ปัญหามลพิษทางอากาศ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนจะต้องพบเจอเป็นประจำทุกวันและเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะฝุ่น PM 2.5 ควันรถ ควันพิษ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายทุกวันก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะใครที่ต้องอยู่บนรถยนต์นานวันละหลายชั่วโมง หากภายในรถยนต์สกปรกหรือว่ามีอากาศไม่สะอาดบริสุทธ์ย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังทำให้ความสุขในการขับขี่ลดลงด้วย ดังนั้นจึงควรมีเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยกรองอากาศ ดักจับฝุ่น และแบคทีเรียภายในรถ สามารถช่วยดูดซับกลิ่นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ เพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์ที่ดี บทความนี้ Shopee อยากจะมาแนะนำ 17 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่นและลดกลิ่นอับ สร้างอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทางของเพื่อน ๆ มีเครื่องฟอกอากาศรถยนต์รุ่นไหนและยี่ห้ออะไรบ้างที่น่าสนใจ ตามเราไปช้อปกันเลย

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ คืออะไร
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งที่มีหน้าที่ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคาร บ้าน ห้อง รวมถึงภายในรถยนต์ โดยหลักการในการทำงานจะมีการดูดอากาศเข้ามาในเครื่องผ่านแผ่นกรองที่มีคุณสมบัติในการดักจับสิ่งแปลกปลอม ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ฝุ่นละอองเกสร แบคทีเรีย เชื้อโรค ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้อากาศที่ปล่อยออกมาจากเครื่องฟอกอากาศมีความสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น ดังนั้น เครื่องฟอกอากาศในรถ ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ทำหน้าที่คล้ายกับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป ช่วยทำให้ผู้โดยสารได้หายใจในอากาศที่สดชื่นและปลอดภัยจากมลพิษ
ทำไมต้องมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
ทุกคนคงจะทราบกันดีปัจจุบันมลพิษทางอากาศนั้นค่อย ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก รวมถึงการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน จึงทำให้เมื่อออกนอกบ้านจะต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง สำหรับคนที่ต้องใช้เวลาอยู่ในรถเป็นเวลานาน แม้ว่าจะใช้เครื่องดูดฝุ่นรถยนต์จัดการฝุ่นต่าง ๆ แล้ว แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมี เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ เพื่อที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค กำจัดฝุ่นและกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามายังห้องโดยสาร เมื่อถามว่าทำไมจะต้องมีเครื่องฟอกอากาศในรถ เราจึงสรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้
- ช่วยปรับสภาพและหมุนเวียนอากาศภายในรถยนต์ แม้จะอยู่ในพื้นที่ปิดแต่ฝุ่นละอองก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาในรถยนต์ได้ การมีเครื่องฟอกอากาศในรถจึงช่วยดักจับฝุ่นต่าง ๆ ทำให้อากาศภายในรถดีขึ้น
- ลดอากาศของโรคภูมิแพ้ เพราะฝุ่นละอองและแบคทีเรียที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคภูมิแพ้ จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
- ช่วยลดการทำงานของไส้กรองอากาศในรถยนต์ ต้องบอกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะมีแผ่นกรองอากาศที่ติดมากับแอร์ในรถยนต์อยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศปัจจุบันแค่เครื่องกรองในรถยนต์อย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ จึงต้องมีเครื่องฟอกอากาศรถยนต์มาช่วยฟอกอากาศนั่นเอง
- สุขภาพร่างกายดีขึ้น เพราะเครื่องฟอกอากาศทำให้คุณได้หายใจในอากาศที่สะอาด ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ และทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
ทริคการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี
ก่อนจะไปอ่านรีวิว เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี เชื่อว่าหลายคนที่อยากจะซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถสักเครื่องมาใช้งานนั้นต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง เรามีวิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถมาแนะนำ เพื่อให้คุณได้เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
1. ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในรถสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ เครื่องฟอกอากาศแบบสร้างไอออน และเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ไส้กรองอากาศ โดยทั้งสองประเภทนี้จะมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยไอออน คุณสมบัติช่วยกำจัดกลิ่น เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหาร และยังกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยทำให้ผิวแห้งเสียด้วย
- เครื่องฟอกอากาศแบบใช้ไส้กรองหรือฟิลเตอร์ จะสามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเกสรดอกไม้ ฝุ่นควัน PM2.5 โดยเครื่องฟอกอากาศประเภทนี้จะต้องใช้ไส้กรองในเครื่อง ไส้กรองที่นิยมคือ HEPA Filter (High Efficiency Particulate Air Filter) เป็นไส้กรองที่มีประสิทธิภาพในการกรองที่ดีที่สุด สามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็กได้ จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศได้สูงถึง 99.97% นอกจากนี้บางรุ่นยังมีไส้กรองคาร์บอน เพื่อช่วยการดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในรถยนต์ได้อีกด้วย
2. ขนาดเครื่องฟอกอากาศต้องเหมาะสมกับพื้นที่ภายในรถ
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี คือ ขนาด ควรเลือกที่สามารถครอบคลุมกับพื้นที่ภายในรถ โดยส่วนใหญ่เครื่องฟอกอากาศในรถออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ครอบคลุมกับรถขนาด 4 ที่นั่ง หรือประมาณไม่เกิน 4 ตารางเมตร แต่ถ้าคุณใช้รถยนต์ขนาด SUV PPV หรือ MPV มีขนาดกว้างกว่า 4 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์มีหลายรุ่นที่ประสิทธิภาพสูงสามารถฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่ได้ 20 – 30 ตารางเมตร จึงสามารถใช้กับรถยนต์ได้หลายประเภท
3. ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถที่มีเสียงเงียบ
แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถมีโหมดการทำงานเสียงเบา เพื่อที่เสียงจะได้ไม่รบกวนสมาธิในการขับรถ เพราะส่วนใหญ่ถ้ายิ่งปรับเพิ่มความแรงในการทำงาน ก็จะทำให้เกิดเสียงดังมากยิ่งขึ้น หรือจะให้แนะนำก็เลือกรุ่นที่มีระบบ Auto เพราะตัวเครื่องจะทำการปรับระดับความแรงโดยอัตโนมัติ โดยปกติเครื่องฟอกอากาศในรถจะทำงานด้วยระดับเสียงประมาณ 20 – 50 เดซิเบล (dB) เป็นระดับเสียงที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญจนเกินไป
4. การชาร์จไฟ
โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศรถยนต์จะมีให้เลือกทั้งแบบชาร์จไฟกับที่จุดบุหรี่ และสามารถชาร์จได้โดยการเสียบสาย USB ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ควรเช็กรถยนต์ว่าสามารถใช้งานได้กับที่ชาร์จแบบใด เพื่อจะได้ซื้อมาใช้งานได้เหมาะสม
5. เทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ
นอกจากเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถจากแบรนด์ที่ได้รับความนิยม หรือแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรต้องนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ควรตรวจสอบเทคโนโลยีที่สามารถกำจัดมลพิษได้หลากหลายชนิด อย่างเช่น HEPA filter, Carbon filter, Ionizer หรือได้มีการทดสอบและออกใบรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือได้ ผ่านการวิจัยและเป็นเอกสิทธิ์ของทางแบรนด์ หรือว่ามีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เช่น เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศ, ไทเมอร์, หรือระบบควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน
รีวิว 17 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดฝุ่นและกลิ่น
ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศกลายเป็นไอเทมที่ทุกบ้านหรือรถยนต์ทุกคันควรต้องมี ทำให้เครื่องฟอกอากาศในรถที่วางขายทั่วไปนั้นมีด้วยกันหลายรุ่น ฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไป และมีหลากหลายแบรนด์ชั้นนำมากมาย ทำให้ตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี เพราะทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ฉะนั้น เราจึงได้คัดเครื่องฟอกอากาศรถยนต์รุ่นเด็ด ๆ ยอดนิยม ฟังก์ชันครบ พร้อมมีเทคโนโลยีในการกรองฝุ่น ราคาเป็นกันเอง มาแนะนำให้กับทุกคน มีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร มาดูกัน
1. CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
รีวิวเครื่องฟอกอากาศในรถ ตัวแรกที่อยากจะแนะนำให้กับเพื่อน ๆ นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO แบรนด์ CONOCO เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ตัวเครื่องมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ยังสามารถติดตั้งได้หลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นวางไว้ที่คอนโซลหน้ารถยนต์ หลังรถยนต์ หรือแขวนไว้กับหลังเบาะแถวหน้าก็ได้เช่นกัน รุ่นนี้มีพลังเทอร์โบ (Turbo Mode) พัดลมนำเข้าจากญี่ปุ่นที่ทั้งเงียบและกินไฟน้อย ช่วยกำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียสลายกลิ่นอับชื้นในอากาศ ใช้วิธีฟอกอากาศ 3 ระบบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะผ่านแผ่นกรอง HEPA ที่มีชั้นกรองถ่านกัมมันต์ในตัว เสริมด้วยการปล่อยประจุไอออนกว่า 3 ล้านตัวต่อวินาที จึงช่วยให้กำจัดได้ทั้งฝุ่น เชื้อโรค สารระเหย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อีกทั้งยังชาร์จได้ทั้งช่องจุดบุหรี่และสาย USB จึงเป็นเครื่องฟอกอากาศอีกรุ่นที่อยากจะมีรีวิว
รายละเอียด CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
- ระดับความดังในการทำงาน 40-50dB (A)
- กรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ถึงขนาดเล็ก PM2.5
- สามารถปล่อยไอออน (3 ล้านไอออนต่อวินาที)
- การไหลเวียนของอากาศ 21-30 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
- สามารถกำจัดกลิ่น กรองฝุ่น กรอง HEPA ดูดซับ ก๊าซ TVOC ฆ่าเชื้อ
- ขนาดเครื่อง 225x150x58 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 0.6000 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 2,985 บาท
2. Gmax Air Purifier รุ่น AP-003

เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ Gmax แบรนด์เตาแก๊สและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า 30 ปี ซึ่งมีเครื่องฟอกอากาศในรถให้เลือกหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ เราขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP-003 เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ประมาณ 10-15 ตารางเมตร ซึ่งทำงานด้วยไส้กรองอากาศ HEPA Filter กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกรองอากาศได้ดีเยี่ยม และช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่ออากาศและกลิ่นที่สะอาดบริสุทธิ์สดชื่น แถมยังมีขนาดเล็กทำให้ประหยัดพื้นที่ ประหยัดไฟ ประหยัดพลังงาน เพราะรุ่นนี้จะกินไฟแค่ 3W เท่านั้น ตัวเครื่องฟอกอากาศจะปิดอัตโนมัติ หากดับเครื่องยนต์และเริ่มใหม่เมื่อสตาร์ท ถ้าใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา 2in1 ราคาไม่แพง แนะนำรุ่นนี้เลย ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการเลย
รายละเอียด Gmax Air Purifier รุ่น AP-003
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 30dB
- เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ 10 – 15 ตารางเมตร
- ปล่อยประจุลบ Ionizer ช่วยในการดักจับฝุ่นละออง PM2.5
- ไส้กรองอากาศ HEPA Filter กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขนาดเครื่อง 16.5×16.5×4.7 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 0.7 กิโลกรัม
- ราคาประมาณ 949 บาท
3. Commy เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003
มาต่อกันที่ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003 จากแบรนด์ Commy รุ่นนี้มาในขนาดกะทัดรัด สามารถวางได้พอดีกับช่องวางแก้วในรถยนต์เลย ซึ่งเครื่องฟอกอากาศผลิตจากอลูมิเนียมและพลาสติก ABS มีความแข็งแรง ด้านในตัวเครื่องมีไส้กรองที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน HEPA สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก ที่ช่วยกรองฝุ่น เส้นผม ขนสัตว์ เกสรดอก พร้อมช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ มีการปล่อยประจุลบ (Negative Ion) เพื่อช่วยดักจับฝุ่น พร้อมด้วยพัดลมทรงพลัง และปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ ตัวเครื่องมีหน้าจอ LED เพื่อแสดงอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ และสามารถหยดน้ำมันหอมระเหย ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในรถได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้สาย USB Type-C to USB Type-A เพื่อเชื่อมต่อเครื่องฟอกอากาศกับพอร์ต USB ในรถยนต์ได้ สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นดี ราคาย่อมเยา แนะนำเครื่องฟอกอากาศ Commy รุ่นนี้เลย
รายละเอียด Commy เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น AP003
- ปรับความเร็วลมได้ 2 ระดับ ความเร็วลมต่ำ
- เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ 10 ตารางเมตร
- สามารถกรองฝุ่นได้แบบ 360 องศา รอบทิศทาง
- ขนาดเครื่อง 70×172 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 300 กรัม
- สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก เช่น เชื้อจุลินทรีย์, ฝุ่น PM2.5, ขนสัตว์
- ราคาประมาณ 770 บาท
4. NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top
สำหรับ NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top เครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ที่รวบรวมทุกเทคโนโลยีการฟอกอากาศในเครื่องเดียว ทั้ง HEPA + Activated Carbon + Negative Ions + 4UV ช่วยกรองฝุ่น P.M 2.5 กำจัดเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย กำจัดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ด้วย รวมถึงยังกำจัดกลิ่นอับชื้นในอากาศ กลิ่นควันบุหรี่ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องมีพัดลม 2 เครื่อง ที่ช่วยฟอกอากาศได้เร็วกว่าทั่วไป ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ และเสียงในการทำงานเงียบมาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศโดยปล่อยประจุ Negative Ions 4 ล้าน/วิ และฆ่าเชื้อโรคโดยแสง UV ถึง 4 หลอด ฟอกได้รวดเร็วกว่าเครื่องทั่วไป ทำงานอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถและดับเองเมื่อดับรถยนต์ และสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่น บนโต๊ะทำงาน หรือห้องนอนขนาดเล็กได้ด้วย
รายละเอียด NanoBoozt เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ G8 Pro รุ่น Top
- ติดตั้งง่ายที่คอนโซลหน้า-กลาง-หลัง หรือหลังเบาะรถ
- ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ แบบ Auto/Manual/Remote
- เครื่องฟอกอากาศระบบ HEPA H13+Activated Carbon
- สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรค ฆ่าไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย
- กรองฝุ่น PM2.5 ควัน ได้อย่างรวดเร็ว ปรับอากาศให้หอมสดชื่น
- ใช้งานง่ายเพียงแค่เสียบช่อง USB 2A ขึ้นไป หรือต่อกับช่องจุดบุหรี่
- ราคาประมาณ 2,212 บาท
5. Bwell เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G9

ใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่นไหนดี แนะนำเป็น Bwell เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ รุ่น G9 จากแบรนด์ Bwell เครื่องฟอกอากาศไซส์มินิแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ หมดกังวลเรื่องฝุ่น เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ เครื่องขนาดเล็กกำลังพอดี พกพาสะดวก สามารถใช้ได้ทั้งในรถยนต์และในบ้าน จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้มีระบบกรองฝุ่นขนาดเล็ก สามารถกรองฝุ่นตั้งแต่ PM 2.5 จนถึง PM 0.1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฆ่าเชื้อโรค และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ใช้งานง่ายมาก เพียงแค่เชื่อมต่อสาย USB ก็ใช้งานได้ทันที และจุดเด่นอีกอย่างที่แบรนด์อื่นไม่มีให้คืออ่อนโยนต่อเด็ก เหมาะสำหรับคนเป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ
รายละเอียด Bwell เครื่องฟอกอากาศพกพา รุ่น G9
- มีระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน
- ปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ
- มี Ionizer ช่วยสลายควันบุหรี่
- ตั้งเวลาปิดได้ 2 ชม. และ 4 ชม.
- รุ่นนี้มีระบบเตือนอายุแผ่นฟอกอากาศ
- สามารถเปิดปิดการทำงานระบบฆ่าเชื้อโรค UVA
- ฟอกอากาศครบวงจรตั้งแต่กรองฝุ่น ดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค
- ราคาประมาณ 4,290 บาท
6. ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศรถยนต์ราคาหลักร้อย แต่ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศดีเยี่ยม เราแนะนำเป็น ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Car Air Purifier C1 รุ่นนี้เลย ด้วยดีไซน์การออกแบบมาที่ดูทันสมัย ซึ่งได้ออกแบบเพื่อใช้งานได้กับที่วางแก้วในรถได้พอดี ทำให้ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้งานได้รถยนต์ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ โดยรุ่นนี้จะมีไส้กรองคุณภาพสูง (HEPA) สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ เช่น เส้นผม เกสรดอกไม้ จุลินทรีย์ ไวรัส ฝุ่นละออง และฝุ่น PM2.5 ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคาร์บอนคุณภาพสูงที่สามารถดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซินและก๊าซพิษต่าง ๆ ได้ พัดลมแรง ปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ เสียงเบา ไม่รบกวนการขับรถของคุณ เชื่อมต่อด้วยสาย USB และการทำงานได้โดยไม่ต้องเสียบสาย USB เพราะรุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่ในตัว
รายละเอียด ARTEX เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 30dB
