การขับขี่ยานพาหนะให้ปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการขับขี่รถยนต์ จึงควรหมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ และยางรถยนต์ เพราะยางรถยนต์คอยทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก และช่วยลดแรงกระแทกจากการสั่นสะเทือนในระหว่างการขับขี่เพื่อให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้อย่างนิ่มนวลและปลอดภัย ด้วยยางรถที่มีอายุการใช้งาน และเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยและสมรรถนะที่ดีที่สุดในการขับขี่ และคำถามยอดฮิตในการเปลี่ยนคือควรเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ยางรถยนต์แบบไหนที่เหมาะกับรถของเรา วันนี้ Shopee ขอเปรียบเทียบยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดีที่สุด มาดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประเภทยางรถยนนต์ที่นิยมใช้มากที่สุด
ก่อนจะตัดสินใจเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีนั้น คุณควรรู้ประเภทของยางรถ เพื่อจะได้เลือกให้ยางให้เหมาะสมกับการใช้งานเพราะถ้าเลือกยางที่ไม่ถูกอาจทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัย ปัจจุบันยางรถยนต์หลากหลายประเภท ดังนั้น การรู้จักประเภทของยางรถยนต์จึงมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเลือกว่าจะเปลี่ยนยางยี่ห้อไหนดี มารู้จักประเภทของยางรถกันเถอะ!
1. ยางนุ่มเงียบ
ยางนุ่มเงียบ เป็นยางรถยนต์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยการออกแบบที่ทำให้ผิวสัมผัสหน้ายางมีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ลดแรงกระแทกได้ดี มีการเสริมเนื้อยางพิเศษบริเวณแก้มยางที่ช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อต้องเจอกับพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความนุ่มสบาย เน้นกับการขับรถในเมือง หรือสถานที่ที่ไม่ขรุขระมากนัก และมีประสิทธิภาพในการเกาะถนนที่ดีกว่ายางปกติ แต่ก็มีข้อเสียของยางนุ่มเงียบนั้นมักจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ายางปกติ ทั้งนี้ยางนุ่มเงียบมีราคาให้ตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึงราคา 18,000 บาท
2. ยางประหยัดน้ำมัน
ยุคนี้การทำสินค้าเกี่ยวกับรักษ์โลกหรือเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม นับเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรใหญ่ให้ความสำคัญมาก ซึ่งยางประหยัดน้ำมันก็เป็นหนึ่งในยางที่นำมาใช้กับรถยนต์ Eco Car เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ด้วยการออกแบบให้มีความต้านทานในการเคลื่อนที่ที่ต่ำกว่ายางปกติ ซึ่งช่วยให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น และใช้น้ำมันเพียงน้อยกว่าปกติ แม้ว่าจะช่วยประหยัดเงินในการเติมน้ำมัน แต่ก็มีข้อเสียตรงนี้ความสามารถในการเกาะถนนไม่ดีเท่ากับยางปกติ อาจจะมีความคงทนต่ำกว่ายางปกติ เพราะมีสารเคมีที่ช่วยลดการเสียรูปของยาง ทำให้ยางแตกหักและสึกหยาบขึ้นได้ง่ายขึ้น โดยมีราคาให้เลือกตั้งแต่ 2,500 บาท ไปจนถึงราคา 11,900 บาท
3. ยางรันแฟลต (Run Flat)
ยางรันแฟลต (Run Flat) เป็นยางที่มีการออกแบบด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยลดการเสียหายจากการแตก หรือระเบิดของยาง ช่วยให้คงสภาพของยางเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์เกิดการรั่วซึมให้สามารถขับต่อไปได้ และสามารถขับบนพื้นถนนทั้งเปียกและแห้งได้เป็นอย่างดี จึงถูกจัดให้เป็นยางระดับพรีเมียมที่มีความสามารถสูงมากกว่ายางประเภทอื่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงมาก โดยราคามีให้เลือกตั้งแต่ 7,500 บาท ไปจนถึงราคา 20,000 บาท
4. ยางสปอร์ต
ยางสปอร์ต เป็นยางที่มีสมรรถนะสูงความเหมาะสมกับการขับขี่แบบสปอร์ต มีคุณสมบัติในการยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม สามารถควบคุมและตอบสนองกับพวงมาลัยที่แม่นยำ จึงเหมาะกับการขับด้วยความเร็ว และพื้นถนนที่เรียบ แต่รับแรงกระแทกได้ไม่มากเท่าไหร่เมื่อต้องขับบนสภาพถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ อีกทั้งยางรถมีความความยืดหยุ่นและเหนียวแน่น สามารถทำงานได้โดยไม่เสียความเร็ว และก็ช่วยลดแรงเสียดทานของยางได้ดี แน่นอนว่าเมื่อยางมีประสิทธิภาพสูง ราคาย่อมสูงขึ้นด้วย และมีอายุการใช้งานสั้นกว่ายางรถยนต์ปกติ โดยจะมีราคาให้เลือกตั้งแต่ 1,500 บาท ไปจนถึงราคา 10,000 บาท
5. ยางออฟโรด
ยางออฟโรด เป็นยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบสมบุกสมบันบุกขึ้นเขาลงห้วย หรือขับขี่บนถนนขรุขระ ด้วยลักษณะของยางออฟโรดนั้นจะมีดอกยางขนาดใหญ่ เพื่อให้รถยนต์สามารถขับขี่บนพื้นผิวที่มีความลาดชันสูง หรือพื้นที่ที่มีการขับขี่ที่ยากลำบากสามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นยางที่ขับได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นดินโคลน พื้นทราย ลุยน้ำ ฝนตก ทางลาดชัน หรือพื้นผิวขรุขระ ตัวยางรถมีแรงเกาะถนนเป็นเยี่ยม ตอบสนองกับพวงมาลัยได้ดี ซึ่งข้อเสียของยางออฟโรดคือจะไม่สามารถรองรับการสะท้อนแรงสั่นได้ดีเท่าที่ควร จึงทำให้ผู้ขับรู้สึกกระด้างไม่นุ่มในขณะขับได้ โดยมีให้เลือกราคาตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึงราคา 20,000 บาท
Credit: Freepik
เคล็ดลับการดูแลรักษายางรถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน
การดูแลรักษายางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะยางรถยนต์จะช่วยให้เราสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น จึงควรจะต้องดูแลรักษายางรถยนต์ให้ถูกวิธี เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน ลองมาดูวิธีการดูแลรักษายางรถยนต์ ดังนี้
- หมั่นตรวจเช็กลมยางก่อนใช้งานทุกครั้งว่าลมยางอ่อนหรือแข็งเกินไป เพราะหากลมยางไม่พอดีหรือไม่เหมาะสมกับยางรถยนต์ อาจจะทำให้ยางระเบิดหรือเสียหายได้ ซึ่งอัตราการสูบลมยางที่เหมาะสมกับยางรถยนต์แต่ละประเภท
- เลือกประเภทของยางรถยนต์ให้เหมาะกับสภาพถนน เพราะช่วยรักษาอายุการใช้งานของยางรถได้
- ควรตั้งศูนย์ให้มีความสมดุลเพื่อป้องกันปัญหาของหน้ายางเสื่อมและดอกยางสึกไม่เท่ากัน ช่วยยืดอายุของยางรถยนต์ได้
- ไม่ควรจอดรถตากแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ เนื่องจากแสงแดดมีส่วนทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ เพราะน้ำหนักของรถก็จะถูกทิ้งมาที่ยางรถยนต์ มีโอกาสที่จะทำให้ยางส่วนนั้นยุบได้ หรือทำให้ล้อไม่เป็นวงกลม และอาจเกิดอันตรายในการขับขี่ได้
- หมั่นเช็กสภาพของยางรถยนต์และดอกยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ มีการชำรุดหรือฉีกขาดเสียหายไหม โดยเฉพาะถ้าคุณมีการใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำยิ่งควรต้องเช็ก ถ้าเกิดความเสียหายจะได้รีบเปลี่ยนยางได้ทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
วิธีเลือก ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับรถยนต์มากที่สุด
เมื่อรู้จักประเภทของยางรถยนต์และวิธีการดูแลรักษายางรถยนต์อย่างไรเพื่อให้มีอายุการใช้งานได้นาน คราวนี้มาดูวิธีเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับรถยนต์และการใช้งานมากที่สุด ซึ่งการซื้อยางรถจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง มาดูกัน
1. เลือกยางรถให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพถนน
ปัจจัยแรกของการเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีให้พิจารณาจากการใช้งาน ถ้าเน้นใช้งานในเมืองที่ถนนเรียบ ควรเลือกยางรถที่มีดอกยางละเอียด ร่องยางแคบและถี่ เพื่อที่ผิวหน้ายาได้สัมผัสกับพื้นถนนมากที่สุด คอยช่วยยึดเกาะถนน และมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเน้นใช้งานถนนขรุขระหรือลุยโคลนเป็นประจำ ควรเลือกยางรถที่มีดอกยางขนาดใหญ่และร่องห่าง เพื่อช่วยสกัดพวกโคลน หิน และไม่ทำให้ติดตามรอยยางนั่นเอง
2. เลือกขนาดยางรถที่เหมาะสม
ขนาดยางเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญและมีผลต่อการขับเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรเลือกยางที่มีขนาดเดียวกับยางมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถจากโรงงาน และควรเลือกยี่ห้อ รุ่น ขนาดยางให้เหมือนกันทั้ง 4 เส้น เมื่อเปลี่ยนยางก็ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้ง 4 เส้น มากกว่าแค่เปลี่ยนยางทีละคู่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ กรณีเปลี่ยนเป็นล้อเล็กกว่าเดิม ให้เพิ่มขนาดแก้มยาง แต่ถ้าใช้ล้อใหญ่ขึ้น ให้ลดขนาดแก้มยางลง เพื่อให้เส้นรอบวงใกล้เคียงกับขนาดล้อมาตรฐานที่สุด
3. เช็กอายุและสภาพของยางรถ
เมื่อเลือกประเภทและขนาดยางแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องคำนึงในการเลือกซื้อยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ให้เช็กอายุ และสภาพของยางรถก่อนซื้อด้วย ให้เช็กวันที่ผลิตบนแก้มยาง โดยจะระบุเป็น WW/YY ซึ่งหมายถึงสัปดาห์และปีที่ผลิต ถ้าซื้อยางมือสองควรตรวจสภาพของยางก่อนว่ามีสภาพของเนื้อยางที่ไม่แตกลายมากนัก หรือไม่มีรอยต่อของยาง เพื่อให้ยางที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานกล้องติดรถยนต์เลยทีเดียวนะ
ตารางเปรียบเทียบยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
ยี่ห้อ | DUNLOP | DEESTONE | GOODRIDE | HANKOOK | BRIDGESTONE รุ่น ECOPIA EP300 | NEXEN | YOKOHAMA ALLIANCE AL30 | NITTO รุ่น 420S | MICHELIN ENERGY XM2+ | MAXXIS I-PRO |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สัญชาติ | อังกฤษ | ไทย | จีน | เกาหลีใต้ | ญี่ปุ่น | เกาหลีใต้ | ญี่ปุ่น | ญี่ปุ่น | ฝรั่งเศส | ไต้หวัน |
จุดเด่น | เน้นคุณภาพยางที่คุ้มค่า ราคาสมเหตุผล มีหลายรุ่นให้เลือก | ดีไซน์โดดเด่น ยึดเกาะถนนได้ดี เข้าโค้งมั่นใจ ราคาไม่แพง | ใช้ยางพาราไทยคุณภาพสูง เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถ ยืดหยุ่นสูง ทนทาน | ดีไซน์ดอกยางสวยล้ำสมัย ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆยึดเกาะถนนได้ดี | เอาใจสายประหยัดน้ำมัน ขับขี่ได้นุ่มเงียบ ขับง่าย ยางยึดเกาะถนนได้ดี | สมรรถนะสูง เข้าโค้งได้แม่นยำ ทรงตัวดีเยี่ยม เหมาะกับการขับขี่ในสไตล์สปอร์ต | สมรรถนะยางมีความสมดุล ทั้งการควบคุมบนพื้นเปียกและพื้นผิวที่ไม่เรียบ | เทคโนโลยีเนื้อยางโพลีเมอร์ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะสูง ยึดเกาะถนนดีเยี่ยม รีดน้ำได้อย่างรวดเร็ว | ปลอดภัยสูง เบรกได้สั้น นุ่มเงียบในการขับขี่ ยางรถใช้งานได้ยาวนานกว่ายางชั้นนำทั่วไป 25% | ออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มความทนทาน เสริมยึดเกาะถนนได้ดี |
