ซีรีส์ฝรั่งสนุก ๆ ทั้งใหม่และเก่า จะมีเรื่องอะไรบ้างนะ? วันนี้เรามีซีรีส์ฝรั่งแนะนํามาให้คุณเพียบ ช่วงกักตัวอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน หลาย ๆ คนอยากจะหาซีรีส์ฝรั่งสนุก ๆ ดูกันไปยาว ๆ แก้เบื่อได้ดีทีเดียวเชียวล่ะ ซึ่งซีรีส์ฝรั่งน่าดูที่เราคัดมาให้นั้น รับรองว่าสนุก ดูได้แบบเต็มอิ่ม จะมีเรื่องไหนที่น่าดูบ้าง ตามมาให้ไว
ดูซีรีส์ฝรั่งก็ดีต่อใจไม่แพ้ดูซีรีส์เกาหลีหรือซีรีส์จีนเลยนะ ปากบอกขอดูอีกตอนไม่ทันไรเช้าแล้วเหรอเนี่ย หลาย ๆ คนอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ก็แหมซีรีส์ฝรั่งน่าดูขนาดนี้ จะละสายตาไปแม้แต่นาทีเดียวก็เสียดายแย่ จริงไหม? เอาล่ะซีรีส์ฝรั่งแนะนํา 20 เรื่องจะโดนใจคุณบ้างมั้ย ไปดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
1. House of the Dragon
เรื่องแรกที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ House of the Dragon ซีรีส์ภาคก่อนหน้าของ Game of Thrones ที่หยิบเอาเรื่องราวของกษัตริย์วิเซริส ทาร์แกเรียน ครอบครัว การแบ่งแยก การชิงบัลลังก์ และการต่อสู้ที่ไม่อาจคาดเดาได้ สำหรับใครที่ไม่เคยได้รับชมมหาศึกบัลลังก์เหล็ก ก็สามารถรับชมซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ได้เลยทันที แต่สำหรับใครที่เคยดูมาก่อนแล้ว เราก็ไม่อยากให้คุณพลาด เพราะใน Game of Thrones มังกรหายไป เหลือแค่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่สำหรับ House of the Dragon คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับมังกรในเรื่องนี้ได้อย่างจุใจอีกด้วย ที่สำคัญที่สุด เรื่องการเมือง การปกครอง และปิตาธิปไตยนั้น ก็ยังคงครองบัลลังก์เช่นเดิม
2. The Witcher
ก่อนที่จะมาเป็นซีรีส์ฝรั่งน่าดูขนาดนี้ เรื่อง The Witcher เป็นนวนิยายชื่อดังของนักเขียนชาวโปแลนด์นาม Andrzej Sapkowski และยังนำมาดัดแปลงเป็นเกมอีกด้วย สำหรับซีรีส์ที่ Netflix นำมาสร้างนั้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ คนแคระ เอลฟ์ ปีศาจ ฯลฯ ที่อยู่รวมกันในโลกใบเดียว ที่จะต้องมาทำสงครามสู้รบกัน ปรากฏว่ามนุษย์เป็นผู้ได้รับชัยชนะ อีกทั้งมีเหตุการณ์ The Conjunction of the Spheres ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์มากมาย จึงต้องคิดค้นวิธีปราบเหล่าร้าย ด้วยการสร้างนักรบพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ The Witcher เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นต้องติดตามดูกันเองแล้วล่ะ
3. Andor
สำหรับซีรีส์ฝรั่งเรื่อง Andor ที่เราอยากจะแนะนำนั้น คุณอาจจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสตาร์วอร์สมาสักหน่อย เพราะเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มกบฏตัวเล็ก ๆ ที่พยายามต่อสู้กับฝ่ายจักรวรรดิ โดยเรื่องราวของ Andor จะเกิดขึ้นในช่วง 5 ปี ก่อนเกิดเหตุการณ์ใน Rogue One: A Star Wars Story นั่นเอง งานนี้จะมีโฟกัสที่ตัวของ Cassian Andor เป็นหลัก ที่หนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งพบว่า สิ่งที่เขาทำได้ดี และสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นก็คือการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็ก ๆ ที่โดนฝ่ายจักรวรรดิกดขี่ข่มเหง รับชมได้ทาง Disney+ Hotstar
4. Dickinson
หากคุณเคยได้ยินชื่อของกวีหญิงแห่งอเมริกานาม เอมิลี่ ดิกคินสัน คุณก็คงจะคุ้นกับชื่อของซีรีีส์ฝรั่งอย่าง Dickinson อยู่ไม่น้อย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการนำเรื่องราวของกวีสาวมาเล่าใหม่ในรู้แบบที่โมเดิร์นขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค โดยมีการนำบทกวีของเขามาร้อยเรียงและเล่าใหม่ให้เข้ากับแต่ละตอน หลายคนอาจจะบอกว่านี่ดูไม่เหมือนซีรีส์ชีวประวัติเลย เหมือนซีรีส์คอเมดี้ซะมากกว่า แต่ต้องบอกเลยว่าผู้สร้างเขาค่อย ๆ สร้างโลกของบทกวีให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น อินไปกับเรื่องราว และสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากคุณถามว่าซีรีส์เรื่องนี้สนุกไหม ต้องลองรับชมกันบน Apple TV+
5. Warrior Nun
มาต่อกันที่ซีรีส์แฟนตาซีกันอีกสักเรื่อง Warrior Nun บน Netflix เล่าเรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อ เอวา ซิลวา ที่เพิ่งเสียชีวิต จู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเฮโล หรือวงแหวนของทูตสวรรค์ มาอยู่ที่กลางหลังของเธอ และด้วยสิ่งนั้น ทำให้เธอต้องเข้าร่วมกับคณะดาบกางเขน ที่ทำหน้าที่ปกป้องโลกจากปีศาจร้าย และเพื่อป้องกันไม่ให้มันเข้ายึดครองโลก เธอและเหล่าซิสเตอร์แห่งคณะดาบกางเขน จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันต่อสู้กับลัทธิประหลาดที่คอยชักจูงให้มนุษย์หันหน้าเข้าหาปีศาจร้ายตนนี้
6. The Last of Us
เข้าสู่โลกดิสโทเปียกันสักหน่อยกับซีรีส์ฝรั่งที่ได้รับคำชมมาอย่างมากมาย ทั้งในรูปแบบของเกมและซีรีส์อย่าง The Last of Us ที่หยิบเรื่องราวของเกมในชื่อเดียวกันมาสร้างเป็นเวอร์ชั่นคนแสดง เล่าเรื่องราวในช่วง 20 ปีให้หลัง หลังจากที่การติดเชื้อในครั้งนั้นบนโลก ทำลายล้างอารยธรรมและประชากรให้หายไปเป็นจำนวนมาก โจเอล ได้รับการว่าจ้างให้พาตัว เอลลี่ ออกจากเขตกักกันทหาร ที่ต้องเดินทางข้ามสหรัฐอเมริกา ผ่านผู้ติดเชื้อ ทหาร และกลุ่มโจร เพื่อเอาตัวรอดไปยังจุดหมายปลายทางที่พวกเขาต้องการที่จะไป
7. Sex Education
เป็นซีรีส์ฝรั่งน่าดูของ Netflix จากประเทศอังกฤษ แนว Comedy-drama เป็นเนื้อเรื่องเของ โอทิส เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไปให้คำปรึกษาเรื่องเพศกับเพื่อนโดยที่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นประเด็นโด่งดังไปทั่วโรงเรียน โดยโอทิส ได้รับอิทธิพลความรู้เรื่องเพศมาจากคุณแม่ ที่เป็นนักบำบัดทางเพศนั่นเอง เรื่องนี้มาพร้อมแนวคิดเรื่อง Sex Education อยู่หลายประเด็น สนุกแถมยังได้ความรู้อีกด้วย จะไม่ดูได้ยังไงล่ะ
8. Succession
หากคุณชื่นชอบซีรีส์ที่แก่งแย่งอำนาจภายในครอบครัวเหมือนกับ Game of Thrones ก็ต้องขอแนะนำ Succession ซีรีส์จาก HBO ที่ว่าด้วยเรื่องราวของตระกูลรอย เจ้าของเครือบริษัทสื่อขนาดยักษ์ของสหรัฐอเมริกา “Waystar Royco” และที่มหาเศรษฐีอย่าง โลแกน รอย ตัดสินใจที่จะส่งมอบบริษัทให้กับลูกชายคนรองอย่าง เคนดัล รอย แต่สุดท้ายก็กลับเปลี่ยนใจ และกลายเป็นการจุดชนวนของสงครามภายในตระกูล และล่าสุด เขาก็ตัดสินใจที่จะขายให้กับคนนอกแทน
9. I Am Not Okay with This
จากโปรดิวเซอร์ของ Stranger Things และผู้กำกับจาก The End of the F***ing World ซีรีส์ฝรั่งอย่าง I Am Not Okay with This จึงเป็นอีกเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะว่าเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ “ซิดนีย์” เด็กวัยรุ่นที่น่าเบื่อคนหนึ่ง แต่ดันมีพลังวิเศษ และต้องใช้เวลาไปกับการปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ และการจัดการกับปัญหาของเธอ ไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของตัวเอง และได้พบกับเพื่อนสนิทคนใหม่ ที่ทำให้ชีวิตมัธยมปลายของเธอกลายเป็นเรื่องที่สนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
10. Brooklyn Nine-Nine
ซีรีส์ฝรั่งแนวซิทคอม เรียกเสียงหัวเราะได้ง่าย ๆ ใครชอบดูอะไรที่ไม่เครียด ดูเพลิน ๆ ลองดูเรื่องนี้กันดีไหม? มีทั้งหมด 8 ซีซั่น เป็นเรื่องราวในสถานีตำรวจเขต 99 แห่ง Brooklyn ความสนุกอยู่ตรงที่ตัวละครแต่ละตัวมีความบ้าในแบบของตัวเองอย่างสุดโต่ง อย่าง Jake ชอบเอาความฉลาดของตัวเองไปทำเรื่องไร้สาระ หรือจะเป็น Charles ที่คอยสนับสนุน Jake ให้ทำเรื่องบ้า ๆ ดูแล้วรับรองเรื่องนี้จะมอบความสุขและเสียงหัวเราะได้มากเลยล่ะ
11. Fleabag
สัมผัสเรื่องราวสุดป่วนในชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อ Fleabag กับจังหวะชีวิตที่เหมือนเสียสูญไป ทั้งความขัดแย้งภายในครอบครัว ความรักที่ไม่เคยจะสมหวัง ความทุกข์และความรู้สึกผิดต่าง ๆ ที่วนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวของเธอ กับเหตุการณ์ที่ชวนให้ทุกคนหัวเราะไปทั้งน้ำตา ไปจนถึงความเหงาของเธอที่เราผู้ชมต่างสัมผัสได้ เมื่อตัวละครก้าวข้ามผ่านกำแพงที่สี่และหันหน้ามาพูดคุยกับผู้ชมเป็นระยะในหลาย ๆ โอกาส ถ้าหากคุณกำลังมองหาซีรีส์ฝรั่งตลกร้ายที่พ่วงรางวัลอยู่ล่ะก็ ต้องห้ามพลาดเรื่องนี้เลยล่ะ
12. The Vanishing at the Cecil Hotel
แนะนําซีรีส์ฝรั่งที่จะพลาดไม่ได้ กับเรื่องราวจากคดีอาชญากรรมอันโด่งดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเกี่ยวกับการหายตัวไปของหญิงสาวจากโรงแรม ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ กับคลิปวิดีโอที่ดูยังไงก็หาคำตอบไม่ได้ เหมือนเธอกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเข้ามาในลิฟต์เธอกดลิฟต์หลายชั้น อาการเธอผิดปกติดูเหมือนจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนท้ายคลิป เธอหายออกไปจากกล้อง และลิฟต์ก็เริ่มเคลื่อนที่ ทั้งที่ไม่มีใครอยู่เลย เป็นซีรีส์ประเภท สารคดีลึกลับที่น่าติดตามมาก ๆ
13. What We Do In The Shadows
สารคดีหลอกที่ขยายจักรวาลของฉบับภาพยนตร์ ตามติดชีวิตของแวมไพร์ในยุคเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นร้อยปี และพยายามที่จะยึดครองพื้นที่ตรงนั้นให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังครองเมืองไม่ได้สักที แถมยังต้องมาอยู่ในโลกยุคใหม่ ที่อะไร ๆ ก็ดูไม่เข้าที่เข้าทาง ผสมกับการล้อเลียนขนบหนังแวมไพร์อยู่เนือง ๆ สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ไม่หยุด
14. Yellowjackets
เมื่อเหล่านักฟุตบอลหญิงของโรงเรียนประสบเหตุเครื่องบินตกในปี 1996 และไม่มีใครสามารถให้ความช่วยเหลือได้ พวกเขาจึงถูกทิ้งเอาไว้ที่นั่น และต้องเอาตัวรอดจากเรื่องราวแปลก ๆ ภายในป่าแห่งนั้น ซึ่งตัดสลับกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ที่พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเหตุการณ์นั้นก็ยังคงตามติดพวกเขา อีกทั้งยังมีใครบางคนกำลังตามติดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่อะไรจะเริ่มใหญ่และบานปลายไปกว่าเดิม
15. Swarm
เมื่อแฟนคลับเกิดคลั่ง เปลี่ยนจากความชอบในตัวศิลปิน กลายเป็นความหลงใหล หมกมุ่น และนำไปสู่ความรุนแรง ที่เมื่อใครคอมเมนต์ด่าศิลปินที่ตัวเองชอบ ก็จะสืบและตามล่าเพื่อฆ่าพวกเขาให้ตายไปทีละคน และเอาชีวิตของตัวเองแขวนเอาไว้บนโลกโซเชียลมีเดียจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่า อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องบนโซเชียล
16. Only Murders in the Building
ใครฆ่าเขา? เรื่องราวของลูกบ้านในอพาร์ตเมนต์หรูใจกลางนิวยอร์กที่ชื่อ อาร์โคเนีย กับลูกบ้านสามคนอย่าง ชาร์ลส์, โอลิเวอร์ และเมเบิล ที่ชอบพอดแคสต์รายการเดียวกัน ได้มีโอกาสพูดคุยกัน และพบว่าอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาดันมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสืบคดีไปพร้อม ๆ กับการทำพอดแคสต์รายการของตัวเองโดยมีพวกเขาเป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมกับค้นหาความจริงว่าใครคือคนฆ่า โดยจะเล่าเรื่องราวเฉพาะคดีฆาตกรรมในอาคารของพวกเขาเท่านั้น และในซีซั่นสองก็เช่นกัน พวกเขากลับมาดำเนินรายการนี้อีกครั้ง เมื่อมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต และแน่นอนว่าในตอนท้ายของซีซั่นสอง พวกเขาก็ได้ปล่อยปมใหญ่เอาไว้ให้ผู้ชมรอติดตามกันต่อในซีซั่นสาม ที่ได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
17. Barry
สำหรับใครที่กำลังมองหาซีรีส์ตลกร้ายในคราบของนักฆ่า เราไม่อยากให้คุณพลาดซีรีส์ฝรั่งเรื่อง Barry ที่เล่าเรื่องราวของแบร์รี่ นักฆ่าผู้เบื่อโลก รับงานใหม่ให้ไปฆ่านักแสดงคนหนึ่ง แต่ดันจับพลัดจับผลูกลายเป็นนักเรียนการแสดงในคลาสนั้น และต้องการที่จะทิ้งเรื่องราวเบื้องหลังของเขาเพื่อความหลงใหลใหม่ในชีวิตการแสดงครั้งใหม่ของเขา แต่ทุกอย่างก็ดูจะวุ่นวายและยุ่งเหยิงกว่าเดิม จนกระทั่งค้นพบกับบางอย่างในใจ ที่ทำให้เขากลายมาเป็นฆาตกรในคราวแรก
18. The Devil’s Hour
อีกหนึ่งซีรีส์ฝรั่งแนวสืบสวนสอบสวนจากอังกฤษ เล่าเรื่องราวของ ลูซี่ แชมเบอร์ส ที่ตื่นขึ้นมากลางดึกในทุก ๆ คืน เวลา 3.33 น. และเธอไม่รู้ว่าสาเหตุที่ตื่นขึ้นมาเป็นฝันร้าย ภาพหลอน หรือเดจาวู อีกทั้งเธอยังต้องดิ้นรนกับชีวิตของเธอ ทั้งการดูแลแม่ที่ความจำเสื่อม ลูกชายที่มีปัญหาแม้แต่จิตแพทย์ก็ยังคงหาไม่พบ งานที่ยังเคร่งเครียด และสามีที่ยังเลิกไม่ขาด และเธอก็ยังพัวพันเข้าไปกับคดีที่ทางตำรวจตามล่าฆาตกรต่อเนื่องอยู่ และทุก ๆ อย่างก็โยงเข้าไปหาลูซี่และลูกชายของเธอ
19. 9-1-1:Lone Star
9-1-1: Lone Star เล่าเรื่องราวของนักดับเพลิงจากนิวยอร์ก ที่ย้ายไปอยู่เมืองออสตินพร้อมกับลูกชายของเขา และจำเป็นที่จะต้องรักษาสมดุลระหว่างหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนของเขา กับการจัดการปัญหาชีวิตของตัวเอง และบาลานซ์การทำงานและลูกชายของเขาไปพร้อมๆ กัน
20. Ratched
ซีรีส์ฝรั่งน่าดูอีกเรื่องที่จะมาสร้างความระทึกขวัญ โดยจะเล่าถึงที่มาของตัวละครจากหนังดัง อย่าง “มิลเดรด แรตเชด” ซึ่งกลายมาเป็นนางพยาบาลโรคจิตคอยปั่นหัวคนไข้ในโรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้คือ เป็นการนำตัวละคร “มิลเดรด แรตเชด” มาตีความใหม่ในหลายแง่มุมมากขึ้น พร้อมกับงานภาพในซีรีส์ที่ถ่ายทอดบรรยากาศของยุค 80s ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง “ซาราห์ พอลสัน” มาสวมบทบาทได้อย่างแนบเนียน
เป็นอย่างไรบ้างกับซีรีส์ฝรั่งสนุกๆ ทั้ง 20 เรื่อง ที่คัดสรรมาให้ได้ชมกันแบบยาวๆ ดูกันได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่จบ ก็จะไปไหนไม่ได้กันเลย อย่างไรก็ตามนอนหลับพักผ่อนกันบ้าง เป็นห่วงสุขภาพทางสายตา