เคยไหมที่รู้สึกหงุดหงิดกับคอมพิวเตอร์ที่ทำงานช้า หรือกว่าจะเปิดโปรแกรมแต่ละทีต้องรอนานจนแทบหลับเลย หรือการบูตคอมพิวเตอร์แต่ละทีใช้เวลานานจนหงุดหงิด จนแทบอยากจะควักเงินซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ แต่นั่นอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะการที่เครื่องช้าเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องอัปเกรดเครื่องแล้ว!
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้ามาจากหน่วยเก็บข้อมูลที่ไม่ทันสมัย หรือมีความจำที่น้อยเกินไป เพราะหัวใจสำคัญที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์กลับเร็วแรงอีกครั้งก็คือ SSD (Solid State Drive) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาแทนที่ HDD (Hard Disk Drive) ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การทำงานทุกอย่างในเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น การเปิด-ปิดเครื่อง การโหลดโปรแกรม การโหลดเกม หรือการทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่ SSD จะช่วยให้ทุกอย่างเสร็จเร็วขึ้นจนคุณรู้สึกได้
แต่ด้วยตัวเลือก SSD ที่มีมากมายในตลาด อาจทำให้คุณตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือกซื้อ SSD ยี่ห้อไหนดี ดังนั้น บทความนี้ Shopee Blog จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ SSD ตั้งแต่ ประเภทของ SSD ความแตกต่างระหว่าง “NVMe กับ SATA” เพื่อให้คุณเลือกซื้อ SSD ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ รวมถึงแนะนำ 7 SSD ยี่ห้อไหนดี แรงจริง ไม่มีกั๊ก น่าซื้อใช้งาน!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประเภทของ SSD
ก่อนจะอ่านรีวิว SSD ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักประเภทของ SSD กันก่อน เพื่อที่คุณจะได้เลือกซื้อมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งประเภทของ SSD หรือ Solid State Drive สามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ตามพอร์ตการเชื่อมต่อและรูปร่างได้ 3 ประเภท ดังนี้
1. SATA SSD
SATA SSD คือ SDD ที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ SATA ซึ่งเป็นพอร์ตเดียวกับฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิม (HDD) มีลักษณะคล้ายกับฮาร์ดดิสก์ ขนาด 2.5 นิ้ว จึงทำให้สามารถติดตั้งแทนฮาร์ดดิสก์เดิมได้ โดยความเร็วในการอ่าน / การเขียนข้อมูล SATA SSD จะอยู่ประมาณ 600 Mbps ซึ่งนับว่าเร็วที่สุดในบรรดา SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ SATA ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าให้เร็วขึ้น
2. PCIe SSD
PCIe SSD คือ SSD ที่ใช้งานกับพอร์ต PCIe หรือที่รู้จักกันในชื่อพอร์ตเสียบการ์ดจอ ซึ่งขนาดของ PCIe SSD ค่อนข้างใหญ่ ประมาณการ์ดจอขนาดเล็ก จึงทำให้ PCIe SSD ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ว่าจะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า SATA SSD มาก
3. M.2 SSD
M.2 SSD คือ SSD ใช้งานกับพอร์ต M.2 มีขนาดเล็กมากที่สุด รูปร่างคล้ายกับแผงวงจรขนาดเล็ก ซึ่งนิยมใช้ในโน้ตบุ๊กและเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในเครื่องได้มากกว่า SSD คอมพิวเตอร์ประเภทอื่น ๆ แถมความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลของ M.2 SSD จะอยู่ที่ประมาณ 3,500 Mbps ถือว่าค่อนข้างสูง ซึ่งจะแยกออกมาเป็น 2 ประเภทย่อย ๆ ดังนี้
- M.2 SATA : ใช้โปรโตคอล SATA ดังนั้น ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลจึงเทียบเท่ากับ SATA SSD แบบ 2.5 นิ้ว
- M.2 NVMe : ใช้โปรโตคอล NVMe (Non-Volatile Memory Express) บนอินเทอร์เฟซ PCIe ทำให้มีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่สูงกว่า ซึ่งเหมาะการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การเล่นเกม หรือการทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่
SSD ตัวไหนดีกว่า NVMe หรือ SATA และต่างกันยังไง?
SSD ตัวไหนดีกว่า NVMe กับ SATA แตกต่างกันยังไง? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยกันมาก! เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดีที่เหมาะกับการใช้งาน แน่นอนว่าถ้าถามว่าตัวไหนดีกว่ากัน ก็ต้องบอกว่า SSD แบบ NVMe ดีกว่า SSD แบบ SATA ในด้านประสิทธิภาพและความเร็วอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องมีการอ่านและเขียนข้อมูลจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง แต่การเลือกใช้งานก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วอย่างเดียว แต่อาจจะเลือกจากความต้องการและงบประมาณของคุณด้วย และเพื่อความเข้าใจที่ลึกขึ้น มาดูรายละเอียดความแตกต่างของ NVMe กับ SATA เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติ | NVMe SSD | SATA SSD |
---|---|---|
อินเทอร์เฟซ | PCIe (PCI Express) | SATA (Serial Advanced Technology Attachment) |
โปรโตคอล | เอ็นวีมี | เอเอชซีไอ |
ความเร็วสูงสุด | สูงมาก (สูงสุด 7,000 MB/s หรือมากกว่า | จำกัด (สูงสุดประมาณ 550 MB/s) |
ลักษณะรูปร่าง | ส่วนใหญ่เป็น M.2 ขนาดเล็กและบาง | ส่วนใหญ่เป็น 2.5 นิ้ว คล้าย HDD |
การเชื่อมต่อ | ติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด (ไม่มีสาย) | ต้องใช้สายข้อมูลและสายไฟ |
เหมาะกับการใช้งาน | เครื่องใหม่, แท่นเกม, พีซีประสิทธิภาพสูง | พีซีรุ่นเก่า, หน่วยความจำสำรอง, งบประมาณสร้าง |
ราคา | สูงกว่า SATA | ถูกกว่า NVMe |
สรุปง่าย ๆ หากคุณมีงบประมาณและเมนบอร์ดที่รองรับ NVMe คือตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปและต้องการที่จะประหยัดงบ SATA ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเร็วเกินพอ เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบเดิม
ทำไมต้องอัปเกรดเป็น SSD
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะอัปเกรดคอมพิวเตอร์จากฮาร์ดดิสก์ (HDD) มาเป็น SSD ดีไหม? ถ้าอัปเกรดแล้วจะช่วยคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วจริงไหม? ถ้างั้นลองมาอ่านเหตุผลหลักที่ควรพิจารณาอัปเกรดคอมพิวเตอร์จากฮาร์ดดิสก์ (HDD) มาเป็น SSD สรุปมาให้ ดังนี้
- ความเร็วในการบูตเครื่อง : SSD สามารถช่วยทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณบูตเข้าสู่หน้าจอ Desktop ได้ภายในไม่กี่วินาที ในขณะที่ HDD อาจจะต้องใช้เวลาหลายนาที
- การโหลดโปรแกรมและเกมที่เร็วขึ้น : โปรแกรมต่าง ๆ รวมถึงเกม จะเปิดและโหลดเข้าสู่หน้าจอหลักได้เร็วมากกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องรอนาน
- โอนย้ายไฟล์ที่รวดเร็ว : การคัดลอกหรือย้ายไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ จะใช้เวลาสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับคนที่ทำงานกับไฟล์วิดีโอหรือภาพถ่ายขนาดใหญ่เป็นประจำ
- เพิ่มความเสถียรและความทนทาน : SSD ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ได้เหมือน HDD จึงทำให้ทนทานต่อแรงกระแทก หรือการตกหล่นได้มากกว่า ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของข้อมูล
- ประหยัดพลังงานและเงียบกว่า : SSD ใช้พลังงานน้อยกว่าและไม่มีเสียงการทำงานใด ๆ ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างเงียบสงบ ต่างจาก HDD ที่มีเสียงการหมุนของจานแม่เหล็ก อาจทำให้คุณรู้สึกกวนใจ
วิธีการเลือกซื้อ SSD ควรคำนึงปัจจัยอะไรบ้าง
การเลือกซื้อ SSD ยี่ห้อไหนดี ไม่ใช่เพียงแค่เลือกจากยี่ห้อเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่คุณจะต้องนำมาประกอบเพื่อการพิจารณาในการเลือกซื้ออีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกซื้อ SSD มีดังนี้
1. ประเภทของ SSD
