แบดมินตัน หนึ่งในกีฬายอดนิยมที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย และไม่ได้จำกัดว่าต้องแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นกิจกรรมที่สามารถเล่นเพื่อสุขภาพ จุดเด่นของการเล่นแบดมินตัน ต้องอาศัยทั้งแรง ไหวพริบ หรือแม้แต่เทคนิคเฉพาะตัว ซึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ไม้แบดมินตัน” ที่ไม่ได้มีไว้แค่ตีลูกให้ข้ามตาข่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นอาวุธที่ช่วยเสริมศักยภาพของผู้เล่นให้ก้าวไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลของตัวไม้ น้ำหนัก หรือความยืดหยุ่นของก้าน ล้วนส่งผลต่อจังหวะ และแรงของทุกกการตี หากคุณเป็นคนที่หลงใหลกีฬาแบดมินตัน หรือกำลังจะเข้าสู่วงการแบดมินตัน วันนี้ Shopee Blog จะพาคุณไปรู้จักกับไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้การตีแบดของคุณเป็นเลิศ! พร้อมวิธีเลือกไม้แบดที่จะช่วยให้คุณเลือกไม้คู่ใจได้อย่างมั่นใ และเหมาะกับสไตล์การเล่นของคุณที่สุด
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ตารางเปรียบเทียบ 10 ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ พร้อมลุยทุกสนาม!
แบรนด์ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี | ชื่อรุ่น | คุณสมบัติ | น้ำหนัก | ราคา |
---|---|---|---|---|
Grand sport | GS Black Magic | เน้นตีสนุก ควบคุมลูกได้ดี ไม้เบา เคลื่อนไหวง่าย | ประมาณ 90-100 กรัม | 295 บาท |
ALP | Cherry TX 4U T600 | ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับมือใหม่และผู้เล่นที่เน้นการตีเพื่อสุขภาพ | 4U (80-85 กรัม) | 443 บาท |
Victor | ARS-9 | เน้นการตีลูกเร็วและเบาแรง น้ำหนักเบา ก้านไม้ยืดหยุ่นดี | 3U( 88 กรัม)4U (83 กรัม) | 1,260 บาท |
FELET | CHUCKER 700 | น้ำหนักพอดี ก้านไม้มั่นคง ตีสนุกทั้งเกมบุกและรับ | 4U (82±3 กรัม) | 1,380 บาท |
Victor | DX-1 L | น้ำหนักเบามาก ก้านปานกลาง ตีลูกง่ายไม่เปลืองแรง | 5U (79 กรัม)6U (74 กรัม) | 1,462 บาท |
Yonex | Astrox 99 PLAY | พลังการตบที่หนักแน่น หัวไม้บาลานซ์กำลังดี | 4U (83 กรัม) | 1,870 บาท |
Yonex | Nanoflare 700 PLAY | โดดเด่นเรื่องความเร็ว น้ำหนักหัวเบา ตีลูกเร็ว ตอบสนองไว | 4U (83 กรัม) | 2,090 บาท |
VS | Assassin47 | ตอบโจทย์สายสปีด น้ำหนักบาลานซ์ ก้านไม้มีความยืดหยุ่นดี | 4U (82±2 กรัม) | 2,303 บาท |
Li-Ning | AXFORCE CANNON | ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักพอดีมือ ตบหนักหน่วง และแม่นยำ | 4U ( 80-84 กรัม), 5U (75-79 กรัม) 6U (70-74 กรัม) | 2,330 บาท |
Kawasaki | NEZHA 35 | สายตบโดยเฉพาะ หัวไม้หนักให้แรงส่งดี ตีลูกแรง | 5U (77±2 กรัม) | 2,400 บาท |
พบกับ 10 ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี ที่คัดสรรมาแล้วว่าตอบโจทย์ทุกสไตล์การเล่น
สำหรับผู้ที่รักในกีฬาแบดมินตัน วิธีเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่น ที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือในระดับมือโปร ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม้แบดที่ดีจะช่วยเสริมศักยภาพ และทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับการตีแบดยิ่งขึ้น เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะเรากำลังวันนี้เราจะพาคุณไปพบกับ 10 ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี ที่คัดสรรมาแล้วว่าตอบโจทย์ทุกสไตล์การเล่น ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง!
1. Grand sport รุ่น GS Black Magic
ไม้แบดมินตัน Grand Sport รุ่น GS Black Magic เป็นไม้แบดที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหัดเล่นแบดมินตัน หรือผู้ที่ต้องการไม้สำหรับออกกำลังกายฟิลเบา ๆ ด้วยโครงสร้างเฟรมและก้านที่ผลิตจากเหล็ก ทำให้มีความทนทานต่อการใช้งานในเบื้องต้น สามารถใช้งานได้ในระยะยาว สำหรับการฝึกหัดวงสวิง เป็นไม้แบดที่มีน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการฝึกหัดวงสวิง มาพร้อมกับสายเอ็นที่ขึ้นมาพร้อมใช้งาน ทำให้สามารถเริ่มตีลูกได้อย่างง่ายดาย และด้วยราคาย่อมเยา ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการแนะนำไม้แบด มือใหม่ที่ควรมี
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Steel Frame
- ส่วนประกอบก้าน : Steel Shaft Full cover
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : น้ำหนักมาตรฐานสำหรับไม้เริ่มต้น
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : เอ็นมาตรฐานจากโรงงาน
- จุดสมดุล : สมดุล
- ราคา : 295 บาท
2. ALP Cherry TX 4U T600
ไม้แบดมินตัน ALP Cherry TX 4U T600 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในกลุ่มราคาย่อมเยา แต่ให้ฟีลลิ่งการตีที่เกินราคา เป็นไม้แบดมินตันที่มีความสมดุลระหว่างความเบา และความคล่องตัว จุดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์ที่ดูพรีเมียม บอดี้เพรียวบาง ด้วยเฟรม และก้านที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง ทำให้ไม้มีน้ำหนักเบาเพียง 4U ทำให้ควบคุมไม้ได้ง่าย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว โดยเฉพาะเกมรับ หรือการตีลูกต่อเนื่องหลายจังหวะ ที่สำคัญก้านไม้ยังมีความยืดหยุ่นกำลังดี ตอบสนองต่อแรงตีของผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ใครที่กำลังมองหาไม้แบดยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง ราคาสบายกระเป๋า ALP Cherry TX 4U T600 ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : T800 100% Full Carbon Fiber
- ส่วนประกอบก้าน : High Modulus Graphite
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (Ave. 80-85g) G5
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 22-28 lbs (ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน)
- จุดสมดุล : 295 ± 5 mm
- ราคา : 443 บาท
3. Victor รุ่น ARS-9
มาต่อกันที่ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีกับ Victor รุ่น ARS-9 ประเภท Speed ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้เล่นที่ต้องการความรวดเร็วในการสวิง และการรับที่ฉับไวบนคอร์ท ด้วยเฟรม Graphite ผสาน Resin และก้าน Graphite ผสาน Nano Resin พร้อมขนาด 6.8 SHAFT ทำให้ไม้มีความยืดหยุ่นในระดับปานกลาง มีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถควบคุมไม้ได้อย่างคล่องตัว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่เน้นเกมรับที่เหนียวแน่น การเล่นลูกหน้าเน็ตที่เฉียบคม และการโจมตีที่ต้องการความไว
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Graphite + Resin
- ส่วนประกอบก้าน : Graphite + Resin + 6.8 SHAFT
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 3U (Ave. 88g) G5, 4U (Ave. 83g) G5
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 3U: ≤ 26 lbs, 4U: ≤ 24 lbs
- จุดสมดุล : Head Light
- ราคา : 1,260 บาท
4. FELET รุ่น CHUCKER 700
มาถึงที่ตัวสุดท้ายกับไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีจากแบรนด์ FELET รุ่น CHUCKER 700 ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความเร็วในการตี ด้วยการออกแบบที่บาลานซ์ดีระหว่างการเล่นทั้งเกมรุก และรับอย่างลงตัว FELET รุ่น CHUCKER 700 จึงเหมาะกับผู้เล่นสายบุกที่ต้องการไม้แบดที่สามารถตอบสนองต่อจังหวะการตีที่รวดเร็ว รวมถึงให้ฟีลสัมผัสแน่น กระชับ และมั่นคงในทุกลูกเสิร์ฟ ตัวไม้มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา ช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เหมาะกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Carbon Graphite
- ส่วนประกอบก้าน : Carbon Graphite
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (Ave. 82±3g) G5
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : ≤ 30 lbs
- จุดสมดุล : 290 ± 5 mm
- ราคา : 1,380 บาท
5. Victor รุ่น DX-1 L
ไม้แบดมินตัน Victor รุ่น DX-1 L เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้เล่นที่มองหาไม้ที่เน้นความแข็งแรง ทนทาน และให้พลังในการตีที่หนักแน่น รุ่นนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่ตอบสนองเร็วในเกมรุกและมีการถ่ายแรงอย่างมีประสิทธิภาพ เฟรมที่แข็งแรงและน้ำหนักสมดุล ทำให้สามารถคุมจังหวะลูกได้ดี โดยเฉพาะในการตีลูกหยอด ลูกตบ และการเล่นเกมเร็ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมก้านไม้ที่มีความแข็งปานกลาง ช่วยให้ควบคุมลูกได้มั่นใจมากขึ้น Victor รุ่น DX-1 L มาพร้อมกับเทคโนโลยี AERO-HEX ที่ทำให้ควบคุมทางไหลเวียนและการตัดอากาษ ช่วยให้เกิดการเสถียร และ SEVEN-SIX 76ที่ช่วยลดการสูญเสียความตึงของเอ็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าจะถามว่าซื้อไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี Victor รุ่น DX-1 L ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Graphite + Resin
- ส่วนประกอบก้าน : Graphite + Resin + 7.0 SHAFT
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 5U (Ave. 79g) G5, 6U (Ave. 74g) G5/G6
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 5U: ≤ 24 lbs, 6U: ≤ 23 lbs
- จุดสมดุล : Even Balance
- ราคา : 1,462 บาท
6. Yonex Astrox 99 PLAY
Yonex Astrox 99 PLAY เป็นไม้แบดมินตันที่ออกแบบมาเพื่อผู้เล่นที่ต้องเน้นพลังในการตี ที่ควบคุมเกมได้อย่างแม่นยำ ผู้เล่นระดับเริ่มต้น ไปจนถึงระดับกลาง ด้วยโครงสร้าง Graphite ทั้งเฟรมและก้าน ทำให้มีความทนทาน ช่วยส่งแรงได้ดี ก้านไม้มีความยืดหยุ่นระดับกลาง มีจุดสมดุลค่อนไปทางหัวไม้ เล็กน้อย ซึ่งช่วยให้สร้างพลังในการตีลูกได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยี ISOMETRIC ช่วยขยายพื้นที่ Sweet Spot ทำให้ตีลูกเข้าเป้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการพัฒนาเกมบุก และสัมผัสพลังของซีรีส์ Astrox ในราคาที่เข้าถึงได้
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Graphite
- ส่วนประกอบก้าน : Graphite
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (Ave. 83g) G5
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 4U : 20 – 28 lbs
- จุดสมดุล : Head Heavy
- ราคา : 1,870 บาท
7. Yonex Nanoflare 700 PLAY
Yonex Nanoflare 700 PLAY ออกแบบมาเพื่อผู้เล่นระดับเริ่มต้น โดยเน้นความง่ายในการใช้งานและความคล่องแคล่วในการตีลูก ด้วยเฟรม Graphite และก้าน Graphite ที่มีความยืดหยุ่นสูง (Hi-Flex) ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างแรงตีได้ง่ายขึ้นแม้จะยังไม่มีทักษะมากนัก น้ำหนักประมาณ 83 กรัม (4U) ทำให้ควบคุมไม้ได้สะดวก พร้อมด้วยเทคโนโลยี ISOMETRIC ที่ขยาย Sweet Spot เพิ่มโอกาสในการตีลูกเข้าจุดกลางหน้าไม้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะ และสนุกไปกับการเล่นแบดมินตัน
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : Graphite
- ส่วนประกอบก้าน : Graphite
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (Ave. 83g) G5
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ 4U : 20 – 28 lbs
- จุดสมดุล : Head Light
- ราคา : 2,090 บาท
8. VS รุ่น Assassin47
ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดี กับแบรนด์ที่น่าสนใจอย่าง VS รุ่น Assassin47 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นทั้งเกมรุก และเกมรับได้อย่างลงตัว ผสานกับเทคโนโลยีเฉพาะของ VS ทำให้ไม้มีน้ำหนักที่เหมาะสม ให้ความคล่องแคล่วในการควบคุมที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการตีลูกที่เร็วหรือแรงก็สามารถตอบสนองได้ดี ก้านไม้ที่มีความยืดหยุ่นในระดับปานกลาง ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างพลังในการตีลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังคงความแม่นยำในการวางลูก VS รุ่น Assassin47 เป็นไม้แบดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไม้ที่สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นได้อย่างหลากหลาย
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : 30T MITSUBISHI CARBON SHEET
- ส่วนประกอบก้าน : 30T MITSUBISHI CARBON SHEET
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (82±2g)
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 22 – 30 lbs
- จุดสมดุล : 295+-3 mm
- ราคา : 2,303 บาท
9. Li-Ning AXFORCE CANNON
ไม้แบดมินตัน Li-Ning AXFORCE CANNON คืออีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมในตระกูล AXFORCE ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักแบดมินตันสายบุกอย่างแท้จริง ด้วยน้ำหนักหัวไม้ที่หนักเล็กน้อย ทำให้สามารถสร้างแรงส่ง และแรงตบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวไม้ผลิตจากวัสดุ High Carbon ช่วยเสริมความทนทาน ความมั่นคงของไม้ ลดแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความมั่นใจในการตีทุกลูก และด้วยการออกแบบเฟรม Dynamic Optimum Frame ที่ขยายพื้นที่ Sweet Spot ให้กว้างขึ้น ผสานกับก้าน High Tensile Slim Shaft ขนาด 6.8 mm ที่ให้ความแข็งแกร่ง การคืนตัวที่รวดเร็ว ทำให้ทุกการตบลูกเต็มไปด้วยพลัง และความแม่นยำ ถือเป็นตัวเลือกไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักแบดทั้งหลาย
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : High Carbon
- ส่วนประกอบก้าน : High Carbon + High Tensile Slim Shaft (6.8 mm)
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 4U (Ave. 80-84g) G5, 5U (Ave. 75-79g) G6, 6U (Ave. 70-74g) G6 (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : ≤ 27-32 lbs (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักไม้)
- จุดสมดุล : Head Heavy
- ราคา : 2,330 บาท
10. Kawasaki NEZHA 35
ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีจาก Kawasaki รุ่น NEZHA 35 ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความรวดเร็วในการสวิงและการโจมตีที่ทรงพลัง ด้วยวัสดุกราไฟท์ High Modulus 40T ที่เฟรมและก้าน ผสานกับเทคโนโลยีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ไม้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ลดแรงต้านอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้สามารถเคลื่อนไหวไม้ได้อย่างรวดเร็วและสร้างพลังในการตีลูกได้อย่างน่าทึ่ง เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางถึงระดับโปรที่เน้นเกมบุก ต้องการความไวในการโจมตี
รายละเอียด :
- ส่วนประกอบเฟรม : 40T High Modulus Graphite
- ส่วนประกอบก้าน : 40T + 30T High Modulus Graphite
- น้ำหนัก และขนาดด้าม : 5U (Ave. 77±2g) G1
- ความตึงของเอ็นที่รองรับ : 18-35 lbs
- จุดสมดุล : Head Heavy
- ราคา : 2,400 บาท
ทริคง่าย ๆ กับ 5 วิธีเลือกไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีที่ใช่สำหรับคุณ

1. เลือกตามระดับผู้เล่น
- มือใหม่ ควรเลือกไม้ที่น้ำหนักเบา ควบคุมง่าย เช่น ไม้ 4U–5U เพื่อให้เคลื่อนไหวสะดวก ไม่เมื่อยแขน
- ระดับกลาง – มือโปร เลือกไม้ตามสไตล์การเล่น เช่น บุกหรือรับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน
2. ดูน้ำหนักของไม้
- 2U = หนัก (ประมาณ 90–94 กรัม)
- 3U = ปานกลาง (85–89 กรัม)
- 4U = เบา (80–84 กรัม)
- 5U = เบามาก (ต่ำกว่า 80 กรัม)
ไม้แบดมินตันยิ่งเบา ยิ่งเหมาะกับการตีลูกเร็ว ยิ่งหนักจะให้พลังในการตบลูกได้แรง
3. เลือกความสมดุล
- หัวหนัก (Head Heavy) : เหมาะกับผู้เล่นสายบุก เน้นพลังตบ
- ก้านกลาง สมดุล (Even Balance) : เหมาะสำหรับผู้เล่นสายผสม ทั้งบุกและตั้งรับ
- ด้ามหนัก (Head Light) : เหมาะกับผู้เล่นสายรับ เน้นการควบคุม
4. พิจารณาความยืดหยุ่นของก้านไม้
- ก้านอ่อน : ช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้ที่กำลังแขนยังไม่แข็งแรง
- ก้านแข็ง : เหมาะสำหรับคนที่ตีแรง มีเทคนิคดี ควบคุมลูกแม่นยำ
5. เลือกขนาดกริป ให้พอดีมือ
- ขนาด G4, G5, G6 คือตัวเลขที่ใช้บ่งบอกขนาดของด้ามจับ เลือกให้พอดีมือ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป จะช่วยให้ควบคุมไม้ได้ดีขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อไหนดีเราเอามาให้ดูกัน หวังว่าจะพอเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ เลือกไม้ที่เข้ามือ เข้าสไตล์การเล่นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ หรือมือโปรสายตบ ก็สามารถเอาข้อมูลนี้ไปเป็นไกด์ไลน์ดู เผื่อจะเจอไม้ที่ใช่ ที่ตีแล้วปัง ปัง ปัง! อีกทั้งเพื่อน ๆ สามารถช้อปไม้แบดมินตัน ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ บน Shopee และสำหรับใครที่ไม่มีเวลาออกไปตีแบด หรือไม่สะดวกไปออกกำลังกายข้างนอกบ้าน มีไอเดีย ออกกำลังกายที่บ้านง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกาย 9 แบบ ที่ช่วยฟิตหุ่นสวย ไม่ต้องง้อฟิตเนส หรือ 7 ท่าออกกำลังกาย ทำได้ง่าย ๆ แม้ขณะนั่ง เพื่อน ๆ สามารถตามไปอ่านต่อกันได้เลยที่ Shopee Blog รับรองว่าได้ทั้งสุขภาพดี หุ่นเฟิร์ม แถมประหยัดเวลาอีกด้วย ไปดูกันเลย!