หน้าร้อน หน้าฝน อากาศชื้นๆแบบนี้ปัญหากวนใจผิวหน้าสาวๆคงหนีไม่พ้นเจ้าสิวผดอย่างแน่นอน ตอนเช้าจะค่อนข้างเรียบเนียนแต่พอตกบ่ายหรือหลังล้างหน้าจะมีอาการหน้าเห่อแดง และมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเจ้าสิวตัวนี้ พร้อมทั้งหาทางออก เพื่อป้องกันให้สิวผดที่แก้มไม่กลับมากวนใจอีก
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สิวผดคืออะไร?
สิวผด เป็นสิวประเภทหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อย มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นเม็ดเล็กๆ นูนๆ กระจายทั่วใบหน้า โดยเฉพาะสิวผดที่แก้ม หน้าผาก ไรผม และขมับ เวลาสัมผัสจะรู้สึกไม่เรียบ แข็งเหมือนเม็ดทราย โดยทั่วไป สิวผดจะมีขนาดเท่าๆกัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร บางคนอาจมีอาการแสบและคันร่วมด้วย
ผดขึ้นแก้มมักเห่อขึ้นในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนชื้น หรือช่วงที่ต้องทำกิจกรรมหนักๆ เช่น ออกกำลังกาย โดยจะเห็นเป็นผื่นสีแดงขึ้นอย่างชัดเจน และหากสิวผดสัมผัสเข้ากับมือของเราที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ก็จะเป็นการกระตุ้นให้สิวผดพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มแดงและอาจมีตุ่มหนองร่วมด้วยได้
สิวผดที่แก้มเกิดจากอะไร?
สาเหตุของสิวผดที่แก้มเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
1. เกิดจากแสงแดด และสภาวะอากาศที่ร้อนและอับชื้น เพราะแสงแดดและความร้อนส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานหนัก และต่อมเหงื่ออุดตัน จนทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เหมือนเป็นผด และด้วยเหตุนี้นี่เอง สิวผดจึงมักหายตัวไปในช่วงเช้าที่มีอากาศเย็น และกลับมาเห่ออีกครั้งในช่วงบ่ายๆที่อากาศร้อน ประกอบกับสภาพอากาศในบ้านเราที่ร้อนกันทุกฤดูและแทบทุกวัน จึงทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงสิวผดขึ้นแก้ม และส่วนอื่นบนใบหน้าได้ยาก
2. เกิดจากการที่รูขุมขนอักเสบจากเชื้อราประเภทยีสต์ (Malassezia folliculitis หรือเดิมเรียกว่า Pityrosporum folliculitis) โดยทั่วไป เชื้อนี้สามารถพบได้เป็นปกติบนผิวหนังของทุกคน แต่หากต่อมไขมันทำงานมากผิดปกติ จะทำให้มีน้ำมันส่วนเกินที่กลายเป็นอาหารของยีสต์ชนิดนี้ ทำให้เชื้อเกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดสิวผดที่แก้ม และส่วนอื่นๆได้
3. ผดขึ้นแก้มอาจเกิดจากอาการแพ้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น แพ้เหงื่อ แพ้น้ำ แพ้ฝุ่น แพ้อากาศร้อนหรือเย็นจัด
4. สิวผดตรงแก้มอาจเกิดจากการระคายเคืองบนผิวหนัง เช่น การแพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สัมผัสกับผิวหนัง เช่น โฟมล้างหน้า แชมพู ครีมนวด
5. เกิดจากมลภาวะต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมทั้งทางน้ำและทางอากาศ
6.ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ฟองมากจนเกินไป หรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราก็อาจจะทำให้สิวผดขึ้นแก้มได้
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดสิวผด
1. ผู้ที่มีผิวมัน เหงื่อออกง่าย
2. การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น คนที่มีผิวหน้าแห้ง แต่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้ามัน ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งมากขึ้น เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดสิวผดข้างแก้มและส่วนอื่นๆได้
3. การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
4. ความเครียด
5. ฮอร์โมนเปลี่ยน เช่น ช่วงที่มีประจำเดือน หรือระหว่างการใช้ยาคุมกำเนิด
6. การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือการเช็ดถูหน้าแรงๆ
7. การใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเป็นประจำ ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง
8. การใช้อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
9. การล้างหน้าไม่สะอาด รวมถึงเช็ดเครื่องสำอางออกไม่หมด
10. การสครับผิวหรือขัดผิวแรงๆ และบ่อยเกินไป จนกลายเป็นการรบกวนผิวหน้า ทำให้ผิวระคายเคืองตามมาจนเกิดสิวผดข้างแก้มได้
11. การใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดต่อกันเป็นเวลานาน
12. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์
วิธีรักษาสิวผด
วิธีรักษาสิวผด มีหลายวิธีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดสิวผด ได้แก่
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง
โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะเกา ไม่เอามือลูบใบหน้า เช็ดถูใบหน้าบ่อยๆ เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียและสิ่งสกปรก การเอามือลูบหน้าตัวเองระหว่างวันทำให้สิ่งสกปรกตกค้างและก่อให้เกิดสิวได้ ยิ่งทำให้สิวเห่อหนักขึ้น ควรอดใจไม่แคะ แกะ เกา หรือลูบสิวบนใบหน้าจะดีกว่า นอกจากจะทำให้เกิดสิวแล้วยังทำให้หน้ามันยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะใบหน้าของเรานั้นมีต่อมเหงื่อ เมื่อมีสิ่งรบกวนจะเป็นการไปกระตุ้นต่อมเหงื่อให้หน้ามันมากกว่าเดิม
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า
หลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ก็ช่วยลดสิวผดตรงแก้ม และส่วนอื่นๆของใบหน้าได้แล้ว
3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า
หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด และล้างหน้าให้สะอาด รวมถึงหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแต่งหน้าเป็นประจำ
4. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี
ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และหลังจากออกกำลังกาย เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และความมันบนใบหน้า เพราะสิวผดเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด แต่ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไปเพราะจะทำให้หน้ายิ่งแห้ง และกระตุ้นสิวผดให้ขึ้นมาอีก หากแต่งหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด ไม่ควรใช้คลีนซิ่งที่จะทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน วิธีล้างหน้าให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยต้องล้างแบบแนวตามขน เพื่อทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างสะอาดและล้ำลึกกว่าที่เคย เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวผดที่ทำได้ง่ายๆ
5. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด
เพราะอากาศที่ร้อนจัดก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นได้ หากจะต้องออกไปตากแดด ควรกางร่มหรือสวมหมวก และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี UV
6. มาสก์หน้าด้วยวิธีธรรมชาติ
สิ่งที่มาจากจากธรรมชาติมักดีเสมอ วิธีแก้สิวผดการมาสก์หน้าเพื่อรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิวให้ลดลงจากวัตถุดิบตามธรรมชาติจะช่วยปลอบประโลมผิวให้ดียิ่งขึ้น และเราก็ไม่พลาดที่จะนำสูตรมาสก์หน้ารักษาสิวมาฝากกัน
- ไข่ขาว ช่วยทำความสะอาดผิวให้สะอาดล้ำลึกถึงรูขุมขน อีกทั้งยังลอกสิวเสี้ยนได้ด้วย
- น้ำผึ้ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดสิวได้
- มะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีและวิตามินเอ จะช่วยรักษาสิวผดได้เป็นอย่างดี
- แตงกวา ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ลดความมัน แถมยังช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใสอีกด้วย
7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
วิธีนี้จะช่วยรักษาสิวผดได้อย่างปลอดภัย และยังเป็นการป้องกันการเกิดสิวผดอย่างถาวรได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการรักษาสิวผดตั้งแต่สาเหตุและรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี
8.เลือกใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์เรตินอยด์ (Retinoids)
เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) จะช่วยให้สิวผด สิวอุดตันผุดขึ้นมา เช่นการใช้ Differin ช่วงแรกอาจจะต้องทนกับความหน้าสิวหน่อย อาจจะใช้ Clinda M เป็นยารักษาสิวควบคู่กันไป โดยการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ควรทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว 1 ครั้งต่อวัน ควรทาก่อนนอน หากทาตอนกลางวันอาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้ ที่สำคัญห้ามลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดดด้วยล่ะ
เพียงเพื่อนๆทำตามวิธีที่เราแนะนำไปนั้นรับรองว่าหน้าจะใสไร้สิวผดที่แก้มมากวนใจอย่างแน่นอน แต่การรักษาก็ต้องใช้เวลา ขอเพียงแค่ห้ามเครียด ทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ร่วมด้วยเพียงเท่านี้ผิวสวยก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว