โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีจากยุงลายตัวเมียซึ่งเป็นพาหะนำโรค เชื้อไวรัสเดงกีซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 โรคไข้เลือดออกจะพบมากในประเทศเขตร้อนและเขตอบอุ่น ในประเทศไทยมีสถิติของโรคไข้เลือดออกมากเป็นอันดับ 2 ในทวีฟเอเชีย เป็นรองจากฟิลิปปินส์ หน้าฝนเข้าใกล้มาแล้วดังนั้นจึงต้องระวังมากเป็นพิเศษ มาดูกันว่าควรระวังอย่างไร อาการไข้เลือดออกเริ่มต้นจะแสดงออกแบบไหน เพื่อจะได้ป้องกันได้ทันท่วงที
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
การป้องกันโรคไข้เลือดออก อาการคนเป็นไข้เลือดออกเป็นอย่างไร ไข้เลือดออกกี่วันหาย
อย่างที่กล่าวไปว่าโรคไข้เลือดออกนั้นมีพาหะมาจากยุงลาย ดังนั้นหากที่อยู่ใครมีบริเวณน้ำขัง ถังน้ำพลาสติก แจกันแก้ว ในภาชนะที่ยุงสามารถเข้าไปวางไข่ได้ ควรทำลายแหล่งเพาะพันธุ์เหล่านี้ ตรวจเช็คทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการเป็นไข้เลือดออก เพราะโรคนี้สามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย สังเกตอาการไข้เลือดออกเริ่มต้นได้ดังนี้
credit: freepik
อาการไข้เลือดออกเริ่มต้น
- มีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียสประมาณ 2-7 วัน
- ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
- ปวดท้องอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นสีดำ กดเจ็บชายโครงด้านขวา
- หน้าแดง อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน
- ตัวซีดและเย็น รู้สึกกระสับกระส่าย หรือชีพจรเต้นอ่อนแต่เต้นเร็ว หายใจลำบากหรือหายใจถี่
- รับประทานอาหารไม่ได้ อ่อนเพลีย ดูซึมลง
- รู้สึกหงุดหงิด สับสน หรือกระสับกระส่าย
อาการคนเป็นไข้เลือดออก แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ
อาการคนเป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในเด็กและวัยรุ่นอาจไม่พบสัญญาณอาการใด ๆ ของโรคไข้เลือดออกหากป่วยในระดับที่ไม่รุนแรง หากเริ่มมีอาการไข้เลือดออกเริ่มต้นควรไปพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งอาการคนเป็นไข้เลือดออกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระยะไข้ ระยะวิกฤติ/ช็อก ระยะฟื้นตัว
- ระยะไข้
มักมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียสแบบเฉียบพลันประมาณ 4-5 วัน อาการที่พบบ่อยอย่างที่กล่าวไปในอาการไข้เลือดออกเริ่มต้นคือ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เจ็บชายโครงด้านขวา ส่วนอาการเลือดออกที่ผิวหนังจะพบกระจายตามแขนขา - ระยะวิกฤติ/ช็อก
เป็นระยะที่มีการรั่วของพลาสมาซึ่งจะพบส่วนใหญ่ในช่วงที่อาการไข้ลดลง โดยจะมีระยะเวลาการรั่วประมาณ 24-48 ชั่วโมง ควรได้รับการรักษาอยากทันท่วงที เพราะอาจช็อกจนทำให้เสียชีวิตได้
ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้เลือดออกเดงกีในระยะที่ 2 มีความรุนแรงของโรคแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ
ระดับ 1 ไม่มีภาวะช็อก
ระดับ 2 ไม่มีภาวะช็อก แต่มีภาวะเลือดออก เช่นมีจุดเลือดออกตามตัว ถ่ายเป็นสีดำ
ระดับ 3 มีภาวะช็อก โดยมีชีพจรเบาเร็ว pulse pressure แคบ หรือความดันโลหิตต่ำ หรือมีตัวเย็น เหงื่อออกกระสับกระส่าย
ระดับ 4 มีภาวะช็อกรุนแรง วัดความดันโลหิต และหรือจับชีพจรไม่ได้
- ระยะฟื้นตัว
ในผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะช็อก จะมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ไข้ลดลง ส่วนในผู้ป่วยช็อกถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะเริ่มฟื้นตัวระยะเวลาทั้งหมดของไข้เลือดออกนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน
การดูแลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก
- ให้ทานอาหารผู้ป่วยอ่อน ๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
- ดื่มน้ำเกลือแร่ น้ำผลไม้และน้ำเปล่าให้มาก ๆ
- ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้มากที่สุด ที่พักควรมีอากาศถ่ายเท
- หากยังมีไข้อยู่ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำช็ดตัวบ่อย ๆ และให้ทานยาพาราเซตามอลลดไข้ ห้ามให้ยาลดไข้ชนิดอื่นเช่น เช่น แอสไพริน ยาซองลดไข้ทุกชนิด เพราะอาจะทำให้เลือดออกในกระเพาะอาหารได้
- เฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
เป็นไข้เลือดออกกี่วันหาย
หากมีอาการไม่รุนแรงมาก จะมีอาการดีขึ้นภายใน 2-7 วัน ไข้ลดลง เริ่มทานอาหารได้ อาการปวดท้องดีขึ้น ระยะนี้มักพบผื่นแดงและคันตามฝ่ามือและฝ่าเท้า แต่จะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์หากคนที่มีอาการรุนแรง มีจ้ำเลือดตามตัว เกล็ดเลือดต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว ควรพบแพทย์เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด อาจใช้เวลามากกว่า 7 วันในการรักษา เนื่องจากโรคไข้เลือดออกยังไม่มีวัคซีนป้องกันจังแนะนำให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด สวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด
หากรู้ทันโรคไข้เลือดออกแล้ว ก็สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ ยิ่งเข้าหน้าฝนยิ่งต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงให้หมดไป
แหล่งข้อมูล :