ไฟฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในการอำนวยความสะดวกของมนุษย์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบส่องสว่าง หรือยังใช้ในการสื่อสาร การคมนาคม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม หรือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าทั้งสิ้น แต่ก็ใช่ว่าไฟฟ้าจะให้บริการได้เต็มที่ได้ตลอด บางครั้งก็เกิดไฟตก ไฟดับ ไฟฟ้าขัดข้อง ที่ในวันนี้จะพาไปหาสาเหตุว่าไฟตกเกิดจากอะไร พร้อม 7 วิธีแก้ไข ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลย!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ไฟตกเกิดจากอะไร ต่างจากไฟฟ้าดับอย่างไร
ไฟตก คือ สภาวะที่ระบบไฟฟ้าจ่ายไฟไม่เสถียร เช่น พัดลมหมุนช้าลง หลอดไฟกระพริบ ความสว่างลดลง หรือไฟช็อตขณะเสียบปลั๊กไฟ เพราะปกติแล้วแรงดันไฟฟ้าที่ส่งกระแสไฟไปตามบ้านต่าง ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 240 V และเมื่อไหร่ที่กระแสไฟฟ้าลดลง หรือต่ำกว่า 230 อย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าไม่เพียงพอส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน
แต่ในส่วนไฟดับ จะมีความแตกต่างจากไฟตก ตรงที่ไฟฟ้าดับจะเป็นสภาวะที่กระแสไฟฟ้าหยุดไหล หรือไฟฟ้าหายไปทั้งระบบในช่วงเวลาหนึ่ง ที่สาเหตุมักจจะมาจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง ใช้ไฟเกินกำลัง อุปกรณ์ชำรุด หรือลัดวงจรที่ไม่สามารถจ่ายไฟได้เลยในช่วงนั้น
ไฟตกบ่อย สาเหตุมาจากอะไร
เคยนั่งอยู่แล้วรู้สึกไฟหรี่ลง ไฟกระพริบ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ หยุดทำงาน หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ อาการเหล่านี้คือ ไฟตกซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- ภัยธรรมชาติ เช่น เกิดลมแรง พายุ หรือฟ้าผ่าที่ลงบริเวณเสาไฟ ทำให้จ่ายไฟได้ไม่เต็มประสิทธฺภาพ
- ไฟกระชาก ที่เกิดจากแรงดันไฟฟ้าส่งไฟไปยังอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาสั้นทำให้ไฟฟ้าขาดความเสถียร
- ตัวนำไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งอาจมาจากตัวทองแดงด้านในหัก หรือเกิดการซ๊อต
- กระแสไฟรั่ว ที่มาจากการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน อายุการใช้งานนาน ขาดการตรวจสอบที่อาจทำให้ฉนวนไฟฟ้าเสื่อมสภาพเกิดดการรั่วไหลของไฟฟ้า
- ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันหลายเครื่อง ส่งผลให้โหลดไฟฟ้าสูงเกินไป เกิดไฟตก ไฟกระชาก อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เสียหายได้
- มีการซ่อมบำรุงไฟฟ้า อาจจะทำให้เกิดไฟตกได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
- กระแสไฟไหลลงดิน ที่อาจจะมาจากสายดินเสื่อมสภาพ หรือติดตั้งสายดินไม่ถูกวิธี
- สถานีจ่ายไฟให้ไฟฟ้าน้อย หรือห่างไกลจากสถานีจ่ายไฟ ก็อาจส่งผลต่อแรงดันไฟฟ้าที่อาจจะจ่ายมาได้น้อย ไม่เสถียร

เคล็ดไม่ลับ กับ 7 วิธีแก้ไฟตกในบ้านได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง
1. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง
โดยเฉพาะเตารีด กาน้ำร้อน ไมโครเวฟ หรือเครื่องซักผ้า ที่กินไฟสูงจะช่วยป้องกันแรงดันไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันหลายเครื่องได้
2. ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
มีมาตรฐานมอก. เพื่อช่วยให้บ้านปลอดภัยทั้งจากไฟตกไปจนถึงไฟฟ้าลัดวงจร
3. หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์รอยชำรุดของอุปกรณ์ไฟฟ้า
เพราะหากมีรอยชำรุด แตก หัก หรือเสียหายไม่เพียงจะเสี่ยงต่อไฟตก แต่ยังเสี่ยงต่อการสัมผัสไฟฟ้ารั่วไหลซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แนะนำว่าหากพบรอยชำรุด หรือเสียหายใด ๆ ติดต่อช่างมาแก้ไข หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันที
4. เลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อสภาพอากาศรุนแรง
เช่น ฝนตกหนัก พายุ ลมพัดแรงเพราะเป็นช่วงที่ค่าความชื้นในอากาศสูงที่อาจทำให้ระบบไฟฟ้าขาดประสิทธิภาพการใช้งาน ที่หากเกิดฟ้าผ่า อาจทำให้ไฟกระตุก ไฟกระชาก ไปจนถึงไฟฟ้าลัดวงจรได้
5. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยของระบบไฟเพิ่มเติม
เช่น เครื่องควบคุมไฟฟ้า หรือเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานที่แนะนำว่าควรเป็นช่างที่มีประสบการณ์มาติดตั้งให้
6. อย่าลืม! ติดตั้งเครื่องสำรองไฟ
ติดตั้งเครื่องสำรองไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าตกบ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนัก ลมแรง พายุ หรือฟ้าผ่าได้
7. เลือกทำเลบ้าน ไม่ควรห่างกับแหล่งจ่ายไฟ
เพราะจะส่งผลเสียต่อระบบการจ่ายไฟที่จ่ายได้น้อย หรือจ่ายได้ไม่เต็มประสิทธฺภาพซึ่งอาจเพิ่มโอกาสให้เกิดไฟตกบ่อยครั้ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไฟตก
ไฟตกบ่อย แอร์จะพังไหม ?
- ไม่พัง แต่ทำงานได้ไม่เต็มที่ในกรณีที่ไฟตกแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าตกติดกันบ่อย ๆ อาจทำให้ตัวเครื่องต้องรีสตาร์ทตลอดเวลาที่อาจทำให้มอเตอร์ร้อนและเกิดการไหม้ตามมาได้
ไฟตกเปิดแอร์ได้ไหม
- ไม่แนะนำ เพราะจะเป็นช่วงที่แอร์ทำงานได้ไม่เสถียรเนื่องจากระบบไฟฟ้าที่จ่ายไฟได้ไม่เต็มที่
ไฟตกบ่อยควรใช้แอร์แบบไหน
- ควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีการออกแบบแผงวงจรเพื่อป้องกันผลกระทบจากไฟกระชาก หรือไฟตก หรือเลือกแบบแผงวงจรทนทานพิเศษ ที่แม้ไฟตกแรงดันไฟฟ้าเหลือเพียง 150 โวลต์ก็สามารถทำงานได้ ไฟไม่กระตุก
ไฟตก เคลมประกันได้ไหม
- ไม่สามารถเคลมประกันได้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการคุ้มครองของประกันภัยบ้านและคอนโด เว้นแต่ว่าไฟตกนั้นทำให้เกิดเพลิงไหม้ จะได้รับค่าคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจากเหตุเพลิงไหม้
ทำไมไฟตกแค่บางห้อง แต่บางห้องยังปกติ?
- ในบ้านอาจจะมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าหลายเฟส ซึ่งในเฟสที่รับโหลดหนักเกินไปก็จะทำให้แรงดันไฟตกได้ แนะนำให้เรียกช่างมาตรวจสอบวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน

ไฟตกเกิดจากอะไร เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภัยธรรมชาติ อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับการตรวจสอบ ใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ เครื่อง เสื่อมสภาพ หรือห่างไกลจากสถานีจ่ายไฟทำให้ระบบไฟฟ้าจ่ายไฟไม่เสถียรที่แก้ได้ง่าย ๆ เริ่มต้นด้วยการถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ไม่เสียบอุปกรณ์พร้อมกันหลาย ๆ ตัว รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เสริมความจะช่วยป้องกันไฟตก แต่ถ้าหากไม่มั่นใจแนะนำให้เรียกช่างเพื่อเข้ามาตรวจสอบ
หากใครสนใจอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยของระบบไฟเพิ่มเติม อาทิ แนะนำให้สั่งซื้อได้ที่ เบรกเกอร์ สายดิน เครื่องควบคุมไฟฟ้า เครื่องตัดไฟรั่ว หรือเครื่องสำรองไฟ ได้ที่ Shopee ส่วนใครอยากอัปเดตความรู้ ตามทันทุกเทรนด์ ก็สามารถเข้ามาอ่านสาระดี เพิ่มเติมได้ที่ Shopee blog
อ้างอิง: carrierthailand.com , www.gpscgroup.com , insurverse.co.th
บทความแนะนำ