ช่วงนี้เปิดไปช่องทางไหน ก็เห็นคอหนังต่างให้คะแนนภาพยนต์เรื่อง อะลาดิน (Aladdin) ไว้สูงเกินคาด พร้อมด้วยเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้งในเรื่องของนักแสดง เนื้อเรื่องที่มีการปรุงรสมากขึ้น รวมไปถึงเพลงประกอบในภาพยนตร์ เรียกได้ว่ามีทั้งกลิ่นอายของอะลาดินกับตะเกียงวิเศษที่เราคุ้นเคยในแบบแอนิเมชัน และเสริมความสดใหม่ได้อย่างลงตัว แต่บทความนี้เราจะมาพูดถึงอะลาดินกับตะเกียงวิเศษในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับที่มาของอะลาดินกับตะเกียงวิเศษในรูปแบบต้นฉบับ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ หนึ่งในนิทานชุดอมตะ
จริง ๆ แล้ว นิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ เป็นลักษณะของนิทานที่แทรกอยู่ในนิทานชุดที่มีชื่อเรียกว่า นิทานชุดพันหนึ่งราตรี (One Thousand and One Nights) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า นิทานอาหรับราตรี (The Arabian’s Night)
นิทานชุดพันหนึ่งราตรี เป็นเรื่องเล่าสุดอมตะจากยุครุ่งเรืองของชาวอาหรับ (Islamic Golden Age) โครงเรื่องเป็นลักษณะของการเล่านิทาน ที่มีนิทานซ้อนกันไปเรื่อย ๆ จนครบ 1,001 เรื่อง
เนื้อเรื่องย่อนิทานชุดพันหนึ่งราตรี
พันหนึ่งราตรีเป็นนิทานชุดที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งปกครองดินแดนอาหรับ แต่กลับต้องมาเจอกับความผิดหวังในชีวิตรัก เพราะพบความจริงที่ว่ามเหสีสุดรักของตนนอกใจไปมีชู้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พระองค์เกิดปมในใจและรับสั่งให้ส่งหญิงสาวพรหมจารีมาถวายตัวคืนละ 1 คน พอรุ่งเช้ามาถึงให้นำหญิงสาวผู้นั้นไปประหาร ชีวิตของพระองค์ดำเนินเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
อยู่มาวันหนึ่ง ลูกสาวของขุนนางคนสนิท เสนอตัวเองมาเป็นมเหสีรับใช้แม้รู้ว่าจะต้องถูกประหารในที่สุด แต่นางเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดและได้เตรียมการไว้แล้วอย่างดี ราตรีผ่านไปก่อนรุ่งสางนางได้ทูลขอกษัตริย์เพื่อให้ได้พบกับน้องสาวของตนอีกสักครั้งก่อนตาย
เมื่อพี่น้องพบกัน ผู้เป็นน้องได้อ้อนวอนให้พี่สาวเล่านิทานให้ฟัง ฝ่ายพี่สาวก็เล่านิทานได้อย่างสนุกสนานและน่าติดตาม จนเมื่อถึงเวลานำตัวไปประหารเรื่องที่เล่ายังไม่จบและยังคงค้างคา กษัตริย์จึงยืดเวลาให้อีกหนึ่งราตรีเพื่อจะได้ฟังนิทาน แต่ทุก ๆ ราตรีที่ยืดออกไป เนื้อเรื่องก็ไม่เคยจบจนกระทั่งเล่ายาวไปจนถึง 1,001 ราตรี จึงกลายมาเป็นนิทานชุดอาหรับราตรี และเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษก็เป็นนิทานหนึ่งในนั้นนั่นเอง
ใครเป็นผู้แต่งเรื่อง…อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
หากให้พูดย้อนไปถึงผู้แต่งนิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ คงเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้ เพราะนิทานพื้นบ้านอาหรับเรื่องนี้ถูกเล่าขานมายาวนาน อีกทั้งนิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ไม่ได้เป็นนิทานที่อยู่ในนิทานชุดนี้มาตั้งแต่ต้น
มีการบันทึกไว้ว่า ในช่วงศตวรรษที่ 18 นักวิชาการชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Antoine Galland ได้แปลนิทานชุดของอาหรับมาเป็นภาษาฝรั่งเศส และในระหว่างที่รวมเล่มนิทานชุดอยู่นั้น ก็ได้ยินนิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษจากเพื่อนนักเดินทางชาวซีเรีย จึงได้นำมาใส่ไว้ในนิทานชุดพันหนึ่งราตรี จนกลายเป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา
ต้นฉบับอย่างย่อของ อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
ถึงแม้อะลาดินกับตะเกียงวิเศษในเวอร์ชันต้นฉบับจะเป็นนิทานจากแดนอาหรับ แต่กลับมีฉากหลังการดำเนินเรื่องอยู่ในประเทศจีนและแอฟริกา โดยเนื้อเรื่องย่อมีอยู่ว่า…
อะลาดินหนุ่มว่างงานผู้แสนขี้เกียจ อาศัยอยู่กับแม่หลังจากที่ผู้เป็นพ่อ (มุสตาฟา) เสียชีวิตลง หลังจากนั้นอะลาดินก็ได้เจอกับผู้วิเศษชาวแอฟริกัน ผู้อ้างตัวเป็นพี่ชาย (น้องชาย) ที่พลัดพรากจากกันของมุสตาฟา และต้องการให้อะลาดินช่วยออกตามหาตะเกียงวิเศษ โดยก่อนออกเดินทางชายแอฟริกันได้มอบแหวนให้อะลาดินหนึ่งวง เพื่อช่วยป้องกันในระหว่างเดินทางภายในถ้ำ อะลาดินสามารถหาตะเกียงจนพบ แต่เมื่อนำออกมาได้เกิดการทะเลาะและไม่ลงรอยกันระหว่างอะลาดินและชายแอฟริกัน อะลาดินจึงถูกขังไว้ในถ้ำส่วนชายชาวแอฟริกันก็เดินทางกลับแอฟริกาไป
ระหว่างถูกขังอยู่นั้น อะลาดินรู้สึกหมดหนทางจึงสวดอ้อนวอนต่ออัลเลาะห์ จนไปกระทบกระแหวนที่เขาสวมอยู่ ทำให้จีนี่ออกมาจากแหวนวงนั้น อะลาดินจึงขอให้จีนี่พาเขาออกจากถ้ำ เมื่อกลับถึงบ้าน อะลาดินพบกับผู้เป็นแม่ที่ป่วยหนักแถมอาหารก็กำลังจะหมดลง เขาจึงคิดจะนำตะเกียงที่ติดตัวมาไปขาย จึงนำตะเกียงออกมาขัดทำความสะอาด เมื่อตะเกียงถูกขัดถู จีนี่อีกตนที่อยู่ในตะเกียงจึงออกมา อะลาดินจึงสั่งให้จีนี่บรรดาลอาหารให้ เมื่ออาหารหมดอะลาดินจึงมีความคิดที่จะนำจานรองอาหารไปขายเพื่อนำเงินกลับมา
ในระหว่างการนำจานไปขาย เขาก็ได้ยินว่าเจ้าหญิงกำลังจะไปอาบน้ำ จึงตามไปพบและตกหลุมรักเจ้าหญิงทันที อะลาดินจึงไปขอเจ้าหญิงจากสุลต่าน แน่นอนว่าเขาย่อมโดนปฏิเสธ อีกทั้งเจ้าหญิงกำลังจะแต่งงานกับชายผู้สูงศักดิ์ อะลาดินตัดสินใจให้จีนี่ช่วยสลับตัวเขากับชายผู้นั้น เพื่อให้ได้เข้าไปนอนกับเจ้าหญิงทุกคืน จนกระทั่งเจ้าหญิงร้องขอให้สุลต่านยกเลิกงานแต่งกับชายผู้สูงศักดิ์และแต่งงานกับอะลาดินแทน
ทั้งสองอาศัยอยู่วังใหม่ของตนอย่างมีความสุข จนผู้วิเศษชาวแอฟริกันทราบเรื่องว่าอะลาดินได้ดิบได้ดีมีความสุข จึงกลับมาและออกอุบายให้เจ้าหญิงขายตะเกียงให้กับเขา เมื่อได้ตะเกียงไปแล้วชายชาวแอฟริกันจึงให้จีนี่ในตะเกียงยกวังและเจ้าหญิงไปอยู่กับเขาที่แอฟริกา อะลาดินที่มีเพียงจีนี่จากแหวนก็ไม่สามารถสู้รบกับฤทธิ์ของจีนี่ในตะเกียงได้ เขาจึงใช้ความพยายาม จนสามารถสังหารชายแอฟริกันลงได้ และกลับมาอยู่กับเจ้าหญิงดังเดิม
ในต้นฉบับอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ มีเรื่องราวอีกมากมายตามมาแต่อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ รวมถึงแหวนวิเศษและเจ้าหญิงของเขา ก็สามารถจัดการและผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้ในที่สุด
เราจะเห็นได้ว่านิทานต้นฉบับเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ มีทั้งความเหมือนและแตกต่างจากเวอร์ชันแอนิเมชันของทาง Disney ที่ผ่าน ๆ มา หวังว่าจะได้เกร็ดความรู้ และถือเป็นการเรียกน้ำย่อยสำหรับใครที่มีแพลนจะไปดูหนังเรื่องอะลาดิน (2019) ในโรงภาพยนต์อีกด้วยค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติม: มารู้จักประวัติ การดูดวงไพ่ยิปซี พร้อมเช็คดวงกับความหมายของไพ่แต่ละใบ