ปัจจุบันวิชาการเรียนการสอนมีเนื้อหาหลักสูตรที่มีความเข้มข้น ซับซ้อน และยากมากขึ้น รวมไปถึงการแข่งขันก็สูงขึ้นตามมาเช่นกัน การเรียนหนังสือบางวิชาในโรงเรียนอาจจะยังไม่เพียงพอ นักเรียนส่วนใหญ่ก็ต่างหันมาให้ความสนใจกับการเรียนพิเศษตามสถาบันกวดวิชา ซึ่งผู้เรียนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทางสถาบันกวดวิชาเป็นส่วนที่ช่วยเน้นความรู้ละเอียดของวิชานั้น ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ผู้เรียนมักเรียนไปเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำข้อสอบเพื่อที่จะศึกษาต่อในอนาคตข้างหน้า วันนี้เราได้รวบรวม 10 สถาบันติวเตอร์ เรียนพิเศษ ที่ไหนดี มาให้ทุกคนได้ดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
พิกัด 10 สถาบันติวเตอร์เรียนพิเศษ ที่ไหนดี
1. We By The Brain
We By The Brain สถาบันกวดวิชาที่ดีที่สุด ขึ้นชื่อเป็นอันดับหนึ่งที่เน้นในเรื่องของวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ที่ได้รับการันตีจนเกิดความไว้วางใจจากนักเรียนทั่วประเทศ ที่มีมากถึง 52 สาขา และยังมีทีมติวเตอร์ที่มีชื่อเสียง และจุดเด่นของ We by The Brain จะเด่นในเรื่องของการสอนของติวเตอร์ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ และเทคนิคต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง รวมถึงระบบการสอนที่มีความทันสมัย สำหรับใครที่กำลังมองหาเรียนพิเศษ ที่ไหนดี ลองมาที่ We By The Brain สามารถเรียนฟรีก่อนสมัครได้ทุกสาขาได้ถึง 20 ชั่วโมง คอร์สจะมีตั้งแต่ม.ต้นไปจนถึงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยล่ะ
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.webythebrain.com/
เบอร์โทร : 02-952-6767
2. Enconcept E-Academy
มาถึงสถาบันติวเตอร์อย่าง Enconcept E – Academy โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษ อันดับหนึ่งเป็นที่นิยมของนักเรียนไทยมากว่า 27 ปี ที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของการสอนแบบ Memolody เรียนรู้โดยบทเพลงที่ประยุกต์ให้เข้ากับเนื้อหาและวิชา ช่วยเพิ่มทักษะในเรื่องของการจำ ถือว่าได้รับความสนใจจากนักเรียนเป็นอย่างดี ทาง Enconcept ไม่เพียงแต่สอนวิชาการ แต่ยังสอดแทรกกิจกรรมต่าง ๆ แนะแนวการศึกษา รวมไปถึงการเสริมสร้างกำลังใจให้กับนักเรียนอีกด้วย
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://enconcept.com/
เบอร์โทร : 02-736-3636
3. On Demand
อีกหนึ่งสถาบันกวดวิชาที่ไม่ว่าใครถามเรียนพิเศษ วิชาวิทย์ – คณิตที่ไหนดี ก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า On Demand สิ ที่มีระบบการเรียนแบบใหม่ ถือเป็นผู้นำพัฒนาระบบการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แถมยังมีทริค และเทคนิคต่าง ๆ ให้กับผู้เรียนได้นำไปปรับใช้ได้ในห้องเรียนและห้องสอบ สมัครครั้งเดียว แต่สามารถเรียนได้ทุกสาขา
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.ondemand.in.th/
เบอร์โทร : 0–2251–9456
4. APU SCHOOL
APU SCHOOL หรือโรงเรียนกวดวิชา อ.ปุ๊ เลขโอลิมปิค ทางสถาบันจะเน้นในเรื่องของการทำโจทย์ซะส่วนใหญ่ที่ครอบคุลมพื้นฐานไปจนถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัย และมีการสอบวัดผลถือเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองได้ดีขึ้น ซึ่งผู้เรียนสามารถที่จะเรียนออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ หรือช่องทางดิจิตัลอื่น ๆ พร้อมทั้งยังมีผู้คอยตอบปัญหาในการเรียน
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://web.apu-school.com/home
เบอร์โทร : 087-6434-343
5. Sup’k Center
ถ้าจะถามว่าเรียนพิเศษ คณิตที่ไหนดี ตอบได้ทันทีเลยว่าที่ Sup’k Center ที่ทำการเปิดสอนเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ที่มาพร้อมกับสโลแกนของสถาบันว่า “สอนสนุก ครบครัน ทันสมัย เข้าใจง่าย และประยุกต์ใช้ได้จริง” จุดเด่นการสอนของ Sup’k เต็มไปด้วยความสนุกสนานที่จะทำให้ผู้เรียนไม่รู้สึกเกลียดคณิตเลย สามารถที่จะพัฒนาทักษะด้านคณิตศาตร์ได้ตั้งแต่เกรด 0 ไปจนถึงเกรด 4 เลยก็ว่าได้ และทาง Sup’k ได้ค้นคว้าวิจัย ทุ่มเท เพื่อที่จะพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรให้มีคุณภาพอยู่เสมอ
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.supk.com/
เบอร์โทร : 02 – 6368605
6. HIGH-SPEED MATHS CENTER
HIGH-SPEED MATHS CENTER สถาบันติวเตอร์ที่จะเน้นในเรื่องของวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ พื้นฐานวิศวกรรม ซึ่งอยู่ภายใต้ความควบคุมของกระทรวงศึกษาที่การ มีเทคนิคการสอนที่เป็นอกลักษณ์ และมีทริคสูตรลัดที่น่าสนใจ สอนให้คิดอย่างเป็นขั้นตอนทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย เป็นสถาบันกวดวิชาที่ได้รับการโหวตเป็นโรงเรียนกวดวิชายอดนิยมอันดับ TOP 5 ของประเทศไทย สอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับโอลิมปิค
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : http://www.highspeedmaths.com/home
เบอร์โทร : 02-731-0147
7. WALL STREET ENGLISH
มาต่อกันที่สถาบันติวเตอร์อย่าง WALL STREET ENGLISH ที่เปิดสอนวิชาภาษาอังกฤษในหลักสูตรที่เรียกว่า blended method ที่ผสมผสานการเรียนการสอนแบบโปรแกรม Multimedia และกิจกรรม Social Clubs สามารถจองบทเรียนและจะเรียนเวลาไหนก็ได้ ผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ทางสถาบันได้เปิดสอนภาษาอังกฤษเพื่อวางแผนและสอบ IELTS, TOEIC, TOEFL และ BULATS อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาที่ เรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่ไหนดี แนะนำที่ WALL STREET ENGLISH เลย!
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.wallstreetenglish.in.th/
เบอร์โทร : 1211
8. O PLUS TUTORIAL SCHOOL
สถาบันกวดวิชาโอ – พลัส ที่มีระบบการสอนในการจัดหลักสูตรที่เกิดจากการวิเคราะห์ เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้ และยังมี OPLUS Tip และ OPLUS Magic Guess เป็นเทคนิคการทำโจทย์และสูตรลัดที่สามารถจะนำไปใช้ในการทำข้อสอบได้จริง 100% ที่มีโจทย์ให้ผู้เรียนได้ทดสอบระดับโจทย์ที่ท้าทายตามระดับความยาก-ง่ายให้เหมาะสมกับผู้เรียน
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.oplus-school.com/
เบอร์โทร : 0-2251-5275 – 79 , 0-2251-7877
9. DA’VANCE
DA’VANCE สถาบันกวดวิชาที่สอนเฉพาะวิชาภาษาไทยและสังคมในระดับมัธยมปลาย มีสไตล์การเรียนการสอนที่สนุกสนาน เป็นกันเองทำให้ผู้เรียนไม่มีเบื่อ และยังให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมอยู่เสมอ โดยอ.ปิง จะมีเทคนิคการจำที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ซึ่งจะมีคอนเซ็ปต์ ปูพื้นฐาน สรุปเนื้อหา และตะลุยโจทย์ เพื่อให้การเรียนได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : https://www.davance.com/Home
เบอร์โทร : 02-6233997
10. โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษครูสมศรี
ปิดท้ายกันด้วยสถาบันติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ byครูสมศรี จุดเด่นในเรื่องสไตล์การสอนจะเน้นความ entertain การท่องศัพท์ภาษาอังกฤษให้เป็นจังหวะ มีการแตกรากศัพท์เป็นหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อความจำมากยิ่งขึ้น ซึ่งศัพท์ส่วนใหญ่มักจะพบเจอในข้อสอบแน่นอน การสอนของครูสมศรีช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกดี และไม่กลัวการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอีกต่อไป
ช่องทางการติดต่อ :
เว็ปไซต์ : http://www.kru-somsri.ac.th/
เบอร์โทร : 094-6736667
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 สถาบันติวเตอร์ เรียนพิเศษ ที่ไหนดี แต่ละที่เราได้คัดมาแล้วว่าถ้าได้ลองเรียนแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ซึ่งในการที่เราจะเลือกหาที่เรียนพิเศษ ที่ไหนดี ควรต้องคำนึงถึงความต้องการ และความเหมาะสมของตัวเองเป็นหลัก ว่าตัวเองนั้นควรเน้นหลักสูตรเนื้อหาไหน ควรเพิ่มเติมวิชาไหนที่ยังไม่เข้าใจ และดูจากติวเตอร์ผู้ที่มีความรู้ และความชำนาญที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาได้เป็นอย่างดี เพื่อการเรียนพิเศษเพิ่มเติมนั้นจะได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่มองหาหนังสือเรียน ที่ Shopee ก็มีให้เลือกช้อปเพียบ ส่วนใครต้องการหาบทความดี ๆ อ่านอย่างแอปจดโน้ต iPad ฟรี ก็ติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog
อ้างอิง :