- M.2 NVMe SSD : เร็วที่สุดและราคาแพงที่สุด เหมาะสำหรับคนใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เกมเมอร์, นักตัดต่อวิดีโอ หรือผู้ที่ทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่
- M.2 SATA SSD : มีความเร็วพอ ๆ กับ SATA 2.5 นิ้ว แต่มีขนาดเล็กและติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ที่รองรับพอร์ต M.2 แต่ไม่ต้องการความเร็วสูงเท่ากับ NVMe
- SATA 2.5″ SSD : ช้ามากที่สุดแต่ราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับการอัปเกรดคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าจาก HDD หรือใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั่วไป
2. ความจุ
เลือกความจุ SSD ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งาน โดยหากใช้แค่ลงระบบปฏิบัติการและโปรแกรมพื้นฐานทั่วไป 250GB – 500GB เพียงพอ แต่ถ้าต้องการเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น เกม ไฟล์มัลติมีเดีย หรือทำงานที่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ควรเลือก SSD ที่มีความจุ 1TB ขึ้นไป
3. ความเร็วในการอ่าน เขียน ข้อมูล
ความเร็วในการอ่าน (Read Speed) และเขียน (Write Speed) ของ SSD ยิ่งตัวเลขสูงมากเท่าไหร่ การโหลดและถ่ายโอนข้อมูลก็จะยิ่งเร็วขึ้น หากใช้งานทั่วไปค่าความเร็วที่ 500 MB/s (สำหรับ SATA) หรือ 3,000 MB/s (สำหรับ NVMe) ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกรุ่นที่ความเร็วสูงกว่านี้
4. ยี่ห้อและราคา
ควรเลือกซื้อ SSD ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ เช่น Samsung, Western Digital (WD), Crucial, หรือ Kingston เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย ก่อนซื้อลองเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ร้านและพิจารณาให้เหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมี
รีวิว 7 SSD ยี่ห้อไหนดี แรงจริง ไม่มีกั๊ก ตอบโจทย์ทั้งเล่นเกมและทำงาน
เอาล่ะ! หลังจากได้รับรู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ SSD ไปมากพอสมควรแล้ว ใครที่รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างช้า กว่าจะเปิดเครื่อง หรือเปิดโปรแกรมแต่ละอย่างต้องใช้เวลานนาน จึงอยากจะอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เราจึงได้รวบรวม 7 SSD ยี่ห้อไหนดี สเปกแรง ใช้งานได้ดี มาให้คุณได้พิจารณา พร้อมเจาะลึกรายละเอียดของแต่ละรุ่น เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า SSD ตัวไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด มาดูกัน
1. SAMSUNG 990 PRO SSD
หากคุณต้องการให้คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กมีความเร็วสูงสุดแบบไม่มีประนีประนอม ไม่ว่าจะเล่นเกมที่มีกราฟิกเยอะ ๆ หรือการทำงานกับไฟล์วิดีโอ 4K/8K ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ประสิทธิภาพระดับสูงสุด Samsung 990 PRO คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่คุณมองข้ามไม่ได้ นี่คือ SSD ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ
ด้วยความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 7,450 MB/s และความเร็วในการเขียนสูงสุดถึง 6,900 MB/s จึงทำให้ SSD 990 PRO เข้าใกล้ขีดจำกัดสูงสุดของอินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 สัมผัสความเร็วแรงที่ใช้งานได้ยาวอย่างยาวนานและเหนือคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น การบูตเครื่อง, การโหลดเกม, หรือการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่จึงทำได้ในพริบตา
นอกจากนี้ SSD รุ่นนี้ยังมี Heatsink สำหรับการระบายความร้อน ที่มาพร้อมกับฮีทซิงค์ในตัว ซึ่งช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไดรฟ์ทำงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีปัญหาความร้อนสะสม และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ใครกำลังมองหา SSD สำหรับเล่นเกมที่เร็วที่สุด และไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงิน แล้วไม่รู้ว่าจะเลือก SSD รุ่นไหนดี Samsung 990 Pro คือตัวเลือกที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 1TB, 2TB, 4TB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : PCIe 4.0 x4, NVMe 2.0
- ประเภทแฟลช NAND : Samsung V-NAND 8th Gen (TLC)
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 7,450 MB/s และเขียนสูงสุด 6,900 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 1,400,000 IOPS และเขียนสูงสุด 1,550,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 5 ปี
ราคา 4,190 – 13,490 บาท
2. WD Black SN770
SSD ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์สายเกมเมอร์ หรือ ใครที่ต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์ให้เร็วแรงขึ้นในงบประมาณที่สมเหตุสมผล เราแนะนำ WD Black SN770 ที่ช่วยอัปเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณ ยกระดับการเล่นเกมของคุณ เพิ่มประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นถึง 40% เท่า และใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 20% ซึ่งไดรฟ์ตัวนี้อยู่ในระดับกลาง มีความเร็วใกล้เคียงกับรุ่นท็อปเลย แต่มาในราคาที่คุ้มค่ามากกว่าเยอะ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัปเกรดประสิทธิภาพการเล่นเกม และการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เหนือกว่า SSD รุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 5,150 MB/s และความเร็วในการเขียนสูงสุดถึง 4,900 MB/s สามารถโหลดเกมและโปรแกรมต่าง ๆ ได้เร็วเกือบเท่ากับไดร์ฟราคาแพงเลย ซึ่งเวลาใช้งานจริงแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างกันเลยระหว่าง SSD รุ่นนี้ กับ SSD รุ่นที่สูงกว่า จะมีก็แค่ราคาเท่านั้นที่จะเห็นถึงความแตกต่างกัน
ดีไซน์การออกแบบไม่มี DRAM Cache ในตัว แต่ WD ได้ใช้เทคโนโลยี Host Memory Buffer (HMB) เพื่อที่จะดึงหน่วยความจำของระบบ (RAM) มาใช้แทน จึงทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมยังคงสูงและเสถียร ไม่แตกต่างจากการใช้งานทั่วไป แถมยังออกแบบมาให้มีการจัดการความร้อนที่ดี ทำให้สามารถรักษาความเร็วในการทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหาความร้อนสะสม เล่นเกม หรือ ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างสบาย
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 250GB, 500GB, 1TB, 2TB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : PCIe Gen4 x4, NVMe
- ประเภทแฟลช NAND : TLC 112 ชั้น
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 5,150 MB/s และเขียนสูงสุด 4,900 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 740,000 IOPS และเขียนสูงสุด 800,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 5 ปี
ราคา 2,190 บาท (1 TB)
3. Crucial T705
มารีวิว SSD ยี่ห้อไหนดี ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด และเร็วที่สุดในตลาด SSD Crucial T705 คือคำตอบสุดท้ายของคุณ เพราะนี่คือ SSD ที่เปิดตัวมาพร้อมความเร็วระดับ PCIe Gen 5 ที่ทำลายสถิติทุกอย่างที่เคยมีมา ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Gen 4 อย่างเห็นได้ชัด T705 ไม่ได้แค่เร็ว แต่ยังเร็วแบบก้าวกระโดด เหมาะมากสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง หรือนักสร้างสรรค์ที่ต้องการความเร็วในการทำงานหรือโหลดข้อมูลระดับวินาที
ด้วยความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 13,600 MB/s และความเร็วในการเขียนสูงสุดถึง 10,200 MB/s ที่ทำให้ T705 เป็นหนึ่งใน SSD ที่เร็วที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปรแกรม การโหลดฉากในเกม AAA หรือการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่ ก็สามารถทำได้ในเวลาที่สั้นลงอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยัง
ใช้ชิป TLC NAND 232 ชั้นของ Micron, มีคอนโทรลเลอร์ Phison E26 และแคช DDR4 DRAM เพื่อช่วยในการจัดการทุกอย่างตั้งแต่ไฟล์วิดีโอ 8K ขนาดใหญ่ไปจนถึงเกมที่รองรับ DirectStorage รุ่นใหม่
รุ่นนี้มาพร้อมกับฮีทซิงค์อะลูมิเนียมและทองแดงในตัว ซึ่งจำเป็นมากสำหรับ SSD Gen 5 ที่จะสร้างความร้อนสูงในระหว่างการทำงานหนัก ฮีทซิงค์นี้จะช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไดรฟ์สามารถทำงานได้อย่างเต็มความเร็วโดยไม่มีอาการช้าลงจากความร้อน ถ้าใครอยากจะเน้นประสิทธิภาพและต้องการไดรฟ์ SSD ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม หรือต้องการสร้างสรรค์คอนเทนต์ แนะนำให้เลือก Crucial T705 ตัวนี้เลย
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 1TB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : PCIe Gen 5.0 x4, NVMe 2.0
- ประเภทแฟลช NAND : Micron 232-Layer TLC NAND
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 14,500 MB/s / เขียนสูงสุด 12,700 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 1,550,000 IOPS / เขียนสูงสุด 1,550,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 5 ปี
ราคา 5,499 บาท
4. SAMSUNG 870 EVO SSD
ใครกำลังมองหา SSD Sata ยี่ห้อไหนดี เพื่อมาแทนที่ฮาร์ดดิสก์ (HDD) ตัวเก่า หรือต้องการจะอัปเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณให้เร็วขึ้นในงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด Samsung 870 EVO คือตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และราคาที่เข้าถึงง่าย จึงทำให้เป็น SSD ยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์ทั่วไปจนถึงการใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกม หรือตัดต่อวิดีโอ 8K
โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Intelligent TurboWrite ช่วยเร่งความเร็วในการเขียนข้อมูลให้คงที่ และรองรับการเข้ารหัสข้อมูล ด้วยฮาร์ดแวร์อย่าง AES 256-bit รวมถึงมี ซอฟต์แวร์ Samsung Magician ที่ช่วยจัดการและตรวจสอบสุขภาพของไดรฟ์ แต่ว่าก็มีข้อเสียคือ ราคาสูงกว่า SSD SATA อื่น ๆ ในตลาด แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือระดับชั้นนำ
ด้วยความเร็วสูงสุดของอินเทอร์เฟซ SATA ทำให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 560 MB/s และ 530 MB/s ซึ่งเป็นความเร็วที่ใกล้เคียงกับขีดจำกัดสูงสุดของมาตรฐาน SATA 3 จึงช่วยให้บูตเครื่องได้เร็วยิ่งขึ้น ดาวน์โหลดเกมได้เร็วขึ้น เล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และการถ่ายโอนไฟล์รวดเร็วกว่า HDD หลายเท่าตัว
เทคโนโลยี V-NAND ล่าสุดของ Samsung และคอนโทรลเลอร์ที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ 870 EVO มีความทนทานในการเขียนข้อมูล (TBW) ที่สูงมาก ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัย เหมาะมากสำหรับใช้เป็นไดรฟ์จัดเก็บข้อมูลสำรอง หรือไดรฟ์หลักในเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปรุ่นเก่า รวมถึงยังรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 4 และ PlayStation 5 ก็สามารถนำไปใช้งานเพื่อเพิ่มความเร็วในการโหลดเกมได้
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 500GB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : SATA 6 Gb/s (ใช้ได้กับ SATA 3 Gb/s และ 1.5 Gb/s
- ประเภทแฟลช NAND : Samsung V-NAND 6th Gen (TLC)
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 560 MB/s และเขียนสูงสุด 530 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 98,000 IOPS และเขียนสูงสุด 88,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 5 ปี
ราคา 1,950 บาท
5. Kingston 240GB A400 SSD
หากคุณกำลังมองหา SSD Notebook ยี่ห้อไหนดี เพื่อต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าจาก HDD เป็นหลัก และต้องการ SSD สำหรับการใช้งานทั่วไป ท่องเว็บไซต์ เล่นเกมที่ไม่ได้เน้นกราฟิก หรือตัดต่อวิดีโอ และราคาต้องไม่แพง Kingston 240GB A400 SSD อีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการของคุณเลย
ซึ่ง Kingston A400 240GB เป็น SSD SATA ที่เน้นความคุ้มค่า ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 500 MB/s และเขียน 450 MB/s ทำให้การบูตเครื่อง, การเปิดโปรแกรม, และการทำงานทั่วไปในชีวิตประจำวันรวดเร็วกว่า HDD หลายเท่าตัว ยังมีความทนทานต่อการสั่นสะเทือน และติดตั้งง่าย ด้วยขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน ให้สามารถติดตั้งแทนฮาร์ดดิสก์เดิมในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องใช้สายใด ๆ ให้ยุ่งยาก
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 240GB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : SATA Rev. 3.0 (6Gb/s)
- ประเภทแฟลช NAND : 3D TLC
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 500 MB/s และเขียนสูงสุด 350 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 82,000 IOPS และเขียนสูงสุด 45,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี
ราคา 990 บาท
6. Lexar NM710 500GB Internal SSD
มารีวิว SSD ยี่ห้อไหนดี กันต่อกับ Lexar NM710 500GB Internal SSD เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเร็วสูง แต่มีงบค่อนข้างจำกัด เราแนะนำเป็น Lexar NM710 500GB Internal SSD คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างลงตัว นี่คือ SSD ที่นำพาคุณเข้าสู่ยุค PCIe 4.0 ได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่นพรีเมียมทั่วไป
ด้วยเทคโนโลยี HMB 3.0 และ SLC Cache เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลให้สูงขึ้นและการบูทเครื่องที่เร็วขึ้น ทำให้ความเร็วอ่านข้อมูลต่อเนื่องสูงสุดถึง 5,000 MB/s (รุ่น 1TB) และความเร็วเขียนข้อมูลต่อเนื่องสูงสุดถึง 4,500 MB/s ช่วยให้โหลดเกมหรือโอนไฟล์ข้อมูล ทำได้รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง ยังเป็น SSD PCIe 4.0 แบบ DRAM-less ที่ใช้เทคโนโลยี Host Memory Buffer (HMB) 3.0 ช่วยให้มีประสิทธิภาพที่ดี ในราคาที่ประหยัด
ซึ่งเหมาะสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป และคนใช้งานทั่วไป ที่ต้องการอัปเกรดจาก SSD รุ่นเก่า หรือเปลี่ยนจาก HDD เป็น SSD เพื่อให้คอมพิวเตอร์เร็วขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายเงินแพง
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 500GB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : PCIe Gen 4.0 x4, NVMe 1.4
- ประเภทแฟลช NAND : 3D TLC
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 5,000 MB/s และเขียนสูงสุด 4,500 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 500,000 IOPS และเขียนสูงสุด 480,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 5 ปี
ราคา 1,810 บาท
7. HIKSEMI SSD SATA WAVE(S)
ปิดท้ายรีวิว SSD ยี่ห้อไหนดี กันด้วย HIKSEMI SSD SATA WAVE(S) เป็น SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 450 MB/s และเขียนสูงสุด 530 MB/s เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป แม้ว่าความเร็วจะดูน้อยไปสักหน่อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่อง, เปิดไฟล์, หรือเปิดโปรแกรม
ด้วยโครงสร้างแบบ Solid State ที่ไม่มีชิ้นส่วนกลไก จึงทำให้ทนทานต่อการกระแทก และการตกหล่นได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์แบบเดิม ช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยมากขึ้น พร้อมรับประกัน 3 ปี หรือจนกว่าจะเขียนข้อมูลครบ 170TB (TBW)
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊กที่รองรับช่อง SATA 2.5 นิ้วได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ง่ายสำหรับการอัปเกรด ใครต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าจาก HDD เพื่อให้การใช้งานโดยรวมเร็วขึ้น โดยไม่ต้องการความเร็วสูงสุด หรือคนที่ต้องการ SSD ราคาประหยัด สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน HIKSEMI SSD SATA WAVE(S) เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจ
ข้อมูลจำเพาะ
- ขนาดความจุ : 128GB, 256GB, 512GB, 1024GB
- ประเภทอินเตอร์เฟซ : SATA III (6Gb/s)
- ประเภทแฟลช NAND : 3D NAND
- ความเร็วต่อเนื่อง (R/W) : อ่านสูงสุด 550 MB/s และเขียนสูงสุด 510 MB/s
- IOPS แบบสุ่ม (R/W) : อ่านสูงสุด 80,000 IOPS และเขียนสูงสุด 76,000 IOPS
- ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี
ราคา 379 – 1,725 บาท
สรุปเลือกซื้อ SSD ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์การใช้งาน และคุ้มค่ากับงบที่มี!
หลังจากการได้อ่านรีวิว 7 SSD ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้ว แต่ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อ SSD รุ่นไหนดี เราจึงได้สรุป SSD แต่ละยี่ห้อ เหมาะสำหรับการใช้งานแบบไหน เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
- หากต้องการความเร็วสูงสุด และมีงบประมาณไม่จำกัด SSD Crucial T705 หรือ Samsung 990 PRO เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด ทั้งเทคโนโลยี ความเร็วในการอ่าน-เขียน ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ
- หากต้องการความคุ้มค่าและความเร็วที่โดดเด่น WD Black SN770 และ Lexar NM710 500GB Internal SSD เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งมีความเร็วในการอ่านเขียนที่รวดเร็ว เหมาะกับทุกการใช้งาน ทั้งเล่นเกม งานกราฟิก หรือใช้งานทั่วไป
- หากต้องการอัปเกรดคอมพิวเตอร์เก่าจาก HDD เพื่อความเร็วในการใช้งานทั่วไปจะเน้นราคาที่คุ้มค่า Samsung 870 EVO และ HIKSEMI SSD SATA WAVE(S) คือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณที่สุด ซึ่งเป็นความเร็วในการอ่านเขียนที่กำลังพอดี สามารถเปิดเครื่อง, เปิดไฟล์, หรือเปิดโปรแกรมได้ดี
ทั้งหมดนี้ก็คือ 7 SSD ยี่ห้อไหนดี พร้อมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ SSD ที่ได้รวบรวมนำมาฝากให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อ SSD รุ่นไหนดี ได้ง่ายขึ้น ถ้าใครต้องการสั่งซื้อ SSD หรือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน จากแบรนด์ชั้นนำไหน ก็สามารถเข้ามาเลือกช้อปผ่านออนไลน์บน Shopee แหล่งรวมสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ให้คุณเลือกสรรจากร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ จัดเต็มด้วยโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดมากมาย ให้คุณช้อปได้สุดคุ้มที่ Shopee
นอกจากนี้ ใครที่สนใจจะอยากหาข้อมูล อ่านรีวิวสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ สามารถอ่านบทความรีวิวสินค้าหลากหลายประเภท ติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog มีบทความดี ๆ ให้อ่านเพียบ รับรองช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
บทความแนะนำ