ฮ่องกง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่คนไทยให้ความนิยมมาก เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทย ใช้เวลาบินไปประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้เที่ยวแล้ว โดยฮ่องกงนั้นก็มีสถานที่ที่น่าไปเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง อ่าววิคตอเรีย และที่สำคัญ นั่นก็คือ “วัด” ที่สายมูทั้งหลายชื่นชอบมาก เพราะฮ่องกงนั้นแทบจะเป็นปลายทางยอดนิยมสำหรับสายมูในการขอพรเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน การเงิน และโชคลาภ และมีรีวิวกันแบบปากต่อปากในโลกโซเชียลว่าศักดิ์สิทธิ์จริง ได้จริง จนบางคนต้องบินกลับไปแก้บนกันก็มี และเมื่อฮ่องกงมาแรงขนาดนี้มีหรือ Shopee Blog จะพลาด บทความนี้จะมาแนะนำ 10 วัดสายมู ฮ่องกง ที่ไปเที่ยวแล้วควรแวะไปขอพรสักครั้ง ได้ไม่ได้ต้องลองให้รู้ ว่าแต่จะมีวัดอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สถานที่ขอพรสายมู ฮ่องกง มีจำนวนเยอะแค่ไหน
สำหรับสถานที่ขอพรสายมู ฮ่องกงนั้น อ้างอิงจากข้อมูลใน Wikipedia ฮ่องกงนั้นมีศาสนสถานกว่า 600 ที่ โดยส่วนมากนั้นจะเป็นวัดในพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และโบสถ์ในศาสนาคริสต์ แน่นอนว่า วัดและสถานที่ในการขอพรส่วนมากจะจัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัดในพระพุทธศาสนาและลัทธิเต๋ามากกว่า เนื่องด้วยความเชื่อของศาสนาทั้งสองที่ปัจจุบันเกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย และด้วยจำนวนของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เมื่อเทียบกับขนาดของฮ่องกงแล้ว ก็ถือว่าฮ่องกงนั้นเป็นประเทศหนึ่งที่มีความหนาแน่นของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว
5 วัดสายมู ฮ่องกง ที่ไปเที่ยวแล้วควรแวะไปขอพรสักครั้ง
มาถึงพาร์ทที่สำคัญของบทความแล้ว นั่นก็คือ รายชื่อ 5 วัดสายมู ฮ่องกง ที่ไปเที่ยวแล้วควรแวะไปขอพรสักครั้ง จะมีวัดอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. Kwan Tai Temple, Sham Shui Po (วัดเจ้าพ่อกวนอู)
Credit : Hong Kong Fun in 18 Districts
วัดสายมู ฮ่องกง วัดแรกที่หยิกยกมาแนะนำกันนั้น ก็คือวัด Kwan Tai Temple หรือวัดเจ้าพ่อกวนอู ที่ตั้งอยู่ในเขต Sham Shui Po ซึ่งห่างจากย่าน Mong Kok มาไม่ไกล เพียง 2 สถานี MTR เท่านั้นก็ถึงแล้ว โดยวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวฮ่องกงให้ความนับถือกันเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่แล้วชาวฮ่องกงจะนับถือเจ้าพ่อกวนอูในฐานะของเง็กเซียนฮ่องเต้ในยุคปัจจุบัน และมีรูปปั้นหรือรูปองค์เจ้าพ่อกวนอูไว้ติดบ้านหรือร้านอาหารเพื่อเคารพ โดยถ้ามาวัดนี้แล้ว ไม่ควรพลาดในการขอพรเรื่องความมั่งคั่ง ร่ำรวย และขอพรกับเจ้าพ่อม้าเช็กเธาว์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง
พิกัด : Google Maps
การเดินทาง : MTR สถานี Sham Shui Po ทางออก A2 และเดินประมาณ 600 เมตร
2. Sha Tin Che Kung Temple (วัดแชกง, วัดแชกงหมิว)
Credit : Hong Kong Tourism Board
เมื่อพูดถึงกระแสวัดสายมู ฮ่องกง วัดหนึ่งที่หลายคนมักจะนึกถึง และมีกระแสมาแรงมากๆ นั่นก็คือ วัดแชกง หรือที่หลายคนเรียกว่าวัดแชกงหมิว ที่มีชื่อเสียงของการขอพรเรื่องโชคลาภ ความโชคดี ความมั่งคั่ง และกังหันในวัดที่มีความเชื่อกันว่าเมื่อเราได้ไปหมุน จะช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นเรื่องดี และส่วนมากเมื่อไปขอพรก็มักจะมีรีวิวกันในเชิงบวกว่าวัดนีศักดิ์สิทธิ์จริง จึงทำให้มีคนไทยไปขอพรที่วัดนี้กันเยอะมากๆ แถมวัดนี้ยังเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยไทย เพราะมีภาษาไทยตามจุดต่างๆ ในวัดเพื่อแนะนำขั้นตอนในการไหว้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นวัดที่ไปแล้วไหว้สะดวก ไหว้ง่าย แถมยังเดินทางไม่ยากอีกด้วย และเมื่อไปแล้ว อย่าลืมหาแผ่นทองจากวัดแชกงหมิวมาไว้ติดตัวเสริมโชคลาภด้วยนะ
พิกัด : Google Maps
การเดินทาง : MTR สถานี Tai Wai ทางออก B หรือสถานี Che Kung Temple ทางออก B แล้วเดินเท้าต่อไปวัดประมาณ 300-400 เมตร
3. Tin Hau Temple (ศาลเจ้าแม่ทับทิม องค์หม่าโจ้ว)
Credit : Shutterstock
อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจสำหรับสายมู ฮ่องกง นั่นก็คือวัด Tin Hau Temple หรือวัดทินโห่ว ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าว Repulse Bay มีความน่าสนใจเป็นพิเศษนั่นก็คือเจ้าแม่ทับทิม หรือองค์หม่าโจ้วที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล ที่มีคำแนะนำดีๆ จากซินแสอย่าง อ.คฑา ชินบัญชร ว่าถ้าไปแล้วให้ไหว้ฟ้าดินก่อน แล้วไหว้องค์หม่าโจ้วต่อ วัดนี้นั้นหากต้องการขอพรสามารถขอได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินธุรกิจ การค้า การเดินทาง และใกล้ๆ กันยังสามารถไหว้ขอพรเกี่ยวกับเรื่องที่ดินได้ด้วยเช่นกัน และนอกจากนั้นแล้ว วัดนี้ยังมีวิวด้านหน้าติดทะเล และด้านหลังเป็นภูเขา ที่เรียกได้ว่าฮวงจุ้ยดีมากๆ แต่การเดินทางเมื่อเทียบกับวัดอื่นๆ ในบทความนี้ อาจจะเดินทางยากเล็กน้อย เพราะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้า MTR แต่สามารถนั่งแท็กซี่และรถเมล์ต่อไปได้
พิกัด : Google Maps
การเดินทาง : MTR ลงสถานี Ocean Park ทางออก B แล้วต่อแท็กซี่ไปที่วัด หรือ MTR ลงสถานี Central แล้วเดินไปขึ้นรถเมล์ที่ Exchange Tower สาย 6, 6A, 6X และ 260 ลงที่ Repulse Bay Beach
4. Polin Temple (วัดโป่หลิน)
Credit : Hong Kong Tourism Board
วัดที่ 4 สำหรับสายมูฮ่องกง นั่นก็คือ วัดโป่หลิน หรือ Polin Temple วัดที่อยู่บนเขาและมีความโดดเด่นในเรื่องของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ Tian Tan Buddha ที่เป็นพระพุทธรูปองค์ทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ประทับอยู่กลางแจ้ง โดยที่นี่นั้น สามารถขอพรได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น โชคลาภ การเงิน การงาน การเรียน ความรัก การทำธุรกิจ และเป็นสถานที่ที่วัดแรงศรัทธาได้เป็นอย่างดีด้วย เพราะมีบันไดในการเดินขึ้นไปสักการะองค์พระพุทธรูปที่มีจำนวนขั้นถึง 260 ขั้น ที่เมื่อเดินขึ้นไปจนเกือบสุดแล้ว เชื่อกันว่าจะเป็นการรับพลังบวกจากสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี แถมการเดินทางขึ้นมานั้น ต้องนั่งกระเช้า Ngong Ping 360 ที่จะทำให้คุณเห็นวิวสวยๆ ของเกาะ Lantau Island และสนามบินนานาชาติฮ่องกงได้อีกด้วย
พิกัด : Google Maps
การเดินทาง : MTR ลงสถานที Tung Ching และโดยสารกระเช้า Ngong Ping ขึ้นมายังวัด
5. Wong Tai Sin Temple (วัดหวังต้าเซียน, วัดหว่องไท่ซิน)
Credit : Hong Kong Tourism Board
สำหรับวัดสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้ เพราะเป็นวัดชื่อดังสุดๆ ของฮ่องกง นั่นก็คือ Wong Tai Sin Temple หรือวัดหวังต้าเซียน หรือในอีกชื่อ วัดหว่องไทซิน ที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรด้านสุขภาพ และที่สำคัญ ที่นี่คือวัดด้ายแดงในตำนาน ที่คนไทยเชื่อกันว่าหากมาขอพรเรื่องความรักที่นี่ ส่วนมากก็จะสมหวังกัน และได้เนื้อคู่ที่ดีมาในเร็ววัน การมาขอพรเรื่องความรักที่นี่นั้นเป็นเหมือนกับการผูกด้ายแดงระหว่างเราและเนื้อคู่โดยเทพเจ้า เพื่อช่วยให้เราเจอเนื้อคู่ได้ไวมากยิ่งขึ้น โดยเทพที่เราสามารถขอเรื่องความรักในวัดหวังต้าเซียนได้นั้น ก็คือ องค์ผู้เฒ่าจันทรา หรือองค์เทพเย่วโหลว นอกจากนั้นยังมีเทพองค์อื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าแม่กวนอิมพันมือ องค์ไฉ่สิ่งเอี๊ย 4 ทิศ และองค์หวังต้าเซียน สำหรับขอพรเรื่องสุขภาพนั่นเอง ใครที่อยากเจอเนื้อคู่แล้ว หรืออยากให้สุขภาพตัวเองแข็งแรงมากขึ้น ห้ามพลาดวัดหวังต้าเซียนเด็ดขาด
พิกัด : Google Maps
การเดินทาง : MTR ลงสถานี Wong Tai Sin ออกทางออก B3 จะถึงหน้าวัดเลย
ครบกันแล้วกับ 5 วัดสายมู ฮ่องกงที่ไม่ควรพลาด ไหนใครกำลังวางแผนไปเที่ยวฮ่องกงกันอยู่บ้าง ถ้ากำลังจะไปในเร็วๆ นี้ อย่าลืมไปแวะวัดเหล่านี้เพื่อเสริมความปังให้กับชีวิตก่อนกลับไทยกันด้วย และหากใครไปมูหรือขอพรมาแล้ว อย่าลืมหาโอกาสกลับไปแก้บนหรือขอพรเพิ่มเติมได้ หรือถ้าไปเที่ยวทริปนี้แล้วยังไม่จุใจ หาที่เที่ยวฮ่องกงเพิ่มเติมกันได้เลย หรือถ้าเที่ยวฮ่องกงยังไม่จุใจ นั่งรถไฟความเร็วสูงเข้าไปจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วไปตามที่เที่ยวจีนสุดฮิตได้เลยแบบไม่ต้องกังวลวีซ่า เพราะนักท่องเที่ยวไทยฟรีวีซ่าในเมืองจีนแล้ว และอย่าลืม ติดตามเทรนด์ฮิตๆ อีกเพียบที่ Shopee Blog