีแก้ร้อนในโดยการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- วิตามินบี 12: อาหารเสริมอาจมีประโยชน์ หรือจะหาวิตามินบีรวมทานเพิ่มแทนก็ได้
- ธาตุเหล็ก: อาหารเสริมอาจมีประโยชน์หากสงสัยว่าขาดธาตุเหล็ก
- สังกะสี(ซิ้งค์ หรือ Zinc): อาหารเสริมอาจช่วยในการรักษาบาดแผลและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
– เป็นร้อนใน กินอะไรดี กินอาหารอ่อน
- โยเกิร์ต: โยเกิร์ตรสธรรมชาติช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสามารถช่วยรักษาสุขภาพช่องปากได้
- ซอสแอปเปิ้ล: ซอสแอปเปิ้ลไม่หวานมีความนุ่มและอ่อนโยนต่อปาก
- ข้าวโอ๊ต: ข้าวโอ๊ตมีความนุ่มและกลืนง่าย ให้สารอาหารและให้ความชุ่มชื้น
- ผักต้ม: ผักปรุงสุกอย่างแครอท มันฝรั่ง และสควอชนั้นเคี้ยวและกลืนได้ง่าย
- ไข่คน: ไข่คนมีความนุ่มและมีโปรตีนสูง รับประทานง่าย
– ใช้ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยช่องปากที่ดี
- แปรงสีฟันขนนุ่ม: ช่วยป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติมขณะแปรงฟัน
- น้ำยาบ้วนปากไร้แอลกอฮอล์: เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองเพิ่มเติม ให้เลือกน้ำยาบ้วนปากสูตรอ่อนโยนและปราศจากแอลกอฮอล์
- น้ำยาบ้วนปากสำหรับฟันที่บอบบาง: หากแผลในกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการแพ้ การใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรสำหรับฟันที่บอบบางสามารถช่วยได้
– รักษาตัวเองด้วยการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง
- ดื่มน้ำมากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ร่างกายได้หยุดพักและรักษาตนเอง
- งดของทอด ของมัน แอลกอฮอล์ บุหรี่
อย่างไรก็ตาม หากแผลในปากยังคงอยู่ แย่ลง หรือมีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ร่วมด้วย หรือเป็นแผลเป็นเวลานานเกิน 2-3 สัปดาห์ ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและรักษาต่อไป
แผลในปากเป็นอาการที่เกิดจากร้อนใน ทำให้เราดื่ม กิน และกลืนลำบาก เพราะจะมีอาการเจ็บปวดและแสบร้อนได้ แต่เราสามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากผลไม้แก้ร้อนในแล้ว ก็เช่น ไอศกรีมแท่ง หรืออาหารที่มีความเย็น รวมถึงการเลือกกินอาหารมื้อเล็ก ๆ และบ่อยขึ้น ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ กินอะไรแก้ร้อนใน ต้องบอกว่าควรเลือกอาหารที่นิ่ม สุก และเย็น จำไว้ว่าการฟังร่างกายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ หากผลไม้บางชนิดทำให้ปากของคุณระคายเคือง ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงจนกว่าแผลจะหาย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด ร้อน เค็ม เปรี้ยว รวมทั้งคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ วิธีแก้ร้อนในยังรวมถึง การใช้ยา การรักษาสุขอนามัยในช่องปากที่ดีและการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่ออกแบบมาสำหรับแผลในปากโดยเฉพาะสามารถช่วยในการจัดการและป้องกันได้ ก็จะทำให้แผลร้อนในของคุณดีขึ้นได้นั่นเอง ได้ที่ Shopee Blog