9 ประเภทของกระเบื้อง: กระเบื้องมีกี่ประเภท เลือกกระเบื้องปูพื้นในบ้านแบบไหนดี

เมื่อทำการซื้อบ้าน สร้างบ้าน หรือรีโนเวทบ้าน การเลือกประเภทกระเบื้องที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะกระเบื้องไม่เพียงแต่เป็นฐานรากที่ใช้งานได้จริงสำหรับพื้นและผนังของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบการตกแต่งที่สำคัญที่สามารถกำหนดบรรยากาศของพื้นที่ใดๆในบ้านก็ได้ ใน blog นี้ เราจะสำรวจประเภทต่างๆ ของกระเบื้องที่มีในตลาด กระเบื้องมีกี่ชนิดอะไรบ้าง ข้อดีข้อเสียของกระเบื้องแต่ละแบบ กระเบื้องมีกี่ประเภท กระเบื้องปูพื้นแบบไหนดี แบบไหนใช้กับห้องไหน ซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้คุณเข้าใจว่ากระเบื้องชนิดใดเหมาะที่สุดสำหรับพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ

กระเบื้องมีกี่ประเภท 9 ประเภทกระเบื้องพร้อมข้อดีข้อเสีย

กระเบื้องมีวัสดุต่างๆหลากหลายในปัจจุบันจนอาจทำให้คุณงงได้ว่าเลือกกระเบื้องปูพื้นแบบไหนดี แต่ละชนิดมีข้อดีและความสวยงามที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมว่ากระเบื้องมีกี่ประเภท เรียงลำดับประเภทตามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆลงไป

1. กระเบื้องเซรามิก

Cr. Unsplash 1, 2, 3, 4

ถ้าถามว่ากระเบื้องปูพื้นในบ้านแบบไหนดี กระเบื้องปูผนังในบ้านแบบไหนที่นิยมที่สุด กระเบื้องเซรามิคอาจเป็นคำตอบ กระเบื้องเซรามิกอาจเป็นประเภทกระเบื้องที่นิยมใช้ในบ้านมากที่สุด กระเบื้องเหล่านี้ทำจากดินเหนียวที่เผาในเตาเผา มีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานและสีสันและรูปแบบที่หลากหลาย

ข้อดีของกระเบื้องเซรามิก:

• ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย
• มีสี ลวดลาย และขนาดให้เลือกมากมาย
• ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย
• เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการสัญจรน้อยในบ้าน

ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิก:

• อาจแตกร้าวและบิ่นได้เมื่อได้รับแรงกระแทกมาก
• ทนทานน้อยกว่ากระเบื้องพอร์ซเลน
• ร่องยาแนวอาจเกิดคราบและต้องดูแลรักษาเป็นประจำ

2. กระเบื้องพอร์ซเลน

Cr. Unsplash 1, 2

กระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องประเภทย่อยของเซรามิก ซึ่งวิธีทำคือจะถูกนำแร่และดินขาวไปเผาที่อุณหภูมิสูงมาก ทำให้มีความหนาแน่นและมีรูพรุนน้อยลง ดูดซึมน้ำน้อยและโดนน้ำแล้วไม่ลื่น มีน้ำหนักคล้ายหิน มีให้เลือกหลากหลายลวดลายเช่น ลายหินอ่อน ลายไม้ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการสัญจรมาก ได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เช่น ปูพื้นทางเดิน ผนัง พื้นโรงจอดรถ พื้นห้องอเนกประสงค์ หรือพื้นริมสระว่ายน้ำ กระเบื้องเหล่านี้ทนทานต่อความชื้นและคราบสกปรกได้ดี แต่ที่นิยมใช้กันมักเป็นสีเทาหรือสีครีมลายธรรมชาติ

ข้อดีของกระเบื้องพอร์ซเลน:

• ทนทานเป็นพิเศษและเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการสัญจรมาก
• ทนน้ำและคราบ เหมาะสำหรับห้องครัวและห้องน้ำ
• มีให้เลือกหลายแบบ เช่น แบบด้าน เคลือบเงา และมีลวดลาย
• ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสียของกระเบื้องพอร์ซเลน:

• แพงกว่ากระเบื้องเซรามิก
• หนักกว่า ทำให้ติดตั้งยากขึ้น
• เย็นได้แม้อยู่ใต้เท้าโดยไม่ต้องใช้ระบบทำความร้อนใต้พื้น

3. กระเบื้องหิน

Cr. Unsplash 1, 2

ถ้าถามว่ากระเบื้องมีกี่ประเภท ประเภทหนึ่งที่นิยมและคนคิดถึงกันในการแต่งบ้านคงหนีไม่พ้นกระเบื้องหิน กระเบื้องหินธรรมชาติ กระเบื้องหินสังเคราะห์ เช่น หินอ่อน หินแกรนิต หินชนวน หินปูน และหินสังเคราะห์ กระเบื้องเหล่านี้ความสวยงามจากลวดลายตามธรรมชาติและอาจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหินแต่ละแผ่น แต่ละชิ้นของหินธรรมชาติจะแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้พื้นหรือผนังแต่ละแผ่นไม่เหมือนกัน

ข้อดีของกระเบื้องหิน:

• เพิ่มความสวยงามตามธรรมชาติและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับพื้นที่ใดๆ
• ทนทานและใช้งานได้ยาวนานหากดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
• เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินเนื่องจากรูปลักษณ์ที่หรูหรา

ข้อเสียของกระเบื้องหิน:

• มีราคาแพงเมื่อเทียบกับกระเบื้องประเภทอื่น
• วัสดุที่มีรูพรุน เช่น หินอ่อนและหินปูน ต้องเคลือบเป็นประจำ
• อาจลื่นเมื่อเปียกน้ำ หากขัดพื้นผิวให้เงา

4. กระเบื้องแก้ว

Cr. Unsplash 1, 2

กระเบื้องแก้ว หรือที่บางคนเรียกว่าบล็อกแก้ว มักใช้สำหรับผนังหรือเป็นของตกแต่ง โดยมีสีสันและการตกแต่งที่หลากหลาย กระเบื้องเหล่านี้ทนทานต่อคราบสกปรก แต่ก็เปราะบางกว่ากระเบื้องประเภทอื่น แต่ถ้าถามว่ากระเบื้องปูพื้นในบ้านแบบไหนดีปูตรงพื้นที่ๆใช้งานน้อยและใช้โชว์ได้ หรือพื้นที่ๆปูกระเบื้องกระจกเป็นกันสาดหรือหลังคารับแสงได้บางส่วน ก็บอกเลยว่าจะทำให้การแต่งบ้านของคุณดูโดดเด่นและไม่น่าเบื่อเลย

ข้อดีของกระเบื้องแก้ว:

• สะท้อนแสง เพิ่มความสว่างให้กับห้อง
• ทนทานต่อคราบ เชื้อรา และราดำ
• มีให้เลือกหลากสีสันและลวดลายที่ซับซ้อน

ข้อเสียของกระเบื้องแก้ว:

• เปราะบางกว่า มีแนวโน้มที่จะแตกและร้าว
• ติดตั้งยาก ต้องให้มืออาชีพจัดการ
• โดยทั่วไปมีราคาแพงกว่ากระเบื้องเซรามิกหรือพอร์ซเลน

5. กระเบื้องซีเมนต์

Cr. Unsplash

กระเบื้องซีเมนต์ทำด้วยมือและมีลวดลายที่ซับซ้อน ขึ้นชื่อในเรื่องลวดลาย อย่างไรก็ตาม กระเบื้องเหล่านี้ต้องได้รับการเคลือบเป็นประจำเพื่อรักษารูปลักษณ์และความทนทาน

ข้อดีของกระเบื้องซีเมนต์:

• มีลวดลายและดีไซน์ที่มีสีสันไม่ซ้ำใคร
• ผลิตด้วยมือ ให้รูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร – วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข้อเสียของกระเบื้องซีเมนต์:

• ต้องปิดผนึกและปิดผนึกใหม่เป็นระยะเพื่อป้องกันความชื้นและคราบสกปรก
• หนักและติดตั้งยาก
• การสึกหรอตามกาลเวลาอาจทำให้การออกแบบซีดจางลงหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

6. กระเบื้องโลหะ

Cr. Unsplash

กระเบื้องโลหะมักใช้เป็นของตกแต่งหรือในการตกแต่งร่วมสมัย กระเบื้องโลหะให้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและเรียบง่าย แต่มีราคาแพงและต้องดูแลรักษาเพื่อป้องกันการหมอง

ข้อดีของกระเบื้องโลหะ:

• ทันสมัยและมีสไตล์ เพิ่มความทันสมัย
• ทนทานต่อเชื้อราและแบคทีเรีย
• ทนทานเมื่อดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อเสียของกระเบื้องโลหะ:

• อาจมีราคาแพงและหายาก
• มีแนวโน้มที่จะเกิดรอยขีดข่วนและบุบ
• นำความร้อนได้ดี รู้สึกเย็นในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อน

7. กระเบื้องลายไม้

Cr. Unsplash 1, 2

กระเบื้องเหล่านี้เป็นกระเบื้องเซรามิกหรือพอร์ซเลนที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนแผ่นไม้ บางทีก็เรียกกันว่าเป็นกระเบื้องSPC กระเบื้องคลิ๊กล็อค ที่แบบจะต่างกันออกไปเล็กน้อยตามดีไซน์ รูปแบบ แต่โดยรวมแล้วจะเอาไว้ใช้ปูได้ทั้งพื้นและผนัง เป็นเหมือนแผ่นไม้บางๆเรียกต่อกันเป็นแพ สามารถเรียงแนวตรงทางเดียวของห้อง หรือเรียงแบบสลับฟันปลาก็ได้ กระเบื้องเหล่านี้ให้ความอบอุ่นเหมือนไม้โดยไม่ต้องดูแลรักษาเหมือนพื้นไม้เนื้อแข็งทั่วไป

ข้อดีของกระเบื้องลายไม้:

• ให้รูปลักษณ์ของไม้พร้อมความทนทานของกระเบื้อง
• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้ไม้เนื้อแข็งได้ เช่น ห้องน้ำและห้องครัว
• มีให้เลือกหลายสีและหลายลวดลายเพื่อให้เข้ากับไม้แต่ละประเภท

ข้อเสียของกระเบื้องลายไม้:

• ไม่มีความรู้สึกหรือความอบอุ่นเหมือนไม้จริง
• เส้นยาแนวอาจรบกวนรูปลักษณ์ไม้ธรรมชาติ – อาจลื่นได้หากไม่มีพื้นผิว

8. กระเบื้องหินอ่อน

Cr. Unsplash 1, 2

กระเบื้องหินอ่อนเป็นชนิดหนึ่งในประเภทกระเบื้องกินแต่นิยมนำมาแต่งบ้านกันมากในช่วงหลังมานี้ หินอ่อนเป็นหินธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีลวดลายสวยงามและแวววาวสวยงาม ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความหรูหราและความสง่างามให้กับทุกพื้นที่

ข้อดีของกระเบื้องหินอ่อน:

• ให้ความสวยงามหรูหราและสง่างาม
• ลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้กระเบื้องแต่ละแผ่นมีความพิเศษเฉพาะตัว
• ทนทานและรักษาอุณหภูมิที่เย็นได้

ข้อเสียของกระเบื้องหินอ่อน:

• ต้นทุนวัสดุและการติดตั้งสูง
• ต้องบำรุงรักษาเป็นประจำ รวมถึงการปิดผนึกเพื่อป้องกันคราบสกปรก
• อาจเป็นรอยขีดข่วนหรือกัดกร่อนได้จากกรด

9. กระเบื้องโมเสก

Cr. Unsplash

หากลองนึกดูว่ากระเบื้องมีกี่ชนิดอะไรบ้าง บางคนอาจนึกออกถึงผนังกระเบื้องที่ถูกปูต่อกันด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือรูปทรงหกเหลี่ยม ฯลฯ สิ่งนั้นเรียกว่ากระเบื้องโมเสกนั่นเอง กระเบื้องโมเสกเป็นกระเบื้องขนาดเล็กที่มีสีสันสดใส ใช้ในลวดลายที่ประณีต มักทำจากแก้ว เซรามิก หรือหิน และนิยมใช้ตกแต่งผนังและพื้นที่ขนาดเล็ก

ข้อดีของกระเบื้องโมเสก:

• ช่วยให้สร้างสรรค์การออกแบบและรูปแบบต่างๆ ได้
• เหมาะสำหรับพื้นผิวโค้งและพื้นที่ขนาดเล็ก
• เพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับพื้นที่ใดๆ

ข้อเสียของกระเบื้องโมเสก:

• การติดตั้งอาจมีราคาแพงและใช้เวลานาน
• ต้องทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะในแนวร่องยาแนว
• ชิ้นส่วนเล็กๆ อาจหลุดออกได้หากไม่ได้ติดตั้งอย่างถูกต้อง

เลือกกระเบื้องปูพื้นในบ้านแบบไหนดี พิจารณาอะไรบ้าง

การเลือกกระเบื้องปูพื้นที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความชอบด้านสุนทรียศาสตร์และการพิจารณาในทางปฏิบัติของคุณ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกกระเบื้องปูพื้นสำหรับบริเวณต่างๆ ในบ้านของคุณ:

ความทนทานและการสัญจร

บริเวณที่มีการสัญจรบ่อย เดินผ่านบ่อย เช่น ห้องครัวและทางเดิน จำเป็นต้องใช้กระเบื้องที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องพอร์ซเลนหรือหินขรุขระ

ความต้านทานความชื้น

ห้องน้ำและห้องครัวได้รับประโยชน์จากกระเบื้องที่ทนความชื้น ทำให้กระเบื้องพอร์ซเลนและเซรามิกเคลือบเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ความต้านทานการลื่น

เพื่อความปลอดภัย ให้เลือกกระเบื้องที่มีพื้นผิวเป็นลายหรือเคลือบด้าน โดยเฉพาะในห้องน้ำที่พื้นเปียกบ่อยๆ

ความสวยงาม

พิจารณาการตกแต่งบ้านโดยรวมของคุณ สำหรับรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ กระเบื้องลายหินหรือไม้ก็อาจเหมาะสมที่สุด ในขณะที่กระเบื้องแก้วหรือโลหะอาจเหมาะกับการแต่งบ้านแบบใหม่ที่ทันสมัยกว่า เลือกกระเบื้องให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ ตัวอย่างเช่น กระเบื้องหินอ่อนสามารถเสริมการตกแต่งที่หรูหรา ในขณะที่กระเบื้องลายไม้เข้ากันได้ดีกับการตกแต่งแบบชนบท หรือแนวมินิมอลลายไม้

กระเบื้องมีกี่ชนิดอะไรบ้างและแบบไหนเหมาะกับห้องไหน

ห้องไหนในบ้านใช้กระเบื้องแบบไหนดี ?

รู้กันไปแล้วว่ากระเบื้องมีกี่ชนิดอะไรบ้าง แต่เรารวบรวมมาให้เพิ่มแล้วว่าประเภทกระเบื้องต่างๆเหมาะสำหรับใช้งานสำหรับห้องใดในบ้าน กระเบื้องแบบนี้แต่งห้องไหนดี โดยให้คะแนนหน้าอีโมจิจะสะท้อนถึงความเหมาะสมของกระเบื้องแต่ละประเภทสำหรับห้องนั้นๆ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความทนทาน ความสวยงาม การบำรุงรักษา และการใช้งาน

(ตาราง)

เหตุผลในการเลือกใช้กระเบื้องประเภทต่างๆกับแต่ละบริเวณบ้าน

เซรามิก

• เหมาะสำหรับพื้นที่ภายในอาคารส่วนใหญ่ เนื่องจากมีการออกแบบที่หลากหลายและความทนทานปานกลาง
• ไม่ค่อยเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการสัญจรมากหรือกลางแจ้ง เนื่องจากทนทานต่อรอยขีดข่วนน้อยกว่า

พอร์ซเลน

• เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ที่มีการสัญจรมากและมีความชื้น เนื่องจากมีความทนทานสูงและทนต่อความชื้น
• เหมาะสำหรับห้องครัวและห้องน้ำ

หิน

• เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มความสวยงามและความหรูหราตามธรรมชาติ เหมาะที่สุดสำหรับทางเข้าและห้องนั่งเล่น
• การดูแลรักษาและต้นทุนที่สูงทำให้ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำที่ไม่มีการปิดผนึกเป็นประจำ

กระจก

• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสวยงาม เช่น ห้องน้ำและแผ่นกันเปื้อน
• มีแนวโน้มที่จะแตกง่าย ไม่เหมาะสำหรับพื้นในบริเวณที่มีการสัญจรมาก

ซีเมนต์

• ลวดลายเฉพาะตัวทำให้เหมาะสำหรับการตกแต่งในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน
• ต้องมีการปิดผนึกและการบำรุงรักษา ไม่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น

โลหะ

• เหมาะเป็นจุดเด่นในบ้านร่วมสมัย ไม่เหมาะสำหรับพื้นทั้งหมด เนื่องจากอาจบุบและเป็นรอยขีดข่วนได้

กระเบื้องลายไม้

• ให้รูปลักษณ์ของไม้ที่มีความทนทานมากขึ้น เหมาะสำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่น เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความสวยงามของไม้โดยไม่ต้องดูแลรักษามาก

หินอ่อน

• หรูหราและเหมาะสำหรับทางเข้าและห้องนั่งเล่นที่ต้องการความสง่างาม
• ต้องดูแลรักษาและมีค่าใช้จ่ายสูง ไม่เหมาะสำหรับบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมามากโดยไม่ได้รับการดูแล

กระเบื้องโมเสก

• เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นของตกแต่งในห้องน้ำหรือพื้นห้องอาบน้ำ
• การติดตั้งและทำความสะอาดที่ซับซ้อนทำให้ไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่

การเลือกกระเบื้องประเภทที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณนั้นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความทนทาน ทนความชื้น และสุนทรียศาสตร์การออกแบบโดยรวมของบ้านของคุณ การรู้ว่ากระเบื้องมีกี่ประเภท กระเบื้องมีกี่ชนิดอะไรบ้าง และทำความเข้าใจประเภทกระเบื้องต่างๆ ที่มีจำหน่าย จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและใช้งานได้นานหลายปี ไม่ว่าคุณจะเลือกความสวยงามตามธรรมชาติของหิน ความสวยคลาสสิกของเซรามิก หรือความโมเดิร์นหรือลอฟต์ของกระเบื้องโลหะ การเลือกของคุณมีความสำคัญในการแต่งบ้านและสร้างโทนสีที่คุณต้องการสำหรับบ้านของคุณ