การเกษียณนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเมื่อทุกคนทำงานจนถึงช่วงอายุประมาณ 60 ปี ซึ่งก็ถือเป็นช่วงเวลาในการบอกลาจากโลกแห่งการทำงานไปสู่ช่วงแห่งการพักผ่อนในชีวิต แน่นอนว่าในช่วงวัยเกษียณนั้นก็เป็นช่วงที่ว่างงาน และรายได้ประจำอาจจะลดน้อยลงหรือไม่มีแล้ว จนทำให้อาจจะกลายเป็นช่วงที่ต้องนำเงินเก็บมาใช้จ่ายรายวันไปจนกระทั่งถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต และค่าใช้จ่ายนั้นก็อาจจะมีมากมาย ทั้งค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นหากเราป่วยไข้ในช่วงวัยสูงอายุ ดังนั้น การเตรียมตัวเกษียณหรือวางแผนชีวิตหลังเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้เรานั้นมีความพร้อมในการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้เป็นอย่างดี แต่การเตรียมตัวนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง บทความนี้ Shopee Blog จะมาแนะนำให้กับทุกท่านกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เตรียมตัวเกษียณแบบสำราญ ต้องทำอย่างไร
สำหรับการเตรียมตัวเกษียณอย่างสำราญนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นการเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างรอบด้านว่า ในบั้นปลายของชีวิตนั้นเราอยากจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ เหลือเวลาการทำงานอีกกี่ปี ที่อยู่อาศัยมีหรือยัง หรือต้องการทำอะไรในช่วงชีวิตวัยเกษียณบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นจะเป็นตัวกำหนดแพลนในการวางแผนชีวิตนับตั้งแต่วันที่คิดเป็นต้นไปว่าควรจะต้องทำอะไร อย่างไร ให้สามารถพิชิตเป้าหมายและใช้ชีวิตหลังเกษียณแบบสบายๆ บ้าง ซึ่งเราควรจะแบ่งแพลนชีวิตหลังเกษียณออกเป็น 5 หมวดหมู่ ดังนี้
วางแผนการออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ
Credit : Unsplash
สิ่งหนึ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำคัญกับการใช้ชีวิตทั้งในปัจจุบันและวัยเกษียณ นั่นก็คือ “เงิน” และยิ่งในช่วงชีวิตหลังเกษียณที่รายได้ประจำของเรานั้นหายไป เงินเก็บหรือเงินออมที่เราสะสมมาตลอดชีวิตนั้นก็คือเป็นตัวช่วยสำหรับชีวิตวัยเกษียณได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า ยิ่งออมเร็ว ยิ่งมีเงินมากขึ้น ดังนั้นหากเป็นไปได้ ตั้งแต่วันนี้ไป คุณสามารถเริ่มออมเงินในวัยเกษียณได้ทันที ไม่ว่าจะออมใส่บัญชีเงินฝากประจำที่มีดอกเบี้ยสูง ลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง และได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม หรือการเก็บออมกับประกันสะสมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนในอีก 15-20 ปีที่สูง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าทำไม่น้อยเพื่อให้เงินเก็บของเรานั้นงอกเงยขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หากจะลงทุนหรือทำประกันนั้น ควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนอย่างถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้นจากการออมเงินอาจจะกลายเปนการเสียเงินไปได้
วางแผนถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
วัยสูงอายุนั้นก็เป็นอีกช่วงวัยหนึ่งที่มีโอกาสเกิดความเสี่ยงในเรื่องของสุขภาพหรืออุบัติเหตุได้ง่าย เช่น โรคเรื้อรัง โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมในวัยหนุ่มสาวของเรา ดังนั้นในช่วงวัยหนุ่มสาวนั้น เราก็ควรดูแลร่างกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคต นอกจากนั้น การทำประกันสุขภาพหรือประกันภัยในช่วงวัยหนุ่มสาว ที่สามารถครอบคลุมค่ารักษาถึงช่วงชีวิตหลังเกษียณได้ หรือประกันที่ตรวจเจอโรคร้ายแล้วได้เงินก้อนใหญ่ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายภาระในช่วงบั้นปลายของชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
