การนอนพักผ่อนว่าสำคัญแล้ว แต่การเลือกที่นอนที่ดีมีประสิทธิภาพสำคัญมากกว่า? เพราะที่นอน คือ อุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการพักผ่อนอย่างดีที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วเราจะต้องใช้เวลากว่าวันละ 8 ชั่วโมง ที่ต้องนอนอยู่นิ่ง ๆ บนที่นอนทุกคืน ถ้าเราได้ที่นอนดี รองรับสรีระของร่างกาย จะช่วยทำให้นอนหลับได้สนิท ไม่ปวดหลัง ทำให้สุขภาพดี หลายคนจึงให้ความสำคัญกับการเลือกที่นอนที่ดีมีประสิทธิภาพ ใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อที่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกที่นอนยี่ห้อไหนดี เพราะมีที่นอนให้เลือกหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป แล้วที่นอนแบบไหน ดีต่อสุขภาพ มีคุณภาพ และราคาสมเหตุสมผล วันนี้ Shopee ได้คัดมาที่นอนมาให้เพื่อน ๆ เลือก เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และก่อนที่เราจะไปดูรีวิวที่นอนยี่ห้อไหนดี เราไปดูกันก่อนเลยว่าจะมีวิธีเลือก ที่นอนยี่ห้อไหนดี ให้ตรงใจมากที่สุด
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
วิธีเลือกที่นอนจะเลือก ที่นอนยี่ห้อไหนดี ปี 2023
จริงอยู่ที่สรีระของเราแต่ละคนต่างไม่เหมือนกัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นอนในท้องตลาดจึงมีให้เลือกมากมายหลากหลายถึงขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นไซส์ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ ที่นอน 3 ฟุต ที่นอน 3.5 ฟุต ที่นอน 5 ฟุต และที่นอน 6 ฟุต ผลิตขึ้นจากวัสดุรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสปริง โฟม หรือแม้แต่ยาง แล้วที่นอนแบบไหนกันที่จะเหมาะกับการใช้งานของเราที่สุด ดังนั้นตามมาดูกันเลยว่าเราจะมีวิธีเลือกที่นอนยี่ห้อไหนดีอย่างไรกันบ้าง
1. เลือกจากชนิดของที่นอน
- ที่นอนโฟม ที่นอนชนิดนี้จะผลิตขึ้นจากโฟมซ้อนกันหลายชั้นเพื่อกระจายน้ำหนัก โดยที่ไม่มีสปริงข้างใน มีคุณสมบัติช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี ช่วยลดแรงกดทับ และนับเป็นที่นอนประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะที่นอนเมโมรี่โฟม
- ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่มีขดลวดสปริงอยู่ข้างในเพื่อให้รองรับสรีระได้ดี และบุด้วยวัสดุอื่นอีกสองสามชั้น แต่ที่นอนสปริงค่อนข้างเป็นชนิดที่กระจายน้ำหนักได้ไม่ดีนัก แต่ก็มีข้อดีที่ราคาไม่แพงนัก
- ที่นอนยาง เป็นที่นอนที่ผลิตขึ้นจากยางพาราซึ่งมีความหยุ่นเฟิร์ม ทั้งยังสามารถระบายความร้อนได้ดี และยังเป็นที่สะสมของเชื้อราและไรฝุ่นได้ยาก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้บางกลุ่มเช่นกัน
- ที่นอนไฮบริด เป็นที่นอนที่เอาข้อดีของที่นอนหลาย ๆ แบบมาผสมกัน เช่น ที่นอนสปริงและที่นอนโฟม จะกลายเป็นที่นอนที่มีโครงสร้างสปริงอยู่ภายในและรองรับด้วยชั้นโฟมเพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดีขึ้น หรือการผสมวัสดุระหว่างโฟมและยางพาราก็จะได้คุณสมบัติของเตียงที่นุ่มแน่น ระบายความร้อนได้ดี
2. เลือกจากขนาดของที่นอน
- ที่นอน 3 ฟุต มีขนาด 91 x 198 เซนติเมตร เหมาะสำหรับนอน 1 คน
- ที่นอน 3.5 ฟุต มีขนาด 106 x 198 เซนติเมตร เหมาะสำหรับนอน 1 คน
- ที่นอน 5 ฟุต มีขนาด 152 x 198 เซนติเมตร เหมาะสำหรับนอน 1 – 2 คน
- ที่นอน 6 ฟุต มีขนาด 182 x 198 เซนติเมตร เหมาะสำหรับนอน 2 คน
3. เคล็ดลับวิธีเลือกที่นอนสำหรับคนปวดหลัง
- ปวดหลังด้านล่าง การปวดหลังด้านล่างนั้นมีสาเหตุมาจากบริเวณช่วงเอว ที่การปวดหลังส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณนี้ ซึ่งการนอนเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้กระดูกสันหลังบริเวณนี้บิดโค้งผิดรูปเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการปวดหลัง ซึ่งที่นอนที่นุ่มเกินไปมักก่อให้เกิดปัญหานี้ได้ง่าย ดังนั้นการเลือกที่นอนสำหรับคนที่มีปัญหาปวดหลังด้านล่างจึงควรเลือกที่นอนที่แข็งในระดับกลางถึงสูงขึ้นไป
- ปวดหลังตรงกลางค่อนไปทางด้านบน การปวดบริเวณนี้มักพบได้น้อยและมักเกิดจากการเคลื่อนไหวผิดท่า ซึ่งการเลือกที่นอนที่สามารถกระจายน้ำหนักที่ดีและลดแรงกดทับจะช่วยลดการขยับตัวซึ่งเป็นโอกาสให้เกิดอาการปวดหลังลงได้
คัดมาให้แล้ว! 7 ที่นอนยี่ห้อไหนดี 2023 รองรับสรีระได้ดี ไม่ปวดหลัง ดีต่อสุขภาพ
เมื่อได้รู้เทคนิคการเลือกที่นอนแบบไหน ดีต่อสุขภาพกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาอ่านรีวิว ที่นอนยี่ห้อไหนดี 2023 ที่เราได้รวบรวมมาฝาก มีที่นอนไม่ปวดหลัง คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล มีที่นอนยี่ห้อไหนดีที่น่าสนใจกันบ้าง ตามเรามาช้อปกันได้เลย
1.Dunlopillo รุ่น Celeste หนา 9 นิ้ว
ที่นอนยี่ห้อไหนดี แนะนำที่นอน Dunlopillo แบรนด์ที่นอนระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ที่ใส่ใจการนอนของทุกคนอย่างแท้จริง ตอบโจทย์การนอนเฉพาะตัวของบุคคล ด้วยที่นอนหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นที่นอนยางพารา, ที่นอนโฟมเสริมยางพารา, ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง, ที่นอนโฟม, ที่นอนสปริงเสริมยางพารา หรือที่นอนอื่น ๆ อีกมากมาย ที่นอนแบรนด์นี้มีให้เลือกหลายรุ่น ถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องการนอนชอบตื่นกลางดึก เพราะว่านอนไม่สบายหรือเป็นโรคภูมิแพ้ แนะนำให้ลองเลือกที่นอนรุ่น Dunlopillo ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง รุ่น Celeste
ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดี ซึ่งเป็นที่นอนระบบ Pocket Spring ด้วยคุณสมบัติรองรับและกระจายน้ำหนักได้ดี ลดแรงสั่นสะเทือนจากการขยับตัว เหมาะสำหรับคู่รักหรือคนที่ไม่ได้นอนคนเดียว นอกจากนี้ก็ยังมี เทคโนโลยี Soft Edge System ช่วยลดความเสียหายของสปริงจากการรับน้ำหนัก จึงมีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนายมากยิ่งขึ้น ที่นอนมีความยืดหยุ่นตามร่างกาย รองรับตามสรีระร่างกายตามหลัก ทำให้ไม่ปวดหลังและปวดคอ ใครที่กำลังมองหาที่นอน ไม่ปวดหลัง แล้วไม่รู้ว่าจะเลือกที่นอนยี่ห้อไหนดีแนะนำรุ่นนี้เลยถูกใจชัวร์!
คุณสมบัติ Dunlopillo รุ่น Celeste หนา 9 นิ้ว
- ขนาด 3.5 ฟุต/ 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ที่นอน Pocket Spring Freedom Coil 6000 Series
- มีสารป้องกันภูมิแพ้ และสารป้องกันไรฝุ่น เพื่อช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
- High Density ช่วยระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่เกินอาการแพ้ เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
- วัสดุที่นอนตรงฐานเป็นโฟมสังเคราะห์อัดแน่นใช้รับน้ำหนัก ปรับสมดุลน้ำหนักด้วยโฟมเนื้อพิเศษระบายอากาศ หุ้มด้วยผ้าคอตตอนดีไซน์พิเศษให้สัมผัสนุ่มสบาย
- ราคาประมาณ 11,900 บาท / 12,790 บาท / 12,990
2.Lunio รุ่น Gen 3 Pro หนา 10 นิ้ว
ที่นอนแบบไหน ดีต่อสุขภาพ นาทีนี้คงต้องยกให้ที่นอน Lunio เป็นแบรนด์เครื่องนอนเพื่อสุขภาพที่ได้ชูจุดเด่นเรื่องวัสดุระดับพรีเมี่ยม ที่นอนยางพาราไฮบริด ได้ผสมผสานนวัตกรรม NASA โดดเด่นเรื่องในการรองรับสรีระ มาพร้อมเทคโนโลยีรางวัลโนเบลที่ช่วยลดความร้อนสะสม จึงช่วยป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่นต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ โดยคุณสมบัติที่ได้กล่าวมานั้นได้ถูกรวมมาไว้กับที่นอน Lunio ฟูกที่นอนยางพารา รุ่น Gen 3 Pro เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายขณะนอนหลับเพื่อให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หรือใครที่มีปัญหาการปวดเมื่อยจากที่นอน มีปัญหาความร้อนในขณะนอนหลับ รวมถึงเป็นคนตื่นง่าย พอคนข้าง ๆ พลิกตัวก็ตื่นได้ แนะนำให้ซื้อที่รุ่นนี้มาใช้ รับรองปัญหาเหล่านี้หมดไป เพราะที่นอนทำจากยางพาราคุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติแน่น ช่วยลดอาการปวดหลัง ได้ผสมผสานด้วยแผ่นเทคโนโลยีกักเก็บความเย็น Kikoo ทำมาจากการสกัดแร่ธาตุ Graphene ช่วยดูดซับความร้อนส่วนเกินออกไป จึงช่วยทำให้ร่างกายเย็นเร็วมากยิ่งขึ้น ลดอาการเหงื่อออกกลางดึก อีกทั้งที่นอนได้ออกแบบมาให้มีความนุ่มในระดับพอดี รองรับร่างกายทุกสรีระ ทำให้กระดูกสันหลังเป็นเส้นตรง ปรับท่านอนให้ถูกหลัก ช่วยลดอาการปวดหลังได้ดี หาซื้อได้จากร้าน DreamsTown ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะเลือกที่นอนยี่ห้อไหนดี ที่นอนยี่ห้อนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
คุณสมบัติ Lunio รุ่น Gen 3 Pro หนา 10 นิ้ว
- ขนาด 3 ฟุต / 3.5 ฟุต/ 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ที่นอนยางพาราไฮบริด
- ที่นอนมีด้วยกัน 6 ชั้น
- ชั้น 1 ผ้าคลุม Lunio Air Tex Fabric แค่สัมผัสก็รู้สึกเย็น
- ชั้น 2 Lunio Natural Latex® ที่นุ่มได้จากยางพาราธรรมชาติแท้ 100%
- ชั้น 3 33-Zone Marble Cool Memory Foam รองรับอย่าง PRO ด้วยเมมโมรี่โฟมที่มีเทคโนโลยีจาก NASA
- ชั้น 4 Kikoo Tech Pro ที่เพิ่มเย็นด้วยแผ่นปรับความเย็น เทคโนโลยีสุดล้ำจากประเทศเยอรมนี
- ชั้น 5 Lunio Graphene Stabilizer Base® วัสดุผสมแร่ธาตุกราฟีน ที่ช่วยถ่ายเทความร้อนทำให้นอนสบายยิ่งขึ้น
