ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น และแบคทีเรียภายในรถ สามารถช่วยดูดซับกลิ่นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ เพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์ที่ดี บทความนี้ Shopee อยากจะมาแนะนำ 7 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่นและลดกลิ่นอับ สร้างอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทางของเพื่อน ๆ มีเครื่องฟอกอากาศรถยนต์รุ่นไหนและยี่ห้ออะไรบ้างที่น่าสนใจ ตามเราไปช้อปกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ คืออะไร
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งที่มีหน้าที่ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคาร บ้าน ห้อง รวมถึงภายในรถยนต์ โดยหลักการในการทำงานจะมีการดูดอากาศเข้ามาในเครื่องผ่านแผ่นกรองที่มีคุณสมบัติในการดักจับสิ่งแปลกปลอม ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ฝุ่นละอองเกสร แบคทีเรีย เชื้อโรค ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้อากาศที่ปล่อยออกมาจากเครื่องฟอกอากาศมีความสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น ดังนั้น เครื่องฟอกอากาศในรถ ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ทำหน้าที่คล้ายกับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป ช่วยทำให้ผู้โดยสารได้หายใจในอากาศที่สดชื่นและปลอดภัยจากมลพิษ
ทำไมต้องมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
ทุกคนคงจะทราบกันดีปัจจุบันมลพิษทางอากาศนั้นค่อย ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก รวมถึงการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน จึงทำให้เมื่อออกนอกบ้านจะต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง สำหรับคนที่ต้องใช้เวลาอยู่ในรถเป็นเวลานาน แม้ว่าจะใช้เครื่องดูดฝุ่นรถยนต์จัดการฝุ่นต่าง ๆ แล้ว แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมี เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ เพื่อที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค กำจัดฝุ่นและกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามายังห้องโดยสาร เมื่อถามว่าทำไมจะต้องมีเครื่องฟอกอากาศในรถ เราจึงสรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้
- ช่วยปรับสภาพและหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์ แม้จะอยู่ในพื้นที่ปิดแต่ฝุ่นละอองก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาในรถยนต์ได้ การมีเครื่องฟอกอากาศในรถจึงช่วยดักจับฝุ่นต่าง ๆ ทำให้อากาศภายในรถดีขึ้น
- ลดอากาศของโรคภูมิแพ้ เพราะฝุ่นละอองและแบคทีเรียที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคภูมิแพ้ จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
- ช่วยลดการทำงานของไส้กรองอากาศในรถยนต์ ต้องบอกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะมีแผ่นกรองอากาศที่ติดมากับแอร์ในรถยนต์อยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศปัจจุบันแค่เครื่องกรองในรถยนต์อย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ จึงต้องมีเครื่องฟอกอากาศรถยนต์มาช่วยฟอกอากาศนั่นเอง
- สุขภาพร่างกายดีขึ้น เพราะเครื่องฟอกอากาศทำให้คุณได้หายใจในอากาศที่สะอาด ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ และทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
ทริคการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี
ก่อนจะไปอ่านรีวิว เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี เชื่อว่าหลายคนที่อยากจะซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถสักเครื่องมาใช้งานนั้นต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง เรามีวิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถมาแนะนำ เพื่อให้คุณได้เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
1. ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในรถสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ เครื่องฟอกอากาศแบบสร้างไอออน และเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ไส้กรองอากาศ โดยทั้งสองประเภทนี้จะมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยไอออน คุณสมบัติช่วยกำจัดกลิ่น เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหาร และยังกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยทำให้ผิวแห้งเสียด้วย
- เครื่องฟอกอากาศแบบใช้ไส้กรองหรือฟิลเตอร์ จะสามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเกสรดอกไม้ ฝุ่นควัน PM2.5 โดยเครื่องฟอกอากาศประเภทนี้จะต้องใช้ไส้กรองในเครื่อง ไส้กรองที่นิยมคือ HEPA Filter (High Efficiency Particulate Air Filter) เป็นไส้กรองที่มีประสิทธิภาพในการกรองที่ดีที่สุด สามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็กได้ จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศได้สูงถึง 99.97% นอกจากนี้บางรุ่นยังมีไส้กรองคาร์บอน เพื่อช่วยการดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในรถยนต์ได้อีกด้วย
2. ขนาดเครื่องฟอกอากาศต้องเหมาะสมกับพื้นที่ภายในรถ
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี คือ ขนาด ควรเลือกที่สามารถครอบคลุมกับพื้นที่ภายในรถ โดยส่วนใหญ่เครื่องฟอกอากาศในรถออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ครอบคลุมกับรถขนาด 4 ที่นั่ง หรือประมาณไม่เกิน 4 ตารางเมตร แต่ถ้าคุณใช้รถยนต์ขนาด SUV PPV หรือ MPV มีขนาดกว้างกว่า 4 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์มีหลายรุ่นที่ประสิทธิภาพสูงสามารถฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่ได้ 20 – 30 ตารางเมตร จึงสามารถใช้กับรถยนต์ได้หลายประเภท
3. ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถที่มีเสียงเงียบ
แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถมีโหมดการทำงานเสียงเบา เพื่อที่เสียงจะได้ไม่รบกวนสมาธิในการขับรถ เพราะส่วนใหญ่ถ้ายิ่งปรับเพิ่มความแรงในการทำงาน ก็จะทำให้เกิดเสียงดังมากยิ่งขึ้น หรือจะให้แนะนำก็เลือกรุ่นที่มีระบบ Auto เพราะตัวเครื่องจะทำการปรับระดับความแรงโดยอัตโนมัติ โดยปกติเครื่องฟอกอากาศในรถจะทำงานด้วยระดับเสียงประมาณ 20 – 50 เดซิเบล (dB) เป็นระดับเสียงที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญจนเกินไป
4. การชาร์จไฟ
โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศรถยนต์จะมีให้เลือกทั้งแบบชาร์จไฟกับที่จุดบุหรี่ และสามารถชาร์จได้โดยการเสียบสาย USB ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ควรเช็กรถยนต์ว่าสามารถใช้งานได้กับที่ชาร์จแบบใด เพื่อจะได้ซื้อมาใช้งานได้เหมาะสม
5. เทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ
นอกจากเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถจากแบรนด์ที่ได้รับความนิยม หรือแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรต้องนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ควรตรวจสอบเทคโนโลยีที่สามารถกำจัดมลพิษได้หลากหลายชนิด อย่างเช่น HEPA filter, Carbon filter, Ionizer หรือได้มีการทดสอบและออกใบรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือได้ ผ่านการวิจัยและเป็นเอกสิทธิ์ของทางแบรนด์ หรือว่ามีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เช่น เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศ, ไทเมอร์, หรือระบบควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน
รีวิว 7 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่นและกลิ่น
ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศกลายเป็นไอเทมที่ทุกบ้านหรือรถยนต์ทุกคันควรต้องมี ทำให้เครื่องฟอกอากาศในรถที่วางขายทั่วไปนั้นมีด้วยกันหลายรุ่น ฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไป และมีหลากหลายแบรนด์ชั้นนำมากมาย ทำให้ตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี เพราะทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ฉะนั้น เราจึงได้คัดเครื่องฟอกอากาศรถยนต์รุ่นเด็ด ๆ ยอดนิยม ฟังก์ชันครบ พร้อมมีเทคโนโลยีในการกรองฝุ่น ราคาเป็นกันเอง มาแนะนำให้กับทุกคน มีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร มาดูกัน
1. CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
รีวิวเครื่องฟอกอากาศในรถ ตัวแรกที่อยากจะแนะนำให้กับเพื่อน ๆ นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO แบรนด์ CONOCO เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ตัวเครื่องมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ยังสามารถติดตั้งได้หลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นวางไว้ที่คอนโซลหน้ารถยนต์ หลังรถยนต์ หรือแขวนไว้กับหลังเบาะแถวหน้าก็ได้เช่นกัน รุ่นนี้มีพลังเทอร์โบ (Turbo Mode) พัดลมนำเข้าจากญี่ปุ่นที่ทั้งเงียบและกินไฟน้อย ช่วยกำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียสลายกลิ่นอับชื้นในอากาศ ใช้วิธีฟอกอากาศ 3 ระบบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะผ่านแผ่นกรอง HEPA ที่มีชั้นกรองถ่านกัมมันต์ในตัว เสริมด้วยการปล่อยประจุไอออนกว่า 3 ล้านตัวต่อวินาที จึงช่วยให้กำจัดได้ทั้งฝุ่น เชื้อโรค สารระเหย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อีกทั้งยังชาร์จได้ทั้งช่องจุดบุหรี่และสาย USB จึงเป็นเครื่องฟอกอากาศอีกรุ่นที่อยากจะมีรีวิว
รายละเอียด CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
- ระดับความดังในการทำงาน 40-50dB (A)
- กรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ถึงขนาดเล็ก PM2.5
- สามารถปล่อยไอออน (3 ล้านไอออนต่อวินาที)
- การไหลเวียนของอากาศ 21-30 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
- สามารถกำจัดกลิ่น กรองฝุ่น กรอง HEPA ดูดซับ ก๊าซ TVOC ฆ่าเชื้อ
- ขนาดเครื่อง 225x150x58 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 0.6000 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 2,985 บาท
2. Gmax เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-001
เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ Gmax แบรนด์เตาแก๊สและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า 30 ปี ซึ่งมีเครื่องฟอกอากาศในรถให้เลือกหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ เราขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-001 เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ประมาณ 10-15 ตารางเมตร ซึ่งทำงานด้วยไส้กรองอากาศ HEPA Filter กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกรองอากาศได้ดีเยี่ยม และช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่ออากาศและกลิ่นที่สะอาดบริสุทธิ์สดชื่น แถมยังมีขนาดเล็กทำให้ประหยัดพื้นที่ ประหยัดไฟ ประหยัดพลังงาน เพราะรุ่นนี้จะกินไฟแค่ 3W เท่านั้น ตัวเครื่องฟอกอากาศจะปิดอัตโนมัติ หากดับเครื่องยนต์และเริ่มใหม่เมื่อสตาร์ท ถ้าใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา 2in1 ราคาไม่แพง แนะนำรุ่นนี้เลย ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการเลย
รายละเอียด Gmax เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-001
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 30dB
- เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ 10 – 15 ตารางเมตร
- ไส้กรองอากาศ HEPA Filter กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เครื่องฟอกอากาศพกพา 2in1 ใช้งานได้ทั้งในรถยนต์และโต๊ะทำงาน
- ขนาดเครื่อง 16.5×16.5×4.7 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 0.7 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 779 บาท
3. Commy เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003
มาต่อกันที่ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003 จากแบรนด์ Commy รุ่นนี้มาในขนาดกะทัดรัด สามารถวางได้พอดีกับช่องวางแก้วในรถยนต์เลย ซึ่งเครื่องฟอกอากาศผลิตจากอลูมิเนียมและพลาสติก ABS มีความแข็งแรง ด้านในตัวเครื่องมีไส้กรองที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน HEPA สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก ที่ช่วยกรองฝุ่น เส้นผม ขนสัตว์ เกสรดอก พร้อมช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ มีการปล่อยประจุลบ (Negative Ion) เพื่อช่วยดักจับฝุ่น พร้อมด้วยพัดลมทรงพลัง และปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ ตัวเครื่องมีหน้าจอ LED เพื่อแสดงอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ และสามารถหยดน้ำมันหอมระเหย ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในรถได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้สาย USB Type-C to USB Type-A เพื่อเชื่อมต่อเครื่องฟอกอากาศกับพอร์ต USB ในรถยนต์ได้ สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นดี ราคาย่อมเยา แนะนำเครื่องฟอกอากาศ Commy รุ่นนี้เลย
รายละเอียด Commy เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003
- ปรับความเร็วลมได้ 2 ระดับ ความเร็วลมต่ำ
- เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ 10 ตารางเมตร
- สามารถกรองฝุ่นได้แบบ 360 องศา รอบทิศทาง
- ขนาดเครื่อง 70×172 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 300 กรัม
- สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก เช่น เชื้อจุลินทรีย์, ฝุ่น PM2.5, ขนสัตว์
- ราคาประมาณ 770 บาท
4. NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top
สำหรับ NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top เครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ที่รวบรวมทุกเทคโนโลยีการฟอกอากาศในเครื่องเดียว ทั้ง HEPA + Activated Carbon + Negative Ions + 4UV ช่วยกรองฝุ่น P.M 2.5 กำจัดเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย กำจัดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ด้วย รวมถึงยังกำจัดกลิ่นอับชื้นในอากาศ กลิ่นควันบุหรี่ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องมีพัดลม 2 เครื่อง ที่ช่วยฟอกอากาศได้เร็วกว่าทั่วไป ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ และเสียงในการทำงานเงียบมาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศโดยปล่อยประจุ Negative Ions 4 ล้าน/วิ และฆ่าเชื้อโรคโดยแสง UV ถึง 4 หลอด ฟอกได้รวดเร็วกว่าเครื่องทั่วไป ทำงานอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถและดับเองเมื่อดับรถยนต์ และสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่น บนโต๊ะทำงาน หรือห้องนอนขนาดเล็กได้ด้วย
รายละเอียด NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top
- ติดตั้งง่ายที่คอนโซลหน้า-กลาง-หลัง หรือหลังเบาะรถ
- ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ แบบ Auto/Manual/Remote
- เครื่องฟอกอากาศระบบ HEPA H13+Activated Carbon
- สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรค ฆ่าไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย
- กรองฝุ่น PM2.5 ควัน ได้อย่างรวดเร็ว ปรับอากาศให้หอมสดชื่น
- ใช้งานง่ายเพียงแค่เสียบช่อง USB 2A ขึ้นไป หรือต่อกับช่องจุดบุหรี่
- ราคาประมาณ 2,212 บาท
5. Bwell เครื่องฟอกอากาศพกพา รุ่น G8
เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นและกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่าราคา ก็ต้องนี่เลย เครื่องฟอกอากาศพกพา รุ่น G8 แบรนด์ Bwell เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กสามารถพกพาไปไหนมาได้ไหนได้ทุกที่ รุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่ในตัวพร้อมกับสายชาร์จ USB Type-C จะกรองแบบ 4 ขั้นตอน ได้แก่ แผ่นกรอง Pre-filter ดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่ มีแผ่นกรอง HEPA เกรด H11 ละเอียด 0.1 ไมครอน ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็ก มีแผ่นกรอง Carbon ช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมี UV ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย ระดับเสียงในการทำงาน 28 ถึง 45 เดซิเบล และปรับระดับแรงลมได้มากถึง 2 ระดับอีกด้วย พร้อมรับประกันตัวเครื่องให้นานอีก 1 ปี
รายละเอียด Bwell เครื่องฟอกอากาศพกพา รุ่น G8
- ระบบในการฟอกอากาศเป็น 4 ขั้นตอน
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 28-45 เดซิเบล
- ตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่ในตัว ด้วยความจุ 2600mAh
- การชาร์จไฟใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง / ใช้งาน 4 ชั่วโมง
- ขนาดเครื่อง 180×75 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 0.3 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 2,691 บาท
6. ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศรถยนต์ราคาหลักร้อย แต่ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศดีเยี่ยม เราแนะนำเป็น ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Car Air Purifier C1 รุ่นนี้เลย ด้วยดีไซน์การออกแบบมาที่ดูทันสมัย ซึ่งได้ออกแบบเพื่อใช้งานได้กับที่วางแก้วในรถได้พอดี ทำให้ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้งานได้รถยนต์ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ โดยรุ่นนี้จะมีไส้กรองคุณภาพสูง (HEPA) สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ เช่น เส้นผม เกสรดอกไม้ จุลินทรีย์ ไวรัส ฝุ่นละออง และฝุ่น PM2.5 ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคาร์บอนคุณภาพสูงที่สามารถดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซินและก๊าซพิษต่าง ๆ ได้ พัดลมแรง ปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ เสียงเบา ไม่รบกวนการขับรถของคุณ เชื่อมต่อด้วยสาย USB และการทำงานได้โดยไม่ต้องเสียบสาย USB เพราะรุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่ในตัว
รายละเอียด ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 30dB
- พัดลมพัดแรง ปรับความแรงลมได้ถึง 2 ระดับ
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์จะอยู่ที่ประมาณ 300CFM
- ไส้กรองคุณภาพสูง (HEPA) สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก
- ปริมาณอากาศเครื่องฟอกอากาศ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
- แบตเตอรี่รีชาร์จได้จะมีความจุ 2000mAh การใช้งานได้ 3-6 ชั่วโมง
- ราคาประมาณ 99 – 395 บาท
7. Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา
ปิดท้ายรีวิว เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ด้วย Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา จากแบรนด์ Electrolux ได้มีการออกแบบมาเพื่อใช้งานในรถยนต์ พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ในระดับสูง สามารถช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในรถยนต์ ด้วยระบบกรอง 4 ขั้นตอน ได้แก่ Pre-Filter, เคลือบสารต้านแบคทีเรีย, ฟิลเตอร์ E11 และ Ionizer ยังมีเทคโนโลยี IonActive ที่สามารถปล่อยไอออนประจุลบ 2 ล้านตัวต่อตร.ซม. ที่ช่วยดักจับฝุ่น แบคทีเรีย และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี เลือกความเร็วพัดลมได้ 3 ระดับ พร้อมส่งเสียงในขณะทำงานสูงสุดเพียงแค่ 43 เดซิเบลเท่านั้น จึงไม่รบกวนในสมาธิในการขับรถยนต์ นอกจากนี้ก็ยังรองรับการหยดน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยลงในช่องเติม เพื่อกระจายความหอมให้ทั่วถึงภายในรถยนต์ จึงเป็นอีกรุ่นที่ต้องนำมารีวิว
รายละเอียด Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา
- ดีไซน์สวยทันสมัย น้ำหนักเบา กะทัดรัด
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 43dB
- สวิตช์หมุนพร้อมไฟ LED บอกระดับความเร็วพัดลม
- พัดลมจะมีลมแรง สามารถปรับความเร็วพัดลม 3 ระดับ
- ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย 99.9%* และเชื้อไวรัส H1N1 ได้ด้วย
- สร้างอากาศสะอาดปราศจากเชื้อแบคทีเรียด้วย IonActive
- ราคาประมาณ 3,010 บาท
เครื่องฟอกอากาศในรถ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่คนที่มีรถยนต์ควรจะมีติดไว้เลย เพื่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกายของคุณและผู้ที่นั่งอยู่ในรถยนต์ ใครที่ยังไม่มีหรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อเครื่องฟอกแบบไหน รุ่นไหนดี และเลือกจากที่เราได้รีวิวทั้ง 7 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ได้เลยทุกรุ่นมีจุดเด่น คุณสมบัติ และประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่แตกต่างกันไป รับรองว่าทุกรุ่นทเลือกมามีความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายแน่นอน นอกจากจะมีอากาศที่ดีแล้วเพิ่มความหอม ด้วยน้ำหอมรถยนต์ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในรถให้หอมสดชื่นมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าเลือกสินค้าทางออนไลน์บน Shopee แหล่งรวมสินค้ามากมาย ทุกประเภท ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ มีโปรโมชั่นสุดพิเศษและโค้ดส่วนลดมากมาย พร้อมด้วยบทความสาระน่ารู้มากมาย อย่างเช่น น้ำหอมติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือกล่องเก็บของในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือเครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี หรือบทความอื่น ๆ เข้ามาติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog อัปเดตทุกเรื่องราวน่ารู้ไว้ที่นี่!