คำถามยอดฮิตของคนผมร่วง “ผมร่วงเยอะมาก ๆ ต้องกินวิตามินผมจริงมั๊ย ?” “มีวิตามินผมอะไรบ้างที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง” ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่าการกินวิตามินก็เปรียบเสมือนกับการให้อาหารผม ซึ่งในเส้มผมของต้องการวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ในการสร้างเส้นผม รวมถึงบำรุงให้รากผมและเส้นผมแข็งแรง วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต้องการสร้างเส้นผมแต่ละอย่าง มีความสำคัญกับผมแตกต่างกัน และสามารถทำให้อาการผมร่วงลดลงได้หากเสริมสร้างวิตามินให้ร่างกายอย่างเหมาะสม วันนี้ Shopee Blog จะมาแนะนํา วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 มีตัวไหนบ้าง ตามมาดู!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
วิตามินช่วยลดผมร่วงคืออะไร ?
วิตามินสำหรับผมร่วง คือ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่รวบรวมเอาวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับเส้นผมไว้ด้วยกัน เช่น ไบโอติน ,สังกะสี ,ซิลิเนียม ,ธาตุเหล็ก ,โฟลิก เป็นต้น โดยวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยเรื่องผมร่วง จะเข้าไปช่วยเติมสารอาหารให้กับเส้นผม เพื่อลด และยับยั้งการหลุดร่วง และกระตุ้นเซลล์รากผมเพื่อให้สร้างผมใหม่ขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังทำให้เส้นผมแข็งแรง ถือเป็นการแก้ปัญหาผมร่วง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิตามินอะไรบ้างที่ช่วยเสริมความแข็งแรง เพิ่มการงอกของผมใหม่ ?
1. ไบโอติน (Biotin) หรือ วิตามิน H
ไบโอติน หรือ วิตามิน H เป็นวิตามินบำรุงผมร่วงที่สำคัญมาก และหลายคนยังยกให้เป็นวิตามินที่ดีที่สุดในการช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ซึ่งไบโอตินจะช่วยบำรุงเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสุขภาพเส้นผมตั้งแต่รากผมไปจนถึงปลายผมและเล็บได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถป้องกันผมหงอกก่อนวัยได้ โดยไบโอติน หรือวิตามิน H ร่างกายควรจะได้รับวันละ 50 – 100 มิลลิกรัมต่อวัน
2. ซิงค์ หรือสังกะสี (Zinc)
ซิงค์ หรือ สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะสังกะสีจะช่วยสร้างโปรตีนให้กับเส้นผมจึงทำให้เส้นผมแข็งแรงตั้งแต่รากผมไปจนถึงปลายผม จึงทำให้ผมไม่เปาะหรือขาดง่าย และผมร่วง นอกจากนี้แล้วธาตุสังกะสียังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และบำรุงผิวหนังให้สวยสุขภาพดีอีกด้วย อาหารเสริมผมร่วงที่มีซิงค์หรือสังกะสี ควรทานวันละ 12 – 15 มล.
3. ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ โดยมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงในทางอ้อมได้อีกด้วย เพราะธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญในเม็ดเลือด ถ้าร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจทำให้ผมร่วงได้ ถ้าใครรู้ตัวว่าขาดธาตุเหล็ก แนะนำให้หาวิตามินที่มีส่วนของธาตุเหล็ก จะช่วยในการไหลเวียนของเลือด ลดอาการผมร่วงได้ และยังช่วยสร้างโปรตีนให้กับเส้นผม
4. วิตามิน A
อีกหนึ่งวิตามินบำรุงผมร่วง ด้วยคุณสมบัติของวิตามิน A ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างเส้นผม บำรุงผมให้แข็งแรง ลดอาการผมขาดหลุดร่วง ยังช่วยเสริมสร้างให้กระดูกฟัน และเล็บมีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้วิตามิน A ยังเป็นวิตามินต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดอาการอักเสบของผิว โดยปกติแล้วร่างกายจะต้องการวิตามิน A ปริมาณ 5,000 – 10,000 IU ถือว่าเป็นปริมาณกำลังพอดีต่อร่างกาย
5. วิตามิน B รวม
วิตามิน B รวม ซึ่งจะประกอบด้วยวิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6, วิตามินบี 7, วิตามินบี 9, วิตามินบี 12, วิตามินบี 15, วิตามินบี 17, โคลีน, พาบา และอิโนซิทอล โดยวิตามิน B ต่าง ๆ จะมีผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ถ้าร่างกายสามารถทำงานได้ปกติ แน่นอนสุขภาพผมของเราก็จะดีอย่างแน่นอ อีกทั้งวิตามิน B บางชนิด ก็มีช่วยส่วนกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และยังป้องกันผมหงอกได้อีกด้วย ควรทานวิตามิน B รวม วันละ 50 – 100 มล.
6. วิตามิน C และวิตามิน E
วิตามิน C และวิตามิน E เป็นวิตามินที่ส่วนสำคัญในการช่วยสามารถซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหายได้ ซึ่งทั้งวิตามินซีและวิตามินอี เป็นวิตามินต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเส้นผมได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยซ่อมแซมผมที่เสียหาย และยังช่วยเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย วิตามินซีและวิตามินอี นอกจากจะช่วยเรื่องผมร่วงได้ดีแล้ว ยังมีส่วนสำคัญกับระบบอื่น ๆ ในร่างกายอีกด้วย
5 วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 เสริมสร้างรากผม จัดการปัญหาผมร่วง
ใครกำลังมองหาวิตามินลดผมร่วง แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกวิตามินบำรุงผม ยี่ห้อไหนดี 2023 วันนี้ Shopee เลยได้คัดมาแบบเน้น ๆ 5 วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 มาแนะนำมียี่ห้อไหนบ้าง ตามมาช้อปกันเลยจ้า
1. Solve Hair
ประเดิมตัวแรกของ Solve Hair บอกว่าเป็นวิตามินลดผมร่วงที่ปังสุดในปี 2023 มีรีวิวใน Shopee มากมาย ลองกดเข้าไปดูกันได้เลย ใครกำลังมองหาวิตามินผมอยู่ ตัวนี้อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมของวิตามินแบบจุก ๆ Solve Hair Day & Night ช่วยเรื่องผมร่วงได้ครอบคลุมทุกสาเหตุ นอกจากช่วยลดผมร่วงแล้ว ยังช่วยเพิ่มการงอกของผมใหม่ แล้วยังช่วยให้เล็บแข็งแรงขึ้น ไม่ฉีกขาดง่าย ที่สำคัญเป็นวิตามินสำหรับผมรวมกว่า 24 ชนิด มีทั้งไบโอติน, สังกะสี, ซีลีเนียม และวิตามินสำหรับผมอื่น ๆ อีกหลายชนิด เรียกได้ว่ารวมวิตามินสำหรับผมไว้มากที่สุดในท้องตลาดปีนี้เลย คิดค้นสูตรโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญมีงานวิจัยเป็นของตัวเอง
วิตามินผม Solve Hair Day&Night ช่วยลดผมร่วงได้ ไม่ว่าจะเป็นผมร่วงพันธุกรรม ขาดสารอาหาร ความเครียด การทำสี หรือผมร่วงหลังคลอด เรียกได้ว่าใครมีปัญหาผมร่วงไม่ว่าจะสาเหตุไหนก็ช่วยได้ครบจบในกระปุกเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่ใช่ยา ใช้ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย วิธีการทานเช้า-เย็น ทุกวัน วันละ 1 – 2 แคปซูล หลังทานต่อเนื่อง 14 วัน จะเริ่มเห็นว่าผมร่วงน้อยลง หลังทานต่อเนื่อง 1 เดือน จะเริ่มมีผมงอกใหม่ แนะนำให้ทานต่อเนื่อง 2 – 3 เดือนเพื่อผลัพธ์ที่ชัดเจน ที่สำคัญ! กินแล้วไม่ทำให้ขนส่วนอื่นขึ้นนะ เพราะเป็นวิตามิน ไม่ใช่ยา กินได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย ส่วนผสมอัดแน่น สรรพคุณจัดเต็มขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว!!
คุณสมบัติ
- ลดผมร่วง เพิ่มการงอกของผมใหม่
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จากทุกสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผมร่วงพันธุกรรม ผมร่วงหลังคลอด ขาดสารอาหาร ความเครียด ช่วยได้ครอบคลุมทุกปัญหาผมร่วง
- วิตามินผมรวมมากถึง 24 ชนิดมากที่สุดในท้องตลาด
- บำรุงให้รากผม และเล็บแข็งแรงขึ้น
- ไม่มีส่วนผสมของยา จึงทำให้ไม่มีผลข้างเคียง
- ไม่ทำให้ขนบริเวณอื่นขึ้น
- ทานได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทาน 14 วัน ผมร่วงน้อยลง 30 วันเริ่มมีผมงอกใหม่ ทานต่อเนื่อง 2 – 3 เดือนจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ข้อมูลสินค้า
- บรรจุภัณฑ์:
- วิตามินบำรุงผม Solve Hair Day 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
- วิตามินบำรุงผม Solve Hair Night 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
- ราคาสินค้า: ราคา 1,890 บาท จากราคาปกติ 3,780 บาท
- วิธีทาน: ทานสูตร Day วันละ 1 – 2 แคปซูล พร้อมอาหารเช้า และทานสูตร Night 1 – 2 แคปซูล พร้อมอาหารเย็น
- ช่องทางการสั่งซื้อ:
- Shopee : Solve Group Shopee Thailand
- ช่องทาง Online: Official Channel Facebook: solvegroupthailand หรือ Line : @solvegroup
- ช่องทาง Offline: EVEANDBOY ทุกสาขาใกล้บ้าน
อ้างอิง: facebook.com/solvegroupthailand
2. Mega We Care Regenez
วิตามิน Mega We Care Regenez จากแบรนด์ Mega We Care อีกหนึ่งวิตามินลดผมร่วงมาแรงปี 2023 มีสารอาหารสำคัญอย่างไบโอตินมากถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อ 1 แคปซูล ซึ่งถือเป็นปริมาณที่ร่างกายควรต้องรับประทานต่อวัน วิตามินบำรุงผมร่วงตัวนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วงขาดหลุดร่วงและผมบาง
คุณสมบัติ
- มีไบโอตินถึง 1,000 ไมโครกรัม
- ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงมากขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วงเยอะ ๆ
- ประกอบด้วย วิตามินผม 9 ชนิด ได้แก่ ไบโอติน (Biotin), สังกะสี, ฮอลเทลสกัด, วิตามิน B, วิตามิน B5, วิตามิน B6, วิตามิน C, ธาตุเหล็ก และทองแดง
ข้อมูลสินค้า
- บรรจุภัณฑ์: 1 กล่องบรรจุ 30 เม็ด
- ราคาสินค้า: ราคา 395 บาท ต่อ 1 กล่อง
- วิธีทาน: กรณีผมร่วงมากให้ทานวันละ 2 เม็ด (เช้า-ก่อนนอน) / อาการผมร่วงนิดหน่อยให้ทานวันละ 1 เม็ด ก่อนนอน
- ช่องทางการสั่งซื้อ:
- ช่องทาง Online: สั่งซื้อได้ที่ Shopee Thailand
- ช่องทาง Offline: Boots, Watsons และร้านขายยาทั่วไป
อ้างอิง: megawecare.co.th
3. Puritan’s Pride Biotin
วิตามินบำรุงผม ยี่ห้อไหนดี 2023 เราขอแนะนำ Puritan’s Pride Biotin ยี่ห้อนี้เลย! วิตามินหรืออาหารเสริมที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพเส้นผมและเล็บให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาผมร่วง หรือมีเล็บที่เปราะบางหักง่าย ควรต้องหาวิตามินตัวนี้มาทานเลย ด้วยส่วนผสมที่มีเฉพาะไบโอตินอย่างเดียวถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อ 1 เม็ด จึงช่วยลดอาการผมหลุดร่วงแถมยังช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง แต่ด้วยความที่มีแค่ไบโอตินอย่างเดียว วิตามินและสารอาหารอื่นๆยังน้อยกว่า 2 ตัวแรกที่แนะนำไปก่อนหน้านี้
คุณสมบัติ
- มีไบโอตินถึง 1,000 ไมโครกรัม
- ช่วยลดผมร่วง
- ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะหักง่ายให้กลับมาแข็งแรง
- ลดอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ ได้
ข้อมูลสินค้า
- บรรจุภัณฑ์: 1 กระปุกบรรจุ 50 เม็ด
- ราคาสินค้า: ราคา 289 บาท ต่อ 1 กระปุก
- วิธีทาน: วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
- ช่องทางการสั่งซื้อ:
- ช่องทาง Online: เว็บไซต์ Puritan’s Pride หรือ สั่งซื้อได้ที่ Shopee Thailand
- ช่องทาง Offline: Boots, Watsons และร้านขายยาทั่วไป
อ้างอิง: puritan.com
4. DHC Biotin
มาต่อกับ วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 อย่าง DHC Biotin ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเลือกซื้อมาทานกันมาก ด้วยความที่ยี่ห้อนี้มีอาหารเสริมหลากหลายประเภท และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีเป็นอันดับต้น ๆ ต้องยกให้กับวิตามินบำรุงผมร่วงตัวนี้ มาในรูแบบซองที่ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่นเลย และจุดเด่นอีกอย่างของ DHC มีเม็ดขนาดเล็ก ช่วยลดอาการผมร่วง และเล็บอ่อนแอฉีกขาดง่าย อีกทั้งยังช่วยระบบเผาผลาญของร่างกายได้ดีอีกด้วย คือถ้าใครที่กำลังมองหาวิตามินลดผมร่วงปริมาณกลาง ๆ แคปซูลเล็ก ๆ สามารถลองตัวนี้ได้เลย
คุณสมบัติ
- มีปริมาณไบโอตินที่เหมาะต่อความต้องการของร่างกาย
- ช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วง
- บำรุงเล็บให้แข็งแรงมากขึ้น ไม่เปราะบางหรือฉีกขาดง่าย
- แคปซูลขนาดเล็ก
ข้อมูลสินค้า
- บรรจุภัณฑ์: 1 ซองบรรจุ 30 เม็ด / 1 ซองบรรจุ 60 เม็ด
- ราคาสินค้า: ราคา 169 บาท ต่อ 30 เม็ด / ราคา 299 บาท ต่อ 60 เม็ด
- วิธีทาน: วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
- ช่องทางการสั่งซื้อ:
- ช่องทาง Online: สั่งซื้อได้ที่ Shopee Thailand
- ช่องทาง Offline: Boots, Watsons และร้านขายยาทั่วไป
5. Swisse Beauty Hair Skin Nails+
เรามาส่งท้าย วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 กับ Swisse Beauty Hair Skin Nails+ จาก Swisse Overseas ซึ่งเป็นวิตามินบำรุงผมร่วงและเล็บ อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็น 15 ชนิด เช่น ไบโอติน (Biotin), ซิลิก้า (Silica), สังกะสี (Zinc) และสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เล็บ และผิวพรรณ ช่วยจัดการปัญหาเกี่ยวกับผมต่าง ๆ ทั้งผมแห้งเสีย ผมขาดหลุดร่วง รวมถึงยังช่วยลดอาการผิวหนังแห้ง
คุณสมบัติ
- วิตามินลดผมร่วงสูตรเข้มข้นอุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็น