เตรียมพร้อมที่อยู่อาศัยสำหรับช่วงบั้นปลายของชีวิต
การเตรียมพร้อมที่อยู่อาศัยสำหรับช่วงบั้นปลายของชีวิตนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการมีบ้านหรือที่อยู่เป็นของตัวเอง สามารถอาศัยได้ไปจนถึงช่วงบั้นปลายของชีวิต และยังเป็นทรัพย์สินที่ส่งต่อไปจนถึงรุ่นลูกหลานได้นั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ เพราะเมื่อเรามีบ้านให้อยู่อาศัยในช่วงชีวิตหลังเกษียณนั้น ก็เหมือนการมีหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตขึ้นมาหนึ่งอย่าง และยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเช่าบ้านมาก (เพราะไม่ต้องแบกรับภาระค่าเช่า ในขณะที่รายได้มีจำกัด) การซื้อบ้านตั้งแต่ยังผ่อนไหว (หรือในช่วงราวๆ อายุ 30 ปี) ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่แนะนำและควรทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ชีวิตในวัยเกษียณของเรานั้นสุขสบายมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อบ้านควรจะพิจารณาหลายๆ อย่างมาก ทั้งความสามารถในการผ่อนชำระของเรา ณ ปัจจุบัน, ทำเล, คุณภาพ, สังคมโดยรอบ, ความสะดวกสบาย, ขนาดและพื้นที่ และค่าใช้จ่ายแอบแฝงต่างๆ ที่จะช่วยให้การซื้อบ้านของเราในตอนนี้ไม่สร้างความลำบากให้กับเรามากจนเกินไป
เตรียมพร้อมกิจกรรมสำหรับช่วงบั้นปลายของชีวิต
Credit : Unsplash
การวางแผนสำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตหลังเกษียณนั้นก็ถือว่าเป็นการวางแผนชีวิตหลังเกษียณที่ดีมากๆ เพราะการวางแผนกิจกรรม จะช่วยให้เรารู้ว่าเราจะต้องใช้จ่ายในแต่ละกิจกรรมเท่าไหร่ (กิจกรรมที่ว่าก็ยกตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยว การทำบุญ หรือการใช้จ่ายเงินกับสิ่งต่างๆ ที่สร้างความสุขให้กับชีวิต) และช่วยให้เราสามารถวางแผนการออมเงินได้ว่า หากเราอยากทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงชีวิตวัยเกษียณ เราจำเป็นต้องเก็บเงินประมาณเท่าไหร่ถึงจะสามารถครอบคลุมความต้องการของเราทั้งหมดได้ ทังนี้ก็อย่าหักโหมเก็บเงินเพื่ออนาคตมากเกินไปจนลำบากในปัจจุบัน ควรจะเก็บและประมาณการตามความเหมาะสมจะดีที่สุด
ปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายในปัจจุบันให้เหมาะสม
เมื่อเรามีแผนการสำหรับการเตรียมตัวเกษียณแล้ว เราควรตรวจสอบพฤติกรรมของเรา ณ ปัจจุบันว่ามีพฤติกรรมได้ที่เราควรปรับไหม เช่น ผ่อนนู่นนี่เยอะไปหมด เห็นอะไรก็อยากซื้ออยากได้ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบเดือนชนเดือนจนไม่มีเงินเก็บ เราอาจจะมองและปรับพฤติกรรมเพื่อให้เราสามารถพิชิตเป้าหมายในการใช้ชีวิตหลังเกษียณต่างๆ ได้ โดยถึงแม้บางพฤติกรรมเราอาจจะยังปรับไม่ได้ทันทีในวันนี้ เราอาจจะค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมทีละเล็กทีละน้อยจนลดลงอยู่ในจุดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน (ที่ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไปในความคิดของแต่ละคน) ก็จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขทั้งปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดีเลย
และสำหรับใครที่กำลังวางแผนเกษียณอยู่นั้น Shopee Blog ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ ที่หลายคนอาจจะมองว่าอีกตั้งหลายสิบปี แต่จริงๆ แล้ว ยิ่งเราเตรียมตัวเร็วเท่าไหร่ เราก็จะบรรลุเป้าหมายได้เร็วมากยิ่งขึ้น (หรืออาจจะทะลุเป้าหมายไปได้เลย) ถ้าเกิดทุกท่านอยากศึกษาวิธีการออมเงินที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถอ่านได้เพิ่มเติม ที่นี่ ได้เลย อาจจะช่วยจุดประกายไอเดียการออมเงินได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว