วิธีกินยาคุมนั่นจะกินแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ หากกินยาคุมไม่ถูกต้องอาจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือประสิทธืภาพของยาลดลง ดังนั้นหากใครต้องการกินยาคุมกำเนิดหรือกินยาคุมฉุกเฉินควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ซึ่งประโยชน์ของการกินยาคุมคือป้องกันการตั้งครรภ์ รักษาสิว รักษาอาหารประจำเดือนมาไม่ปกติ ฯลฯ ก่อนจะไปดูวิธีการกินยาคุมที่ถูกต้อง เรามาทำความรู้จักยาคุมกันให้มากกว่านี้กันหน่อย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท จะได้รู้วิธีกินยาคุมที่ถูกต้อง
วิธีคุมกำเนิดที่ได้ความนิยมมากที่สุดคือการกินยาเม็ดคุมกำเนิด จะส่งผลให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้
- ไข่ไม่ตก
- ทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกมีความเหนียวมากขึ้น ทำให้อสุจิไม่สามารถเข้ามาผสมกับไข่ได้
- ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ไม่เหมาะแก่การฟักตัวของตัวอ่อน
ประเภทของยาคุมกำเนิด แบ่งเป็น 2 ประเภท
1. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินมักใช้ในเวลาฉุกเฉิน เช่น มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ป้องกัน ถุงยางอนามัยรั่ว ฯลฯ โดยการกินยาคุมฉุกเฉินควรกินให้เร็วที่สุด และไม่ควรกินเกิน 72 หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ที่สำคัญควรกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง ยาคุมฉุกเฉินจะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงคือ ลีโวนอร์เจสเตรล เม็ดละ 750 ไมโครกรัม ใน 1 กล่องจะมีตัวยา 2 เม็ด หากไม่อยากกินยาคุมฉุกเฉินก็ต้องให้คู่นอนของคุณศึกษาวิธีใส่ถุงยางที่ถูกต้อง
2. ยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา
เหมาะกับคนที่คุมกำเนิดอยู่แล้ว หรือต้องการคุมประจำเดือนให้มาปกติ แบ่งตามฮอร์โมนได้ 2 ประเภท คือ
- ฮอร์โมนเดี่ยว : มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว มีฤทธิ์คุมกำเนิดสูงกว่า 99% หากกินเป็นยาทุกวันและเวลาเดิม เหมาะกับคนที่แพ้ฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ฮอร์โมนรวม : เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในปริมาณและชนิดที่ต่างกัน ยิ่งปริมาณของฮอร์โมนมากยิ่งคุมกำเนิดได้ดี เป็นชนิดที่นิยมมากที่สุด
ฮอร์โมนรวมนี้แบ่งออกเป็น 21 เม็ด และ 28 เม็ด โดยมีวิธีกินยาคุมที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- วิธีกินยาคุม 21 เม็ด เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาแต่ละเม็ดจะประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด (ไม่มีเม็ดแป้ง) ให้ทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วหยุด 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ หลังหยุดยาประมาณ 1-3 วันจะเริ่มมีประจำเดือน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มต้นกินยาคุมวันจันทร์ ยาเม็ดสุดท้ายของแผงจะหมดวันอาทิตย์ จากนั้นจึงเว้นว่างอีก 7 วัน คือ จันทร์ > อังคาร > พุธ > พฤหัสบดี > ศุกร์ > เสาร์ > อาทิตย์ เมื่อถึงวันจันทร์ถัดไปจึงเริ่มใช้ยาคุมแผงใหม่
- วิธีกินยาคุม 28 เม็ด แบบนี้จะมีตัวยาฮอร์โมนจำนวน 21 เม็ดและไม่มีตัวยาหรือเรียกว่า “เม็ดแป้ง” อีก 7 เม็ด หรือเรียกว่าชนิดแผง 21/7 เม็ด ด้านหลังแผงจะมีตัวเลขกำกับอยู่ เม็ดแป้งจะมีสีที่แตกต่างจากเม็ดที่มีตัวยาอย่างชัดเจน วิธีการกินยาคุมคือให้ทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไป
กินยาคุมเวลาไหนดีที่สุด
ควรกินตั้งแต่ช่วงวันแรกถึงวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นประจำเดือนในวันที่ 4 ก.ย ควรเริ่มกินยาคุมตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. ได้เลย แต่หากไม่สะดวกหรือลืม สามารถเริ่มทานในวันที่ 5-8 ก.ย. ได้ เพราะสามารถกินยาคุมได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน
หากลืมกินยาคุมต้องทำอย่างไร?
- หากลืมกินยา 1 เม็ด ให้รีบกินยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าลืมเกิน 1 วันต้องพร้อมกัน 2 เม็ด
- หากลืมกินยา 2 วัน ให้รีบกินยา 2 เม็ด ทันทีที่นึกได้ และให้กินอีก 2 เม็ดในวันต่อไป
- เมื่อลืมกินยามากกว่า 2 วัน ให้เลิกกินยาแผงนั้นไปเลย
วิธีการกินยาคุมเพื่อรักษาสิว
เราสามารถกินยาคุมเพื่อรักษาสิวได้ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากจะมีผลข้างเคียงตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักตัวเพิ่ม ฯลฯ ยาคุมกำเนิดสามารถช่วยรักษาสิวได้เพราะมีฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน ซึ่งจะไปยับยั่งฮอร์โมนชายแอนโดรเจนให้ลดลง ลดการผลิตต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งทำให้สิวลดลงได้ โดยต้องกินยาคุมแบบฮอร์โมนรวมเท่านั้น!! และอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะเห็นผล เพราะร่างกายต้องใช้เวลาเพื่อปรับความสมดุลของฮอร์โมนเพศ และที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนกินยาคุมเสมอ
รู้วิธีการกินยาคุมและการกินยาคุมฉุกเฉินกันไปแล้ว หากใครมีความจำเป็นต้องกินต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนกิน และหากเริ่มกินไปแล้วอย่าลืมกินให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด หรือหากมีเพศสัมพันธ์ควรให้คุ๋นอนสวมถุงยางอนามัย เป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
ข้อมูลจาก pharmacy.mahidol.ac.th , biopharm.co.th , pobpad.com
Feature Image credit : Freepik