เคล็ดลับวิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว ทำได้ง่าย ได้ผลจริง

ปัญหาผ้าขาวมีคราบเหลืองมักเกิดจากคราบเหงื่อ ซึ่งคราบที่ชะล้างออกได้ไม่ดีนั้นจะทำให้เสื้อผ้าของคุณกลายเป็นสีเหลืองได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีขาว ทำให้หลายคนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทำยังไงคราบเหลืองก็ไม่หายไป จนต้องตัดใจไม่ใส่เสื้อตัวนั้นอีกหรือซื้อเสื้อใหม่แทน แต่ก่อนที่จะทิ้งเสื้อตัวโปรดของคุณ Shopee ได้รวบรวม วิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว มาแนะนำกัน มาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องซื้อเสื้อใหม่และใช้เสื้อตัวเดิมที่ขาวสะอาดไร้คราบเหลืองกันเลย

3 สาเหตุหลักของใต้วงแขนเหลือง

หลายคนมักจะเคยเจอปัญหาคราบบนเสื้อผ้าสีขาวและซักเท่าไหร่คราบก็ไม่หายไป ซึ่งก่อนที่จะไปรู้ถึงวิธีซักผ้าขาวคราบเหลืองให้หายวับนั้น มารู้กันก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุของใต้วงแขนสีเหลืองบนเสื้อสีขาวและสีอ่อนทั้งหมดของคุณ 

1. เหงื่อ

เหงื่อส่วนใหญ่เป็นน้ำ แต่ประกอบด้วยอย่างอื่นเล็กน้อย เช่น แอมโมเนีย โซเดียมคลอไรด์ ยูเรีย และกรดแลคติก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคราบเหงื่อสีเหลืองที่ใต้วงแขน และติดไปยังเสื้อสีขาวของคุณได้

2. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

คราบเหลืองเกิดได้จากหลายปัจจัย นอกจากองค์ประกอบของเหงื่อของแต่ละบุคคลแล้ว เมื่อเหงื่อไปทำปฏิกิริยากับสารเคมี เช่น สารออกฤทธิ์ในเหงื่อ น้ำยาซักผ้า หรือแบคทีเรีย มันสามารถเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและทำให้เกิดคราบเหลืองที่ฝังแน่นได้ ซึ่งรวมถึงสารประกอบจากอะลูมิเนียมที่พบในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายด้วยเช่นกัน เพราะเหงื่อของเราจะจับกับสารประกอบและสารเคมีเหล่านี้ก่อนที่จะถูกปลดปล่อยออกจากร่างกาย และด้วยเหตุนี้ ความชื้นจึงทำให้ทิ้งคราบสกปรกไว้ใต้วงแขนของเสื้อผ้า

3. เสื้อพอดีตัวเกินไป

เมื่อความชื้นและเหงื่อออกจากร่างกาย มันจะติดอยู่ระหว่างผิวหนังและผ้าเป็นเวลานาน แบคทีเรียที่ก่อตัวขึ้นจะสร้างกลิ่นขึ้นมา เมื่อปล่อยทิ้งไว้บนเสื้อผ้าของเรานานเกินไป ก็จะเกิดคราบสีเหลืองปรากฏขึ้น

วิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

หากคุณเคยสงสัยว่าจะขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวของคุณได้อย่างไร แน่นอนว่ามีน้ำยาขจัดคราบมากมายในท้องตลาด แต่ก่อนที่จะต้องเสียเงินนั้น ลองหยิบผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่คุณอาจมีอยู่แล้วในบ้านมากำจัดคราบเหลืองเหล่านี้ด้วยวิธีซักผ้าขาวคราบเหลืองง่าย ๆ นี้กัน 

1. แชมพูหรือน้ำยาล้างจาน

วิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวง่าย ๆ เริ่มจากลองใช้แชมพูหรือน้ำยาล้างจาน ทาคราบเหลืองจากเหงื่อและสิ่งสกปรกทิ้งไว้ 30 นาที แล้วจึงใช้ผงซักฟอกซักทำความสะอาดตามปกติ ก็จะได้เสื้อผ้าที่ขาวสะอาดเหมือนใหม่

2. เบกกิ้งโซดาและน้ำ

เบกกิ้งโซดาเป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์เพราะช่วยขจัดคราบเหลืองที่คอเสื้อได้ ลองผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะกับน้ำครึ่งถ้วยแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นทาบริเวณที่เป็นคราบและถูเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีก่อนนำไปซัก ถ้าคราบยังไม่หายไป ให้ทำซ้ำอีกครั้ง 

3. สบู่

สบู่มีคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยขจัดคราบเหลืองจากเหงื่อตามบริเวณต่าง ๆ ของเสื้อผ้าได้ดีไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าทั่วไป แถมยังอ่อนโยนและไม่ทำร้ายเนื้อผ้าอีกด้วย เริ่มต้นด้วยการทาน้ำเปล่าบนรอยเปื้อน จากนั้นถูคราบนั้นด้วยสบู่ก้อนแล้วถูให้เป็นฟองจนกว่าคราบจะจางหายไป จากนั้นนำไปซักทำความสะอาดตามปกติ

4. น้ำส้มสายชูและน้ำ

น้ำส้มสายชูสามารถใช้ซักผ้าขาวคราบเหลืองได้ เพียงผสมน้ำส้มสายชูขาวกับน้ำในอัตราส่วนเท่า ๆ กันลงในขวดสเปรย์ แล้วฉีดส่วนผสมลงบนรอยเปื้อน จากนั้นทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วนำเสื้อผ้าไปซักในน้ำเย็น สามารถทำซ้ำเรื่อย ๆ ได้ หากทำครั้งเดียวแล้วคราบยังไม่หายไปหรือยังออกไม่หมด

5. เกลือ

เกลือ เครื่องปรุงรสที่อยู่ในครัวก็สามารถนำมาขจัดคราบเหลืองได้ เพียงใช้เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใช้ฟองน้ำจุ่มลงในส่วนผสมดังกล่าวแล้วถูเบา ๆ บนเสื้อผ้าจนคราบเหลืองหายไป แล้วนำไปซักตามปกติ

6. น้ำมะนาวและน้ำ

อีกวิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว คือการใช้น้ำมะนาว มะนาวไม่เพียงทำความสะอาดได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังทิ้งกลิ่นหอมอันน่ารื่นรมย์เอาไว้ด้วย ก่อนซักผ้าให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นเอาไปทาที่คราบเหลือง แล้วค่อย ๆ ขัดเบา ๆ จนคราบนั้นหลุดออก แล้วถึงนำเสื้อผ้าไปซัก เสื้อจะกลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง

7. ยาสีฟัน

ยาสีฟันก็ช่วยขจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าได้ และใช้ได้ดีกับพื้นที่ขนาดเล็ก วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาคราบสกปรกได้อย่างรวดเร็ว เพียงทายาสีฟันลงบนคราบเหลือง แล้วแปรงเบา ๆ ด้วยแปรงสีฟัน พยายามขัดให้เป็นวงกลมเพื่อถูส่วนผสมลงในรอยเปื้อน ขัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะหายไป แล้วซักเสื้อผ้าตามปกติ 

8. แอสไพรินสีขาว

อาจจะฟังดูแปลกสักนิด แต่เชื่อเถอะว่ายาแอสไพรินที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นยาแก้ปวดนั้น มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้ โดยการทำสารละลาย ด้วยการละลายแอสไพริน 5 เม็ด ลงในน้ำ 1 ถัง จากนั้นใส่เสื้อผ้าที่มีคราบเหลืองลงไปแช่ทิ้งไว้สามชั่วโมง แล้วนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ

วิธีป้องกันคราบเหลืองใต้วงแขน

1. ไม่สวมเสื้อสีขาว

วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการจัดการกับคราบเหลืองบนเสื้อสีขาวของคุณคือ อย่าปล่อยให้คราบก่อตัวตั้งแต่แรก ด้วยการไม่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่หากไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงาน ตัวเลือกนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

2. ใส่เสื้อทับใน

การสวมเสื้อทับด้านในจะช่วยยับยั้งไม่ให้คราบเหลืองก่อตัวบนเสื้อสีขาวที่ดีที่สุด เพราะเสื้อตัวในจะดูดซับเหงื่อและสารระงับกลิ่นกายก่อนที่จะมีโอกาสได้สัมผัสเสื้อเชิ้ตของคุณ 

3. ซักเสื้อที่ใส่แล้วทันที

การสวมเสื้อมากกว่าหนึ่งตัวอาจทำให้รู้สึกร้อนและอึดอัดได้ ลองอีกวิธีที่ดีในการป้องกันคราบเหลืองบนเสื้อสีขาวของคุณคือการซักให้เร็วที่สุด ทันทีที่สวมใส่เสร็จแล้วในแต่ละวัน เมื่อกลับถึงบ้านถ้าเป็นไปได้ให้ซักทันที แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ให้รีบซักในวันรุ่งขึ้น

4. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

ทุกวันนี้สารระงับเหงื่อและสารระงับกลิ่นกายมักมีอยู่ในส่วนผสมเพื่อป้องกันคราบ ดังนั้น คราบเหลืองใด ๆ จะถูกทำให้เป็นกลางก่อนที่จะสร้างความเสียหายกับเสื้อผ้า แต่สารเคมีจะสัมผัสกับร่างกายของคุณมากขึ้น แต่อย่างน้อยก็ทำให้เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณไม่ซึมซับไปด้วยเหงื่อ เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันคราบเหลืองบนเสื้อ ลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นตัวที่มีสารระงับเหงื่อเป็นส่วนผสม

คราบสกปรกโดยเฉพาะคราบเหลืองอาจต้องใช้เวลามากในการกำจัด แต่เราสามารถปกป้องเสื้อตัวโปรดของเราได้ด้วยวิธีขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวเหล่านี้ และควรจัดการอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่คุณควรรู้คือหลีกเลี่ยงความร้อน น้ำร้อนหรือเครื่องอบผ้าสามารถทำให้เกิดคราบบนผ้าได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ยากขึ้นเป็นสองเท่าในการขจัดคราบในภายหลัง และห้ามใช้สารฟอกขาวเพื่อขจัดคราบเหลือง เพราะน้ำยาฟอกขาวสามารถทำให้คราบสกปรกมากขึ้น และก่อนที่จะใช้วิธีการใด ๆ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าของคุณสามารถทนต่อสารละลายที่คุณใช้ได้ เพื่อปกป้องเสื้อผ้าไม่ให้เกิดความเสียหายนั่นเอง และเพื่อไม่ให้ผ้ามีกลิ่นอับ หมั่นทำความสะอาดเครื่องซักผ้าตามขั้นตอนวิธีล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำ นอกจากช่วยให้ผ้าไม่มีคราบสกปรกแล้ว ยังไร้กลิ่นเหม็นอับอีกด้วย Shopee Blog ได้รวบรวมทิปส์อื่นๆ ไว้อีกเพียบ ไม่ว่จะเป็นเคล็ดลับทำให้ห้องเย็นด้วยไม่ต้องง้อแอร์ วิธีเก็บของสดในตู้เย็นให้สดนาน รวมทั้งรีวิวน้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯลฯ