กบ มีเสน่ห์น่าหลงใหลและมีลักษณะเฉพาะ ทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจและต้องดูแลน้อย ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมากประสบการณ์หรือเป็นมือใหม่ในโลกแห่งการเลี้ยงกบเลี้ยงสวยงาม บทความที่ครอบคลุมนี้จะช่วยให้คุณมีความรู้และข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการเลี้ยงกบน่ารักเป็นสัตว์เลี้ยงได้อย่างราบรื่น ให้คุณเข้าใจวิธีเลี้ยงกบ มือใหม่ ตั้งแต่การทำความเข้าใจกบประเภทต่างๆ พันธุ์กับที่นิยมเลี้ยงกัน ของที่ต้องเตรียมก่อนและระหว่างเลี้ยงกบ ไปจนถึงเคล็ดลับการดูแลที่จำเป็นและข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประเภทกบ พันธุ์กบ ต่างๆ
ก่อนจะไปดูวิธีเลี้ยงกบสำหรับมือใหม่ บนโลกนี้มีสายพันธุ์กบมากมาย เราไปรู้จักตัวอย่างสายพันธุ์กบคร่าวๆ และสายพันธุ์กบที่นิยมเลี้ยงในไทยกันดีกว่าว่ามีพันธุ์อะไรบ้างหากต้องการเลี้ยงกบเลี้ยงสวยงาม บนโลกมีกบอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เราจะมาพูดถึงประเภทของกบ และ บางตัวอย่างสายพันธุ์ของกบกัน
1.1. กบน้ำ
– กบแคระแอฟริกัน
– กบเล็บแอฟริกา
1.2. กบครึ่งบกครึ่งน้ำ
– กบต้นไม้ของไวท์
– กบต้นไม้ตาแดง
– กบต้นไม้เขียวอเมริกัน
1.3. กบบก
– กบแพ็กแมน
– กบต้นไม้ปากขาว
– กบมะเขือเทศ
นอกจากการแยกประเภทกบดังกล่าวแล้ว จริงๆแล้วยังมีบางกลุ่มแยกออกเป็น กบเลี้ยงสวยงาม กับ กบเนื้อเพื่อกินอีกด้วย แต่ในบทความนี้เรามาพูดถึงกบเลี้ยงสวยงาม และเหล่า กบน่ารัก กัน
3 พันธุ์กบที่นิยมเลี้ยงในไทย
1. กบฮอร์นฟร็อก (Horned frog)
ฮอร์นฟร็อก มีชื่อเต็มว่า กบตาหนามอาร์เจนตินา (Argentine Horned frog) หรือกบฮอร์นฟร็อกอาร์เจนติน่า ในสายพันธุ์ยังมี ฮอร์นฟร็อกออร์นาต้า และ ฮอร์นฟร็อกสุรีนัม กบพันธุ์นี้ด้านบนของเปลือกตาจะมีติ่งคล้ายเขาทั้ง 2 ข้าง เป็นที่มาของชื่อกบฮอร์นฟร็อกนั่นเอง มีสีสันสวยงามโดดเด่นกว่ากบหลายพันธุ์อื่นๆ เลี้ยงง่าย
- ชื่อทั่วไป: ฮอร์นฟร็อก ฮอร์นฟร็อกอเมริกาใต้ กบแพ็คแมน
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Ceratophrys
- ขนาดตัว: ยาวได้จาก 1 นิ้ว ถึง 15 นิ้วหากตัวโตเต็มวัย
- พื้นเพสายพันธุ์: มาจากแถบอเมริกาใต้ เช่น ป่าฝนประเทศอาร์เจนตินาและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล ไปจนถึง อุรุกวัย
- อายุ: อายุเฉลี่ยหากเลี้ยงในที่ปิดคือ 6-10 ปี ถ้าเลี้ยงดูดีอาจอยู่ได้นานถึง 15 ปี
2. บัทเจทฟร็อก (Budgett’s frog)
บัทเจทฟรอก เป็นกบน้ำหน้าตาน่ารัก เป็นกบน่ารักหน้าตาดูกวนๆหน่อย ชอบอยู่ในน้ำตลอดเวลา เป็นนักดำน้ำ จุดเด่นของกบพันธุ์นี้คือจะมีลำตัวค่อนข้างเกลี้ยงกลม หน้าตากบจะเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ยิ้มง่ายมากจนหลายคนให้ฉายาน้องว่า กบยิ้ม
- ชื่อทั่วไป: บัทเจทฟร็อก หรือ ฮอร์นฟร็อกปารากวัย
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Lepidobatrachus laevis
- ขนาดตัว: ขนาดตัวค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับกบหลายพันธุ์อื่น ลำตัวค่อนข้างกลม ฟิวลื่น ตัวผู้จะยาว 3-4 นิ้ว และตัวเมียจะตัวใหญ่กว่าเล็กน้อย
- พื้นเพสายพันธุ์: มาจากอเมริกาใต้ บริเวณพื้นที่ประเทศโบลิเวีย ปารากวัย และอาร์เจนตินา
- อายุ: อายุยาวได้ถึง 15-20 ปี หากดูแลอย่างดี
3. อัฟริกันบลูฟร็อก (African Bull frogs หรือ G.AF)
ถือเป็นกบที่ตัวใหญ่กว่าพันธุ์อื่นๆที่กล่าวถึงมา และใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกสำหรับกบด้วยกัน โตเต็มที่ได้ถึง 8-10 นิ้ว บางคนจึงเรียกกบอัฟริกันบลูฟร๊อกว่ากบยักษ์ ลำตัวอ้วนค่อนข้างกลม ตัวมีสีเขียวปนน้ำตาล บางตัวก็ออกสีน้ำตาลปนเขียน มีจุดสีน้ำตาล บริเวณส่วนหัวสีเขียวเคลือบน้ำตาล ตามหลังมีผิวขรุขระบ้างเล็กน้อย ฟันแข็งแรง ใหญ่ ฟันคม ไม่มีพิษ
- ชื่อทั่วไป: African bullfrog อัฟรกันบลูฟร็อก หรือ กบพิ๊กซี่
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Pyxicephalus adspersus
- ขนาดตัว: ตัวผู้จะมีตัวยาวได้ถึง 10 นิ้ว หนักได้ถึงเกือบ 2 กิโลกรัม ตัวเมียจะมีขนาดลำตัวเล็กกว่าและหนักน้อยกว่าตัวผู้
- พื้นเพสายพันธุ์: มาจากอัฟริกันตามชื่อ
- อายุ: มีอายุ 20-25 ปี หากดูแลดีอาจอยู่ได้นานถึง 30 ปี
วิธีเลี้ยงกบสำหรับมือใหม่ และ ราคากบเลี้ยงสวยงาม
เราจะมาพูดถึงวิธีเลี้ยงกบแต่ละสายพันธุ์ที่เป็นพันธุ์กบที่นิยมเลี้ยงในไทย ดังที่ได้กล่าวถึงไปด้านบน รวมถึงอาหาร วิธีการให้อาหาร และราคาค่าตัวของน้องกบแต่ละพันธุ์ด้วย
1. กบฮอร์นฟร็อก (Horned frog)
กบฮอร์นฟรอกเป็นกบนักซุ่ม ไม่ชอบลงน้ำ ชอบปีนป่ายมากกว่ากระโดด ไม่ค่อยมีฟันหากกัดคนก็ไม่เจ็บ แต่ เลี้ยงตัวเดียวในหนึ่งภาชนะไม่อย่างนั้นเค้าจะกัดกันหรือกินกันเอง ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ นิ้วโป้งตัวผู้จะมีปานสีดำ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดหรือใส่ถุงมือก่อนจับน้องกบทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้กบโดนสารเคมีที่อาจติดอยู่บนมือเราได้ เลี้ยงให้มีความชื้น โดยการรองพื้นที่เลี้ยงด้วยขุยมะพร้าว ฟองน้ำ หรือ หญ้ามอส หากมีโซนน้ำให้เปลี่ยนน้ำทุกวัน ให้กบได้ว่ายน้ำบ้างเป็นการให้กบออกกำลังกาย ให้ได้รับแสงรำไรหรือโดนแดดเล็กน้อยบ้างวันละ 10-15 นาที ด้วยการดูแลน้อยเท่านี้ก็ชื่นชมกบไปได้นานๆ
- อาหาร: สามารถให้อาหารได้ทั้ง อาหารเม็ดปลาดุก เนื้อปลา แพลงก์ตอน ให้อาหารเป็นเนื้อปลาตัวเล็กครึ่งตัวประมาณวันละครั้งก็พอ หากตัวใหญ่สัปดาห์ละครั้งก็พอ ถ้าให้อาหารเป็นพวกหนอน หนอนนก จิ้งหรีด ลูกหนู ก็ให้ได้แต่ควรให้สัตว์ที่เป็นอาหารตายก่อนเพราะกบอาจกินแบบไม่เคี้ยว
- อุณหภูมิ: 23-29 องศาเซลเซียส
- ความชื้น: 60-80%
สีกบฮอร์นฟร็อก (Hornfrog) | ราคาโดยประมาณ |
สีเขียว | 200+ บาท |
สีเหลือง | 300+ บาท |
สีแดง | 400-500+ บาท |
สีน้ำตาล | 500+ บาท |
Cr. กบฮอร์นฟรอกเลี้ยงไม่ยากอย่างที่คิด – pet please
2. บัทเจทฟร็อก (Budgett’s frog)
บัทเจทฟรอก เป็นกบยิ้มที่หน้าใจดีแต่นิสัยค่อนข้างดุ ถึงแม้จะมีหน้าตาน่ารักเหมือนยิ้มตลอดขนาดนี้แต่ถ้าเข้าไปใกล้บางทีกบบัทเจทฟร็อกจะหันมากัดได้ เพราะเป็นกบน้ำที่นิสัยค่อนข้างโหดซักหน่อย ขู่เก่ง ร้องเสียงดัง บางทีก็หวีดร้องคล้ายเสียงกรี๊ด เสียงร้องแผดแสบหูเบาๆ มีผิวสีเทาอมน้ำตาลปนเขียว บางตัวจะมีจุดสีน้ำตาลอมส้มประปราย ต้องเลี้ยงแยกอย่าให้อยู่ด้วยกันไม่อย่างนั้นกบจะกัดกัน นอกจากนิสัยจะดุแล้วยังกินดุด้วย กินเก่ง กินแทบทุกอย่างที่ขวางหน้า ข้อควรระวังคืออย่าให้น้องกบกินเกินพอดี มิฉะนั้นอาจท้องอืดและเป็นโรคตามมาได้
- อาหาร: ปลาเป็น จิ้งหรีดเป็น กุ้ง แมลง หนู
- อุณหภูมิ: 23-27 องศาเซลเซียส
- ความชื้น: 60-70%
- ราคา: 500-1200+ บาท
3. อัฟริกันบลูฟร็อก (African Bull frogs หรือ G.AF)
แม้จะเป็นกบตัวใหญ่ แต่ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ใจนิ่ง แม้จะมีฟันแล้วเขี้ยวแหลมกัดเก็บแต่คนก็สามารถจับตัวได้โดยจับจากข้างหลัง ให้เอามือโอบด้านหลังไปช้อนกะโหลกกับคาง อย่าจับกบจากด้านหน้าเพราะกบอัฟริกันบลูฟร๊อกจะกัดได้ เป็นกบสันโดษ ชอบอยู่ในบกมากกว่าในน้ำ เลี้ยงในกล่องพลาสติกหรือบ่อปูนใส่ขุยมะพร้าว กบอัฟริกันบลูฟร็อกนี้จำศีลนานได้ถึง 9-10 เดือน จะออกจากจำศีลก็2-3เดือนช่วงหน้าฝน สามารถปลุกกบเมื่อถึงหน้าฝนด้วยการให้น้ำโดนตัว
- อาหาร: อาหารให้เป็นแมลง ปลวก มด ปลา งูตัวเล็ก หนอนแดง หนูแช่แข็ง
- อุณหภูมิ: 23-29 องศาเซลเซียส
- ความชื้น: 60-90%
กบ GAF AfricanBullfrogs | ราคาโดยประมาณ |
ลูกอ็อด | 450+ บาท |
ลูกกบ 1 นิ้ว | 700-900 บาท |
2.5 นิ้ว | 1000-2000 บาท |
2-2.5 นิ้ว | 1300-1500 บาท |
3-3.5 นิ้ว | 2000-2500 บาท |
4 นิ้ว | 3000-3500 บาท |
4.5 นิ้ว | 3500-4000 บาท |
5 นิ้ว | 5000+ บาท |
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกบที่ควรรู้
อายุขัย
กบสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่ 4 ถึง 15 ปีในการถูกเลี้ยงในที่ปิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ว่าจะมีชีวิตยืนยาวแค่ไหน
ที่อยู่อาศัย
วิธีเลี้ยงกบ มือใหม่ต้องเข้าใจ คือการจัดที่อยู่อาศัยของกบให้เหมาะสม กบต้องการที่อยู่อาศัยที่เลียนแบบสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ รวมถึงการเข้าถึงน้ำ ระดับความชื้นที่เหมาะสม และจุดซ่อนตัว กบที่ไม่ชอบว่ายน้ำหรือกบบกอาจอยู่ในกล่องปิดเจาะให้มีรูหายใจได้ แต่ก็ต้องมีของชื้นอย่าง ฟองน้ำ หญ้ามอส พีช ที่เปียกชื้นวางอยู่ในบริเวณที่กบอาศัยอยู่ด้วย เพราะอย่างไรกบก็เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ส่วนกบที่ชอบว่ายน้ำ กบน้ำ ก็สามารถเติมน้ำให้กบอยู่ได้เลย
อาหาร
กบส่วนใหญ่กินเนื้อเป็นอาหารและกินแมลง เช่น จิ้งหรีด หนอน และแมลงวัน กบพันธุ์ที่ตัวใหญ่กว่าบางชนิดอาจกินสัตว์ฟันแทะตัวเล็กอย่างลูกหนูได้ด้วย ความต้องการอาหารรวมถึงว่ากบพันธุ์ไหนชอบกินอะไร เจ้าของอาจต้องคอยให้และลองสังเกต ถ้าวางอาหารให้น้องกบแต่กบไม่กิน อย่าลืมเก็บอาหารเหล่านั้นทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นแหละสะสมเพาะพันธุ์ของเหล่าเชื้อและแบคทีเรีย
อุณหภูมิและแสงสว่าง
การรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมและการให้แสงสว่างที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของกบที่เป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งรวมถึงการใช้แสง UVB เพื่อควบคุมอุณภูมิให้อุ่นชื้น ไม่ร้อนหรือไม่เย็นจนเกินไป หากให้ดีก็จัดโซนที่อยู่อาศับของกบให้มีทั้งโซนที่โดดแดดและมีกล่องหรือถ้ำให้พวกมันเลือกซ่อนตัวในที่ค่อนข้างมืดและเย็นได้ด้วย
การจัดการ
แม้ว่ากบบางตัวจะอดทนต่อการจับ แต่บางตัวอาจพบว่ามันเครียด เพราะผิวหนังของกบนั้นบอบบางกว่าที่คิด สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาความต้องการในการจัดการเฉพาะของกบแต่ละสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่คุณเลี้ยงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกมันเดือดร้อน เครียด หรือป่วย
คำแนะนำสำหรับวิธีเลี้ยงกบ มือใหม่เลี้ยงกบ
1. จัดทำที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม
- เลือกกรงหรือกล่องที่เหมาะสมตามขนาดและความต้องการของสายพันธุ์กบของคุณ ทำพื้นที่ให้มีอากาศเข้าได้หรือเจาะรูกล่อง กบจะได้หายใจได้
- จัดให้มีพื้นผิวที่ช่วยกักเก็บความชื้น เช่น ใยขุยมะพร้าว ฟองน้ำ หรือหญ้ามอส
- ผสมผสานพืชที่มีชีวิตหรือพืชเทียมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ สามารถเพิ่มต้นไม้ปลอม ถ้ำ หรือจัดถาดอาหารให้เป็นสัดส่วนได้
- จัดให้มีพื้นที่น้ำตื้นสำหรับกบที่รักน้ำ หรือกบนักว่ายน้ำอย่างกบบัทเจ็ทฟร็อก
2. ให้อาหารที่เหมาะสมและบ่อยเพียงพอ
- ให้อาหารที่หลากหลาย เช่น แมลง ปลา จิ้งหรีด หนอนนก และเสริมด้วยแคลเซียมและสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆหากจำเป็น
- ให้อาหารลูกกบทุกวันวันละ 1 ครั้ง ให้อาหารกบที่โตเต็มวัยทุก 2-3 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง
- นำอาหารที่เจ้ากบยังไม่ได้รับประทานออกทันทีเพื่อรักษาความสะอาดของน้ำและแหล่งที่อยู่อาศัย
3. รักษาสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิ
- ตรวจสอบระดับอุณหภูมิและความชื้นอย่างสม่ำเสมอโดยใช้อุปกรณ์วัดอุณหภูมิที่เหมาะสม
- จัดให้มีตัวควบคุมอุณภูมิ โดยควบคุมให้อุณหภูมิ
- ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของของเสียและแบคทีเรีย ปากเป็นกบน้ำและอยู่ในที่ๆมีน้ำควรเปลี่ยนน้ำเกือบทุกวันโดยให้น้ำอยู่ในระดับพอประมาณแต่ไม่ท่วมตัวกบ หากเป็นกบดินที่มีรองพื้นเป็นขุยมะพร้าว หญ้ามอส หรือฟองน้ำ ควรทำการเปลี่ยนทุก 2-3 วันเพื่อความสะอาด อย่าลืมพรมน้ำให้เหล่าขุยรองพื้นชื้นๆเพื่อทำให้ผิวกบที่สัมผัสไม่ผิวแห้งเกินไป
4. ดูแลสุขภาพและความกินดีอยู่ดี
- สังเกตสัญญาณของการเจ็บป่วย เช่น เบื่ออาหาร เซื่องซึม หรือพฤติกรรมผิดปกติ
- ขอรับการดูแลจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ หากคุณสงสัยว่ากบของคุณไม่สบาย กบมักจะเสี่ยงโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือมีพยาธิ
- กักกันกบตัวใหม่ก่อนที่จะนำไปไว้ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ หรือ กักกบที่ป่วยออกจากเพื่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
5. เพิ่มคุณค่าด้วยกิจกรรมและการสำรวจ
- กระตุ้นพฤติกรรมตามธรรมชาติของกบโดยเพิ่มสิ่งของเสริมความงาม เช่น กิ่งก้าน หิน และจุดซ่อน
- สังเกตพฤติกรรมของกบและปรับที่อยู่อาศัยตามความจำเป็นเพื่อให้ตรงตามความต้องการ
- หากกบอยู่ในกล่องที่ค่อนข้างแคบ ตอนเปลี่ยนน้ำหรือทำความสะอาดกล่อง ให้เอาน้องกบออกมาว่ายน้ำออกกำลังกายบ้าง
- แทนที่จะจับกบมาเล่นบนมือบ่อยๆ ให้มองหรือสังเกตน้องกบอย่างอ่อนโยน แทนที่จะจับกบบ่อยๆ เพื่อลดความเครียดของกบ พร้อมทั้งลดความเครียดและโอกาสผิวกบติดเชื้อ เพราะผิวกบค่อนข้างบอบบาง
สรุป 8 สิ่งที่มือใหม่เลี้ยงกบต้องมี
หากคุณกำลังพิจารณาที่จะรับเลี้ยงกบ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ต่อไปนี้เป็นรายการสิ่งของที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนกบคนใหม่ของคุณจะประสบความสำเร็จ:
1. กล่อง หรือ แท็งค์เลี้ยงกบ
ขั้นตอนแรกคือการหากล่องที่เหมาะสมสำหรับกบเลี้ยงสวยงามของคุณ พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สายพันธุ์ ลักษณะทางสังคม และขนาดของกบ
จัดสรรพื้นที่อย่างน้อยเป็นความยาวกล่อง 30-40 เซนติเมตรเป็นอย่างต่ำในการเลี้ยงกบ กบบางตัวชอบความสันโดษ ในขณะที่บางตัวชอบอยู่ด้วยกันกับกบตัวอื่นๆ หากกบต้องการอยู่คนเดียว กบอินโทรเวิร์ตก็แยกห้องแยกกล่องให้กบอยู่คนเดียว อย่าฝืนให้กบที่อารมณ์ร้อนอยู่ได้กันเพราะจะกัดกันตายหรือเป็นแผลได้ อย่าลืมเผื่อขนาดกล่องถ้าน้องกบโตขึ้นเพราะคุณคงไม่อยากเปลี่ยนกล่องบ่อยๆตามตัวน้องที่โตขึ้น
2. ฝากล่อง หรือ ฝาแท็งค์
ปิดฝาถังให้แน่นเพื่อป้องกันการหลุดออกและรักษาความชื้น อย่าใช้กล่องที่ไม่มีฝาผิดหรือฝาปิดไม่สนิท
3. เซ็ตพื้นผิวและพื้นที่อยู่อาศัย
เลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับก้นถัง ตัวเลือกได้แก่ ดินชื้น ขุยมะพร้าว หรือไฮโดรบอล
สร้างที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติโดยการเพิ่มของตกแต่ง เช่น หิน กิ่งไม้ และถ้ำจุดซ่อนตัว
4. พืชและของประดับตกแต่ง
เพิ่มต้นไม้ประดิษฐ์หรือต้นไม้มีชีวิตเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ พิจารณาใช้ถ้ำ ท่อนไม้ และจุดซ่อนอื่นๆ สำหรับกบ
5. เครื่องทำความร้อนและแสงสว่าง
จัดเตรียมแหล่งความร้อน เช่น โคมไฟความร้อน แผ่นความร้อน หรือเครื่องทำความร้อนใต้ถัง รักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับสายพันธุ์กบของคุณ (ปกติคือ 24 ถึง 29 องศาเซลเซียส)
ใช้แสง UVB หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์เพื่อจำลองแสงแดดธรรมชาติ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์แสงสว่างที่เหมาะสม
6. น้ำและความชื้น
รวมจานน้ำตื้นสำหรับแช่และดื่ม
รักษาความชื้นให้สูง (ประมาณ 70% ถึง 80%) ภายในตู้
ใช้เครื่องพ่นหมอกหรือเครื่องพ่นเพื่อทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยชุ่มชื้น
7. อาหารและอาหารเสริม
ศึกษาความต้องการอาหารของกบสายพันธุ์เฉพาะของคุณ ตุนอาหารกบที่เหมาะสม รวมถึงแมลงที่มีชีวิต (เช่น จิ้งหรีด หนอนนก หรือแมลงวันผลไม้) ลองให้อาหารเสริม เช่น แคลเซียมและวิตามินดี 3 เป็นครั้งคราวหรือตามสัตวแพทย์แนะนำก็ได้
8. ถุงมือ
สวมถุงมือเมื่อจับกบเพื่อปกป้องผิวที่บอบบางของพวกมัน
วิธีเลี้ยงกบสวยงาม ไม่ยาก เพียงมือใหม่ใส่ใจเล็กน้อย
การเลี้ยงกบเลี้ยงสวยงามเป็นสัตว์เลี้ยงอาจเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ คุ้มค่า ทำให้คุณได้รู้จักและดูแลเพื่อนใหม่ตัวน้อยที่ตัวเล็กกลมลื่น แม้จะหน้าดูนิ่งๆแต่มีลักษณะนิสัยต่างกันไปในแต่ละตัว ด้วยการทำความเข้าใจกบน่ารักประเภทต่างๆ เข้าใจการดูแลที่จำเป็น และข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับกบเหล่านี้ คุณจะพร้อมเลี้ยงเหล่ากบได้แม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ก็ตาม อย่าลืมจัดลำดับความสำคัญความเป็นอยู่ที่ดีของพวกมันด้วยการรักษาสภาพที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และให้โอกาสมันได้โดนแดดรำไร ออกกำลังกาย ว่ายน้ำบ้าง เปลี่ยนน้ำไม่ให้สิ่งสกปรกสะสมและเพาะตัว ด้วยวิธีเลี้ยงกบสำหรับมือใหม่เหล่านี้ คุณจะเริ่มต้นการเดินทางที่มีคุณค่าสำหรับคุณพอๆ กับการเดินทางเพื่อเพื่อนกบของคุณ
Cr. Top 17 most popular pet frog for beginners – everythingreptiles