กลุ่มยาง | ประหยัดน้ำมัน,นุ่มเงียบ | ประหยัดน้ำมัน,นุ่มเงียบ | ประหยัดน้ำมัน,นุ่มเงียบ | ประหยัดน้ำมัน,นุ่มเงียบ | ประหยัดน้ำมัน,นุ่มเงียบ | ยางสปอร์ต เน้นความเร็ว | ประหยัดน้ำมัน | นุ่มเงียบ | นุ่มเงียบ | นุ่มเงียบ |
ขอบยาง | 15 – 17 นิ้ว | 14 – 17 นิ้ว | 14 – 18 นิ้ว | 15 – 17 นิ้ว | 15 – 17 นิ้ว | 14 – 16 นิ้ว | 13 – 18 นิ้ว | 17 – 20 นิ้ว | 14 – 16 นิ้ว | 15 – 18 นิ้ว |
ประเภทรถ | รถเก๋ง, กระบะ, SUV | รถเก๋ง | รถเก๋ง, กระบะ, SUV | รถเก๋ง, กระบะ, SUV | รถเก๋ง, กระบะ, SUV | รถอีโค่, รถเก๋งขนาดเล็ก-กลาง | รถเก๋ง, กระบะ, SUV | รถ SUV และรถบรรทุก | รถยนต์ขนาดเล็กและรถอีโคคาร์ | รถยนต์ รถกระบะ และรถ SUV |
ราคา | 9,960 – 20,360 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 4,640 – 7,230 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 4,530 – 10,110 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 5,750 – 16,600 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 12,800 – 21,560บาท (ต่อ 4 เส้น) | 8,360 – 17,400 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 1,379 – 3,050 บาท (ต่อ 1 เส้น) | 22,939 – 25,877 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 14,360 – 23,400 บาท (ต่อ 4 เส้น) | 1,646 – 3,013 บาท (ต่อ 1 เส้น) |
แนะนำ 10 ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี ทนทานสูง ยึดเกาะถนนได้ดี
ยางรถยนต์นอกจากจะมีให้เลือกหลายประเภทแล้ว ก็ยังมีให้เลือกหลายรุ่น และยี่ห้อยางรถยนต์หลากหลายสุด ๆ ทำให้เลือกไม่ถูกเลยว่าเปลี่ยนเป็น ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ถึงจะเหมาะกับรถเรามากที่สุด และที่สำคัญจะต้องเป็นยางที่ดีมีคุณภาพ ทนทานสูง และยึดเกาะถนนได้ดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางก็คิดให้ปวดหัวแล้ว เพราะเราคัดมาให้แล้ว 10 ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เปรียบเทียบยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อไปเลย มียี่ห้อยางรถยนต์อะไรบ้าง มาดูกัน
1.ยางรถยนต์ DUNLOP
เริ่มต้นรีวิว ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ตัวแรกกับ ยางรถยนต์ DUNLOP เป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษ จากเมืองเบอร์มิงแฮม ได้รับความนิยมจากเจ้าของรถมาโดยตลอด เป็นยางที่มีความสวยงาม โดยมีให้เลือกหลายรุ่นแต่ถ้าใครอยากประหยัดน้ำมัน แนะนำเป็น รุ่น ENASAVE EC300+ ยางประหยัดน้ำมัน ได้ออกแบบมาเพื่อมอบให้ความนุ่มสบาย ด้วยส่วนผสมแบบ Silica Compound ช่วยลดความร้อนสะสมในยางได้ ทำให้แรงต้านทานการหมุนลดลง ช่วยเซฟค่าน้ำมันได้ถึง 20% เมื่อเปรียบเทียบกับยางปกติ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น DUNLOP รุ่น ENASAVE EC300 แต่ถ้าใครชอบความนุ่มในการขับขี่ก็มียางนุ่มเงียบให้เลือกหลายรุ่น เช่น DUNLOP รุ่น SP LT37 , DUNLOP รุ่น GRANDTREK PT3 , DUNLOP รุ่น GRANDTREK PT5 , DUNLOP รุ่น SP SPORT LM705 และ DUNLOP รุ่น GRANDTREK AT22 เป็นต้น
รายละเอียดยางรถยนต์ DUNLOP
- ยางมีให้เลือกทั้งรถเก๋ง, กระบะ, SUV
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 15 – 17 นิ้ว
- ยางมีสมรรถนะสูง นุ่มเงียบ ลดเสียงรบกวน ลดแรงสั่นสะเทือน
- ราคาประมาณ 9,960 – 20,360 บาท (ต่อ 4 เส้น)
2.ยางรถยนต์ DEESTONE
มาต่อกันที่ยางรถยนต์ DEESTONE เป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ของคนไทยรายใหญ่ที่สุดในประเทศโดยส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก มียางรถยนต์ทุกประเภทและหลายรุ่นให้เลือก แต่ถ้าใครชอบความนุ่มนวลนุ่มเงียบ แนะนำ Deestone ยางรถยนต์ รุ่น Premium Tourer RA01 ด้วยการออกแบบใช้เทคโนโลยี Diamond Groove ช่วยในความนุ่มนวลนุ่มเงียบ ออกแบบร่องยางสามมิติรูปเพชรที่ลดการสั่นของคลื่นเสียงในแต่ละระดับสัมพันธ์กับในการขับขี่แต่ละย่านความเร็ว ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น และเกาะถนนได้ทั้งถนนแห้งและเปียก มั่นใจเรื่องความปลอดภัยชัวร์ นอกจากนี้ยังมียางรุ่นอื่น ๆ อย่าง Deestone ยางรถยนต์ รุ่น Nakara R201, Deestone ยางรถยนต์ รุ่น Carreras R702 และ Deestone ยางรถยนต์ รุ่น R20 เป็นต้น
รายละเอียดยางรถยนต์ DEESTONE
- ยางสำหรับรถเก๋ง
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 14 – 17 นิ้ว
- ยึดเกาะถนนได้ดี ทั้งพื้นถนนแห้งและเปียก
- ช่วยประหยัดน้ำมัน ความต้านทานการหมุนต่ำ ทำให้ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ
- ราคาประมาณ 4,640 – 7,230 บาท (ต่อ 4 เส้น)
3.ยางรถยนต์ GOODRIDE
ยางรถยนต์ GOODRIDE มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ปัจจุบันได้มาตั้งโรงงานผลิตยางรถในประเทศไทย โดยผลิตยางรถยนต์ ยางรถบรรทุก และยางรถมอเตอร์ไซด์ รวมถึงส่งออกหลากหลายประเทศทั่วโลกและจำหน่ายในประเทศไทย จุดเด่นแบรนด์นี้คือใช้ยางพาราไทยคุณภาพสูง เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางเรเดียลเสริมใยเหล็กที่ให้ความยืดหยุ่นสูง มีความทนทาน ในขณะเดียวกันก็ให้ความนุ่มนวล จึงได้มาเป็นยางรถยนต์ที่มีมาตรฐานในระดับโลก ใครขับรถเก๋งอยากจะได้ยางที่มีความนุ่ม แนะนำเป็น ยางนุ่มเงียบ รุ่น RP88 ที่ให้ทั้งความนุ่มและยังเกาะถนนได้ดี ด้วยการออกแบบดอกยางให้มีการกระจายตัวได้อย่างสมดุล สัมผัสพื้นผิวถนนได้สม่ำเสมอ ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น และลดเสียงรบกวนตลอดการเดินทาง ใครกำลังมองหา ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ที่มีราคาไม่แพง ประสิทธิภาพการใช้งานสูง ยางรถ GOODRIDE เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
รายละเอียดยางรถยนต์ GOODRIDE
- ยางมีให้เลือกทั้งรถเก๋ง, กระบะ, SUV
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 14 – 18 นิ้ว
- ยางผลิตจากยางพาราคุณภาพสูงของไทย
- ราคาประมาณ 4,530 – 10,110 บาท (ต่อ 4 เส้น)
4.ยางรถยนต์ HANKOOK
รีวิวยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีกันต่อกับ ยางรถยนต์ HANKOOK บริษัทยางรถยนต์บริษัทแรกของประเทศเกาหลีใต้ และยังได้รับการยอมรับทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกามาแล้ว ถือเป็นแบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลก โดยจะมียางรถให้เลือกหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับรถแต่ละประเภท ใครขับรถเก๋งอยากจะเปลี่ยนยางแนะนำ HANKOOK ยางรถยนต์ รุ่น Ventus V2 concept2 เป็นยางสปอร์ต ออกแบบร่องดอกยางแบบ 3 มิติ ช่วยให้บังทิศทางได้อย่างแม่นยำ ระยะการเบรคที่เหมาะสม ตัวโครงสร้างของยาง และแก้มยาง Bead Filler มีความแข็งมาก เพื่อตอบสนองในการเข้าโค้ง และการบังคับการเลี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครขับรถกระบะหรือรถ SUV แนะนำ HANKOOK ยางรถยนต์ รุ่น Vantra RA18 เหมาะกับใช้งานรถตู้ กระบะ เพราะมีสมรรถนะ และความทนทานเยี่ยม แถมยังเกาะถนนได้ดี มั่นใจทุกการขับขี่
รายละเอียดยางรถยนต์ HANKOOK
- ยางมีให้เลือกทั้งรถเก๋ง, กระบะ, SUV
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 15 – 17 นิ้ว
- ดีไซน์ดอกยางสวยล้ำสมัย ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ
- โครงสร้างพื้นฐานดอกยางออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวน
- ราคาประมาณ 5,750 – 16,600 บาท (ต่อ 4 เส้น)
5.ยางรถยนต์ BRIDGESTONE รุ่น ECOPIA EP300
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ยางรถยนต์ BRIDGESTONE ยางรถยนต์ที่เคยขึ้นแท่นเป็นยางอันดับหนึ่ง ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตอย่างครบครัน และขึ้นชื่อในเรื่องการทนความร้อนและทนแรงกระแทกได้ดี อีกทั้งถูกจัดว่าเป็นยางที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของไทย สำหรับยางรถยนต์ BRIDGESTONE รุ่น ECOPIA EP300 มาพร้อมดีไซน์ดอกยางให้มีการกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอ จึงช่วยให้ยึดเกาะถนนเปียกได้เป็นอย่างดี ช่วยลดความต้านทานการหมุน ทำให้ยางมีประสิทธิภาพการใช้งานสูง ดอกสึกช้ามาก และทนทานต่อการขับบนถนนขรุขระหรือถนนพัง ๆ ได้ดี ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น และที่สำคัญยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย
รายละเอียดยางรถยนต์ BRIDGESTONE รุ่น ECOPIA EP300
- ใช้ได้ทั้งรถเก๋ง, กระบะ, SUV
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 15 – 17 นิ้ว
- ออกแบบเพื่อให้การขับขี่ความนุ่มและเงียบ
- ยางได้ออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะบนถนนเปียกที่ดียิ่งขึ้น
- ราคาประมาณ 12,800 – 21,560บาท (ต่อ 4 เส้น)
6.ยางรถยนต์ NEXEN
มาต่อกับยางรถยนต์ NEXEN เป็นแบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำของเกาหลีใต้ และยังที่ได้รับความไว้วางใจจากยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำมากมายทั่วโลก ยกให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (OE) ประสบการณ์ผลิตยางมากกว่า 80 ปี โดยจะมียางสำหรับรถเก๋ง รถกระบะ และรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานกับรถทุกประเภท โดยยางรถที่อยากแนะนำมีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ ยางรุ่น N’FERA SU4 จุดเด่นมีความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ควบคุมการขับขี่บนถนนแห้งและเปียกได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับ รถเก๋งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และรถครอบครัว สำหรับยางรุ่น N’FERA SU1 จุดเด่นจะมีความคล้ายกับ ยางรุ่น N’FERA SU4 นี้เลย แต่จะมีความพิเศษตรงที่ทนทาน และ เหมาะสำหรับรถขนาดกลาง รถขนาดใหญ่ และรถสปอร์ต สุดท้ายกับ ยางรุ่น N’PRIZ SH9i มาพร้อมกับโดนเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ทนทาน รีดน้ำได้ดี และมีความนุ่มนวล เหมาะสำหรับรถเก๋งขนาดเล็ก และขนาดกลาง สามารถเลือกได้ทุกรุ่นเลย
รายละเอียดยางรถยนต์ NEXEN
- ยางมีให้เลือกทั้งรถอีโค่, รถเก๋งขนาดเล็ก , รถเก๋งขนาดกลาง
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 14 – 16 นิ้ว
- เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิตยางรถยนต์
- ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างการออกแบบยางที่เป็นนวัตกรรมใหม่
- ราคาประมาณ 8,360 – 17,400 บาท (ต่อ 4 เส้น)
7.ยางรถยนต์ YOKOHAMA
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ที่คนไทยหลายคนให้ความมั่นใจ หนึ่งในนั้นจะต้องแบรนด์ YOKOHAMA ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นในเมืองโยโกฮามา และมีประสบการณ์ผลิตยางรถยนต์มากว่า 100 ปี สำหรับยางรถยนต์ YOKOHAMA รุ่น ALLIANCE AL30 ดีไซน์เรียบหรู ยางราคาประหยัด ยางมาตรฐานจากญี่ปุ่นสำหรับคนเมืองทั้งประหยัดน้ำมันและปลอดภัย ด้วยส่วนผสมที่มีสารประกอบผสมที่ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันและสมรรถนะในขับขี่บนถนนเปียกได้ดี พร้อมกับเทคโนโลยีการผสมผสานระดับนาโนจะควบคุมปฏิกิริยาเคมีของสารต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว อีกทั้งลายดอกยางออกแบบมาเพื่อป้องกันการสึกแบบไม่สม่ำเสมอ ทำให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
รายละเอียดยางรถยนต์ YOKOHAMA
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 13 – 18 นิ้ว
- คุณสมบัติพิเศษด้านค่าความต้านทานการหมุนจึงช่วยประหยัดพลังงานลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
- ร่องยางแนวตรงทั้ง 4 ร่อง เพิ่มประสิทธิภาพการขับบนถนนเปียกได้ดี ความต้านทานต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงได้ดีขึ้น
- การออกแบบของบล็อกดอกยาง ลดอัตราการสึกแบบไม่เรียบ เพิ่มการควบคุมเสถียรภาพสูงมากขึ้น
- ราคาประมาณ 1,379 – 3,050 บาท (ต่อ 1 เส้น)
8.ยางรถยนต์ NITTO รุ่น 420S
มาต่อกันที่ยางรถยนต์ NITTO เป็นบริษัทผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นที่มีความทันสมัยและได้มีการออกแบบยางรถยนต์ให้เป็นเอกลักษณ์เหมือนงานศิลปะ แต่ยังคงสมรรณะการใช้งานไว้ได้อย่างดี เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการขับขี่ได้หลากหลาย มีให้เลือกหลายรุ่นแนะนำยางรถยนต์ NITTO รุ่น 420S ยางรถ SUV สไตล์สปอร์ต ที่มีความนุ่มและเงียบ ด้วยการออกแบบด้านนอกของยางให้เป็นบล็อกยางที่กว้างทำให้เกาะถนนได้ดี และเพิ่มหน้าสัมผัสที่จะสร้างหน้าสัมผัสกับพื้นถนนที่เพิ่มแรงเกาะติดถนนเมื่อเกิดการหมุน และการออกแบบลายยางให้สลัดน้ำได้ดีบนถนนเปียก เหมาะสำหรับการขับขี่บนทุกพื้นผิวทั้งบนถนนแห้งและเปียก จึงเป็นอีกยี่ห้อที่อยากแนะนำ
รายละเอียดยางรถยนต์ NITTO รุ่น 420S
- เหมาะสำหรับรถ SUV และรถบรรทุก
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 17 – 20 นิ้ว
- สมรรถนะการยึดเกาะถนน และการเบรกที่ดีเยี่ยม
- การออกแบบลายยางทำให้สลัดน้ำได้ดีบนถนนเปียก
- ราคาประมาณ 22,939 – 25,877 บาท (ต่อ 4 เส้น)
9.ยางรถยนต์ MICHELIN ENERGY XM2+
ยางรถยนต์ยี่ห้อ Michelin เป็นแบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยและได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเป็นอันดับต้น ๆ เป็นยางรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีประสบการณ์การผลิตยางมาอย่างยาวนาน ด้วยประสบการณ์ในด้านการพัฒนาต่าง ๆ ในหลายด้าน ปัจจุบันยางรถยนต์ Michelin มีให้เลือกหลายรุ่น สำหรับคนที่ขับรถยนต์ขนาดเล็กและรถอีโคคาร์อยากจะเปลี่ยนยางเส้นใหม่ แนะนำเป็นยางรถยนต์ MICHELIN ENERGY XM2+ ออกแบบที่เน้นความปลอดภัยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกให้เบรกสั้นลง และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่า 25% ด้วยเนื้อยาง Full Silica สูตรใหม่ลิขสิทธิ์เฉพาะ Michelin มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยทำให้หน้ายางปรับสภาพและยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ช่วยสร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่
รายละเอียดยางรถยนต์ MICHELIN ENERGY XM2
- เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและรถอีโคคาร์
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 14 – 16 นิ้ว
- เบรกสั้น มั่นใจ ทั้งยางใหม่และใกล้หมดดอก
- มีส่วนผสมเนื้อยาง Full Silica ที่ให้ความยืดหยุ่น ช่วยให้หน้ายางปรับสภาพและยึดเกาะพื้นถนนได้ดี
- ราคาประมาณ 14,360 – 23,400 บาท (ต่อ 4 เส้น)
10.ยางรถยนต์ MAXXIS I-PRO
ปิดท้ายการรีวิว ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี กับ ยางรถยนต์ MAXXIS I-PRO ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน และยางรถรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ดอกยางที่เป็นเอกลักษณ์ หน้ายางที่ออกแบบพิเศษเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่มีเสียงรบกวน หน้ายางออกแบบด้วยร่องดอกยาง 4 แถว เพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำดีและยึดเกาะถนนเปียกได้ดีเยี่ยม สันกลางดอกยางที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และบล็อกดอกยางมีขนาดใหญ่บริเวณไหล่ยางพร้อมใส่ Bead Filler ช่วยเสริมการยึดเกาะถนน และออกแบบโครงยางใหม่ให้เกิดการกระจายแรงดัน เมื่อใช้ความเร็วสูงช่วยทำให้การควบคุมบังคับเลี้ยวและจังหวะเข้าโค้งได้แม่นยำยิ่งขึ้น ปลอดภัยทุกการขับขี่ ใครกำลังจะเปลี่ยนยางเส้นใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ยึดเกาะถนนได้ดี ราคาไม่แพง ยางรถยนต์ MAXXIS เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
รายละเอียดยางรถยนต์ MAXXIS I-PRO
- เหมาะกับรถยนต์ รถกระบะ และรถ SUV
- ขอบยางมีให้เลือกตั้งแต่ 15 – 18 นิ้ว
- สูตรเนื้อยางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผสมกับซิลิก้าขั้นสูง
- หน้ายางออกแบบพิเศษเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่มีเสียงรบกวนต่ำ
- ราคาประมาณ 1,646 – 3,013 บาท (ต่อ 1 เส้น)
จากการเปรียบเทียบยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อนั้น ก็หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้ไอเดียในการเลือกซื้อ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี และยางรุ่นไหนดีถึงจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด รวมถึงวิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์ของตัวเอง หากคุณต้องการยางรถยนต์ที่มีคุณภาพดี ทนทานสูง และมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้ดีที่สุด สามารถเลือกจากทั้ง 10 ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ที่เราแนะนำได้เลย เพราะยี่ห้อดังชั้นนำ จึงมั่นใจเรื่องคุณภาพการผลิตและความปลอดภัยในการใช้งานได้เลย และถ้าอยากให้ยางรถใช้งานได้นาน ๆ ก็ควรหมั่นดูแลบำรุงรักษา นอกจากนี้ถ้าอยากเสริมหล่อให้กับรถด้วยล้อแม็กซ์ เบาะรองนั่งในรถ หรืออุปกรณ์แต่งรถอื่น ๆ ให้มาช้อปที่ Shopee มีสินค้าหลากหลายประเภท ตอบโจทย์คนรักรถแน่นอน นอกจากนี้ยังมีบทความสาระน่ารู้อีกมากมาย เช่น อายุการใช้งานยางรถยนต์กี่ปีควรเปลี่ยนใหม่ หรือ GPS ติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรืออื่น ๆ ติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog !