พูดถึงสัตว์เลี้ยงที่คนไทยนิยมเป็นอันดับต้น ๆ คงมี “น้องแมว” เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ด้วยหน้าตาน่ารัก ขนฟู ๆ ตากลม ๆ และนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งขี้เล่นและรักอิสระในเวลาเดียวกัน ซึ่งนิสัยและลักษณะเหล่านี้ก็มีหลากหลาย ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธุ์แมว หลายคนอาจจะรู้จักแมวสายพันธุ์ต่างชาติ อย่างเปอร์เซีย สก็อตทิช โฟลด์ หรืออเมริกัน ช็อตแฮร์ แต่รู้ไหมว่าแมวพันธุ์ไทยก็มี และเลี้ยงแมวกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยลักษณะแมวที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาแต่อดีตเรียกกันว่า “แมวไทยมงคล” หรือแมวพันธุ์ไทย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
แมวไทยมงคล สายพันธุ์แมวไทย
สายพันธุ์แมวไทย (วิฬาร) จัดเป็นแมวขนสั้นและสวยงาม มีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสายพันธุ์ มีความฉลาด และรักอิสระเป็นตัวของตัวเอง อีกทั้งแมวพันธุ์ไทยยังมีประวัติความเป็นมายาวนาน และมีการบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณของวัดอนงคาราม เชื่อว่าตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งบันทึกไว้ว่าแมวไทยมี 23 ลักษณะ แบ่งออกเป็น 17 สายพันธุ์แมวไทย และ 4 แมวไทยให้โทษ
นอกจากนี้ในปีพ.ศ.2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานแมวไทยมงคล 1 คู่ให้แก่กงสุลอังกฤษก่อนเดินทางกลับอังกฤษ สายพันธุ์แมวไทยคู่นั้นคือ แมววิเชียรมาศ หลังจากนั้นสายพันธุ์แมวไทยวิเชียรมาศก็ได้ชนะการประกวดแมวชนิดขนสั้นจนเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ และได้ชื่อว่า “Siamese Cat”
แมวพันธุ์ไทย แมวไทยมงคล 4 สายพันธุ์ที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
ถึงแม้สายพันธุ์แมวไทยจะมีถึง 23 ลักษณะ และเป็นแมวไทยมงคลกว่า 17 ลักษณะ แต่กลับหลงเหลือมาถึงปัจจุบันเพียง 4 ลักษณะเท่านั้น เนื่องมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยนั้นคือคนไทยขาดความรู้เรื่องการอนุรักษ์การเลี้ยงแมวพันธุ์ไทย เรามาดูกันดีกว่าว่าสายพันธุ์แมวไทย 4 ลักษณะที่หลงเหลืออยู่นั้นมีอะไรบ้าง
แมวไทยมงคล: วิเชียรมาศ
สายพันธุ์แมวไทยชนิดแรกคือ “แมววิเชียรมาศ” ความหมายของคำว่า “วิเชียรมาศ” คือ เพชรแห่งดวงจันทร์ หรืออาจเรียกว่าแมวแก้ว เป็นแมวที่มีลักษณะเป็นแมวไทยมงคลตามตำราชนิดแรกที่ชาวต่างชาติรู้จักตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในชื่อ Siamese Cat นั่นเอง
ตามตำราแล้วสายพันธุ์แมวไทยวิเชียรมาศ จะมีขนสีขาวงาช้าง และมีสีดำแต้มอยู่ก้าวจุดบนร่างกาย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่สีดำสนิท แต่เป็นสีน้ำตาลไหม้แทน โดยจุดสีน้ำตาลไหม้ที่ว่านี้จะมีทั้งสิ้น 9 จุด คือ หน้า หูทั้งสอง ขาทั้งสี่ ปลายหาง และอวัยวะเพศ ลักษณณะขนสั้น รูปร่างปลาดเปลียว หางยาง นัยน์ตาสีฟ้าสวยงาม คนไทยเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวไทยมงคลชนิดนี้ จะช่วยเพิ่มพูลทรัพย์สมบัติ ปราศจากโรคภัย
แมวไทยมงคล: โคราช
แมวไทยมงคลชนิดต่อมาคือ “แมวโคราช” และมีชื่อเรียกอื่น ๆ คือ แมวสีสวาด แมวมาเลศ แมวดอกเลา หรือแมวสีเทา แต่ชื่อที่ได้ยินบ่อย ๆ คือแมวสีสวาด คำว่า สวาดหมายถึงสีของเมล็ดพันธุ์พืชที่เป็นสีเทา หรือหมายถึงความรักก็ได้ แมวสีสวาดที่มีต้นกำเนิดจากอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา และแมวพันธุ์ไทยนี้เคยถูกนำไปเลี้ยงที่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2502
ลักษณะเด่นของแมวไทยมงคลชนิดนี้คือ สีขน ซึ่งบริเวณโคนขนเป็นสีขุ่น และปลายขนเป็นสีเงิน มันวาว เมื่อโดนแดดจะยิ่งเงาเข้มขึ้น และเป็นสีนี้ทั้งตัว เป็นลักษณะขนสั้น หางยาว โคนหางใหญ่และเรียวลงไปจนสุดปลายหาง ลำตัวแข็งแรง หลังโค้ง ค่อนข้างกลมกว่าแมวพันธุ์ไทยชนิดอื่น ดวงตาใหญ่กลมโต ตอนเด็กเป็นสีฟ้า มีโตจะเป็นสีเหลือง คนไทยเชื่อว่าแมวพันธุ์ไทยนี้ เป็นแมวแห่งโชคลาภ ด้วยสีขนเป็นสีเงินและลักษณะดี ใครเลี้ยงไว้ก็จะมีแต่โชคลาภทางการเงิน
แมวไทยมงคล: แมวขาวมณี
“แมวขาวมณี” หรือขาวปลอด เป็นแมวไทยมงคลที่มีขนสีขาวล้วนทั่วตัว ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของแมวขาวมณีเลยทีเดียว แมวขาวมณีเป็นแมวที่อดีตเคยเลี้ยงเฉพาะในวังเท่านั้น บางแหล่งข้อมูลบอกว่า แมวขาวมณีเพิ่งจะมีปรากฏในช่วงต้นรัตนโกสินทร์เท่านั้นเอง แมวพันธุ์ไทยนี้เป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่อง จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงและพบได้มากในปัจจุบัน
ลักษณะของแมวไทยมงคลชนิดนี้คือ มีขนนุ่มสีขาวทั่วตัว หูตั้งขนาดใหญ่ จมูกสั้น หัวเป็นทรงคล้ายรูปหัวใจ ลำตัวเพรียวยาวไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป ดวงตาเล็ก รี นัยน์ตามีทั้งที่เป็นสีฟ้าและที่เป็นสีเหลือง บางตัวอาจมีนัยน์ตาข้างละสี คนไทยเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวขาวมณี จะช่วยค้ำจุนเจ้าของ พร้อมทั้งนำโชคลาภมาให้เช่นกัน
แมวไทยมงคล: ศุภลักษณ์
แมวไทยมงคลชนิดสุดท้ายคือ “แมวศุภลักษณ์” หรืออีกชื่อคือ แมวทองแดง ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาจากสีของขนอีกเช่นกัน ที่มาของแมวชนิดนี้ มีการเล่าขานกันว่า เป็นแมวของเชลยที่ถูกต้อนไปที่พม่า หลังจากนั้นจึงได้มีความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น จนต่างชาตินำไปจนทะเบียนสายพันธุ์ และตั้งชื่อว่า Burmese Cat แต่ก็ยังคงเป็นที่ทราบกันว่าต้นกำเนิดมาจากไทย
ลักษณะของแมวศุภลักษณ์ จะเป็นแมวที่มีความสง่า มีขนสั้น สีน้ำตาลแดงคล้ายสีสนิม และจะเป็นสีน้ำตาลแดงที่เข้มขึ้นบริเวณหูทั้งสอง ขาทั้งสี่ หน้า และหาง หัวค่อนข้างกลม หูตั้งใหญ่ โคนหางใหญ่และเรียวยาวไปจนถึงปลายหาง นัยน์ตาเป็นสีเหลือง คนไทยมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวมงคลศุภลักษณ์ จะทำให้ก้าวหน้า มียศฐาบรรดาศักดิ์ และค้าขายรุ่งเรือง
ใครที่ทนความน่ารักของแมวไทยมงคลทั้ง 4 ชนิดไม่ไหว ปัจจุบันก็มีฟาร์มในไทยที่เพาะพันธุ์น้องแมวเหล่านี้อยู่เช่นกัน แต่ก่อนจะรับน้อง ๆ มาเลี้ยง เหล่าทาสแมวควรเตรียมอุปกรณ์อย่าง ทรายแมว กะบะทรายแมว อาหารแมว ขนมแมวเลีย หรือของเล่นแมว ที่สำคัญต้องถามตัวเองก่อนว่ามีความรักจริงหรือไม่ และพร้อมจะสละเวลาให้น้องแมวจริง ๆ หรือเปล่า ไม่งั้นจะกลายเป็นภาระของกันและกันในอนาคตได้นะ
อ้างอิงจาก: timba.org, catdeva.com
Credit:pixabay