- พัดลมพัดแรง ปรับความแรงลมได้ถึง 2 ระดับ
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์จะอยู่ที่ประมาณ 300CFM
- ไส้กรองคุณภาพสูง (HEPA) สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก
- ปริมาณอากาศเครื่องฟอกอากาศ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
- แบตเตอรี่รีชาร์จได้จะมีความจุ 2000mAh การใช้งานได้ 3-6 ชั่วโมง
- ราคาประมาณ 99 – 395 บาท
7. Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา
ปิดท้ายรีวิว เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ด้วย Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา จากแบรนด์ Electrolux ได้มีการออกแบบมาเพื่อใช้งานในรถยนต์ พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ในระดับสูง สามารถช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในรถยนต์ ด้วยระบบกรอง 4 ขั้นตอน ได้แก่ Pre-Filter, เคลือบสารต้านแบคทีเรีย, ฟิลเตอร์ E11 และ Ionizer ยังมีเทคโนโลยี IonActive ที่สามารถปล่อยไอออนประจุลบ 2 ล้านตัวต่อตร.ซม. ที่ช่วยดักจับฝุ่น แบคทีเรีย และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี เลือกความเร็วพัดลมได้ 3 ระดับ พร้อมส่งเสียงในขณะทำงานสูงสุดเพียงแค่ 43 เดซิเบลเท่านั้น จึงไม่รบกวนในสมาธิในการขับรถยนต์ นอกจากนี้ก็ยังรองรับการหยดน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยลงในช่องเติม เพื่อกระจายความหอมให้ทั่วถึงภายในรถยนต์ จึงเป็นอีกรุ่นที่ต้องนำมารีวิว
รายละเอียด Electrolux EP31-15GYA เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา
- ดีไซน์สวยทันสมัย น้ำหนักเบา กะทัดรัด
- ระดับความดังในการทำงานประมาณ 43dB
- สวิตช์หมุนพร้อมไฟ LED บอกระดับความเร็วพัดลม
- พัดลมจะมีลมแรง สามารถปรับความเร็วพัดลม 3 ระดับ
- ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย 99.9%* และเชื้อไวรัส H1N1 ได้ด้วย
- สร้างอากาศสะอาดปราศจากเชื้อแบคทีเรียด้วย IonActive
- ราคาประมาณ 3,010 บาท
8. SHARP Air Purifier รุ่น IG-NX2B

เครื่องฟอกอากาศ SHARP เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปรับคุณภาพอากาศภายในรถหรือภายในบ้านให้สะอาดสดชื่นขึ้น ด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์(Plasmacluster) เป็นเทคโนโลยีการฟอกอากาศลิขสิทธิ์ของชาร์ปโดยเฉพาะ สามารถกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องฟอกอากาศในรถรุ่นที่อยากแนะนำคือ SHARP Air Purifier เครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ รุ่น IG-NX2B มาพร้อมดีไซน์สวยทันสมัยกับรูปทรงแก้วน้ำ ทำให้ถือสะดวก ใช้งานง่าย นำไปใช้งานในรถได้ตลอดทั้งวัน เพราะมีสาย USB มาให้ พร้อมกับแผ่นกรอง PM 10 ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ระบบเครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้นและพัดลมปรับระดับได้ 3 ระดับ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ขายดีของ SHARP
รายละเอียด SHARP Air Purifier รุ่น IG-NX2B
- ใช้ได้กับรถยนต์ทุกขนาด
- ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ภายในตัวสินค้า
- สะดวก ใช้งานง่ายขึ้น ผ่านสายต่อ USB
- ชนิดของแผ่นกรอง – แผ่นกรองฝุ่น PM 10
- ขนาดเครื่อง 78x162x 55 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 0.295 กิโลกรัม
- มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ สีฟ้า และสีขาว
- ราคาประมาณ 4,090 – 4,190 บาท
9. HAFELE เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์

บ้านใครที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ คนที่เป็นภูมิแพ้ แพ้ฝุ่นแพ้กลิ่น ผู้ป่วยพักฟื้น กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่นไหนดี เราแนะนำ HAFELE เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ แบรนด์ HAFELE ด้วยหลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งโหมดการทำงานแบบปกติ หรือโหมดกลางคืน ที่ทำงานเงียบสนิทและระบบปิดไฟแสดงสถานะในกลางคืน ไม่รบกวนการนอนของเด็ก ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้ยาวนานเสริมสร้างพัฒนาการ ซึ่งเครื่องจะดูดอากาศภายในห้องผ่านไส้กรอง 2 ชั้น คือไส้กรอง HEPA สามารถดักจับอนุภาคสารก่อภูมิแพ้ ช่วยทำให้อากาศภายในรถบริสุทธิ์ ลดฝุ่น และไส้กรองคาร์บอนคุณภาพสูงช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมีระบบ UV-C ช่วยฆ่าแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคที่มาพร้อมผงฝุ่นมาให้อีกด้วย
รายละเอียด HAFELE เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
- ระบบฟอกอากาศที่สามารถสลายกลิ่นได้อย่างล้ำลึก
- แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย
- เทคโนโลยีประจุไอออนลบ เสียงรบกวนต่ำ ช่วยดูดซับ PM2.5
- โหมดอัจฉริยะ ปิดเครื่องอัตโนมัติเองหลังจากทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- ราคาประมาณ 1,890 บาท
10. Philips เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ GP7101

Philips เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ GP7101 จากแบรนด์ Philips ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยกรองฝุ่นอนุภาคละเอียดขนาด PM2.5 ในอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ได้สูงสุดถึง 22.9 ลบ.ม./ชม และสามารถลดฝุ่นละอองเหล่านี้ลงได้อย่างมากในเวลาเพียงแค่ 6 นาที เพื่อให้คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีกรองอากาศ SelectFilter ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ Philips มาพร้อมกับชั้นกรอง HESA ซึ่งช่วยลดการปนเปื้อนของสารเคมีจำพวกก๊าซที่เป็นอันตรายภายในรถยนต์ของคุณ และเทคโนโลยีเครื่องฟอกอากาศในรถก็ยังได้รับการรับรองจาก Airmid ขจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ถึง 90% ใครต้องขับรถยนต์เป็นประจำเราแนะนำให้ซื้อเครื่องฟอกอากาศติดรถไว้เลย เพื่ออากาศที่สะอาดตลอดการเดินทาง
รายละเอียด Philips เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ GP7101
- ระบบกรองแบคทีเรีย/ไวรัส 70 %
- อายุการใช้งานแผ่นกรอง 350 ชม.
- กำจัดก๊าซพิษ เช่น ควันเสียจากรถยนต์ ได้อย่างรวดเร็ว
- กรองอนุภาคละเอียด PM2.5 ที่เป็นอันตรายในเวลาเพียง 6 นาที
- ราคาประมาณ 4,463 บาท
11. Anitech เครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่น SCAP01-WH

ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่นไหนดี ที่สามารถเปลี่ยนอากาศภายในรถยนต์ให้กลับมาสะอาด สดชื่น ราคาย่อมเยา ขอแนะนำ Anitech เครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่น SCAP01-WH ปุ่มกดแบบ Touch screen แบรนด์ Anitech เหมาะสำหรับพื้นที่ ประมาณ 5 ถึง 10 ตารางเมตร จากการทำงานภายในของตัวเครื่องฟอกอากาศนี้จะสามารถถจัดการกับสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของฝุ่น หรือแม้แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างหลากหลาย เช่น กำจัดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ กลิ่นบุหรี่ ฝุ่นละออง รวมถึงกำจัด PM2.5 ด้วยแผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองคาร์บอน และไอออน สามารถปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ หากใครอยากได้เครื่องฟอกอากาศในรถคุณภาพดี ราคาไม่แรง เครื่องฟอกอากาศในรถตัวนี้ตอบโจทย์คุณได้แน่นอน
รายละเอียด Anitech เครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่น SCAP01-WH
- เหมาะกับพื้นที่ขนาด 5 – 10 ตร.ม.
- ปุ่มกดระบบแบบ Touch screen
- ปรับระดับความแรงลมได้ 3 ระดับ
- หัวเสียบแบบ Car Charger และ adaptor
- ราคาประมาณ 465 บาท
12. Xiaomi SmartMi Car Air Purifier

เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ Xiaomi SmartMi Car Air Purifier แบรนด์ Xiaomi เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่ดี เพราะเจ้าเครื่องนี้จะช่วยดูดอากาศที่เป็นมลพิษภายในรถ สามารถกรองอากาศภายในตัวเดียวกัน ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5 ไมครอนได้มากถึง 99.99% ทำให้อากาศสดชื่น ระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว โดยใช้มอเตอร์ DC Brushless ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะดังเพราะรุ่นนี้มีโหมดการทำงานเงียบ เสียงเบาเพียง 55dB(A) ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกะทัดรัด แนะนำรุ่นนี้
รายละเอียด Xiaomi SmartMi Car Air Purifier
- เหมาะกับรถยนต์ที่มีขนาดภายใน 4.2-7.2 ตารางเมตร
- มีระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว
- เครื่องสามารถกรองอากาศเข้าได้ 3 ด้าน และวงจรการไหลเวียนของอากาศจากหลังไปหน้า
- เครื่องฟอกอากาศได้มาตรฐาน สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่าไมครอนได้มากถึง 99.99%
- ราคาประมาณ 799 – 3,990 บาท
13. Levoit Core Mini Air Purifier PM2.5 เครื่องฟอกอากาศ

ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศในรถ รีวิวเยอะ ๆ ต้องนี่เลย Levoit Core Mini Air Purifier PM2.5 เครื่องฟอกอากาศ จากแบรนด์ Levoit เครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ดีไซน์สวยทันสมัย สามารถใช้งานได้ทั้งภายในรถและภายในบ้าน เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดไม่เกิน 17 ตาราเมตร สามารถกรองอากาศได้ 2 รอบ ภายในเวลา 1 ชม. ด้วยระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน Pre-Filter, H13 True HEPA Filter, Activated Carbon Filter ที่สามารถดักจับอนุภาคในอากาศขนาด 0.3 ไมครอนได้อย่างน้อย 97% อีกทั้งยังมีตัวกรอง Activated Carbon Filter สามารถดูดซับกลิ่นทำอาหารและกลิ่นสัตว์เลี้ยง รุ่นนี้สามารถหยดน้ำมันหอมระเหย ลงในแผ่นอโรม่าได้เพื่อช่วยเพิ่มความหอมภายในรถ
รายละเอียด Levoit Core Mini Air Purifier
- เสียงรบกวนที่เบาเพียง 25 – 44 dB
- กะทัดรัด พกพาสะดวก แต่ทรงพลัง
- สามารถดูดซับ กลิ่นทำอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยงได้
- สามารถปรับระดับความแรงของลมได้ 3 ระดับ
- ราคาประมาณ 1,999 บาท
14. Honeywell เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์

มาสร้างอากาศภายในรถให้สะอาดและสดชื่นกันด้วย Honeywell เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ มาพร้อมแผ่นกรองที่มีความละเอียดสูง สามารถกรองอากาศ และดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก็ยังดูดซับกลิ่นควัน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี มีระบบตรวจจับอนุภาคของฝุ่น ด้วยระบบเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ ใช้งานง่าย เพราะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ ขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่เปลื้องพื้นที่ภายใน สามารถวางได้ทุกตำแหน่งภายในรถ ถ้าใครอยากได้ตัวช่วยที่ดีในการกรองอากาศและกลิ่นต่าง ๆ เครื่องฟอกอากาศในรถ Honeywell เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
รายละเอียด Honeywell เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
- ภายใต้มาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา
- กรองฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ถึงเล็กกว่า PM0.3
- ปลอดภัยกับสุขภาพ ไม่มีแสงรังสี, ไม่มีประจุไฟฟ้า, ไม่มีสารเคมี
- ฟอกอากาศด้วยแผ่นกรอง 2 ขั้นตอน Activated Carbon + HEPA
- ได้รับการรับรองจากผู้เชียวชาญด้านภูมิแพ้ และระบบทางเดินหายใจจากสถาบัน ECARF
- ราคาประมาณ 4,970 บาท
15. YAMADA เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กรองฝุ่น รุ่น C1 HEPA

มารีวิวกันต่อกับ YAMADA เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กรองฝุ่น รุ่น C1 HEPA แบรนด์ YAMADA เครื่องฟอกอากาศที่สามารถใช้ได้ทั้งในรถและในห้อง เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดไม่เกิน 10 ตารางเมตร โดยหลักการทำงานเครื่องฟอกอากาศตัวนี้จะปล่อยไอออนประจุลบ มีแผ่นกรอง HEPA พร้อมกับไส้กรองคาร์บอนที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นบุหรี่ และกลิ่นอับ และส่วนช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99% สร้างอากาศบริสุทธิ์ภายในรถได้ดี การทำงานเสียงเบา ไม่รบกวน ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่มเดียว ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ภายในรถของคุณ
รายละเอียด YAMADA เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กรองฝุ่น รุ่น C1 HEPA
- มีไฟ LED ปรับสลับได้ถึง 7 สี
- ทำงานเบา ไม่มีเสียงรบกวน ใช้งานง่ายแค่กดปุ่มเดียว
- ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ สลายฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
- ปล่อยไอออนประจุลบเพื่อจับอนุภาคที่ปนเปื้อนในอากาศให้ตกสู่พื้น
- มีแผ่นกรอง HEPA สำหรับกรองสารก่อภูมิแพ้ เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
- ราคาประมาณ 890 บาท
16. Panasonic เครื่องฟอกอากาศ รุ่น F-GPT01AKT nanoe X

Panasonic เครื่องฟอกอากาศ รุ่น F-GPT01AKT nanoe X จากแบรนด์ Panasonic เครื่องฟอกอากาศในรถขนาดพกพา ดีไซน์สวย ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานในรถยนต์ โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า หรือห้องที่มีขนาดเล็ก จุดเด่นของเจ้าเครื่องนี้การฟอกอากาศด้วย nanoe™ X ซึ่งเป็นอนุภาคน้ำขนาดเล็ก (5 ถึง 20nm) ที่มีอนุมูลไฮดรอกซิลจำนวนมาก โดยจะปล่อยอนุภาคน้ำ เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสและแบคทีเรียลดกลิ่นไม่พึงประสงค์คงความชุ่มชื้นให้ผิวและเส้นผม และก็ยังสามารถยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อราสารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ และสารอันตราย รวมถึงการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย การใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ติดตั้งได้ทุกที่ พกพาสะดวกน้ำหนักเบาเพียง 0.4 กก.
รายละเอียด Panasonic เครื่องฟอกอากาศ รุ่น F-GPT01AKT nanoe X
- สามารถติดตั้งได้ทุกที่
- เหมาะสำหรับพื้นที่ 3 ตร.ม
- ยับยั้งไวรัสและแบคทีเรียได้ 99.9%
- สามารถใช้ได้กับพอร์ตชาร์จ USB แล็ปท็อป
- ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นควันได้ภายใน 1 ชั่วโมง
- ราคาประมาณ 3,990 บาท
17. BLAUPUNKT เครื่องฟอกอากาศ

รีวิว เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ตัวสุดท้ายกับ BLAUPUNKT เครื่องฟอกอากาศ Air pure AP2.0 จากแบรนด์ BLAUPUNKT ตัวช่วยในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ภายในรถ ด้วยระบบกรองอากาศ 3 ชั้น สามารถฟอกและขจัดอนุภาคอันตรายในอากาศได้ถึง 99% โดยสามารถกำจัดอนุภาคอันตรายหลายชนิดที่มีอยู่ในอากาศได้ ด้วยการควบคุมแบบสัมผัส ช่วยให้อากาศภายในรถสะอาดและปลอดภัยจากการสูดควันที่อันตราย ฝุ่น และสิ่งสกปรก ใช้งานง่าย เพียงแค่เสียบสาย USB แล้วปล่อยให้ AirPure ทำหน้าที่ในการฟอกอากาศ เพียงแค่นี้คุณก็จะได้อากาศบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หอบหืดและแม้แต่เด็กเล็ก และในช่วงฤดูหมอกหรือช่วงนี้ที่มีฝุ่น PM 2.5 หนัก ๆ อุปกรณ์นี้เป็นสิ่งจำเป็นในรถยนต์
รายละเอียด BLAUPUNKT เครื่องฟอกอากาศ
- ระบบการกรอง 3 ชั้น Airpure สามารถทำความสะอาดอากาศได้ถึง 99%
- กำจัดอนุภาคอันตรายหลายชนิดที่มีอยู่ในอากาศได้ ด้วยการควบคุมแบบสัมผัส
- Pre Filter กำจัดอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น เส้นผม ขนของสัตว์เลี้ยง ฝุ่น และสิ่งสกปรก
- HEPA Filter กำจัดอนุภาคละเอียดที่มีขนาดเล็ก เช่น สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ไวรัส แบคทีเรีย เกสรดอกไม้ และควันอันตราย
- Carbon Filter กำจัดมลพิษทางอากาศ ก๊าซอันตราย สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ที่มีอยู่ในรถ
- ราคาประมาณ 3,670 บาท
จบลงสำหรับการแนะนำ 17 เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยกรองอากาศให้สะอาด สดชื่น ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกความต้องการ ซึ่งเครื่องฟอกอากาศในรถแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่น คุณสมบัติ ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น และราคาแตกต่างกันไป มีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป นอกจากจะมีอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว เพิ่มความหอมด้วยน้ำหอมรถยนต์ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในรถให้หอมสดชื่นมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าเลือกสินค้าทางออนไลน์บน Shopee แหล่งรวมสินค้ามากมาย ทุกประเภท ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ มีโปรโมชั่นสุดพิเศษและโค้ดส่วนลดมากมาย พร้อมด้วยบทความสาระน่ารู้มากมาย อย่างเช่น น้ำหอมติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือกล่องเก็บของในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือเครื่องดูดฝุ่นในรถ ยี่ห้อไหนดี หรือบทความอื่น ๆ เข้ามาติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog อัปเดตทุกเรื่องราวน่ารู้ไว้ที่นี่!