- ชั้น 6 Hyper Protective 3D Fabric ผ้าหุ้มเสริมความทนทานแข็งแรงให้กับที่นอน และสามารถป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ด้วย
- ป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
- พร้อมจัดส่งที่นอนในรูปแบบกล่อง เคลื่อนย้ายง่าย ติดตั้งสะดวก
- ราคาประมาณ 11,500 บาท / 13,290 บาท / 18,290 / 20,290 บาท
3.LOTUS รุ่น Precise I หนา 9 นิ้ว
สำหรับที่นอน Lotus หลายคนคุ้ยเคยและรู้จักกันดี ถือเป็นที่นอนอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเลือกซื้อมาใช้กันมาก อย่างที่นอน LOTUS ที่นอนสปริงอัจฉริยะ รุ่น Precise I หนา 9 นิ้ว เป็นอีกรุ่นที่อยากแนะนำ ด้วยระบบ Auto Air Circulation ช่วยให้ระบายอัตโนมัติตลอดทั้งคืน ผ่านชั้นวัสดุที่มีโครงสร้างระบายอากาศอย่างดี ช่วยลดอาการเหงื่อออกกลางดึก ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของที่นอน LOTUS ที่ช่วยหมุนเวียนโลหิตได้ดี แล้วสามารถระบบรองรับน้ำหนัก เหมาะสำหรับการรองรับน้ำหนักที่มากได้ด้วย รวมถึงยังช่วยปรับสมดุลแรงกดทับอย่างลงตัว เสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นคอตตอนใยฝ้ายอัดแน่น ECCP เสริมบนระบบสปริงรองรับน้ำหนัก เพื่อช่วยในการเสริมความแข็งแรงของที่นอน แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความนุ่มจากที่นอน แล้วยังมี โฟม HD Comfort พิเศษ ระบายอากาศในตัวได้ดี ช่วยทำให้การนอนรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ที่นอนก็มีสารเคลือบเพื่อสุขภาพ สามารถป้องกันฝุ่นละออง และสารสกปรกต่าง ๆ หนึ่งในสาเหตุของการเกิดไรฝุ่น หากถามว่าเลือกซื้อที่นอนยี่ห้อไหนดี คุณภาพเยี่ยม ราคาไม่แพงมาก ที่นอนรุ่นนี้คือตอบโจทย์ได้ดี
คุณสมบัติ LOTUS รุ่น Precise I หนา 9 นิ้ว
- ขนาด 3.5 ฟุต / 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ที่นอน สปริง SUPER BONNEL® Series: 5 Turns (6”) แน่นเป็นพิเศษ
- แผ่นคอตตอนใยฝ้ายอัดแน่น ECCP 2 ชั้น และเสริมด้วย โฟม HD Comfort
- เหมาะสำหรับการรองรับน้ำหนักที่มากและยังปรับสมดุลแรงกดทับได้อย่างลงตัว
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจากที่นอนสามารถรองรับร่างกายทุกสรีระ
- ราคาประมาณ 5,990 บาท / 6,590 บาท / 6,990 บาท
4.Omazz รุ่น Organique Plus หนา 12 นิ้ว
ที่นอน Omazz อีกหนึ่งแบรนด์ที่หลายคนพูดถึงกันเยอะมาก ๆ เป็นแบรนด์ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เน้นการผลิตที่นอนที่เป็นยาพารา และถือเป็นเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น ที่มีแบบฉบับการผลิตยางพารา ที่ถือว่าเป็นขั้น Premium ที่สุด โดยที่ยังไม่มีที่นอนแบรนด์ไหนสามารถเลียนแบบได้ ด้วยวิธีการผลิตที่นอนด้วยระบบทาลาเลย์ลาเท็กซ์จากแหล่งธรรมชาติชั้นที่ดีที่สุดในโลก แล้วถ้าใครอยากได้ที่นอนไม่ปวดหลัง แต่เลือกถูกว่าจะซื้อที่นอนยี่ห้อไหนดีก็แนะนำให้เลือก Omazz รุ่น Organique Plus หนา 12 นิ้ว ที่มีการผสมผสาน Comfort Layer กับเนื้อโฟม Organique สกัดจากน้ำมันพืชธรรมชาติ พร้อมด้วยโครงสร้างเนื้อโฟมแบบรวงผึ้ง ให้สัมผัสการนอนที่นุ่มเด้งนอนสบาย เพื่อการกระจายน้ำหนักได้ดีในขณะที่ล้มตัวลงนอน และเซลล์แบบเปิดสร้างความสบายอย่างเหนือชั้น ทำให้นอนได้สบายมาขึ้น ได้โอบรัดทุกสัดส่วนอย่างนิ่มนวลเป็นธรรมชาติ สามารถรองรับร่างกายทุกสรีระได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง ต้องบอกว่าที่นอนรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับคนชอบที่นอนแบบแน่น ๆ ซื้อรุ่นนี้ถูกใจแน่นอน
คุณสมบัติ Omazz รุ่น Organique Plus หนา 12 นิ้ว
- ขนาด 3.5 ฟุต / 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ที่นอน Organique Foam + Bonnel Spring
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสบายที่แน่นเป็นพิเศษ
- Topper พิเศษ 2 ชั้น เพื่อสมดุลในการลดแรงกดทับที่เหนือกว่ารุ่นอื่น
- Super Bonnel Coil หุ้มขอบโฟมทั้งสี่ด้านของที่นอน เพื่อป้องกันการล้มตัวของลูกสปริง และช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
- ผ้าหุ้มคอตตอน Knit เคลือบสารปกป้องจากธรรมชาติ Sanicott
- ราคาประมาณ 43,590 บาท / 57,090 บาท / 58,590 บาท
5.Midas รุ่น Lamp หนา 9 นิ้ว
ใครกำลังมองหาที่นอน 6 ฟุต ยี่ห้อไหนดี อยากได้ที่นอน ไม่ปวดหลัง ราคาไม่แพง แนะนำที่นอน 6 ฟุต Midas รุ่น Lamp หนา 9 นิ้ว เสริมด้วยยางพารา S-latex ที่มีความนุ่มและแน่นเป็นพิเศษ จากนวัตกรรมสปริงไฮบริด สามารถพลิกนอนได้ทั้งสองด้าน ซึ่งระบบสปริงเป็นแบบ Super Bonnel Series 5 เหมาะสำหรับที่ชอบนอนที่นอนแน่น ๆ และคนที่ปัญหาเรื่องการปวดหลัง โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่มักจะมีปัญหาการปวดหลัง บอกเลยว่าควรต้องมีที่นอนรุ่นนี้เลย เพราะนอกจากจะช่วยลดอาการปวดหลังได้แล้ว ที่นอนยังได้เสริมระบบลดแรงกดทับและช่วยในการหมุนเวียนโลหิต โลหิต pressure relief system ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายแผ่นหลังได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่นอนยังมีเคลือบสารเพื่อสุขภาพ ช่วยป้องกันฝุ่นละออง และสารสกปรก ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดไรฝุ่น และเป็นที่มาของโรคภูมิแพ้อีกด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องระบายความร้อน เพราะรุ่นนี้ทำออกมาได้ดี ช่วยทำให้เตียงนอนไม่อบอ้าว อีกทั้ง เวลาพลิกตัวหรือลุกขึ้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไปทำให้คนข้าง ๆ ต้องตื่น เพราะที่นอนรุ่นนี้มี ECCP 2 ชั้น จึงช่วยลดแรงสั่นจากสปริงได้เป็นอย่างดี สำหรับใครสนใจ สามารถหาซื้อร้าน Dunlopillo ได้เลย
คุณสมบัติ Midas รุ่น Lamp หนา 9 นิ้ว
- ขนาด 3.5 ฟุต / 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสบายที่แน่นเป็นพิเศษ
- ที่นอน สปริง MIDAS ® Series: 5 Turns เน้นกระชับหลังโดยเฉพาะ
- เสริมด้วยแผ่นคอตตอนใยฝ้ายอัดแน่น ECCP 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
- ที่นอนเป็นผ้าคอตตอนนิท แจ็คการ์ด จึงสามารถป้องกันไรฝุ่น เนื้อผ้าหนานุ่มสบาย
- โฟม HD Comfort แบบสมดุลลงตัว เพิ่มความนุ่มสบาย และรองรับทุกส่วนของร่างกาย
- เคลือบสารยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น และสามารถปกป้องและป้องกันการเกิดภูมิแพ้ได้
- สามารถระบายอากาศอัตโนมัติได้แบบต่อเนื่อง โดยผ่านชั้นวัสดุที่มีโครงสร้างระบายอากาศ
- ราคาประมาณ 3,990 บาท / 5,590 บาท / 5,790 บาท
6.SleepHappy รุ่น Atlantis หนา 10 นิ้ว
เลือกซื้อที่นอนยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยให้นอนหลับได้เต็มอิ่ม เย็นสบาย ระบายอากาศดี ลดเเรงสั่นสะเทือนได้ดี และสามารถรองรับร่างกายทุกสรีระได้อย่างเหมาะสม กระจายน้ำหนักได้ดีไม่ว่านอนท่าไหน พลิกตัวขนาดไหนก็ไม่ทำให้ที่นอนสั่นไหวได้เลย แน่นอนว่าที่นอน SleepHappy รุ่น Atlantis หนา 10 นิ้ว เป็นที่นอนพ็อกเก็ตสปริง ยอดขายอันดับ 1 จาก SleepHappy ด้วยคุณสมบัติที่นอนรุ่นนี้ถือเป็นที่นอนสเปกโรงแรมที่ได้มาตรฐานระดับโลก ที่นอนมีส่วนประกอบของ Support Foam ที่มีความหนาแน่นสูง สามารถรองรับน้ำหนักของร่างกายได้ดี ช่วยในการป้องกันการโค้งงอของกระดูกสันหลังจากท่านอนที่ไม่ถูกต้อง จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนตะแคงข้าง และช่วยดูดซับแรงสั่นจากการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้เกิดการสั่นไปทั่วทั้งที่นอน และตัวโครงสร้างที่นอนเป็น Pocket Spring ที่ช่วยรองรับน้ำหนักของแต่ละคนได้ดี รองรับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม นอกจากนี้ที่นอนรุ่นนี้ยังระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ร้อนเวลานอน ยังสามารถป้องกันไรฝุ่น เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติ SleepHappy รุ่น Atlantis หนา 10 นิ้ว
- ขนาด 3 ฟุต / 3.5 ฟุต / 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ดีไซน์เรียบหรู เน้นเรื่องการระบายอากาศที่ดี
- ที่นอน Pocket Spring 5 Zone Iso Coil รุ่น Atlantis
- ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนระหว่างคู่นอนเมื่อพลิกตัวหรือลุกออกจากที่นอน
- ผ้าเส้นใยธรรมชาติ ช่วยป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย เหมาะกับคนที่มีอาการภูมิแพ้
- รองรับส่วนโค้งเว้าตามสรีระร่างกายทั้ง 5 ส่วน เริ่มตั้งแต่ศีรษะ ไหล่ สะโพก หัวเข่า และข้อเท้า
- ราคาประมาณ 5,190 บาท / 5,690 บาท / 7,290 บาท / 8,290 บาท
7.Solomon Mattress รุ่น US หนา 10 นิ้ว
หลายคนชอบถามว่าซื้อ ที่นอนยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล และเหมาะกับคนชอบนอนตะแคง คงต้องแนะนำที่นอน Solomon Mattress รุ่น US หนา 10 นิ้ว แบรนด์ Solomon Mattress อีกหนึ่งแบรนด์ที่คนไทยไว้วางใจเลือกซื้อมาใช้กันมาก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ในการเลือกใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพ มีความยืดหยุ่น คืนตัวดี ระบายความร้อนได้ดี ที่นอนรุ่นนี้มีความนุ่มสบาย ช่วยลดแรงกดทับได้ดี รักษาอุณหภูมิการนอนตลอดทั้งคืน ใครชอบนอนที่นอนนุ่ม ๆ สบาย หรือใครชอบนอนตะแคง แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้มาใช้ รับรอบถูกใจแน่นอน
ซึ่งที่นอนรุ่นนี้จะให้ความรู้สึกนุ่ม ด้วยฟองน้ำอัด Hybrid Sponge ที่มีความหนา 10 นิ้ว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นด้วยสปริงนำเข้าคุณภาพสูง ส่วนตัวโครงสร้างที่นอนจะเป็นสปริง Motion Reflection แบ่งโซนรองรับน้ำหนักได้ทั้งหมด 5 ส่วนด้วยกัน สามารถรองรับสรีระร่างกายและลดการกดทับบริเวณหัวไหล่และสะโพกได้เป็นอย่างดี แถมที่นอนยังมีความเด้งและไม่ยวบ เสริมขอบ Ultimate Guard เพื่อป้องกันการฉีกขาดของผ้าหุ้มจากการเคลื่อนไหวของลูกสปริง ทำให้ที่นอนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้แล้ว ที่นอนยังสามารถยังมีระบบที่ช่วยให้ระบายความชื้น พร้อมกับรักษาอุณหภูมิให้คงที่อยู่เสมอ ตัวผ้าหุ้มที่นอนก็เคลือบสารในการป้องกันฝุ่นต่าง ๆ จึงเหมาะสำหรับทุกสรีระทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดังนั้น คำถามที่ว่าที่นอนยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับคนชอบนอนตะแคงข้างคงต้องยกให้ที่นอนรุ่นนี้
คุณสมบัติ Solomon Mattress รุ่น US หนา 10 นิ้ว
- ขนาด 3 ฟุต / 5 ฟุต/ 6 ฟุต
- ที่นอนไฮบริดสปริง+โฟม
- โครงสร้าง ฟองน้ำอัดแน่น Hybrid Sponge
- Allergy Protection สารป้องกันไรฝุ่นอันเป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้
- ระบบ Auto-Air Circulation ช่วยระบายความชื้น รักษาอุณหภูมิให้คงที่
- ให้ความรู้สึกแบบนุ่มสบาย เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยที่มีการนอนตะแคง
- เส้นใยไลโอเซลล์ พร้อมโครงสร้างรูระบายอากาศ ทำให้ไม่กักเก็บอุณหภูมิ ช่วยลดการอับชื้น
- ราคาประมาณ 3,200 บาท / 3,900 บาท / 4,700 บาท
จากที่ได้อ่านบทความนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกซื้อที่นอนยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุด เพื่อช่วยให้การนอนคุณมีประสิทธิภาพ สามารถนอนได้อย่างเต็มอิ่ม ตื่นเช้ามาไม่ต้องปวดหลัง ดีทั้งสุขภาพกายและใจ แต่ถ้าใครถูกใจที่นอนยี่ห้อไหน แต่รู้สึกว่าราคาสูงเกินไปหน่อย ก็อยากจะบอกว่าไม่อยากให้ดูที่ราคาเป็นตัวตั้ง เพราะที่นอนราคาสูงหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผลิตออกมาเพื่อสุขภาพการนอนของเราให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น หากสนใจที่นอนยี่ห้อไหน ก่อนตัดสินใจซื้ออยากจะให้ไปทดลองนอนกับที่นอนจริงตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าที่นอนที่จะซื้อเหมาะกับร่างกายและตอบโจทย์ปัญหาการนอนของเรามากที่สุด เมื่อได้ที่นอนใหม่แล้ว อยากได้ หมอนข้าง ผ้าห่ม หรือว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวบ้าน สามารถเข้ามาช้อปได้ที่ Shopee แต่ถ้าอยากอ่านรีวิวบทความต่าง ๆ อย่างหมอนสุขภาพยี่ห้อไหนดี ก็สามารถติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog