ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งสายฟิตหุ่นตอนเช้า วิ่งเล่นคลายเครียดยามเย็น หรือนักวิ่งสายมาราธอน สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรมีเหมือนกันคือ “รองเท้าวิ่งคู่ใจ” ที่ใส่สบาย ตอบโจทย์ เหมาะกับรูปเท้าและสไตล์การวิ่ง เพราะรองเท้าที่ดีไม่เพียงช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับการวิ่งได้ดังใจ!
บทความนี้เราเลยรวม 14 รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีจากแบรนด์ชั้นนำที่ขึ้นชื่อเรื่องความใส่สบาย ตอบโจทย์การวิ่งมาให้คุณเลือกเป็นคู่หูคนใหม่ ไม่ว่าคุณกำลังมองหารองเท้าวิ่ง nike รุ่นไหนดี หรือรองเท้าวิ่ง saucony รุ่นไหนดี เราก็มีให้เลือกสรร นอกจากนี้ยังมีรองเท้าวิ่ง adidas รุ่นไหนดีที่เราแนะนำ พร้อมไกด์ไลน์เล็ก ๆ ให้เลือกคู่ที่ใช่กับสไตล์ของคุณได้ง่ายขึ้น!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. Skechers GOrun Ride 11

Skechers GOrun Ride 11 เป็นแบรนด์รองเท้าสัญชาติอเมริกันที่ตอบโจทย์รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ใส่สบาย วิ่งได้ไกลโดยไม่ปวดเท้า! เพราะรองเท้ารุ่นนี้มาพร้อมโฟม HYPER BURST® ICE™ ที่นุ่ม เด้ง และรองรับแรงกระแทกได้ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยี Hyper Arc™ ที่ช่วยให้คุณเตะเท้าได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ขณะที่พื้นยาง Goodyear® ก็ให้การยึดเกาะที่มั่นใจในทุกพื้นผิวการวิ่ง ทำให้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้เหมาะทั้งสำหรับนักวิ่งสายฟิตประจำวัน ไปจนถึงคนที่เตรียมลง Half หรือ Full Marathon เลย
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: HYPER BURST ICE™ (โฟมสองชั้น), Carbon Infused Plate (H-plate)
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: วิ่งประจำวัน, วิ่ง Recovery, วิ่งระยะไกล
- ราคา: ฿2,595
2. Skechers GOrun Razor5

ใครกำลังมองหารองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์การทำความเร็วแต่ยังใส่สบายอยู่ล่ะก็ ลองมองมาทาง Skechers GOrun Razor 5 เลย เพราะรองเท้าวิ่งรุ่นนี้มาพร้อมน้ำหนักเบา ให้ความคล่องตัวและวิ่งสนุกทุกก้าว ตัวรองเท้ามาพร้อมโฟม HYPER BURST® ที่นุ่มเด้ง ช่วยให้ทำความเร็วได้แบบไม่ต้องฝืน แถมยังมีพื้นยาง Goodyear® ช่วยยึดเกาะมั่นใจทุกสภาพถนน
รองเท้ารุ่นวิ่งนี้เหมาะสุดๆ สำหรับสาย Tempo Run หรือใครที่อยากลองแข่ง 5K–Half Marathon แบบจริงจังแต่ไม่อยากลงรองเท้าแข่งแบบจัดเต็ม Razor 5 ก็คือคำตอบนั้นที่บาลานซ์ระหว่างความเร็วและความสบายได้อย่างลงตัว!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: HYPER BURST PRO™ (โฟมน้ำหนักเบา), Carbon Infused Forefoot Winglet Plate
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: วิ่ง Tempo, แข่งขัน (ระยะสั้น-กลาง), Speedwork
- ราคา: ฿3,332
3. Hoka Clifton 9

ถ้ากำลังถามตัวเองว่าจะหาซื้อรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ใส่สบาย วิ่งได้ทุกวันไม่มีเมื่อย ต้องลอง Hoka Clifton 9 เลย รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มเบา รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม วิ่งได้ตั้งแต่ 5K ไปจนถึงมาราธอน พื้นโฟม EVA ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ช่วยให้เตะเท้าได้สมูธขึ้น พร้อม Meta-Rocker ที่ช่วยผลักเท้าไปข้างหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ แถมอัปเปอร์ที่ช่วยระบายอากาศได้ดีมาก เหมาะทั้งนักวิ่งหน้าใหม่และนักวิ่งสายฟูล ใครอยากได้รองเท้าคู่ใจใส่ได้ทุกวัน ตัวนี้เลยคือคำตอบ
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: Compression Molded EVA (CMEVA) foam
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: ซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่ง Recovery
- ราคา: ฿1,348
4. Hoka Bondi 8

มาถึง Hoka Bondi 8 รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสบายแบบเหมือนได้ “เหยียบบนเมฆ” ขึ้นชื่อว่าเป็นรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีรุ่นที่รองรับแรงกระแทกขั้นสุด เหมาะกับทั้งนักวิ่งมือใหม่ นักวิ่งสายมาราธอน หรือใครที่ต้องการเซฟเข่าและข้อเท้าในการวิ่ง ด้วยการดีไซน์พื้นโฟมหนาพิเศษช่วยซัพพอร์ตทุกย่างก้าว พร้อมดีไซน์ส้นเท้าแบบใหม่ที่ลงน้ำหนักได้นุ่มนวลสุดๆ แม้จะน้ำหนักเยอะกว่ารองเท้ารุ่นอื่นเล็กน้อย แต่ให้ความมั่นคงและสบายตลอดระยะทาง ใส่แล้วติดใจแน่นอน
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: Compression Molded EVA (CMEVA) foam หนาเป็นพิเศษ
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: การวิ่งทางลาด, วิ่ง Recovery, วิ่งระยะไกลมาก, ผู้ที่ต้องการความสบายสูงสุด
- ราคา: ฿1,604
5. ASICS GEL-Kayano 31

สำหรับใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่เน้นการทรงตัวและปกป้องไม่ให้เกิดอาการเท้าล้ม ASICS GEL-Kayano 31 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ รองเท้าวิ่งรุ่นนี้เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการซัพพอร์ตพิเศษ โดยเฉพาะผู้มีอาการ Overpronation ด้วยเทคโนโลยี 4D GUIDANCE SYSTEM™ และ PureGEL™ ที่ให้ความมั่นคงกับการทรงตัวแต่ยังนุ่มสบาย วิ่งได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า พื้นยางเกาะถนนดีเยี่ยม อัปเปอร์ยังให้ความยืดหยุ่นกระชับ ระบายอากาศดี ใครวิ่งระยะไกลหรือฝึกประจำวันต้องลองเลย
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: FF BLAST™ PLUS ECO, PureGEL™ Technology, 4D GUIDANCE SYSTEM™
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: ซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, ผู้ที่ต้องการการรองรับสรีระเท้า, รับแรงกระแทกได้ดีสำหรับการวิ่งลู่ลาดชัน
- ราคา: ฿4,350
6. ASICS Novablast 4

สำหรับสายวิ่งที่เน้นวิ่งสนุก เด้ง และไม่หนักเท้า ต้องลอง ASICS Novablast 4! รองเท้าวิ่งรุ่นนี้เป็นรองเท้าแบบ Neutral ที่ให้แรงดีดกลับสูงจากโฟม FF BLAST™ PLUS ECO ทุกก้าวรู้สึกกระฉับกระเฉงสุดๆ พื้นรองเท้าออกแบบจากแรงบันดาลใจแทรมโพลีน ทำให้ทุกการวิ่งมีพลัง ระบายอากาศดี น้ำหนักเบา ใส่สบาย เหมาะทั้งวิ่งประจำวัน วิ่งเทมโป หรือระยะไกล ใครชอบรองเท้าเด้ง วิ่งแล้วรู้สึกมันส์ เท้านุ่ม ต้องไม่พลาดคู่นี้!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: FF BLAST™ PLUS ECO
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: ซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่ง Tempo, วิ่ง Fun Run, วิ่งบนทางลาดชัน, วิ่งลู่ขนาดเล็ก
- ราคา: ฿4,420
7. Under Armour UA Velociti 3 EIS

ถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะเลือกรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีสำหรับวันแข่งจริงที่ต้องการความเร็วสูงสุด Under Armour UA Velociti 3 EIS คือรุ่นที่เราไม่อยากให้พลาด! รองเท้าวิ่งตัวนี้ออกแบบมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ ด้วยโฟม UA Flow ที่เบาและยึดเกาะดี ผสานโฟม Pebax ที่ให้แรงดีดกลับ และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยส่งพลังในทุกย่างก้าว น้ำหนักเบาเพียง 218 กรัม สวมใส่สบาย กระชับ ระบายอากาศเยี่ยม เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการทำเวลา ไม่ว่าจะ 10K หรือมาราธอน บอกเลยว่าคู่เดียวเอาอยู่!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: UA Flow cushioning, Full-length Carbon Fiber Plate
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: แข่งขัน (ระยะไกล), วิ่ง Tempo, Speedwork
- ราคา: ฿3,224
8. Under Armour Infinite

Under Armour HOVR Infinite ถือเป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่ตอบโจทย์เรื่องความนุ่มสบายและรองรับแรงกระแทกดีเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยี UA HOVR™ ที่ให้ความรู้สึก “ไร้แรงโน้มถ่วง” พร้อม Energy Web™ ช่วยคืนพลังในทุกย่างก้าว พร้อมอัปเปอร์ระบายอากาศดี ใส่สบาย รองรับเท้าได้อย่างมั่นคง ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ตอบโจทย์การเป็น Daily Trainer ที่เน้นความทนทานและการรองรับแรงกระแทกสูง และยิ่งเหมาะมากๆ กับวิ่งระยะไกลที่ตอบโจทย์ทั้งนักวิ่งมือใหม่และสายจริงจังที่ต้องการความนุ่ม ทน และมั่นใจในทุกเส้นทาง!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: UA HOVR™ cushioning
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: วิ่งระยะไกล, ซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่ง Recovery, รองรับแรงกระแทกจากความชันได้ดี
- ราคา: ฿1,774
9. Saucony Guide 18

สำหรับใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ช่วยควบคุมการลงเท้าแบบนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ ต้องมาลอง Saucony Guide 18 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เหมาะกับนักวิ่งที่มีอาการเท้าล้มเข้าด้านใน (Overpronation) ด้วยเทคโนโลยี Center Path ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงโดยไม่รู้สึกบังคับ พร้อมโฟม PWRRUN ที่รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ใส่สบาย เด้ง และน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน เหมาะกับทั้งการวิ่งประจำวันหรือวิ่งระยะไกล สาย Stability ที่อยากได้ความนุ่มและลื่นไหล ต้องลอง!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: โฟม PWRRUN, Center Path
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, นักวิ่งเท้าล้มเข้าด้านในที่ต้องการการซัพพอร์ตแบบธรรมชาติและนุ่มนวล
- ราคา: ฿2,245
10. Saucony EndorphinPRO 4

ถ้ากำลังมองหารองเท้าวิ่ง Saucony รุ่นไหนดีที่ช่วยพาคุณทำลายสถิติ ต้องลอง Saucony Endorphin Pro 4! รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อ “Race Day” โดยเฉพาะ! เด่นสุดคือแผ่นคาร์บอนเต็มแผ่น + โฟม 2 ชั้น (PWRRUN HG & PB) ที่ช่วยให้ก้าวเท้าเร็ว เด้ง และไหลลื่นสุด ๆ แถมยังใส่นุ่ม กระชับ ไม่บีบเท้า เทคโนโลยี SPEEDROLL ก็ช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้นแบบไม่รู้ตัว ใครตั้งเป้าวิ่ง 5K, 10K หรือมาราธอน รุ่นนี้ถือว่า “ตัวจี๊ด” ที่ควรมีติดชั้นวางเลย
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: โฟมคู่ PWRRUN HG & PB, SPEEDROLL
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: แข่งขัน (Race Day) ทุกระยะ, ทำความเร็วสูงสุด, นักวิ่งที่ต้องการแรงส่งและประสิทธิภาพสูง
- ราคา: ฿7,990
11. Nike ZoomX Streakfly2

สำหรับแฟนๆ Nike ถ้าจะถามว่ามีรองเท้าวิ่ง Nike รุ่นไหนดีที่ตอบโจทย์สายสปีดตัวจริง! ต้องยกให้ Nike ZoomX Streakfly 2! รองเท้าวิ่งรุ่นนี้มาด้วยน้ำหนักเบาแบบเหลือเชื่อ (ไม่ถึง 200 กรัม!) แต่ยังให้แรงส่งจากโฟม ZoomX เต็มเท้าแบบจัดเต็ม เหมาะมากกับการวิ่งแข่ง 5K-10K หรือซ้อมวิ่งทำความเร็ว ด้วยดีไซน์ที่กระชับ ระบายอากาศดีเยี่ยม และรู้สึกถึงพื้นได้ชัดเจน ช่วยให้ควบคุมจังหวะการก้าวได้แม่นยำ แนะนำเลยค่ะสำหรับนักวิ่งที่อยากพุ่งตัวแรงแบบมืออาชีพในทุกก้าว!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: ZoomX foam, Pebax plate (บางส่วน)
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: แข่งขันระยะสั้น (5k-10k), Speedwork, Track workouts, เริ่งความเร็วบนทางลาดชันได้ดี
- ราคา: ฿4,031
12. Nike Vaporfly 4

ถ้าคุณกำลังมองหารองเท้าวิ่ง Nike รุ่นไหนดีที่ใช้ลงแข่งแบบจริงจัง ต้องลอง Nike ZoomX Vaporfly 4! รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวท็อปสายแข่งที่ออกแบบมาเพื่อทำลายสถิติ! ผสานพลัง ZoomX โฟมที่เบาและเด้งที่สุดของ Nike กับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เต็มเท้า ช่วยให้คุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด เหมาะมากสำหรับวิ่ง 10K ถึงมาราธอน น้ำหนักเบา ใส่สบาย คล่องตัว แถมยังลดแรงกระแทกได้ดี วิ่งไกลแค่ไหนก็ยังสดอยู่ แนะนำเลย!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: ZoomX foam, Full-length Carbon Fiber Plate
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: แข่งขัน (มาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน), วิ่งเร็วระยะไกล, ไม่เหมาะกับลู่วิ่ง
- ราคา: ฿6,018
13. Adidas Adizero Adios 8

ถ้าถามว่ารองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นไหนดีที่ตอบโจทย์สายสปีด ต้องยกให้ Adidas Adizero Adios 8 เลย รองเท้าวิ่งรุ่นนี้น้ำหนักเบามาก วิ่งคล่องสุดๆ เพราะผลิตจากโฟม Lightstrike Pro ผสานกับ ENERGYRODS 2.0 เพิ่มแรงส่งและตอบสนองดีทุกการวิ่ง เหมาะมากสำหรับวิ่ง 5K, 10K หรือฮาล์ฟมาราธอน ด้านบนเป็นผ้าตาข่ายบาง ระบายอากาศดี แถมยังใช้วัสดุรีไซเคิลด้วยนะ เป็นตัวเลือกที่ทั้งแรง ทั้งรักษ์โลก เหมาะกับนักวิ่งที่อยากพัฒนาเวลาและสัมผัสความเร็วที่แท้จริง!
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: Lightstrike Pro foam, Carbon-infused Energy Rods
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: แข่งขัน (มาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน), ประสิทธิภาพระดับอีลีท, ไม่เหมาะกับลู่วิ่ง
- ราคา: ฿4,420
14. Adidas Supernova Rise

สำหรับสาวก Adidas ที่กำลังมองหาว่าจะซื้อรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นไหนดีที่ตอบโจทย์การใส่สบาย ต้องลอง Adidas Supernova Rise! รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อการวิ่งประจำวันโดยเฉพาะ ด้วยโฟม Dreamstrike+ ที่นุ่ม เด้ง รับแรงกระแทกได้ดีสุดๆ เสริมการทรงตัวด้วย Support Rods ให้ก้าวอย่างมั่นใจแม้เพิ่งเริ่มวิ่ง พื้นยาง Adiwear ทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ เหมาะทั้งวิ่งระยะกลางและไกล หรือใครที่เน้นความนุ่มสบายเป็นพิเศษ รุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอน
รายละเอียด
- วัสดุ/เทคโนโลยี: Dreamstrike+ foam
- สไตล์การวิ่งที่เหมาะ: ซ้อมวิ่งประจำวัน, วิ่งง่ายๆ, นักวิ่งทั่วไป
- ราคา: ฿4,550
เคล็ดลับเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับทุกพื้นผิว พร้อมรุ่นแนะนำ
การวิ่งที่สนุกและดีต่อสุขภาพไม่ใช่แค่การเลือกดีไซน์ของรองเท้า แต่ยังต้องมองหารองเท้าวิ่งที่ตอบโจทย์การซัพพอร์ตและการยึดเกาะพื้นผิวเพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสบาดเจ็บ ลองมาดูกันว่ามีรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับพื้นผิวแต่ละแบบ พร้อมรุ่นแนะนำที่คัดมาแล้ว!
1. วิ่งบนถนน (Road Running)
พื้นผิวลักษณะนี้จะมีลักษณะที่เป็นพื้นแข็งอย่างถนนคอนกรีต ทางเท้า หรือยางมะตอย ถ้าจะถามว่าเหมาะกับรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี ต้องบอกเลยว่าควรเลือกรองเท้าที่รองรับแรงกระแทกได้ดี เบา และระบายอากาศได้ เช่น
- Adidas Supernova Rise – เด่นเรื่องความนุ่มและวิ่งได้ลื่นไหลด้วยโฟม Dreamstrike+
- Hoka Clifton 9 / Bondi 8 – เหมาะสำหรับคนชอบความนุ่มขั้นสุด
- ASICS Novablast 4 – เด้ง ตอบสนองดี เหมาะทั้งวิ่งสบายหรือทำความเร็ว
- ASICS GEL-Kayano 31 / Saucony Guide 17 – เหมาะสำหรับคนเท้าล้ม ช่วยเรื่องความมั่นคง
- Nike Vaporfly 3 / Adizero Adios 8 – สำหรับนักวิ่งสายแข่งและทำเวลา
- New Balance FuelCell Rebel v4 รองเท้าวิ่งที่โดดเด่นด้วยน้ำหนักเบาและความนุ่มสบายจากโฟม FuelCell เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการความเสถียร
2. วิ่งเทรล (Trail Running)
พื้นผิวลักษณะนี้จะเป็นความขรุขระ เช่น ป่า ภูเขา หรือดินลูกรัง พื้นผิวแบบนี้เหมาะกับรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีก็ต้องเป็นรองเท้าที่เกาะพื้นดีและทนต่อสภาพเส้นทาง เช่น
- Hoka Speedgoat – นุ่ม เกาะพื้นดี วิ่งระยะไกลได้สบาย
- Saucony Peregrine – คล่องตัว เหมาะกับเทรลหลากหลาย
- ASICS Fuji Lite / Trabuco – เลือกได้ทั้งแบบเน้นความเร็วหรือความมั่นคง
3. วิ่งบนลู่ (Track Running)
เป็นลักษณะพื้นลู่สังเคราะห์เรียบ ต้องการรองเท้าน้ำหนักเบาพิเศษ และส่งแรงได้ไว ตัวอย่างรองเท้าวิ่งที่เราแนะนำ เช่น
- Nike ZoomX Dragonfly / Maxfly – สำหรับแข่งระยะกลาง-ไกล (Dragonfly) และสั้น (Maxfly)
- Adidas Adizero Prime SP / Avanti – สำหรับนักวิ่งสายลู่ที่จริงจัง
ให้รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์การวิ่งเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกการวิ่ง
การเลือกรองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์สรีระเท้า เป้าหมายและพื้นผิวการวิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งที่ปลอดภัย ลดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าวิ่ง Nike รุ่นไหนดีที่เน้นความเร็ว, รองเท้าวิ่ง Saucony รุ่นไหนดีที่เน้นรองรับการลงน้ำหนัก หรือรองเท้าวิ่ง Adidas รุ่นไหนดีที่ให้ความนุ่มสบาย ก็เลือกได้ครบๆ และตอบโจทย์จากร้านค้าออนไลน์ที่มีให้เลือกมากมาย ให้คุณปลอดภัยและเพลิดเพลินกับการวิ่งได้เต็มที่ และหากยังไม่จุใจกับรองเท้าวิ่งทั้ง 14 รุ่นที่คัดมาในคราวนี้ก็สามารถเข้าไปอัพเดต รองเท้า ON รุ่นไหนดี ใส่วิ่งสบาย ต่อได้เลยที่ Shopee Blog!
อ้างอิง