- กระตุ้นและเสริมสร้างคอลลาเจนหรือเนื้อเยื่อเพื่อสุขภาพผมแข็งแรง
- ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงตั้งแต่รากจรดปลายผม และยังช่วยเล็บให้แข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย
- ส่วนผสมปราศจากน้ำตาล เกลือโซเดียม แลคโตส สารกันเสีย และสารสังเคราะห์เพื่อการปรุงแต่งรสและสี
ข้อมูลสินค้า
- บรรจุภัณฑ์: 1 กระปุกบรรจุ 100 เม็ด
- ราคาสินค้า: ราคา 1,070 บาท ต่อ 2 กระปุก
- วิธีทาน: วัน 1 เม็ด พร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที
- ช่องทางการสั่งซื้อ:
- ช่องทาง Online: สั่งซื้อได้ที่ Shopee Thailand
- ช่องทาง Offline: Boots, LAB pharmacy, TopsVita และร้านขายยาทั่วไป
อ้างอิง: facebook.com/SwisseThailand.Official
ตารางเปรียบเทียบวิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023
ชื่อวิตามิน | Solve Hair | Mega We Care Regenez | Puritan’s Pride Biotin | DHC Biotin+ Vitamin B7 | Swisse Beauty Hair Skin Nails+< |
คุณสมบัติ | จบปัญหาผมร่วง ช่วยลดผมร่วงได้ครอบคลุมทุกสาเหตุของผมร่วง เพิ่มการงอกของผมใหม่ ด้วยวิตามินผมมากถึง 24 ชนิด | วิตามินผมร่วงที่อุดมด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ลดอาการผมร่วง และผมบาง | ลดอาการผมร่วง ผมบาง ป้องกันผมหงอกได้เป็นอย่างดี ด้วยสารอาหารจาก ไบโอติน และCalcium | วิตามินผมร่วงจากญี่ปุ่น ที่มีไบโอตินเหมาะต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้ | วิตามินที่อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม |
ราคาเริ่มต้น | 1,890 บาท | 395 บาท | 289 บาท | 169 บาท / 299 บาท | 1,070 บาท |
รูปแบบ | แคปซูล | แคปซูล | แคปซูล | เม็ด | เม็ด |
จำนวนวิตามิน | วิตามิน และสารสกัดรวม 24 ชนิด | วิตามิน x ชนิด | วิตามิน x ชนิด | วิตามิน x ชนิด | วิตามิน x ชนิด |
ปริมาณ | 30 แคปซูล | 30 แคปซูล | 50 แคปซูล | 30 เม็ด / 60 เม็ด | 100 เม็ด |
วิธีทาน | วันละ 2 – 4 แคปซูล | วันละ 1 – 2 แคปซูล | วันละ 1 แคปซูล | วันละ 1 เม็ด | วันละ 1 เม็ด |
แหล่งผลิต | ไทย | ไทย, ออสเตรเลีย | สหรัฐอเมริกา | ญี่ปุ่น | ออสเตรเลีย |
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับที่สุด 5 วิตามินผม ลดผมร่วงมาแรงปี 2023 ที่เราได้คัดเลือกนำมาฝากกันบทความนี้ ซึ่งใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพผม ไม่ว่าจะเป็น ผมหลุดร่วง ผมอ่อนแอ ผมหงอกก่อนวัย หรือมีปัญหาหนังศีรษะ รวมถึงปัญหาสุขภาพเล็บที่ไม่แข็งแรง สามารถเลือกซื้อวิตามินบำรุงผมร่วงตามที่แนะนำกันได้เลย แต่ถ้าใครที่มีโรคประจำตัวก่อนที่จะตัดสินซื้อวิตามินอะไรก็ตามมาทาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย นอกจากอาหารเสริมผมร่วงที่จะช่วยจัดการปัญหาผมร่วง สิ่งสำคัญอีกอย่างควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สำหรับใครสนใจวิตามินและอาหารเสริมต่าง ๆ แนะนำวิตามินรวม สามารถติดตามอ่านบทความได้ที่ Shopee Blog
อ้างอิง: