เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี คุ้มค่า ปลอดภัย ทำอาหารสนุก

ยุคนี้สมัยนี้ ใคร ๆ ก็อยากได้ความสะดวกสบาย รวดเร็ว และที่สำคัญคือ ความปลอดภัย โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่อยู่คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือมีพื้นที่ครัวจำกัด การจะติดตั้งเตาแก๊สก็ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ แถมยังมีความกังวลเรื่องถังแก๊สอีก เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเตา Induction จึงกลายมาเป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่พอจะซื้อจริง… โอ้โห! รุ่นเยอะมาก ทั้ง Philips, Electrolux, Tefal ไหนจะมียี่ห้อคุ้มค่าอย่าง Smarthome, Midea อีก แล้วรุ่น 2,000 วัตต์ กับ 1,200 วัตต์ ต่างกันยังไง? แล้วเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อไหนดี ที่กำลังฮิต ๆ กันมันเหมาะกับเราไหม?

ในบทความนี้ Shopee Blog รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่เพื่อน ๆ ต้องรู้ ทั้งการเปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย และที่เด็ดที่สุดคือการขนทัพ 11 รุ่นเด่น มาทำ รีวิวเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ฉบับเจาะลึกแบบไม่มีกั๊ก อ่านจบบทความนี้ เพื่อน ๆ จะได้คำตอบที่ชัดเจน และพร้อมกดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าตัวใหม่ลงตะกร้า Shopee ได้ทันที!

ทำความเข้าใจ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) ก่อนตัดสินใจซื้อ

ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกกันทีละรุ่น อยากให้เพื่อน ๆ ใช้เวลาสักนิด ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีของเจ้าเครื่องนี้กันก่อน จะได้เลือกซื้ออย่างเข้าใจและคุ้มค่าที่สุด

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า คืออะไร? ทำงานยังไงกันแน่?

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction Cooker) เป็นเตาที่ไม่ได้สร้างความร้อนที่ตัวเตาโดยตรง แต่ใช้เทคโนโลยี “การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า”  เมื่อเราเปิดเครื่อง ขดลวดทองแดงใต้แผ่นกระจกจะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา เมื่อเราวางภาชนะที่ “เหนี่ยวนำแม่เหล็กได้” (เช่น เหล็ก หรือ สแตนเลสบางชนิด) ลงไป สนามแม่เหล็กจะไปกระตุ้นโมเลกุลในก้นภาชนะ ให้เกิดความร้อนขึ้นที่ตัวภาชนะโดยตรงเลย

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเตา Induction ถึงร้อนเร็วมาก และทำไมเมื่อเรายกหม้อออก เตาถึงตัดการทำงานทันที แถมเผลอเอามือไปแตะหน้าเตาก็ไม่ร้อนจี๋ (แต่ก็ไม่ควรทำนะ เพราะยังมีความร้อนหลงเหลือจากก้นหม้อ)

สรุปข้อดี – ข้อควรพิจารณาของเตา Induction

การจะตัดสินใจว่าจะซื้อเตา induction ยี่ห้อไหนดี ต้องรู้ก่อนว่ามันมีจุดเด่นและข้อจำกัดอะไรบ้าง

ข้อดี

1. ร้อนเร็วทันใจ (Fast Cooking) นี่คือจุดขายหลัก เพราะมันให้ความร้อนที่ก้นภาชนะโดยตรง ไม่สูญเสียความร้อนไปกับอากาศรอบข้างเหมือนเตาแก๊ส หรือรอให้แผ่นความร้อนแดงเหมือนเตาเซรามิก อยากต้มน้ำทำซุป ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คือเดือดปุ๊บปั๊บในไม่กี่นาที
2. ปลอดภัยสูง (High Safety) อย่างที่บอก หน้าเตาไม่ร้อนโดยตรง ลดความเสี่ยงในการถูกลวกหรือโดนไฟไหม้ แถมรุ่นใหม่ ๆ มักมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อยกภาชนะออก หรือเมื่อไม่มีภาชนะวางอยู่ เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือเพื่อน ๆ ที่ขี้ลืม
3. ประหยัดพลังงาน (Energy Efficient) เพราะความร้อนถูกส่งตรงไปที่ภาชนะถึง 90% (เทียบกับเตาแก๊สที่ประมาณ 40-50%) ทำให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟมากกว่าเตาไฟฟ้าแบบอื่น ๆ
4. ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ (Precise Control) เตา Induction สามารถปรับระดับความร้อนได้ละเอียดมาก อยากจะอุ่นอาหารไฟอ่อน ๆ หรือเร่งไฟแรงสุดสำหรับผัดไฟแดง ก็ทำได้ดั่งใจ
5. ทำความสะอาดง่าย (Easy to Clean) หน้าเตาเป็นกระจกเรียบ ๆ พอน้ำแกงหก หรือมีเศษอาหารหล่นใส่ ก็จะไม่ไหม้ติดหน้าเตาเหมือนเตาแก๊สหรือเตา Hot Plate รอให้เครื่องเย็นแล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดก็เกลี้ยงแล้ว

ข้อควรพิจารณา

1. ต้องใช้ภาชนะเฉพาะ นี่คือข้อจำกัดที่สำคัญที่สุด เตาแม่เหล็กไฟฟ้าใช้ได้เฉพาะกับภาชนะที่มีก้นเป็นวัสดุที่แม่เหล็กดูดติดเท่านั้น (เช่น เหล็ก, เหล็กหล่อ, สแตนเลสบางเกรด) หม้อแก้ว หม้อเซรามิก หม้ออลูมิเนียม ใช้ไม่ได้
   วิธีเช็กง่าย ๆ คือ การเอาแม่เหล็กติดตู้เย็นไปลองดูดที่ก้นภาชนะ ถ้าดูดติด ก็ใช้ได้เลย หรือมองหาสัญลักษณ์รูปขดลวด (Induction) ที่ก้นหม้อ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีหม้อที่รองรับ ก็สามารถเข้าไปช้อป ชุดเครื่องครัวและกระทะสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ได้เลยที่ Shopee มีให้เลือกเพียบ
2. อาจมีเสียงรบกวน เป็นเสียงพัดลมระบายความร้อนใต้เครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ดังมาก แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบความเงียบกริบ อาจจะรู้สึกบ้าง
3. ความทนทานในการผัดหนัก ๆ สำหรับรุ่นตั้งโต๊ะ (Portable) อาจจะไม่เหมาะกับการผัดหนัก ๆ หรือ เคี่ยวนานทั้งวันเหมือนเตาแก๊สร้านอาหารตามสั่ง แต่สำหรับการทำอาหารในครัวเรือนทั่วไป ถือว่าสบายมาก

เตา Induction vs เตาเซรามิก? แล้วเตาไฟฟ้า 2 หัว เหมาะกับใคร?

นี่คือคำถามยอดฮิต เนื่องจากเพื่อน ๆ หลายคนสับสนว่าเตาหน้าเรียบ ๆ สีดำ ๆ มันเหมือนกันหมดหรือเปล่า

เตา Induction ต่างกับ เตาเซรามิก (Hot Plate) อย่างไร?

สรุปสั้น ๆ ถ้าเพื่อน ๆ เน้นความเร็ว ประหยัดไฟ และความปลอดภัยสูงสุด เตา Induction คือคำตอบ แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีหม้อกระทะเก่า ๆ ที่ยังไม่อยากทิ้ง และไม่รีบร้อนทำอาหาร เตาเซรามิกก็อาจเป็นตัวเลือกที่ประหยัดงบในตอนเริ่มต้น

เตาหัวเดี่ยว vs เตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อไหนดี?

การเลือกว่าจะใช้เตาหัวเดี่ยว หรือเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การทำครัวของเพื่อน ๆ เลย

• เตาหัวเดี่ยว (Single Head) นี่คือรุ่นยอดนิยมที่เราจะรีวิวกันเยอะในวันนี้ เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยู่คอนโด, หอพัก, ใช้เป็นเตาเสริม, หรือชอบทำสุกี้/ชาบูกินกันในครอบครัว
  • ข้อดี คือ เคลื่อนย้ายง่าย, ไม่กินที่, และราคาย่อมเยา
    
• เตา 2 หัว (Double Head) รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็น “เตาหลัก” ในการทำอาหารจริงจัง หรือใช้แทนเตาแก๊สเดิมในครัวบิ้วท์อิน (แบบฝัง)
  • ข้อดี คือ ทำอาหารได้ 2 อย่างพร้อมกัน เช่น ต้มแกงจืดหม้อหนึ่ง ผัดผักอีกเตาหนึ่ง สะดวกและประหยัดเวลามาก

ตารางเปรียบเทียบ 11 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่นเด็ด

เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น Shopee Blog ได้สรุป 11 รุ่นที่เราจะรีวิวในวันนี้มาให้ในตารางเดียว มาดูกันเลย!

(หมายเหตุ: ราคาเป็นราคาประมาณการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นของ Shopee ในแต่ละช่วงเวลา)

รีวิวเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 11 รุ่นจุกๆ! ยี่ห้อไหนดีที่ต้องมีติดครัว

ได้เวลาเจาะลึกกันแล้ว มาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีทีเด็ดอะไรซ่อนอยู่ และรุ่นไหนจะเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่สุด

1. Philips รุ่น HD4911

ถ้าพูดถึง เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่คนนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ ต้องมี Philips  รุ่น HD4911 นี้คือรุ่นคลาสสิกที่ขายดีตลอดกาล ด้วยกำลังไฟสูงถึง 2,100 วัตต์ ทำให้ร้อนเร็วสุด ๆ ไม่ต้องรอนาน จุดเด่นของเขาคือความ “ใช้ง่าย” และ “ฉลาด” ด้วย 5 โปรแกรมการทำอาหารอัตโนมัติ (เช่น ต้มน้ำ, อุ่น, ซุป) ที่ตั้งค่ามาให้แล้ว แค่กดปุ่มเดียวก็พร้อมใช้งานทันที เหมาะมากสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก

หน้าเตาทำจากกระจกเซรามิกคุณภาพสูง ทนทานและทำความสะอาดง่าย ตัวเครื่องออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดี ช่วยยืดอายุการใช้งาน แถมยังมีระบบตั้งเวลาปิดล่วงหน้าได้นานถึง 120 นาที ทำอาหารตุ๋นทิ้งไว้แล้วไปทำอย่างอื่นได้สบาย ๆ ด้วยชื่อของแบรนด์ Philips เพื่อน ๆ สามารถมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพวัสดุและความปลอดภัย ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและจบในเครื่องเดียว

• ราคาประมาณ: 2,000 – 2,200 บาท
• เหมาะกับ: คนที่เชื่อมั่นในแบรนด์, ต้องการเตาที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบ และทนทาน

2. Electrolux รุ่น ETD29PKR 

สำหรับแบรนด์สวีเดนอย่าง Electrolux เขาชูจุดเด่นเรื่องความเร็วและความปลอดภัย รุ่น ETD29PKR นี้มาพร้อมกำลังไฟ 2,000 วัตต์ และมีโฆษณาเคลมว่าสามารถต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือดได้ภายใน 3 นาที เร็วกว่ากาต้มน้ำบางรุ่นเสียอีก ที่ชอบมาก ๆ คือระบบควบคุมที่แม่นยำ ปรับความร้อนได้ 8 ระดับ และมี 2 ฟังก์ชันอัตโนมัติคือ Hot Pot (สำหรับต้มสุกี้) และ Keep Warm (สำหรับอุ่นอาหาร)

ที่สำคัญคือเรื่องความปลอดภัย รุ่นนี้มีฟังก์ชัน Pot Detector ตรวจจับภาชนะ ถ้าเรายกหม้อออกหรือวางภาชนะผิดประเภท เครื่องจะหยุดทำงานทันที และยังมี Child Lock ป้องกันเด็กมากดเล่นด้วย หน้าเตาเป็นกระจกเซรามิกไร้รอยต่อ สวยงามและเช็ดง่ายมาก ใครหาเตาที่เน้นประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง Electrolux ไม่ทำให้ผิดหวัง

• ราคาประมาณ: 2,200 – 2,500 บาท
• เหมาะกับ: คนที่ต้องการความร้อนเร็ว, บ้านที่มีเด็กเล็ก (ต้องการ Child Lock), และชอบฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง

3. Tefal รุ่น IH720870 

เห็นชื่อ Tefal เพื่อน ๆ ต้องนึกถึงเครื่องครัวที่ทนทานใช่ไหม เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่น IH720870 ก็เช่นกัน รุ่นนี้มักจะจัดโปรโมชั่นมาพร้อมกับหม้อชาบูของ Tefal เองเลย ทำให้เป็นขวัญใจสายปาร์ตี้สุกี้ ด้วยกำลังไฟ 2,100 – 2,200 วัตต์ และหน้าเตาเซรามิกที่ทนทานเป็นพิเศษ ทำให้ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี 

รุ่นนี้มี 6 โปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ (ต้ม, นึ่ง, เคี่ยว, ทอด, ผัด, หม้อไฟ) และยังปรับเองได้อีก 10 ระดับความร้อน หน้าจอเป็นแบบดิจิทัล ใช้งานง่าย ดีไซน์อาจจะดูทะมัดทะแมง ไม่มินิมอลเท่าตัวอื่น แต่ถ้าพูดถึงความอึด ความทน และการทำความร้อนที่สม่ำเสมอ Tefal คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานหนัก ๆ ทำอาหารต่อเนื่องได้ยาว ๆ 

• ราคาประมาณ: 1,700 – 2,000 บาท
• เหมาะกับ: สายปาร์ตี้, คนที่ชอบทำสุกี้/ชาบู, มองหาความทนทาน, และชอบเตาที่มีโปรแกรมอัตโนมัติเยอะ

4. Midea รุ่น CI-WT2103 

เพื่อน ๆ อาจจะคุ้นชื่อ Midea (ไมเดีย) จากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ แต่ผมบอกเลยว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าของเขาก็ไม่ธรรมดา รุ่น CI-WT2103 นี้เป็นม้ามืดที่สเปกจัดเต็มในราคาน่าคบหามาก จุดขายที่เขาซ่อนไว้คือ แผ่นขดลวดขนาดใหญ่ (Large IGBT) ที่ใหญ่กว่ารุ่นทั่วไป ทำให้กระจายความร้อนได้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ อาหารสุกพร้อมกัน ไม่ใช่ร้อนแค่ตรงกลาง 

อีกจุดคือ พัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้ต่อเนื่องยาวนานขึ้น ลดปัญหาร้อนจัดแล้วตัด นี่คือเตาที่ออกแบบมาเพื่อความทนทานจริง ๆ  กำลังไฟ 2,100 วัตต์, ปรับความร้อนได้ 8 ระดับ, ตั้งเวลาได้ 3 ชั่วโมง, ควบคุมด้วยระบบสัมผัส ถ้าเพื่อน ๆ หาเตาที่สเปกดี ทน และคุ้มค่า Midea คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

• ราคาประมาณ: 990 บาท
• เหมาะกับ: คนที่มองหาของดีสเปกสูงในราคาย่อมเยา, เน้นความทนทาน, และการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอ

5. HAFELE เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ 

มาถึงแบรนด์เยอรมันอย่าง HAFELE ที่เด่นเรื่องดีไซน์และนวัตกรรม เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นตั้งโต๊ะของเขา โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยงาม เรียบหรู วางตรงไหนของครัวก็ดูดีไปหมด มันไม่ใช่แค่เตาไฟฟ้า แต่มันคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว การควบคุมเป็นระบบสัมผัสทั้งหมด ดูทันสมัยมาก ๆ 

มาพร้อมกำลังไฟ 2,000 วัตต์, ปรับความร้อนได้ถึง 10 ระดับ, ตั้งอุณหภูมิได้ละเอียดตั้งแต่ 60-240 องศาเซลเซียส และแน่นอนว่ามีระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้ง Child Lock และระบบตัดการทำงานเมื่อไม่มีภาชนะ แต่ข้อควรพิจารณาที่เพื่อน ๆ ใน Lemon8 มักรีวิวไว้คือ เสียงพัดลมอาจจะดังกว่าแบรนด์อื่นเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับดีไซน์ที่ได้มา ผมว่าหลายคนยอมจ่าย

• ราคาประมาณ: 1,600 – 2,000 บาท (พร้อมหม้อสแตนเลสสตีล)
• เหมาะกับ: สายแต่งบ้าน, ครัวมินิมอล, คนที่ชอบดีไซน์สวยงาม บางเฉียบ, และต้องการการควบคุมอุณหภูมิที่ละเอียด

6. Smarthome รุ่น WPA-2009 

สำหรับเพื่อน ๆ นักศึกษา ชาวหอ หรือใครก็ตามที่อยากลองใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า แต่มีงบจำกัด ต้องรุ่นนี้เลย Smarthome WPA-2009 คือตัวเลือกที่ “คุ้มค่า” ที่สุดในลิสต์นี้ ด้วยราคาหลักร้อย แต่ได้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าไปใช้งาน แถมยังใจดี “แถมหม้อสแตนเลสพร้อมฝาแก้ว” มาให้ในกล่องเลย! คือซื้อปุ๊บ พร้อมต้มมาม่าได้ทันที 

รุ่นนี้กำลังไฟจะอยู่ที่ 1,200 วัตต์ ซึ่งอาจจะไม่ร้อนเร็วทันใจเท่าพวกรุ่น 2,000+ วัตต์ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ทั้งต้ม, อุ่น, ตุ๋น, หรือทำสุกี้ มี 5 ฟังก์ชันการทำอาหารให้เลือก ใช้งานง่ายด้วยปุ่มกด ไม่ซับซ้อน ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ได้ทำอาหารหนัก ๆ และมองหาเตา induction ยี่ห้อไหนดี ที่ราคาเบา ๆ รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่

• ราคาประมาณ: 400 – 500 บาท (พร้อมหม้อและฝาแก้ว)
• เหมาะกับ: นักศึกษา, ชาวหอ, ผู้เริ่มต้น, คนที่งบจำกัดมาก ๆ หรือใช้เป็นเตาสำรอง

7. IMARFLEX รุ่น IF-408

IMARFLEX เป็นอีกแบรนด์ที่อยู่คู่ครัวไทยมานานและขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่า รุ่น IF-408 นี้ให้กำลังไฟมาสูงถึง 2,000 วัตต์ ร้อนเร็วหายห่วง แต่จุดเด่นที่ทำให้แตกต่างคือฟังก์ชัน รุ่นนี้มี 6 เมนูอัตโนมัติ (ต้ม, นึ่ง, เคี่ยว, ทอด, ผัด, หม้อไฟ) 

ที่ล้ำไปกว่านั้นคือสามารถตั้งเวลาปรุงอาหารล่วงหน้าได้ เหมาะมากสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากตื่นมาแล้วมีน้ำซุปอุ่น ๆ พร้อมทาน หรือตั้งเวลาตุ๋นยาไว้ก่อนออกจากบ้าน (แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ) หน้าเตาเป็นเซรามิกทนทาน แถมยังใจดีแถมหม้อสแตนเลสมาให้เหมือนกัน ในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นตัวเลือกที่ให้ฟังก์ชันมาล้น ๆ เกินราคาไปมาก

• ราคาประมาณ: 1,400 – 1,600 บาท (พร้อมหม้อสแตนเลส)
• เหมาะกับ: คนที่ชอบฟังก์ชันเยอะ ๆ ต้องการใช้ฟีเจอร์ตั้งเวลาล่วงหน้า และมองหาความคุ้มค่าในงบไม่เกินพันต้น ๆ

8. Anitech รุ่น SID1800 

ใครบอกว่าของถูกและดีไซน์สวยไม่มีอยู่จริง ต้องมาเจอ Anitech รุ่น SID1800  รุ่นนี้กำลังมาแรงมากในกลุ่มเพื่อน ๆ ที่อยู่คอนโด ด้วยดีไซน์มินิมอล สีขาวสะอาดตา (หรือสีดำก็มี) ที่เข้ากับครัวสมัยใหม่ได้ง่ายมาก ๆ ตัวเครื่องไม่หนาเทอะทะ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส Touch Screen ดูแพงเกินราคาไปมาก 

กำลังไฟ 1,800 วัตต์ ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป ปรับความร้อนได้ 9 ระดับ และตั้งเวลาได้สูงสุด 99 นาที หน้าเตาเป็นกระจกคริสตัลที่สวยงามและเช็ดทำความสะอาดง่าย ถ้าเพื่อน ๆ กำลังหาเตาที่สวย คุมโทน แต่ไม่อยากจ่ายแพงเท่า HAFELE ตัวนี้คือคู่แข่งที่น่ากลัวมาก

• ราคาประมาณ: 1,000 – 1,100 บาท
• เหมาะกับ: สายมินิมอล, คนที่ชอบดีไซน์สวยงามในราคาย่อมเยา และการใช้งานในคอนโดทั่วไป

9. LocknLock Square Double Induction รุ่น EJI326WHT 

มาถึงพระเอกสำหรับคนที่ถามหาเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อไหนดีที่เป็นแบบตั้งโต๊ะ LocknLock รุ่น EJI326WHT นี้ออกแบบมาเพื่อคนอยู่คอนโดหรือครัวพื้นที่จำกัดที่อยากทำอาหารจริงจัง ดีไซน์มินิมอลสไตล์เกาหลี สีขาวสะอาดตา สวยงามมาก ๆ 

จุดเด่นคือการมี 2 หัวเตาในเครื่องเดียว ทำให้เพื่อน ๆ ต้มซุปไปพร้อมกับผัดกับข้าวได้เลย ประหยัดเวลาไปได้มหาศาล กำลังไฟรวมสูงสุด 2,000 วัตต์ (ถ้าใช้ 2 หัวพร้อมกันจะแชร์ไฟกัน) ควบคุมแยกกันอิสระทั้ง 2 เตา ปรับความร้อนได้หลายระดับ และมีระบบล็อกป้องกันเด็ก ราคานี้อาจจะดูสูง แต่ถ้าเทียบกับการที่ได้เตา 2 หัวดีไซน์สวยจบในตัวเดียว และไม่ต้องเจาะท็อปครัวเพื่อทำเตาฝัง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก

• ราคาประมาณ: 3,500 – 5,000 บาท
• เหมาะกับ: คนที่อยู่คอนโด/อพาร์ตเมนต์แต่อยากทำอาหารจริงจัง, มองหาเตา 2 หัวแบบตั้งโต๊ะ, และชื่นชอบดีไซน์มินิมอลสไตล์เกาหลี

10. TOSHIBA เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่น IC-20R1STH

แบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง TOSHIBA ไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องคุณภาพและความเรียบหรู รุ่น IC-20R1STH นี้มาในดีไซน์สีดำล้วนเงางาม พร้อมการควบคุมแบบสัมผัสที่ดูทันสมัยมาก กำลังไฟ 2,000 วัตต์ ร้อนเร็ว และควบคุมความร้อนได้แม่นยำ 9 ระดับ ตอบโจทย์ทุกเมนูตั้งแต่อุ่นเบา ๆ ไปจนถึงทอดไฟแรง หน้าเตาเป็นกระจกนิรภัย (Tempered Glass) ที่ทนทานต่อความร้อนและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม 

ระบบความปลอดภัยก็จัดเต็มตามสไตล์ญี่ปุ่น มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อความร้อนสูงเกินไป หรือเมื่อไม่มีภาชนะวางบนเตา ใครที่ชอบความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ญี่ปุ่น TOSHIBA คือตัวเลือกที่ลงตัวมาก

• ราคาประมาณ: 1,500 – 2,000 บาท
• เหมาะกับ: คนที่ชอบดีไซน์เรียบหรู, เชื่อมั่นในคุณภาพแบรนด์ญี่ปุ่น, และต้องการการควบคุมความร้อนที่แม่นยำ

11. Seagull เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รุ่นเอ็กซ์ตร้า (Extra Induction Cooker) 

ปิดท้ายด้วยแบรนด์เครื่องครัวสแตนเลสขวัญใจคนไทยอย่าง Seagull (นกนางนวล) ที่ก็มีเตาแม่เหล็กไฟฟ้ากับเขาเหมือนกัน และไม่ใช่แค่ทำมาธรรมดา ๆ  รุ่น “เอ็กซ์ตร้า” (SIH-002-BK) นี้มีจุดเด่นที่ชอบมากคือการออกแบบ “หน้าปัดเอียง” ซึ่งนี่คือการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะเตาปกติที่หน้าปัดเรียบไปกับเตา เวลาเราวางกระทะหรือหม้อใหญ่ ๆ มันจะบังปุ่มกด หรือบางทีความร้อนจากกระทะก็แผ่มาโดนปุ่ม ทำให้ปุ่มละลายหรือเสียหายได้ 

แต่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของ Seagull เขาออกแบบให้แผงควบคุมเอียงขึ้นมา กดง่าย ไม่โดนบัง และไม่โดนความร้อนโดยตรง นี่คือความใส่ใจเล็ก ๆ ที่ใช้งานได้จริง ส่วนสเปกอื่น ๆ ก็จัดเต็ม กำลังไฟ 2,000 วัตต์, ปรับอุณหภูมิได้ 80-240 องศา, และพัดลมระบายความร้อนรุ่นพิเศษที่ทำงานได้ดี

• ราคาประมาณ: 1,400 – 2,000 บาท
• เหมาะกับ: คนที่เน้นการใช้งานจริง, ชื่นชมการออกแบบที่แก้ปัญหา, และมองหาเตาที่ทนทานจากแบรนด์เครื่องครัวที่เชี่ยวชาญ

เลือกเตา induction ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับคุณ

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงพอจะมีธงในใจแล้วว่า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับตัวเองที่สุด แต่เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมขอสรุปไกด์ไลน์ในการเลือกให้เป็นกลุ่ม ๆ ดังนี้

•  สายประหยัด เด็กหอ
  • Smarthome WPA-2009 ราคาหลักร้อย แถมหม้อ พร้อมใช้งาน
  • Anitech SID1800 เพิ่มงบอีกนิด ได้ดีไซน์มินิมอลสวย ๆ คุมโทนห้อง
    
•  สายคอนโด มินิมอล
  • HAFELE Portable ที่สุดของความบางและสวยงาม เรียบหรูดูแพง
  • LocknLock EJI326WHT จบในตัวเดียวสำหรับคนทำครัวจริงจังด้วย เตา 2 หัว ดีไซน์เกาหลี
  • TOSHIBA IC-20R1STH เรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น คุณภาพเชื่อถือได้
    
•  สายทำครัวจริงจัง เน้นทนทาน
  • Midea CI-WT2103 อึด ทน ด้วยขดลวดและพัดลมขนาดใหญ่ สเปกคุ้มราคา
  • Electrolux ETD29PKR ร้อนเร็วสะใจ ปลอดภัยสูง แบรนด์ยุโรปไว้ใจได้
  • Seagull Extra ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง หน้าปัดเอียง ทนทาน
    
•  สายปาร์ตี้ ฟังก์ชันครบ
  • Philips HD4911 มาตรฐานที่ไว้ใจได้ ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก
  • Tefal IH720870 เหมาะทำชาบู/สุกี้ ทนทาน หรือมักมาพร้อมเซ็ตหม้อ
  • IMARFLEX IF-408 ฟังก์ชันเยอะ แถมหม้อ ตั้งเวลาล่วงหน้าได้

ไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน หัวใจสำคัญที่เพื่อน ๆ ต้องไม่ลืมคือ ภาชนะต้องรองรับ และไม่ว่าเพื่อน ๆ จะตัดสินใจเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นไหนใน 11 รุ่นนี้ หรือกำลังมองหาอุปกรณ์เครื่องครัวอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถเข้ามาค้นหาและช้อปปิ้งได้เลยที่ Shopee ที่เดียวมีครบทุกแบรนด์ พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ โค้ดส่งฟรี และ Shopee Coins ให้สะสมอีกเพียบ!

บทความแนะนำอื่น ๆ

• รวมเตาอบยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันครบเครื่อง ควรมีไว้ครอบครอง!
• เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย คุณภาพดี ราคาสุดคุ้ม ต้องมีติดบ้าน!
• เตาหมูกระทะไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ร้อนเร็ว ไร้ควัน ไม่ติดกระทะ ถูกใจสายบุฟเฟต์!